หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 89 วันที่ 23 ธันวาคม 2561
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 89 วันที่ 23 ธันวาคม 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 89
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 23 ธันวาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบายและก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกไปยาวๆ
เพียงแค่เรื่องลมหายใจพวกเราก็ขาดการสร้างความรู้ตัว ส่วนสติปัญญาทางโลกนั้นมีกันเต็มเปี่ยม ศรัทธา ความเชื่อ ความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อบุญเชื่อบาปเชื่อกรรมตรงนั้นมีอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปทำความเข้าใจ รู้การเกิดการดับของใจ รู้การเกิดการดับของขันธ์ห้า ชี้เหตุชี้ผลเห็นเหตุเห็นผล จนใจคลายออกจากขันธ์ห้าหรือว่าแยกรูปแยกนาม
ใจหงายขึ้นมาเข้าใจคําว่าอัตตาอนัตตา ลักษณะอัตตาอนัตตา เข้าใจคําว่าอนิจจังทุกขังอนัตตา ในขันธ์ห้า อันนี้ส่วนกองรูป อันนี้ส่วนกองนาม ใจที่สงบเป็นอย่างไร ใจที่ตั้งมั่นเป็นอย่างไร ส่วนมากเราก็ไปนึกเอาไปคิดเอา ทำตามอำเภอใจ ไม่ได้ทำด้วยสติทำด้วยปัญญา รู้ด้วยเหตุรู้ด้วยผล เราต้องพยายามมาเจริญสติ ศรัทธาความเชื่อมั่น แล้วก็เจริญสติให้รู้แจ้งเห็นจริง แล้วก็ทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตตั้งแต่ตื่นขึ้นจนกระทั่งนอนหลับ จนกระทั่งเราหมดลมหายใจนั่นแหละมันถึงจะได้รู้ว่าใจของเราจะดำเนินไปทางไหน ละอกุศล เจริญกุศล ทำใจให้อยู่ในบุญในกุศลตลอดเวลา สูงขึ้นไปก็ขัดเกลากิเลส
กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร นิวรณธรรม มลทินที่เป็นเครื่องกางกั้นใจของเราไม่ให้รับความสงบเป็นอย่างไร เราต้องเป็นบุคคลที่ศึกษา ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ มีพรหมวิหาร มีความกตัญญู มีสัจจะกับตัวเราเอง เราก็ต้องพยายามสร้างบารมี การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้ก็ยากแสนยาก ได้เกิดมาแล้วเราก็อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา ท่านให้ทำความเข้าใจเสียขณะที่ยังมีกําลัง ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้าหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป
ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็ต้องพิจารณารู้ใจรู้กาย รู้ใจรู้กายทำความเข้าใจให้ถูกต้อง การเจริญสติถ้าเรารู้แนวทางวิธีการแนวทางแล้วเราก็พยายามไปทำ การเจริญสติเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ กายวิเวกจากภาระหน้าที่การงานจากสมมติ ใจวิเวกจากกิเลสจากความยึดมั่นถือมั่น วิเวกจากขันธ์ห้า ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรจริงๆ ถึงจะเข้าใจ เราอาจจะฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเราอยู่ในระดับหนึ่ง แต่จะให้สูงขึ้นไปเราก็ต้องเป็นคนขยัน ขยันหมั่นเพียร รู้เหตุรู้ผล เห็นเหตุเห็นผล ทำความเข้าใจให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา
ลักษณะของสติ สติที่ต่อเนื่องกันเป็นอย่างนี้ เอาไปใช้การใช้งานเป็นอย่างนี้ รู้ไม่ทันเราก็รู้จักควบคุม เรื่องทั้งเรื่องทั้งชีวิตของเราเลยทีเดียว ก็ต้องพยายามกันนะ บุญสมมติเราก็พากันทำ บุญใกล้บุญไกล บุญมากบุญน้อย มีโอกาสก็ให้รีบทำ ทำมากก็เป็นของเรา ทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็มีส่วนแห่งบุญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โอกาสเปิดกาลเวลาเปิดก็ให้รีบทำ
วันพรุ่งนี้ทางวัดของเราจะได้ทำการล้างน้ำประปา พระ ชี หรือว่าโยมก็เปิดน้ำประปาเก็บตุนเอาไว้เพราะว่าจะได้ล้างน้ำประปา เดี๋ยวขาดน้ำ ก็บอกกล่าวทุกคนให้ทราบตุนน้ำเอาไว้ ให้ช่วยกันประหยัด ดูแลรักษา ทุกอย่าง ไม่ใช่ไปปล่อยปละละเลย ทุกเรื่องทุกอย่าง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ละกิเลสออกจากใจของเรา การเจริญสติเราก็ต้องพยายามทำให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไร เราก็รู้จักหยุดรู้จักดับรู้จักวิเคราะห์
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 23 ธันวาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบายและก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกไปยาวๆ
เพียงแค่เรื่องลมหายใจพวกเราก็ขาดการสร้างความรู้ตัว ส่วนสติปัญญาทางโลกนั้นมีกันเต็มเปี่ยม ศรัทธา ความเชื่อ ความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย เชื่อบุญเชื่อบาปเชื่อกรรมตรงนั้นมีอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปทำความเข้าใจ รู้การเกิดการดับของใจ รู้การเกิดการดับของขันธ์ห้า ชี้เหตุชี้ผลเห็นเหตุเห็นผล จนใจคลายออกจากขันธ์ห้าหรือว่าแยกรูปแยกนาม
ใจหงายขึ้นมาเข้าใจคําว่าอัตตาอนัตตา ลักษณะอัตตาอนัตตา เข้าใจคําว่าอนิจจังทุกขังอนัตตา ในขันธ์ห้า อันนี้ส่วนกองรูป อันนี้ส่วนกองนาม ใจที่สงบเป็นอย่างไร ใจที่ตั้งมั่นเป็นอย่างไร ส่วนมากเราก็ไปนึกเอาไปคิดเอา ทำตามอำเภอใจ ไม่ได้ทำด้วยสติทำด้วยปัญญา รู้ด้วยเหตุรู้ด้วยผล เราต้องพยายามมาเจริญสติ ศรัทธาความเชื่อมั่น แล้วก็เจริญสติให้รู้แจ้งเห็นจริง แล้วก็ทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตตั้งแต่ตื่นขึ้นจนกระทั่งนอนหลับ จนกระทั่งเราหมดลมหายใจนั่นแหละมันถึงจะได้รู้ว่าใจของเราจะดำเนินไปทางไหน ละอกุศล เจริญกุศล ทำใจให้อยู่ในบุญในกุศลตลอดเวลา สูงขึ้นไปก็ขัดเกลากิเลส
กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร นิวรณธรรม มลทินที่เป็นเครื่องกางกั้นใจของเราไม่ให้รับความสงบเป็นอย่างไร เราต้องเป็นบุคคลที่ศึกษา ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ มีพรหมวิหาร มีความกตัญญู มีสัจจะกับตัวเราเอง เราก็ต้องพยายามสร้างบารมี การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี้ก็ยากแสนยาก ได้เกิดมาแล้วเราก็อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา ท่านให้ทำความเข้าใจเสียขณะที่ยังมีกําลัง ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้าหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป
ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็ต้องพิจารณารู้ใจรู้กาย รู้ใจรู้กายทำความเข้าใจให้ถูกต้อง การเจริญสติถ้าเรารู้แนวทางวิธีการแนวทางแล้วเราก็พยายามไปทำ การเจริญสติเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ กายวิเวกจากภาระหน้าที่การงานจากสมมติ ใจวิเวกจากกิเลสจากความยึดมั่นถือมั่น วิเวกจากขันธ์ห้า ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรจริงๆ ถึงจะเข้าใจ เราอาจจะฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเราอยู่ในระดับหนึ่ง แต่จะให้สูงขึ้นไปเราก็ต้องเป็นคนขยัน ขยันหมั่นเพียร รู้เหตุรู้ผล เห็นเหตุเห็นผล ทำความเข้าใจให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา
ลักษณะของสติ สติที่ต่อเนื่องกันเป็นอย่างนี้ เอาไปใช้การใช้งานเป็นอย่างนี้ รู้ไม่ทันเราก็รู้จักควบคุม เรื่องทั้งเรื่องทั้งชีวิตของเราเลยทีเดียว ก็ต้องพยายามกันนะ บุญสมมติเราก็พากันทำ บุญใกล้บุญไกล บุญมากบุญน้อย มีโอกาสก็ให้รีบทำ ทำมากก็เป็นของเรา ทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็มีส่วนแห่งบุญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โอกาสเปิดกาลเวลาเปิดก็ให้รีบทำ
วันพรุ่งนี้ทางวัดของเราจะได้ทำการล้างน้ำประปา พระ ชี หรือว่าโยมก็เปิดน้ำประปาเก็บตุนเอาไว้เพราะว่าจะได้ล้างน้ำประปา เดี๋ยวขาดน้ำ ก็บอกกล่าวทุกคนให้ทราบตุนน้ำเอาไว้ ให้ช่วยกันประหยัด ดูแลรักษา ทุกอย่าง ไม่ใช่ไปปล่อยปละละเลย ทุกเรื่องทุกอย่าง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ ละกิเลสออกจากใจของเรา การเจริญสติเราก็ต้องพยายามทำให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไร เราก็รู้จักหยุดรู้จักดับรู้จักวิเคราะห์
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ