หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 123

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 123
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 123
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สำรวจใจของเราแล้วหรือยัง เราได้วิเคราะห์กายของเราแล้วหรือยัง ใจที่ปกติ ใจที่ไม่เกิด ใจที่ปราศจากกิเลส อาการของความคิด การเกิดของใจ การเกิดของความคิด ภาษาธรรมภาษาโลก เราได้ศึกษาทำความเข้าใจให้เชื่อมโยงให้ต่อเนื่อง ให้รู้แจ้งเห็นจริงแล้วหรือยัง เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องศึกษาตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเอง ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตื่นขึ้นมาความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกต่อเนื่องที่เชื่อมโยงเขาเรียกว่าอานาปานสติ จิตใจของเรามีความแข็งกระด้างหรือว่ามีความอ่อนโยน จิตใจของเราปรุงแต่งส่งไปภายนอกได้อย่างไร ความคิดเกิดขึ้นได้อย่างไร

การเกิดของความคิด การเกิดของกายเนื้อก็เกิดมาแล้ว เราต้องมาเจริญสติเข้าไปดู รู้เห็นทำความเข้าใจ ไม่ใช่ว่าจะไปปล่อยปละละเลย เอาตั้งแต่ทำบุญ การทำบุญให้ทานศรัทธามีกันมานานตั้งแต่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย มีมาตั้งแต่เรายังไม่ได้เกิด ทีนี้เราก็มาดูว่าการเกิดของใจ พระพุทธเจ้าท่านว่าใจไม่มีตัว ไม่มีตน ทำไมใจถึงเกิดตัวเกิดตน เกิดอัตตาตัวตน เราก็ต้องมาปฏิบัติให้รู้ให้เห็นให้เข้าถึง ภาษาโลกภาษาธรรม มีไม่มากหรอก มีอยู่ในกายของเรานี่แหละ ถ้าเรารู้จักค้นหา รู้จักทำความเข้าใจ เราก็จะเห็นสักวันหนึ่ง

เพียงแค่ความเกิด เพียงแค่ความอยาก อยากคิด อยากมี ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น คนทั่วไปไม่ค่อยจะจัดการ ถอนรากถอนโคนที่ต้นเหตุ มีตั้งแต่หาเหตุมาปิดกั้นตัวเองเอาไว้ เพราะว่ากิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาก็หาเรื่องหาเหตุ เพราะว่าเขาเกิดหลงมานาน ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไปนิพพานได้ ถ้าเข้าใจ ถ้าเข้าถึง ถ้าละได้ ถ้าละไม่ได้ก็สนุกสนานเล่นอยู่ก็สมมติ หลงวนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ บางทีขึ้นสวรรค์ บางทีก็ลงนรก

คําว่านรกสวรรค์เป็นอย่างไร โลกมนุษย์ก็มองเห็นด้วยตาเนื้อ เขาเรียกว่าภพมนุษย์ ภพของสัตว์เดรัจฉานเราก็มองเห็นด้วยตาเนื้อ แต่ภพของสัตว์นรกหรือว่าภพของสวรรค์ พรหม นอกจากบุคคลที่มีสติมีปัญญา วิเคราะห์ ทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ แม้แต่ตัวใจของเราไม่มีตัวไม่มีตน ท่านว่าไม่มีตัวไม่มีตน แต่เราก็รู้ว่ามีตัวมีตน เพราะว่ามาหลงมายึด นอกจากบุคคลที่เข้าถึงรู้ด้วยเห็นด้วยทำความเข้าใจได้ด้วย แก้ไขปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา สนุกสร้างอานิสงส์แห่งบุญ บุญสมมติเราก็ไม่ปล่อยเวลาทิ้ง

ทางด้านจิตใจเราก็ขัดเกลาให้สะอาดให้บริสุทธิ์ ทำความเข้าใจกับสมมติ เคารพสมมติ วันนี้มี พรุ่งนี้มี อีกสักหน่อยก็ตายจากกัน ไม่ช้าก็เร็ว อายุขัยของมนุษย์มีไม่มากหรอก ให้รีบตักตวงในการสร้างคุณงามความดี ในการสร้างประโยชน์ ในการสร้างบุญเอาไว้ก่อนที่จะหมดลมหายใจ หลวงพ่อก็จะพาทำ พาทุกโอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิด เอาการงานเป็นการปฏิบัติ มีความรับผิดชอบต่อตัวเรา รับผิดชอบต่อส่วนรวม บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น อยู่หลายคนก็มีความสมัครสมานสามัคคี รู้จักสำรวมกายแล้วก็สำรวมวาจา สำรวมใจ

คนทั่วไปนี่ไม่ค่อยจะรักษากาย อาจจะรักษากาย แต่ไม่รู้จักรักษาวาจา แล้วก็ไม่รู้จักรักษาใจ อาจจะถูกอยู่ระดับของสมมติ ความเกิดมีมาอยู่ตลอด เพียงแค่การคิด การปรุง การแต่ง นั่นแหละ เขาเรียกว่าการเกิด เกิดทางด้านจิตวิญญาณ เกิดทางกายเนื้อก็เกิดมาแล้ว ทีนี้เกิดทางด้านจิตวิญญาณตัวใจ จิตเกิดยังไม่พอ ขันธ์ห้ามาปรุงแต่งรวมกันไปอีก เป็นกองเป็นขันธ์ร่วมกันไป ก็ต้องพยายามนะ พยายามเอา ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่ มีอะไรเราก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การทำบุญให้ทาน การสร้างประโยชน์ เราอาจจะสร้างร่วมกันได้อยู่ในระดับของสมมติ แต่สำหรับระดับของจิตใจในส่วนลึกๆ นี่ กิเลสเรา เราต้องละเอาทำเอา รีบตักตวงเอา กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไร สติปัญญาเรารู้เท่าทัน ก็รู้จักละ รู้จักดับ เจริญพรหมวิหารเข้าไปทดแทน

วันนี้ก็อากาศเย็นลงไปหน่อยหนึ่ง ญาติโยมที่มาจากระยองก็ขอขอบใจทั้งเจ้านายใหญ่ ทั้งบริวาร ได้มาร่วมกันสร้างอานิสงส์ทั้งตบะบารมี มีอะไรเราก็ช่วยกัน เห็นว่าช่วยกันก่อกําแพงได้คนละเล็กละน้อย ที่นั่นที่นี่ พระเราก็ช่วยกัน ชีเราก็ช่วยกัน อย่าไปงอมืองอเท้า ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตั้งแต่ปากทางถึงก้นครัว ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน เรามาทำช่วยกันให้อุดมสมบูรณ์ ในระดับของสมมติก็ไม่ให้ลําบาก แต่ก่อนไม่มี เราก็พยายามทำให้มี ถ้ามีแล้วก็ช่วยกันดูแลรักษา นี่แหละเขาว่าทำปัจจัยสี่ให้สมบูรณ์

ถ้าสมมติไม่บริบูรณ์ ความเป็นอยู่ก็ยากลําบาก ที่พักไม่มีก็ยากลําบาก ที่หลับที่นอนไม่มี ห้องส้วมห้องน้ำไม่มี ที่อยู่ที่กินไม่มี มันก็ลําบาก การฝึกหัดปฏิบัติกายปฏิบัติใจก็ยังยาก ถ้าท้องยังหิวอยู่ก็ลองไปฝึกดูสิ มันก็ลําบาก ใจก็กระวนกระวาย ถ้าเรารู้จักทำ รู้จักแก้ไข รู้จักสร้างขึ้นมา เราก็มีความสุข สมมติเราก็ไม่ได้ดิ้นรน เพราะว่าไม่ได้ลําบาก อานิสงส์แห่งบุญของเรามีเพียบพร้อม อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้ตกอับไม่ได้ลําบาก

ถ้าบุญไม่ทำ ความขยันหมั่นเพียรไม่มี มีแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ มีแต่ความพยายามทะเยอทะยานอยากเข้าครอบงำ อยู่คนเดียวก็เป็นทุกข์ อยู่หลายคนก็เป็นทุกข์ เพราะว่าโดนเผาลนอยู่ตลอดเวลา เราพยายามปรับสภาพใจของเราให้เข้ามาอยู่ในกองบุญ แล้วก็มองโลกในทางที่ดี คิดดีทำดี อะไรควรพูด อะไรควรคิด เมื่อปัญญาระดับสมมติ ปัญญาระดับวิมุตติ ก็ต้องพยายามศึกษากัน ไม่เข้าใจวันนี้ก็ต้องเข้าใจในวันพรุ่งนี้ ไม่เข้าใจในวันพรุ่งนี้ เดือนนี้เดือนหน้า ปีหน้า ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็อยากจะไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่จะยังเกิดอยู่ ขอให้เรามีความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

สัจธรรมนั้นมีอยู่ ท่านเรียกถึงว่าสัจจะความจริงอันประเสริฐมีอยู่ในกายของเรา อริยสัจ การเกิดของใจ ใจของเรานี่หลงมาตั้งนานแล้วมาเกิด เราต้องมาขัดมาเกลา มาวิเคราะห์ มาจําแนกแจกแจง ที่ท่านว่าเป็นกองเป็นขันธ์เป็นกองได้อย่างไร เป็นขันธ์ได้อย่างไร ครูบาอาจารย์ก็เป็นแค่เพียงตํารา เป็นแค่เพียงแผนที่ เราต้องฝึก ให้ดูใจของเรา ดูแผนที่ในกายในใจของเราให้เจอ อานิสงส์บุญบารมีเราก็สร้าง สักวันหนึ่งเราก็อยู่คนเดียวก็ต้องเข้าใจอยู่หลายคนเราก็ต้องเข้าใจ เพราะว่าตราบใดที่เราดำเนินต้นให้ถูก ถูกทาง หมั่นฝักใฝ่หมั่นสนใจถึงเวลาก็จะเข้าใจเอง

เอาล่ะ วันนี้ก็เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสาน ต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง