หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 18
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 18
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 18
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่านขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออก กระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สำรวจกายสำรวจใจ หรือว่าสร้างความรู้ตัว แล้วก็รู้จัก รู้ให้ต่อเนื่องได้แล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามเริ่มเสียนะ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง จิตใจของญาติโยม หรือว่าจิตใจของทุกคนนี้ฝักใฝ่ในบุญ อยากจะได้บุญอยากจะทำทาน หาโอกาส มีเวลาโอกาส เข้ามาวัดก็เพื่อที่จะมาทำบุญ อันนี้มีเป็นพื้นฐาน ศรัทธาการทำบุญการให้ทานมีกันเป็นพื้นฐาน ผ่านทางด้านวัตถุทาน
ทีนี้ก็พยายามหัดสำรวจกายของเรา สำรวจใจของเรา ในกายในใจของเรา ในกายของเรานี้มีอะไรบ้าง ตัวจิตใจหรือว่าวิญญาณในภาษาธรรมะ อาจจะว่าวิญญาณในขันธ์ห้าในกายของเรา ทำไมเขาถึงเกิด ทำไมเขาถึงหลง เราต้องมาสร้างความรู้ตัว หรือว่ามาเจริญสติให้ต่อเนื่องเพื่อที่จะเข้าไปรู้เท่าทันความเกิดความดับของตัววิญญาณ ความเกิดความดับของความคิดของอารมณ์ อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม ทำไมใจของเราถึงเกิด ทำไมใจของเราถึงปรุงแต่ง สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา เอาไปทำหน้าที่แทนได้หรือไม่
คนทั่วไปขาดการทำความเข้าใจ ขาดการพิจารณา มองในภาพรวมอย่างเดียว รวมกันไปหมด อันนี้คือเรา เป็นเราทั้งหมด ก็เลยตัววิญญาณมันหลง หลงอยู่ในความคิดหลงอยู่ในอารมณ์ จนไปยึดเอาทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นเรา ว่าเป็นของเที่ยง ในหลักธรรมพระพุทธองค์ท่านบอกว่าไม่เที่ยง ท่านสอน ท่านชี้ ให้มองเห็นความเกิดความเกิด เกิดทางด้านรูปธรรมตั้งแต่เกิดมา ตั้งแต่เป็นเด็กอันนี้เขาเรียกว่า เกิด ท่านบอกว่าเกิดทางด้านร่างกาย เกิดทางด้านรูปธรรมเป็นภพของมนุษย์ มีการเกิดแล้วก็มีการเติบโตขึ้นมา เจริญด้วยอาหาร ด้วยก้อนข้าวด้วยอาหาร มีการเปลี่ยนแปลง เติบโตเป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ความชราคร่ำคร่าถึงเวลาก็แตกดับ อันนี้ท่านชี้ลงไปให้เห็นทางด้านรูปธรรม
แล้วก็เน้นลงไปอีก ให้รู้ความเกิดความดับของวิญญาณซึ่งอยู่ในกายของเรา ตัววิญญาณนั้นไม่มีตัวไม่มีตนซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เขาเกิดอย่างไร เราต้องการที่จะดับความเกิดไม่ให้เขาเกิด กายเนื้อเกิดขึ้นมาแล้วก็เป็นภพของมนุษย์ เป็นชาติของมนุษย์ ถึงเวลาเขาก็แตกก็ดับ ถ้าแตกดับแล้วตัววิญญาณต้องไปเกิดต่อ เกิด บางทีก็เกิดในภพภูมิที่สูงบ้างต่ำบ้าง เพราะว่าตราบใดที่เขายังเกิดอยู่ ตราบใดที่เขายังหลงอยู่ เขาก็ต้องเกิด
พระพุทธองค์ที่ท่านเน้นลงไป ชี้ลงไปให้รู้ให้เห็น หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง ละกิเลส คลายกิเลส แล้วก็ดับความเกิดเสีย ไม่ให้เกิด ถึงดับความเกิดไม่ได้ ละความเกิดไม่ได้ ก็ขอให้เกิดอยู่ในบุญในกุศล อยู่ในกองบุญของกุศลเพื่อที่จะไม่ให้ได้ทนทุกข์ทรมานในวัฏสงสาร สูงขึ้นไปก็ละหมดทุกอย่าง ถ้าอยู่เหนือ ไม่ให้เข้าไปหลง ไม่เข้าไปยึด ดับความเกิด กายเนื้อแตกดับไปแล้วเราก็ดับความเกิดของตัววิญญาณเสีย เขาก็เข้าสู่ความสะอาดความบริสุทธิ์ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
เพราะว่าวิญญาณก็หาที่พึ่งอยู่เรื่อยร่ำไป หาที่พึ่ง หาที่อาศัยสร้างภพสร้างชาติไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเรามาหยุด มาระงับยับยั้ง มาทำความเข้าใจ เขารู้ความเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่เกิด แต่น้อยคนที่จะศึกษาตรงนี้ได้ละเอียด มีตั้งแต่การทำบุญ มีตั้งแต่การให้ทาน การเจริญภาวนา การทำความสงบ ได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ พยายามทำนะ อย่าไปทิ้งบุญ อย่าไปทิ้งวัด เพราะว่าคนเราเกิดมาก็เพื่อที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางคือความสงบ ความสะอาด ความบริสุทธิ์
คนเราเกิดมาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ได้พลัดพรากรากจากกันตอนตาย เพราะว่าเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง ตายตั้งแต่กายเนื้อ แต่ตัวจิตวิญญาณนั้นเขาไม่ตาย ถ้ายังมีแรงวิบากกรรมอยู่ ถ้าเรายังทำความเข้าใจไม่ได้ ละไม่ได้ ดับความเกิดไม่ได้ เขาก็ต้องไปเกิดต่อ ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญ พยายามหมั่นสร้างบุญสร้างอานิสงส์เอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตื่นขึ้นมาเราก็พยายามทำใจของเราให้เป็นบุญ ทำกายของเราให้เป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน
วันพรุ่งนี้ก็คงจะเป็นวันมาฆบูชา ก็ขอเชิญชวนญาติโยมทุกคนมาร่วมกันไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็เวียนเทียนรอบองค์หลวงปู่ใหญ่เพื่อน้อมระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้เป็นองค์ตรัสรู้แล้วก็ค้นพบหลักสัจธรรมความจริงของชีวิต แล้วก็น้อมนำมาเปิดเผยให้สัตว์โลกได้เดินตาม สัตว์โลกก็คือพวกเรานี่แหละ ไม่ใช่ที่ไหนหรอก ให้พยายามประพฤติปฏิบัติอยู่ในกองบุญกองกุศล อยู่ในกองศีลของธรรม มองเห็นหนทางเดิน ขอให้เดินใน ขึ้นไปสู่ที่สูงเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่ได้กลับมาเกิดกัน
แล้ววันนี้ก็ขอนิมนต์พระที่ได้จัดเอาไว้ไปเป็นในบ้าน ไปทำบุญในบ้าน 2 จุด จุดในบ้านสำราญ 2 จุด บ้านของคุณโยมสุวรรณจุดหนึ่ง บ้านของหลวงตาที่แม่บ้านท่านได้เสียไปอีกจุดหนึ่ง ก็ช่วงเพลนะ ให้พยายามเตรียมตัวเอาไว้ ส่วนเย็นนี้ก็ มีอะไรในวัดเราก็ช่วยกันทำ อะไรไม่ดีเราก็รีบทำให้ดีเสีย อะไรที่ไม่เรียบร้อยเราก็รีบทำให้เรียบร้อย อยู่มากอยู่น้อยเราก็มีความสุข พิจารณาแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา ตื่นขึ้นมาความอ่อนน้อมถ่อมตน ความจริง สัจจะ ความเพียร การกระทำของเราต้องถึงพร้อม เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีทิฐิ เรามีมานะ เรามีความแข็งกระด้าง เราก็พยายามแก้ไขตัวเรา
ธรรมะมีไว้สอนเรา ไม่ใช่ว่ามีไว้ให้พูดให้คุยโอ้อวดกัน มีไว้เพื่อที่ศึกษาตัวเราเอง เป็นแนวทาง เป็นวิธี เป็นหนทาง เราก็พยายามแก้ไขตัวเรา หมดความสงสัย หมดความลังเล กิเลสหยาบกิเลสละเอียดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ความหลงมันมีมาได้อย่างไร เราก็พยายามเจริญสติเข้าไปแก้ไขตัวเรา เมื่อรู้แจ้งเห็นจริงหมดความสงสัยแล้ว ก็มีตั้งแต่จะเดินให้มันถึงจุดหมายปลายทางกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่านขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออก กระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา เราได้สำรวจกายสำรวจใจ หรือว่าสร้างความรู้ตัว แล้วก็รู้จัก รู้ให้ต่อเนื่องได้แล้วหรือยัง ถ้ายังก็พยายามเริ่มเสียนะ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง จิตใจของญาติโยม หรือว่าจิตใจของทุกคนนี้ฝักใฝ่ในบุญ อยากจะได้บุญอยากจะทำทาน หาโอกาส มีเวลาโอกาส เข้ามาวัดก็เพื่อที่จะมาทำบุญ อันนี้มีเป็นพื้นฐาน ศรัทธาการทำบุญการให้ทานมีกันเป็นพื้นฐาน ผ่านทางด้านวัตถุทาน
ทีนี้ก็พยายามหัดสำรวจกายของเรา สำรวจใจของเรา ในกายในใจของเรา ในกายของเรานี้มีอะไรบ้าง ตัวจิตใจหรือว่าวิญญาณในภาษาธรรมะ อาจจะว่าวิญญาณในขันธ์ห้าในกายของเรา ทำไมเขาถึงเกิด ทำไมเขาถึงหลง เราต้องมาสร้างความรู้ตัว หรือว่ามาเจริญสติให้ต่อเนื่องเพื่อที่จะเข้าไปรู้เท่าทันความเกิดความดับของตัววิญญาณ ความเกิดความดับของความคิดของอารมณ์ อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม ทำไมใจของเราถึงเกิด ทำไมใจของเราถึงปรุงแต่ง สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา เอาไปทำหน้าที่แทนได้หรือไม่
คนทั่วไปขาดการทำความเข้าใจ ขาดการพิจารณา มองในภาพรวมอย่างเดียว รวมกันไปหมด อันนี้คือเรา เป็นเราทั้งหมด ก็เลยตัววิญญาณมันหลง หลงอยู่ในความคิดหลงอยู่ในอารมณ์ จนไปยึดเอาทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นเรา ว่าเป็นของเที่ยง ในหลักธรรมพระพุทธองค์ท่านบอกว่าไม่เที่ยง ท่านสอน ท่านชี้ ให้มองเห็นความเกิดความเกิด เกิดทางด้านรูปธรรมตั้งแต่เกิดมา ตั้งแต่เป็นเด็กอันนี้เขาเรียกว่า เกิด ท่านบอกว่าเกิดทางด้านร่างกาย เกิดทางด้านรูปธรรมเป็นภพของมนุษย์ มีการเกิดแล้วก็มีการเติบโตขึ้นมา เจริญด้วยอาหาร ด้วยก้อนข้าวด้วยอาหาร มีการเปลี่ยนแปลง เติบโตเป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็ความชราคร่ำคร่าถึงเวลาก็แตกดับ อันนี้ท่านชี้ลงไปให้เห็นทางด้านรูปธรรม
แล้วก็เน้นลงไปอีก ให้รู้ความเกิดความดับของวิญญาณซึ่งอยู่ในกายของเรา ตัววิญญาณนั้นไม่มีตัวไม่มีตนซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เขาเกิดอย่างไร เราต้องการที่จะดับความเกิดไม่ให้เขาเกิด กายเนื้อเกิดขึ้นมาแล้วก็เป็นภพของมนุษย์ เป็นชาติของมนุษย์ ถึงเวลาเขาก็แตกก็ดับ ถ้าแตกดับแล้วตัววิญญาณต้องไปเกิดต่อ เกิด บางทีก็เกิดในภพภูมิที่สูงบ้างต่ำบ้าง เพราะว่าตราบใดที่เขายังเกิดอยู่ ตราบใดที่เขายังหลงอยู่ เขาก็ต้องเกิด
พระพุทธองค์ที่ท่านเน้นลงไป ชี้ลงไปให้รู้ให้เห็น หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราเอง ละกิเลส คลายกิเลส แล้วก็ดับความเกิดเสีย ไม่ให้เกิด ถึงดับความเกิดไม่ได้ ละความเกิดไม่ได้ ก็ขอให้เกิดอยู่ในบุญในกุศล อยู่ในกองบุญของกุศลเพื่อที่จะไม่ให้ได้ทนทุกข์ทรมานในวัฏสงสาร สูงขึ้นไปก็ละหมดทุกอย่าง ถ้าอยู่เหนือ ไม่ให้เข้าไปหลง ไม่เข้าไปยึด ดับความเกิด กายเนื้อแตกดับไปแล้วเราก็ดับความเกิดของตัววิญญาณเสีย เขาก็เข้าสู่ความสะอาดความบริสุทธิ์ ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
เพราะว่าวิญญาณก็หาที่พึ่งอยู่เรื่อยร่ำไป หาที่พึ่ง หาที่อาศัยสร้างภพสร้างชาติไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าเรามาหยุด มาระงับยับยั้ง มาทำความเข้าใจ เขารู้ความเป็นจริงแล้วเขาก็ไม่เกิด แต่น้อยคนที่จะศึกษาตรงนี้ได้ละเอียด มีตั้งแต่การทำบุญ มีตั้งแต่การให้ทาน การเจริญภาวนา การทำความสงบ ได้บ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ พยายามทำนะ อย่าไปทิ้งบุญ อย่าไปทิ้งวัด เพราะว่าคนเราเกิดมาก็เพื่อที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางคือความสงบ ความสะอาด ความบริสุทธิ์
คนเราเกิดมาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ได้พลัดพรากรากจากกันตอนตาย เพราะว่าเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง ตายตั้งแต่กายเนื้อ แต่ตัวจิตวิญญาณนั้นเขาไม่ตาย ถ้ายังมีแรงวิบากกรรมอยู่ ถ้าเรายังทำความเข้าใจไม่ได้ ละไม่ได้ ดับความเกิดไม่ได้ เขาก็ต้องไปเกิดต่อ ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญ พยายามหมั่นสร้างบุญสร้างอานิสงส์เอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตื่นขึ้นมาเราก็พยายามทำใจของเราให้เป็นบุญ ทำกายของเราให้เป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน
วันพรุ่งนี้ก็คงจะเป็นวันมาฆบูชา ก็ขอเชิญชวนญาติโยมทุกคนมาร่วมกันไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็เวียนเทียนรอบองค์หลวงปู่ใหญ่เพื่อน้อมระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ที่ท่านได้เป็นองค์ตรัสรู้แล้วก็ค้นพบหลักสัจธรรมความจริงของชีวิต แล้วก็น้อมนำมาเปิดเผยให้สัตว์โลกได้เดินตาม สัตว์โลกก็คือพวกเรานี่แหละ ไม่ใช่ที่ไหนหรอก ให้พยายามประพฤติปฏิบัติอยู่ในกองบุญกองกุศล อยู่ในกองศีลของธรรม มองเห็นหนทางเดิน ขอให้เดินใน ขึ้นไปสู่ที่สูงเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่ได้กลับมาเกิดกัน
แล้ววันนี้ก็ขอนิมนต์พระที่ได้จัดเอาไว้ไปเป็นในบ้าน ไปทำบุญในบ้าน 2 จุด จุดในบ้านสำราญ 2 จุด บ้านของคุณโยมสุวรรณจุดหนึ่ง บ้านของหลวงตาที่แม่บ้านท่านได้เสียไปอีกจุดหนึ่ง ก็ช่วงเพลนะ ให้พยายามเตรียมตัวเอาไว้ ส่วนเย็นนี้ก็ มีอะไรในวัดเราก็ช่วยกันทำ อะไรไม่ดีเราก็รีบทำให้ดีเสีย อะไรที่ไม่เรียบร้อยเราก็รีบทำให้เรียบร้อย อยู่มากอยู่น้อยเราก็มีความสุข พิจารณาแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลา ตื่นขึ้นมาความอ่อนน้อมถ่อมตน ความจริง สัจจะ ความเพียร การกระทำของเราต้องถึงพร้อม เรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน เรามีทิฐิ เรามีมานะ เรามีความแข็งกระด้าง เราก็พยายามแก้ไขตัวเรา
ธรรมะมีไว้สอนเรา ไม่ใช่ว่ามีไว้ให้พูดให้คุยโอ้อวดกัน มีไว้เพื่อที่ศึกษาตัวเราเอง เป็นแนวทาง เป็นวิธี เป็นหนทาง เราก็พยายามแก้ไขตัวเรา หมดความสงสัย หมดความลังเล กิเลสหยาบกิเลสละเอียดมันเกิดขึ้นได้อย่างไร ความหลงมันมีมาได้อย่างไร เราก็พยายามเจริญสติเข้าไปแก้ไขตัวเรา เมื่อรู้แจ้งเห็นจริงหมดความสงสัยแล้ว ก็มีตั้งแต่จะเดินให้มันถึงจุดหมายปลายทางกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ