หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 14

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 14
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 14
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 14
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย หลวงพ่อก็เพียงแค่ย้ำแค่เตือนแค่บอกแค่กล่าววิธีการแนวทางรู้จักการเจริญสติ ตั้งแต่ตื้นขึ้น เจริญสติให้ต่อเนื่องเพื่อที่จะเอาไปอบรมใจของเรา

เราอบรมใจของเราไม่ได้ เพราะว่าใจของเราเกิดเร็วไว เราก็ต้องพยายามหาวิธีการ แนวทางโดยการเจริญสมถะให้ใจของเราอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ให้อยู่กับลมหายใจ ถึงเรียกว่า ‘อานาปานสติ’ พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ให้รู้ทุกอิริยาบถตั้งแต่ตื่นขึ้น ส่วนศรัทธาความเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย การฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการให้ทาน ตบะบารมี ตรงนี้มีกันทุกคน จะมีมากมีน้อยก็ขึ้นอยู่กำลังของเรา

แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมาเราขาดตกบกพร่องอะไรบ้างทางสมมติ อะไรที่เรายังไม่พร้อม เราก็พยายามสร้างขึ้นมาให้เกิดประโยชน์ ให้สมบูรณ์แบบ แต่ละวันตื่นขึ้นมา เรามีความขยัน มีความรับผิดชอบ รู้จักแสวงหาด้วยเหตุด้วยผล ไม่เบียดเบียนตน เบียดเบียนคนอื่น รู้จักแบ่งกินแบ่งใช้แบ่งเก็บแบ่งทาน เป็นอานิสงส์ เป็นเสบียงในการเดินทางของเรา ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เขาก็ต้องเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญ จะได้ไม่ได้ลำบาก

ใจของคนเรานี้หลง ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด ความเกิดนั้นแหละคือความหลงอันละเอียด ในเมื่อหลงมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ ท่านถึงให้เจริญสติหรือว่ามาสร้างผู้รู้ลงที่กายของเรา ก็เพื่อที่จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ใจ รู้ลักษณะของใจ รู้จักการขัดเกลาเอากิเลสออกจากใจของเรา

ใจดวงเดิมนั้นไม่มีกิเลส เพราะความไม่เข้าใจ ความไม่รู้ เขาถึงเกิด ถึงหลง ถึงยึด เป็นทาสของกิเลส กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด เกาะกุมห่อหุ้มดวงใจของเราเอาไว้จนมืด ท่านจึงให้มาเจริญสติ สร้างตบะ สร้างบารมี


ใจเกิดความโลภ ก็พยายามคลายละความโลภ ด้วยการให้ ด้วยการเอาออก ใจเกิดความโกรธ ก็พยายามดับความโกรธ ด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม ใจของเราเกิด ทิฏฐิเกิดมานะแข็งกร้าวแข็งกระด้าง เราก็พยายามมาแก้ไขใจของเรา ปรับปรุงใจของเราอยู่ตลอดเวลาท่านถึงบอกให้เจริญสติไปเป็นเพื่อนของใจ คอยอบรมใจ ชี้เหตุชี้ผล จนเห็นเหตุเห็นผล

เหตุผลในหลักธรรมคือ ใจต้องคลายออกจากขันธ์ห้า หรือว่าแยกรูปแยกนาม หรือว่าหงายจากสมมติไปหาวิมุตติ อันนี้เพียงแค่เห็นถูกหรือว่าสัมมาทิฏฐิ ถ้าเห็นถูกแล้ว ถ้าเราไม่ตามทำความเข้าใจ ใจก็เกิดอยู่เหมือนเดิม ใจก็ยึดอยู่เหมือนเดิม ถ้าแยกได้คลายได้ ถ้ากำลังสติของเราตามเห็นความเกิด ความดับ นั่นแหละ ที่ท่านได้ว่าเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในส่วนนามธรรม ส่วนรูปธรรมก็ร่างกายของเรา

อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง ตื่นขึ้นมารีบแก้ไขใจ ดูใจ ปรับปรุงใจของเรา รู้จักแก้ไขภาระหน้าที่สมมติ อะไรที่ทำให้เราติดขัด ขาดตกบกพร่อง เราก็พยายามแก้ไข ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็พยายามแก้ไข อย่าไปปล่อยปละละเลย เขาจะส่งผลถึงวันข้างหน้า ถ้าเราทำปัจจุบันดี ทุกสิ่งทุกอย่างมีวิบากกรรมมีจริง วันนี้มี พรุ่งนี้มี เดือนนี้มี เดือนหน้ามี ภพนี้มี ภพหน้ามี ก็ต้องพยายามให้ใจของเราอยู่ในบุญในกุศลเอาไว้ ถ้าหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญ กับเรื่องบาปเท่านั้นแหละ

ถ้าไม่อยากจะกลับมาเกิด ก็ต้องคลายความหลง ละกิเลส ดับความเกิด มองเห็นหนทางเดิน ว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่ได้กลับมาเกิดกัน ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ก็ต้องพยายามกันนะ สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ทำใจให้สงบ ทำใจให้ปกติ ส่วนใจจะสะอาดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรการขัดเกลากิเลสอีกที ก็ต้องพยายามกัน

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พยายามพากันศึกษาค้นคว้าให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง