หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 26

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 26
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 26
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 26
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 9 มีนาคม 2556

พากันดูดีๆ นะ พระเรา อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาให้รีบรู้กายรู้ใจของเรา เป็นเรื่องสำคัญที่สุด รู้กาย รู้ใจ แล้วก็รู้ภาระหน้าที่การงาน อะไรควรทำก่อน อะไรควรทำหลัง อะไรเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์มากประโยชน์น้อย เราพยายามหัดวิเคราะห์ แต่อย่าให้กิเลสเข้าครอบงำ ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เราก็พลอยได้รับประโยชน์ท่านด้วย คนอื่นมาก็พอได้รับประโยชน์

สร้างความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเราที่กายของเรา สร้างความรับผิดชอบไปตลอดเวลา การเจริญสติ การละกิเลส เราก็ต้องดำเนินไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาให้รู้กายแล้วก็รู้ใจ รู้จักแก้ไขปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา มันก็จะเกิดประโยชน์มากมายมหาศาล มีอะไรเราก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เรารู้จักสำรวจกายสำรวจใจของเรา ไปอยู่ที่ไหนก็มีความสุข ถ้าคนสอนใจตัวเองไม่ได้ อย่าไปเที่ยวให้คนอื่นเขาสอนไม่มีประโยชน์อะไร เราต้องเจริญสติเข้าไปพร่ำสอนใจของเรา ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเสียสละของเรามีเต็มเปี่ยมหรือไม่ ความรับผิดชอบ รับผิดชอบอยู่ในระดับไหน ระดับส่วนตัวส่วนรวม ระดับน้อยระดับมาก เราก็จะได้วิเคราะห์มองเห็นชัดเจน ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี

ยิ่งพระเรายิ่งชีเราก็ยิ่งเพิ่มความขยันความรับผิดชอบให้มากๆ มาอยู่ร่วมกัน ทุกเรื่องตั้งตื่นขึ้นมา ทั้งทางที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ที่ทิ้งขยะ โรงครัวต่างๆ เราต้องพยายามให้อยู่ในความเป็นระเบียบ ความเป็นระเบียบนั่นแหละคือขอวัตร ระเบียบจากภายนอก ทั้งภายนอกทั้งภายใน จัดระบบระเบียบของความคิดของอารมณ์ จัดระบบระเบียบของดวงวิญญาณในกายของเรา ไม่ให้วิญญาณของเราเกิด ไม่ให้วิญญาณของเราเป็นทาสของกิเลส ไม่ให้วิญญาณของเราหลง ถ้าพูดถึงเรื่องวิญญาณก็ไปโทษเอาโน้น ไปผี ผีอันโน้นผีอันนี้ มันไม่ใช่เรา ผีอยู่ในกายของเรานี่แหละ วิญญาณในกายของเรานี้แหละ ท่านถึงบอกให้รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในอารมณ์ รอบรู้ในโลก เพราะกายของเราก็เป็นก้อนโลก

มีอะไรก็ช่วยกันทำ ทำทุกวันไม่เคยหยุดตั้งแต่ 30 ปีโน่นมา ไม่ใช่ว่าทำเฉพาะวันหนึ่งวันเดียว ทำสมมติให้กับทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข ป่าไม่เป็นป่าก็ปลูกป่า เข้ามาก็มีความร่มรื่นร่มเย็น ทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนได้มีความสุข จากร่วม 30 ปีถึงทุกวันนี้ก็เพียงแค่ปลายเหตุ ผลของการกระทำตั้งแต่ก่อน ก็ส่งผลถึงความร่มรื่นร่มเย็นมาถึงทุกวันนี้ คนมาทีหลังก็มาสร้างมาสานต่อ มาทำความเข้าใจต่อ มาศึกษาต่อ ก็จะส่งต่อไปถึงคนข้างหน้าอีก คนรุ่นหลังมาก็ได้มาสร้างสานต่อ พวกเรามาอยู่ก็มาช่วยกัน ไม่ใช่ว่าพากันมาทำลาย ทำความสกปรกรกรุงรัง บางทีห้องส้วมห้องน้ำ เดินไปดูก็เปิดน้ำทิ้งกันไปทั่วก็มี ความรับผิดชอบแค่นั้นก็ยังไม่มี บางทีถ่ายแล้วก็ยังไม่ล้างก็มี มันก็ยากที่จะเข้าใจในธรรม ของง่ายๆ ก็ยังไม่พากันดูแลรักษาทำความเข้าใจ มีอยากจะได้ตั้งแต่ธรรม อยากจะรู้ตั้งแต่ธรรม แต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ความตระหนี่เหนียวแน่นเข้าครอบงำ มันจะไปได้ธรรมได้อย่างไร

ท่านให้ปล่อยให้วางให้หมด รับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญา อย่าเอามาก มีมากมีน้อยก็ให้เอาด้วยปัญญา รับผิดชอบด้วยปัญญา ความเสียสละมันไม่มีแล้วมันจะอยากจะได้ตั้งแต่ธรรม มันก็เป็นธรรมหลง​ ธรรมเมา ธรรมหนัก ไม่เข้าใจในชีวิตของตัวเองเพราะคนเราเกิดมาก็ต่างกัน แรงกรรมไม่เหมือนกัน บางคนก็สร้างมาดี บางคนก็สร้างมาน้อย บางคนก็สร้างมามาก บางคนก็ปัญญาดี เข้าใจถูกต้องได้เร็วได้ไว คนถึงต่างระดับกันไม่เหมือนกัน บางคนฟังนิดเดียวเข้าใจกระจ่าง ไม่ต้องไปพูดมาก บางคนพูดกันปากเปียกปากแฉะก็ไม่เอา นั่นแหละกรรมของแต่ละบุคคลถึงไม่เหมือนกัน บางคนก็สมมติก็ลำบาก บางคนก็สมมติก็ไม่ค่อยลำบาก เพราะรู้จักบริหาร รู้จักรับผิดชอบ รู้จักหา รู้จักใช้ รู้จักเก็บ แบ่งกินแบ่งใช้แบ่งเก็บ

ชีเราก็เหมือนกัน มีอะไรก็ให้ช่วยกัน ต่อไปก็จะได้สวยได้งามทุกจุด ใครเข้ามาในวัดก็มีแต่ความร่มรื่นร่มเย็น คนวัดต้องเป็นคนขยัน เป็นคนใหม่ ตื่นอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเป็นคนเก่า ยิ่งอยู่นานเท่าไรก็อัตตามันยิ่งใหญ่ยิ่งเก่า ไม่ใช่ ต้องเป็นผู้ใหม่ ผู้เตรียมพร้อม ผู้ตื่น ผู้รู้อยู่ตลอดเวลา เตรียมที่จะอยู่เตรียมที่จะไป โชคดีที่วัดเรามีตั้งแต่ช่างฝีมือกัน​ มาอยู่ร่วมกัน อยากจะทำอะไรมีหมดทุกอย่าง ฆราวาสก็มีเวลาว่างก็มาช่วยกัน มาช่วยกันทำ มาแต่งต้นไม้ช่วยกัน ช่วยกับพวกชี ท่านเจ้าคุณน้อยก็รับแขก รับแขกรับญาติรับโยม

ตั้งใจรับพรกัน

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก การน้อมการสำเหนียก คือ น้อมเข้าไปรู้ภายในของเรา รู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรา ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเรามีความรู้สึกรับรู้อยู่ นั่นแหละเขาเรียกว่าสติรู้กาย ถ้าเรารู้ให้ตลอดให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่าสัมปชัญญะ

เราพยายามสร้างความรู้ตัว​ตัวนี้แหละขึ้นมาใหม่ให้ต่อเนื่อง ส่วนการเกิดของใจนั้นเขามีอยู่แล้ว ความปกติของใจนั้นเขาก็มีอยู่แล้ว บางทีเขาก็ปกติอยู่ บางทีเขาก็ส่งไปกับภายนอก เขาก่อตัวเขาเกิด เราก็จะรู้เท่าทันเวลาเขาเกิดเขาก่อตัว รู้จุดเริ่มต้นของเขา บางทีก็มีความคิดที่แทรกเข้ามาที่เราไม่ตั้งใจคิด นั่นแหละเขาเรียกว่าอาการของขันธ์ห้า บางทีก็เป็นเรื่องอดีตบ้าง เรื่องอนาคตบ้าง บางทีก็เป็นกุศลหรือว่าอกุศลบ้าง ทำไมตัวใจของเราถึงเข้าไปรวมจนเป็นสิ่งเดียวกันนี่แหละ เขาเรียกว่า ความหลงอย่างลุ่มลึก หลงจุดนี้จุดเดียวไปหลงเอาทุกอย่าง

ถ้าเราสังเกตเราวิเคราะห์ไม่ทันต้นเหตุ เราก็พยายามกระตุ้นความระลึกอยู่ที่ปลายจมูกของเรา หรือว่าอยู่ จะใช้คำบริกรรมเข้าไปกำกับแล้วแต่อุบายของแต่ละบุคคล จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิด คลายออกจากอารมณ์ ซึ่งเรียกว่าแยกรูปแยกนาม เพียงแค่แยก เพียงแค่เริ่มต้นการรู้แจ้งเห็นจริงเท่านั้นเองตรงนี้ การตามทำความเข้าใจ การหมั่นพร่ำสอนใจ การดับความเกิด การละกิเลสด้วยสติด้วยปัญญาต้องเข้มข้นตามมาอย่างทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ปล่อยโอกาสปล่อยเวลาทิ้ง นั่นแหละเราถึงจะเข้าใจในชีวิตของเรา

แต่ส่วนมากแม้แต่การเจริญสติก็ไม่ค่อยจะสนใจกัน แต่ใจฝักใฝ่อยากได้บุญ อยากทำบุญ อยากปฏิบัติธรรม อยากรู้ธรรม นั่นน่ะปิดกั้นไว้หมดเลยทีเดียว ทั้งที่ใจเป็นบุญ ใจพาเกิด ใจพาวิ่งอยู่​นั่นแหละ นั่นแหละเขาเรียกว่าไปตามวิบากของกรรม ใจที่เข้าไปหลงเข้าไปยึด บางทีก็หลงเอาความคิดนั่นแหละวิบากกรรมเขาปิดกั้นเอาไว้หมด เรามาคลายมาตามทำความเข้าใจ แล้วก็มาละ รู้เห็นตามความเป็นจริง รู้หลักอนัตตา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา รู้คำตามคำสอนของพระพุทธองค์ รู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย หมั่นพร่ำสอนใจของเราด้วย จนใจของเรามองเห็นความเป็นจริง​ ทั้งรูปทั้งนาม ทั้งสมมติทั้งวิมุตติ มองเห็นหนทางเดิน รู้จักการละ รู้จักการพิจารณาอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกเรื่อง จนไม่มีอะไรที่จะเหลือที่ใจของเรานั้น จนเหลือตั้งแต่ความบริสุทธิ์​ ความว่าง แม้แต่การเกิดเราก็ต้องดับ ใจไม่เกิด วางกลับคืนสู่ธรรมชาติอีก รู้จักบริหารตัวเราให้ชัดเจน อย่าปล่อยเวลาทิ้ง อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง เสียดายเวลา ได้บ้างได้ไม่ได้บ้างก็ต้องพยายามทำ

เพียงแค่การเจริญสติมันก็ยังยากอยู่​ ลุ่มๆ ดอน ๆ บางทีก็อึดอัด บางทีก็ทิ้ง ส่วนมากก็เผลอ เพราะความเคยชินเก่า ความคิดเก่า ปัญญาเก่า ปัญญาโลกียะ อาจจะถูกอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องแยก ต้องคลายให้ละเอียดลึกลงไปจนใจของเรามองเห็นความเป็นจริงให้ถูกต้องทั้งสมมติทั้งวิมุตติ​ เกี่ยวกับสมมติ ไม่ให้สมมติเข้าครอบงำ อยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสุข เอาภาระหน้าที่การงาน เอาความรับผิดชอบเป็นการปฏิบัติ เป็นการทำความเข้าใจ กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ตาของเราทำหน้าที่ดู เราจะไปห้ามตาอย่าไปดูได้ไหม ไม่ได้ เราต้องพยายามห้ามใจของเรา เข้าใจภาษาหลักธรรม สักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟัง แยกรูป รสกลิ่น เสียง ออกจากวิญญาณของเรา

ส่วนทวารทั้งหกเขาก็ทำหน้าที่ของเขา เราห้ามเขาไม่ได้หรอก เราต้องทำความเข้าใจ ถ้าเราจะหลบหลีกก็หลบหลีกด้วยสติด้วยปัญญา อันนี้สำหรับส่วนรูปธรรมที่มองเห็นด้วยตาเนื้อ ส่วนนามความคิดเกิดๆ ดับๆ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด เราต้องทำความเข้าใจให้รู้ลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของเขาว่าไปอย่างไร มาอย่างไร ใจของเราเกิดความกังวลเกิดความฟุ้งซ่านได้อย่างไร อะไรเข้ามาครอบงำ มันหลายสิ่งหลายอย่างมากทุกเรื่องในชีวิต ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งหมดลมหายใจนั่นแหละ เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่

ถึงไม่ได้จริงๆ ก็อย่าไปทิ้งบุญ ในการทำบุญ ในการให้ทาน น้อมใจของเราเข้ามา ถ้าเป็นอกุศลเราก็พยายามละ คนทั่วไปไม่รู้จัก แม้กระทั่งกายก็ไม่รู้จักควบคุม วาจาก็ไม่รู้จักควบคุม ลึกลงไปใจก็ยิ่งยากเข้าไปอีก มันเกิดมันวิ่งหรือสารพัดอย่าง ใจของคนเรานี่ก็แปลกนะ ถ้าไม่ได้ฝึกหัดปฏิบัติ มันวิ่งอยู่อย่างนั้นแหละ ถ้าฝึกอบรมเขาบ่อยๆ ทำความเข้าใจบ่อยๆ ละกิเลสบ่อยๆ เขาก็จะนิ่งขึ้นๆ จนอยู่ในโอวาทของสติปัญญา มองเห็นหนทางเดินนั่นแหละ แม้แต่การเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด เป็นทาสของกิเลสเขาก็ไม่เอา แต่คนทั่วไปนี่ก็ต้องพยายาม อย่างน้อยๆ ก็อย่าไปทิ้งบุญ

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเขาออกให้ชัดเจนกันสักพักสักระยะนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ ค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ ทำความเข้าใจกันเอาให้รู้ทุกอิริยาบถยิ่งดีใหญ่

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง