หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 10

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 10
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 10
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 10
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 25 มกราคม 2556

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่เช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ พยายามหัดสร้างความรู้ตัว หัดวิเคราะห์กายของเรา วิเคราะห์ใจของเรา อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ทำความเข้าใจ ความรู้ตัวไม่มี เราก็ต้องสร้างขึ้นมา

ส่วนใจนั้นเป็นบุญอยู่ ใจนั้นมีศรัทธา อยากจะทำบุญ อยากจะรู้บุญ อยากจะรู้ธรรม ความอยากนั่นแหละปิดกันเอาไว้ เรามาสร้างตัวรู้ตัวใหม่หรือว่ามาเจริญสติลงอยู่ที่กายของเรา อยู่ที่การหายใจเข้าออก เราก็หายใจรู้ให้ต่อเนื่อง ความรู้ตัวต่อเนื่องนั่นแหละเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ ลึกลงไป ก็รู้ความปกติของใจ ดูการเกิดการดับของความคิด อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม

พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องอัตตา สอนเรื่องอนัตตา คำว่าอัตตากับอนัตตามันเป็นลักษณะอย่างไร สอนเรื่องหลักของอริยสัจความจริง การเกิดของวิญญาณ การเกิดของขันธ์ห้า วิญญาณของเรามาสร้างขันธ์ห้ามาปกปิดตัวเองได้อย่างไร เราต้องพยายามหัดสังเกตจนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิด ออกจากอารมณ์ จนกว่าใจของเราจะหงายซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ซึ่งเรียกว่าพลิกจากสมมติไปหาวิมุตติ แล้วก็ตามทำความเข้าใจ ให้ใจรับรู้ แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของเรา นี่แหละถ้าใจของเราคลายออกจากความคิด ซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกัน เขาก็จะคลายจากความหลง กายก็จะเบา ใจก็จะว่าง ใจก็จะโล่งโปร่ง

แต่การเกิดของใจมีอยู่ การกิเลส ใจเกิดกิเลสก็มีอยู่ การปรุงแต่งของใจก็มีอยู่ เราก็ต้องมาหยุด ดับ หมั่นพร่ำสอนใจ หนุนกำลังสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่แหละ ไปใช้ ไปทำความเข้าใจไปพิจารณาทุกเรื่องในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เป็นเรื่องของเราทุกคน เราต้องสอนเรา แก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเรา อย่าไปเที่ยวให้คนอื่นเขาสอน เราถึงสอนตัวเรา ถ้าสอนตัวเราไม่ได้แล้ว ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกที่จะไปให้คนอื่นสอน เราต้องสอนตัวเรา แก้ไขใจเรา ปรับปรุงตัวเราตลอดเวลา ใจของเราเกิดกิเลส เราก็รู้จักละรู้จักดับ ดับที่นั้นดับที่นี้ เขาก็จะเหือดแห้งไปๆ เรื่อยๆ ต้องรู้จุดดับ รู้จุดละ รู้จุดปล่อย รู้จุดวาง ตามทำความเข้าใจจนกำลังติปัญญาของเราเป็นมหาสติมหาปัญญา มองเห็นเหตุเห็นผล เห็นเหตุเห็นผลภายใน ที่เกิดจากตัววิญญาณ

ลักษณะของวิญญาณ ลักษณะของใจของเรา ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นลักษณะอย่างนี้นะ ใจที่ไม่มีความยึดมั่นหรือมั่น ใจ ใจที่แยกใจที่คลายเป็นลักษณะอย่างนี้ ความคิดอารมณ์เป็นกุศลหรือว่าอกุศล ทำไมใจของเราถึงไปหลง กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ตาก็ทำหน้าที่ดู หูทำหน้าที่ฟัง เราก็แจงแยกออกไป สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟัง

รูป รส กลิ่น เสียงนี้จะเข้ามาทางประสาททั้งหกของเรา หู ตา จมูก ลิ้น กาย ส่งไปถึงวิญญาณ วิญญาณรับรู้ แต่ไม่ให้เกิด เขาทำหน้าที่ของเขา แต่ส่วนมากก็จะไปเพ่งโทษว่าเขามารบกวนตัวเรา เพราะว่าเราขาดกันแยกแยะ ขาดการทำความเข้าใจ ใจของเรายังเกิดอยู่ ใจของเรายังหลงอยู่ หลงอยู่ในขันธ์ห้า หลงเป็นทาสของกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียด มีหมดทุกอย่างเลย อยู่ในกายเนื้อก้อนนี้ ซึ่งตัวใจสร้างสิ่งต่าง ๆ มาปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด

กำลังสติปัญญาของเราต้องค้นหาเหตุหาผล แจง แยกแยะ ตามคำความเข้าใจ แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจ ให้ใจรับรู้ความเป็นจริง จนใจรู้เห็นความเป็นจริงนั่นแหละ เขาถึงจะปล่อยถึงจะวางได้ เขาถึงจะเกิดความเบื่อหน่ายได้ ถ้าเขาไม่รู้ความจริงเขาก็ปล่อยเขาก็วางไม่ได้ มันก็ยากนะ ถ้าไม่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ ต้องเป็นบุคคลที่ขยันหมั่นเพียร หมั่นขัดเกลา หมั่นชำระสะสางกิเลส แต่ละวันตื่นขึ้นมาจิตใจของเราเป็นอย่างไร มีความแข็งกระด้าง มีความอ่อนน้อมถ่อมตน หรือว่าจิตใจของเรามีตั้งแต่กิเลส เราก็ต้องพยายามสะสางทั้งภายนอกก็ยังสมมติของเราให้เกิดประโยชน์ ภายในเราก็พยายามกำจัดกิเลสออกจากใจของเราให้มันหมดจด

เป็นเรื่องของเราทุกคน ไม่ใช่เรื่องของคนโน้นเรื่องของคนนี้ เราพยายามทำขณะที่กำลังกายของเรากำลังมีความเข้มแข็งแข็งแรงอยู่ ถ้าหมดโอกาสแล้วก็ มันก็ยากที่จะทำได้ เราพยายามทำเสีย ไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลา เวลาโน้นถึงจะทำเวลานี้ถึงจะทำ อย่าไปคิดอย่างนั้น ยืน เดิน นั่ง นอนให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างไร เราจงเป็นบุคคลที่เตรียมพร้อมตลอดเวลา การพูดง่าย การลงมือทำจริงๆ ต้องพยายามทำ ขยันหมั่นเพียรกัน

สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำไปสร้างสานต่อเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง