หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 37

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 37
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 37
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 37
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 24 มีนาคม 2556

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เรายังไม่ได้สร้างความรู้ตัวเลย ปล่อยปละละเลยในการสร้างความรู้ตัว ในการเจริญสติ อยากจะเอาตั้งแต่บุญ อยากจะทำตั้งแต่บุญ ความอยากซึ่งเกิดจากตัวใจ เกิดจากตัววิญญาณ อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่ แต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ แต่ก็ควรสร้างควรเจริญด้วยสติด้วยปัญญา ทำความเข้าใจ ด้วยสติด้วยปัญญา หมั่นสร้างตบะบารมีให้เต็มเปี่ยม อะไรควรละ อะไรควรเจริญ

หลวงพ่อก็พูดชี้แนะแนวทาง อุบายวิธี บุคคลที่มีบุญมีกุศล มีสติมีปัญญา ก็ย่อมจะไปทำตามทันที ความรู้สึกตัวรับรู้การหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นสติรู้กาย แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่อง หายใจอย่างไรถึงจะรู้โดยที่ไม่ต้องไปอึดอัด ไม่ต้องไปฝืน หายใจให้ธรรมชาติที่สุด อันนี้เพียงแค่รู้กาย เราก็รู้ให้ต่อเนื่อง 1 ครั้ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง เวลาลมหายใจเข้าหายใจออก ลึกลงไป ถ้าเรามีความรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ ตัววิญญาณในกายของเรา จะก่อตัว จะเกิด เขาก็จะรู้เห็นอาการของวิญญาณ รู้จุดเกิด จุดปรุง จุดแต่ง อันนี้เพียงแค่ความรู้ตัวกับตัวใจสองส่วน

ลึกๆ ลงไปอีก ก็มีความคิดที่ผุดขึ้นมา ปรุงแต่งใจที่เราไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเรียกว่าอาการของขันธ์ห้า ซึ่งเป็นส่วนนามธรรมด้วยกัน ถ้าความรู้ตัวของเราไม่ต่อเนื่อง ก็ยากที่จะรู้เท่าทันตรงนั้น ส่วนมากตัววิญญาณกับอาการของวิญญาณรวมกันไปแล้ว เกิดส่งออกไปแล้วเราถึงรู้ หรือว่าเพราะว่าวิญญาณก็เป็นธาตุรู้อยู่ในตัวด้วยการเกิดการหลงเขามีอยู่ตรงนั้นอยู่ นอกจากเราจะเจริญสติให้แหลมคมเร็วไว หมั่นพร่ำสอนใจ หมั่นควบคุมใจ แล้วก็หาเหตุหาผล ชี้แนะแนวทางให้ใจมองเห็นความเป็นจริง เขาถึงจะยอมรับความเป็นจริงได้ ไม่ใช่ว่าเขาจะยอมรับง่ายๆ

การได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน การสร้างตบะบารมี ทุกคนสร้างกันมาดี แต่การแยกรูปแยกนาม สัมมาทิฏฐิ ความรู้แจ้งเห็นจริง จุดแรกนี่แหละ ไม่ถึงวาระเวลาก็ยากที่จะคลาย ที่เราก็ต้องสร้างอานิสงส์บุญบารมีของเราไป ถึงเวลาประจวบเหมาะเราก็จะมองเห็น มองเห็นการเกิดการดับ การแยก การคลาย ซึ่งภาษาธรรมะท่านเรียกว่า วิปัสสนาญาณ วิปัสสนาภูมิ เพียงแค่แยกรูปแยกนาม เพียงแค่เริ่มต้นที่ถูก การละกิเลส การทำความเข้าใจกับกิเลสหยาบกิเลสละเอียด การทำความเข้าใจกับกายทวารของตัวเราเอง อันนี้กายของเรา ส่วนรูปเป็นก้อนรูป มีทวาร หู ตา จมูก ลิ้น กายเป็นทางผ่าน กระทบสัมผัสส่งเข้าไปถึงตัววิญญาณ มันมีหมดทุกอย่างเลย นอกเสียว่าพวกเราจะศึกษาค้นคว้าให้ละเอียดหรือไม่เท่านั้นเอง ศึกษาอะไรก็ต้องพยายามทำให้ต่อเนื่อง รู้จักขวนขวายรู้จักสร้างขึ้นมา รู้จักการตามทำความเข้าใจ รู้จักแจงรู้จักแยกแยะออกให้ละเอียดอะไรเป็นกุศลหรือว่าอกุศล ไม่เหลือวิสัย ต้องพยายามทำกัน

ถ้าเป็นหลักของความเป็นจริงแล้ว ทุกคนก็มีบุญนะ ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างบารมีถวายทานกันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย พาฝักใฝ่พาทำบุญให้ทาน มีความละอายเกรงกลัวต่อบาป สร้างบุญสร้างกุศลอยากจะได้บุญพากันน้อมกายน้อมใจเข้ามาเข้าวัด ไปปฏิบัติธรรมที่นู่นบ้างที่นี่บ้าง ไม่ใช่ว่าไม่ดี เป็นสิ่งที่ดี อาจจะปฏิบัติผิดบ้างถูกบ้าง อันนั้นก็เป็นการไปหาประสบการณ์ ถ้าถึงวาระเวลา จับพลัดจับผลู สักวันหนึ่งเราก็จะมองเห็นความเป็นจริง มองเห็นความเป็นจริง การเจริญสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างนี้ การควบคุมจิตเป็นลักษณะอย่างนี้ เราต้องศึกษาให้ละเอียด แล้วก็ไปดำเนินตาม กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้

ส่วนมากใจก็เป็นบุญเป็นธรรมอยู่ แต่การเกิดของใจนั้นมีอยู่ การเกิดของขันธ์ห้ามีอยู่ เราไม่ล้วงลึกลงไปถึงตรงนั้น บางทีก็เห็นอยู่บ้างเป็นบางครั้งบางคราว ไม่ได้เห็นให้ได้ทุกเรื่องต่อเนื่องทำความเข้าใจ ก็ละ พยายามละ พยายามดับ เราก็จะอยู่กับความบริสุทธิ์ มีโอกาสเราก็อย่าไปทิ้ง อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง ตัวใจนั่นแหละคือตัวบุญ ก็ยังเกิดยังหลงอยู่

ถ้าเราละกิเลสออกให้มันหมด คลายความหลงแยกรูปแยกนามตามดูให้ได้ เราไม่อยากจะได้ความบริสุทธิ์เราก็ได้ ใจไม่เกิด เราไม่อยากจะได้ความสงบ เราก็ได้ความสงบ อานิสงส์แห่งบุญก็จะเต็มเปี่ยม บุญภายนอกเราก็สนุกสร้างสนุกทำ บุญประโยชน์ทางวัตถุทาน ทำความเข้าใจให้ละเอียด แล้วก็สนุกทำบุญ สร้างบุญสร้างกุศล แบบวันนี้เราก็ได้มาช่วยกัน ได้ไถ่ชีวิตโค ซึ่งจะได้ถูกนำไปฆ่าที่โรงฆ่าสัตว์ และก็ได้ทำบุญ หาญาติพี่น้อง ให้เราทำบุญให้ตัวเราก็จะล้นออกไปสู่สิ่งรอบข้างต่างๆ คนมาก็มีความสุข คนอยู่ก็มีความสุข ไม่ว่าพระ ว่าเณร ว่าชี ก็พยายาม ยิ่งมาอยู่รวมกัน ร่วมกันเยอะๆ ยิ่งความเสียสละ ความสมัครสมานสามัคคี ความอ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยเหลือกัน อนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เราก็จะอยู่ดีมีความสุข

ไม่ใช่ว่ามีตั้งแต่ความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ตัว เห็นแต่ความเกียจคร้าน ถ้าเรามีความเห็นแก่ตัว เห็นความเกียจคร้าน ไม่มองเห็นในภาพรวม ไปที่ไหนก็ลำบาก อยู่คนเดียวก็ลำบาก อยู่หลายคนก็ลำบาก เรามีโอกาสได้มาอยู่ร่วมกัน เคยสร้างบุญด้วยกันนั่นแหละ ถึงได้มาอยู่ร่วมกัน เคยเกี่ยวพันกัน อาจจะภายในภพนี้หรือภพที่ผ่านๆมา ไม่อย่างนั้นไม่ได้มาอยู่ร่วมกัน ไม่ได้มาสร้างบุญร่วมกันหรอก ทีนี้การเดินปัญญา การเจริญสติ การแยกรูปแยกนาม เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลา เวลาโน้นถึงจะทำ เวลานี้ถึงจะทำ อย่างนั้นยังคิดผิด

ไปปฏิบัติธรรมที่นู่นที่นี่ยังคิดผิดอยู่ ต้องปฏิบัติลงที่กายลงที่ใจของเรา ว่าใจของเราเป็นอย่างไร ขณะนี้เดี๋ยวนี้ ใจของเรามีกิเลส ใจของเรามีความสงบ ความคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจของเราได้อย่างไร ทีนี้การไปหาประสบการณ์ การไปเปลี่ยนสถานที่ อันนั้นก็ค่อยว่ากันอีกทีนึง แต่เราต้องรู้ฐานของใจของเราให้ได้เสียก่อน เห็นลักษณะของใจ แล้วก็ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันได้เสียก่อน กิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆเหมือนกัน

มารมีหลายเยอะ กายของเรานี่ก็เรียกว่าขันธมาร จิตของเราถ้าเกิดกิเลสหรือว่าเกิดอกุศล เขาบอกว่าจิตเป็นมารเขาเรียกว่าขันธมาร การเกิดของจิต การเกิดของขันธ์ห้า การเกิดของสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา แต่เวลานี้สติปัญญาของเรายังไม่ต่อเนื่อง เพียงแค่สร้างให้ต่อเนื่องกันสัก 5 นาที 10 นาที ก็ยังไม่ปะติดปะต่อ มันจะไปรู้เท่าทันตัวจิต ตัววิญญาณ ตัวความคิดได้อย่างไร เขาเกิดมาตั้งนาน เขาหลงมาตั้งนาน แถมไปส่งเสริมกิเลสเอาอีกเสียด้วย ถ้าเราฝืน มีความตั้งใจ มีความจริงใจด้วยสติด้วยปัญญาของเราจริงๆ เราก็จะเห็น

ถ้าใจของคนเราถ้าไม่ฝืนมันก็ยากที่จะคลายได้ ฝืนแล้วก็พยายามสร้างตบะบารมี ในหลักธรรมท่านถึงเรียกว่าทวนกระแส ทวนกระแส การได้ยินได้ฟังได้อ่านทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ให้พากันไปทำนะ พากันไปทำ อย่าไปปล่อยปละละเลย ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้างก็ทำ ถ้าถึงวาระเวลาประจวบเหมาะ ถ้าอานิสงส์บุญบารมีของเรามีเพียงพอ อยู่คนเดียวเราต้องเข้าใจ อยู่หลายคนเราก็ต้องเข้าใจ ไม่มีใครชี้แนะเราก็ต้องเข้าใจ ตราบใดที่เรายังสร้างสะสมบารมีของเราอยู่

วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ขอให้ทุกคนจงประสบความสำเร็จให้ถึงจุดหมายปลายทางกันทุกคน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง