หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 039
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 039
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนแล้วก็ให้ต่อเนื่อง หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ หยุดภาระหน้าที่การงานทางด้านสมมติเราก็วางมาได้ระดับหนึ่ง ทีนี้เราก็มาทำความเข้าใจ มาสร้างความรู้ตัว มาสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันแล้วหรือยัง เรารู้จักคำว่าสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันแล้วหรือยัง เรารู้จักลักษณะของจิต รู้จักลักษณะของใจ ซึ่งเรียกว่าวิญญาณอยู่ในกายของเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามรีบดู รีบพิจารณา รีบแก้ไขเสีย อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง
ทุกคนก็มีบุญมีวาสนามาดี ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้สร้างบุญกันมา ถ้าไม่ได้สร้างบุญมาไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์หรอก การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้อัตภาพร่างกายของมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐก็นับว่าโชคดีที่สุด มีอาการครบ 32 อย่าง แต่เขาเกิดมาด้วย ‘ความหลง’ แต่หลงเกิดอยู่ในภพมนุษย์เป็นภพที่ประเสริฐที่สุด เป็นภพที่ดีที่สุด แต่ก็ยังหลงอยู่ ถ้าไม่เกิดไม่หลง เกิดอยู่ในภพของมนุษย์แล้วก็มีกายเนื้อมาห่อหุ้มเอาไว้ มีขันธ์ห้ามาปกปิดตัววิญญาณเอาไว้ ซึ่งเขาก่อร่างสร้างตัวปกปิดบังอำพรางตัวเขาเอาไว้มากมายทีเดียว
เพียงแค่ร่างกายอัตภาพขันธ์ห้า พวกเรายังแจงไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ที่ท่านเรียกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ เป็นรูปเป็นนาม ยังไม่รู้เรื่องตรงนี้อยู่ เรารู้อยู่ตั้งแต่ชื่อ แต่เรายังเข้าไม่ลึกไม่เห็น นอกจากจะอาศัยปัญญาของพระพุทธองค์มาศึกษามาค้นคว้า มาทำความเข้าใจ ถึงจะรู้ความจริงตรงนี้ เพียงแค่แยกแยะขันธ์ห้า คลายขันธ์ห้า รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในทวารทั้งหก รอบรู้ในโลกธรรม ก็ยังยากอยู่แต่การทำบุญให้ทาน การแสวงหาธรรมนั้นมีอยู่ แต่ก็เป็นการแสวงหาแบบโลกๆ ไม่ใช่เจริญสติเน้นลงเข้าไปรู้ที่กายของเรา รู้ที่ใจของเรา รู้ฐานของใจ รู้การเกิดการดับ รู้การไปการมา แล้วก็รู้จักหยุด รู้จักระงับยับยั้ง รู้จักคลาย รู้จักแยกรู้จักแยะให้เป็นกองเป็นขันธ์ เป็นชิ้นเป็นอัน ด้วยปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเขาปกปิดเอาไว้เยอะ
ต้องแจงให้ละเอียด อันนี้เป็นเรื่องของสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา อันนี้เป็นเรื่องของวิญญาณซึ่งอยู่ในกายของเรามันมีอะไรบ้าง หมั่นพร่ำสอนวิญญาณหรือว่าพร่ำสอนใจของเรา จนดับความเกิด คลายความหลง ดับความเกิด ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมด เพียงแค่การควบคุมก็ยังมีน้อย การละกิเลสก็มีน้อย เพียงแค่การเจริญสติให้ต่อเนื่อง ความเพียรตรงนี้ก็มีเป็นบางครั้งบางคราว มันจะไปเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างไร การฝักใฝ่การสนใจ การทำความเข้าใจ การสำรวจ การวิเคราะห์พิจารณา ขณะนี้ใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเราเป็นกุศลหรือว่าอกุศล ใจของเราปกติ ใจของเราสงบ ใจของเราส่งออกไปภายนอกเขาเกิดอย่างไร เหตุจากภายนอกมาทำให้ใจเกิดอย่างไรหรือเกิดจากข้างใน
ส่วนสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา มีความเพียรที่ต่อเนื่องกันหรือไม่ หมั่นอบรมใจของเราได้ถึงขนาดไหน ทั้งกาย ทั้งวาจา หมั่นแก้ไขหมั่นปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องของเราทุกคน เราทำหน้าที่ของเราให้มันจบ จบภายในแล้วก็นอกนั้นก็เป็นเรื่องของการสร้างประโยชน์กับสมมติ ให้แก่สมมติ เป็นภาระ เปลี่ยนจากภาระเป็นหน้าที่ เราจบภายในแล้วข้างนอกก็มาหาเรา เราก็ช่วยอนุเคราะห์แก้ไขกันไปเท่าที่อัตภาพกำลังกายของเราที่จะทำได้ เราอย่าไปมองข้าม เป็นเรื่องของเราทุกคนเลยทีเดียว
เป็นเรื่องของตัวเราเอง ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น อย่าไปเที่ยวแบกกายแบกใจของเราให้เป็น ให้ไปหนักที่อื่น ตัวเราก็หนักพอแรงแล้ว เรามาแก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเราให้เบา ให้โล่ง ให้โปร่ง ทีนี้ก็อยู่ด้วยสติ อยู่ด้วยปัญญา อนุเคราะห์กันด้วยสติด้วยปัญญาตามเหตุตามปัจจัย จนกว่าจะพลัดพรากจากกัน เพราะว่าทุกคนก็ต้องมีการพลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตายเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง ก่อนที่จะถึงเวลานั้น เราต้องรู้ความจริงให้ได้เสียก่อนในกายของเรา ดับความเกิด คลายความหลงให้ได้เสียก่อน ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ
อย่าไปลืมทิ้งบุญ พยายามหมั่นทำบุญ บางคนก็สร้างมาดี การทำบุญให้ทานนี้มีมาตั้งนาน มีมาตั้งแต่ภพก่อนๆโน่น ฝักใฝ่ในบุญ ในการทำบุญในการให้ทานมา ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็มาสร้างมาสานต่อ บางคนก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้หมด เพียงแค่ระดับสมมติก็เป็นดินพอกหางหมู มันก็แก้ไขได้ยาก ก็ต้องพยายามแก้ไข ไม่ว่าไม่แก้ไข ก็ต้องแก้ไขกัน
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี อย่าพากันเกียจคร้าน ให้พากันขยันหมั่นเพียร อย่าไปมองโลกในแง่ร้าย อย่าไปเพ่งโทษคนโน้นคนนี้ ท่านให้เพ่งโทษตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเอง ปรับปรุงตัวเราเอง อะไรมันไม่ดีก็รีบแก้ไขเสีย ทั้งภายนอกทั้งภายใน ใจไม่ดีเราก็รู้จักรีบแก้ไขเสียให้มันดี แนวทางนั้นก็มีอยู่ พระพุทธองค์ท่านก็ได้ค้นพบมาตั้งสองพันกว่าปีแล้ว เอามาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็พวกเรานี่แหละให้เดินตาม ท่านบัญญัติเอาไว้ ท่านตีกรอบเอาไว้ ก็เพื่อที่จะให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ปฏิบัติคร่ำเคร่งมากมายถึงขนาดไหน วิธีใดก็ช่าง ก็เพื่อที่จะให้ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมดจด ดับความเกิดออกจากใจ ไม่ให้ใจของเราเกิด ก็เกิดอยู่แค่เพียงกายเนื้อ กายเนื้อแตกดับแล้วก็ใจก็ไม่ได้ไปเกิดต่อ ไปสร้างภพสร้างชาติต่อ เราก็ต้องพยายามเดินเอา
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
ทุกคนก็มีบุญมีวาสนามาดี ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้สร้างบุญกันมา ถ้าไม่ได้สร้างบุญมาไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์หรอก การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ได้อัตภาพร่างกายของมนุษย์ซึ่งเป็นสัตว์ประเสริฐก็นับว่าโชคดีที่สุด มีอาการครบ 32 อย่าง แต่เขาเกิดมาด้วย ‘ความหลง’ แต่หลงเกิดอยู่ในภพมนุษย์เป็นภพที่ประเสริฐที่สุด เป็นภพที่ดีที่สุด แต่ก็ยังหลงอยู่ ถ้าไม่เกิดไม่หลง เกิดอยู่ในภพของมนุษย์แล้วก็มีกายเนื้อมาห่อหุ้มเอาไว้ มีขันธ์ห้ามาปกปิดตัววิญญาณเอาไว้ ซึ่งเขาก่อร่างสร้างตัวปกปิดบังอำพรางตัวเขาเอาไว้มากมายทีเดียว
เพียงแค่ร่างกายอัตภาพขันธ์ห้า พวกเรายังแจงไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ที่ท่านเรียกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ เป็นรูปเป็นนาม ยังไม่รู้เรื่องตรงนี้อยู่ เรารู้อยู่ตั้งแต่ชื่อ แต่เรายังเข้าไม่ลึกไม่เห็น นอกจากจะอาศัยปัญญาของพระพุทธองค์มาศึกษามาค้นคว้า มาทำความเข้าใจ ถึงจะรู้ความจริงตรงนี้ เพียงแค่แยกแยะขันธ์ห้า คลายขันธ์ห้า รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในทวารทั้งหก รอบรู้ในโลกธรรม ก็ยังยากอยู่แต่การทำบุญให้ทาน การแสวงหาธรรมนั้นมีอยู่ แต่ก็เป็นการแสวงหาแบบโลกๆ ไม่ใช่เจริญสติเน้นลงเข้าไปรู้ที่กายของเรา รู้ที่ใจของเรา รู้ฐานของใจ รู้การเกิดการดับ รู้การไปการมา แล้วก็รู้จักหยุด รู้จักระงับยับยั้ง รู้จักคลาย รู้จักแยกรู้จักแยะให้เป็นกองเป็นขันธ์ เป็นชิ้นเป็นอัน ด้วยปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเขาปกปิดเอาไว้เยอะ
ต้องแจงให้ละเอียด อันนี้เป็นเรื่องของสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา อันนี้เป็นเรื่องของวิญญาณซึ่งอยู่ในกายของเรามันมีอะไรบ้าง หมั่นพร่ำสอนวิญญาณหรือว่าพร่ำสอนใจของเรา จนดับความเกิด คลายความหลง ดับความเกิด ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมด เพียงแค่การควบคุมก็ยังมีน้อย การละกิเลสก็มีน้อย เพียงแค่การเจริญสติให้ต่อเนื่อง ความเพียรตรงนี้ก็มีเป็นบางครั้งบางคราว มันจะไปเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างไร การฝักใฝ่การสนใจ การทำความเข้าใจ การสำรวจ การวิเคราะห์พิจารณา ขณะนี้ใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเราเป็นกุศลหรือว่าอกุศล ใจของเราปกติ ใจของเราสงบ ใจของเราส่งออกไปภายนอกเขาเกิดอย่างไร เหตุจากภายนอกมาทำให้ใจเกิดอย่างไรหรือเกิดจากข้างใน
ส่วนสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา มีความเพียรที่ต่อเนื่องกันหรือไม่ หมั่นอบรมใจของเราได้ถึงขนาดไหน ทั้งกาย ทั้งวาจา หมั่นแก้ไขหมั่นปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา เป็นเรื่องของเราทุกคน เราทำหน้าที่ของเราให้มันจบ จบภายในแล้วก็นอกนั้นก็เป็นเรื่องของการสร้างประโยชน์กับสมมติ ให้แก่สมมติ เป็นภาระ เปลี่ยนจากภาระเป็นหน้าที่ เราจบภายในแล้วข้างนอกก็มาหาเรา เราก็ช่วยอนุเคราะห์แก้ไขกันไปเท่าที่อัตภาพกำลังกายของเราที่จะทำได้ เราอย่าไปมองข้าม เป็นเรื่องของเราทุกคนเลยทีเดียว
เป็นเรื่องของตัวเราเอง ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น อย่าไปเที่ยวแบกกายแบกใจของเราให้เป็น ให้ไปหนักที่อื่น ตัวเราก็หนักพอแรงแล้ว เรามาแก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเราให้เบา ให้โล่ง ให้โปร่ง ทีนี้ก็อยู่ด้วยสติ อยู่ด้วยปัญญา อนุเคราะห์กันด้วยสติด้วยปัญญาตามเหตุตามปัจจัย จนกว่าจะพลัดพรากจากกัน เพราะว่าทุกคนก็ต้องมีการพลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตายเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง ก่อนที่จะถึงเวลานั้น เราต้องรู้ความจริงให้ได้เสียก่อนในกายของเรา ดับความเกิด คลายความหลงให้ได้เสียก่อน ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ
อย่าไปลืมทิ้งบุญ พยายามหมั่นทำบุญ บางคนก็สร้างมาดี การทำบุญให้ทานนี้มีมาตั้งนาน มีมาตั้งแต่ภพก่อนๆโน่น ฝักใฝ่ในบุญ ในการทำบุญในการให้ทานมา ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็มาสร้างมาสานต่อ บางคนก็ปิดกั้นตัวเองเอาไว้หมด เพียงแค่ระดับสมมติก็เป็นดินพอกหางหมู มันก็แก้ไขได้ยาก ก็ต้องพยายามแก้ไข ไม่ว่าไม่แก้ไข ก็ต้องแก้ไขกัน
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี อย่าพากันเกียจคร้าน ให้พากันขยันหมั่นเพียร อย่าไปมองโลกในแง่ร้าย อย่าไปเพ่งโทษคนโน้นคนนี้ ท่านให้เพ่งโทษตัวเราเอง แก้ไขตัวเราเอง ปรับปรุงตัวเราเอง อะไรมันไม่ดีก็รีบแก้ไขเสีย ทั้งภายนอกทั้งภายใน ใจไม่ดีเราก็รู้จักรีบแก้ไขเสียให้มันดี แนวทางนั้นก็มีอยู่ พระพุทธองค์ท่านก็ได้ค้นพบมาตั้งสองพันกว่าปีแล้ว เอามาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็พวกเรานี่แหละให้เดินตาม ท่านบัญญัติเอาไว้ ท่านตีกรอบเอาไว้ ก็เพื่อที่จะให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ปฏิบัติคร่ำเคร่งมากมายถึงขนาดไหน วิธีใดก็ช่าง ก็เพื่อที่จะให้ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมดจด ดับความเกิดออกจากใจ ไม่ให้ใจของเราเกิด ก็เกิดอยู่แค่เพียงกายเนื้อ กายเนื้อแตกดับแล้วก็ใจก็ไม่ได้ไปเกิดต่อ ไปสร้างภพสร้างชาติต่อ เราก็ต้องพยายามเดินเอา
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา