หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 21

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 21
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 21
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 21
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 3 มีนาคม 2556

ญาติโยมของเราวันนี้ก็เยอะ ผู้เฒ่าผู้แก่ก็พากันมาตั้งแต่เมื่อคืน ผู้เฒ่าผู้แก่หลายหมู่บ้าน กี่ตำบลที่มากัน 3 ตำบล 3 ตำบลเก่งนะ วางบ้านได้มาสักคืนหนึ่งก็ยังดี ได้มาบำเพ็ญ วางภาระหน้าที่การงาน ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ มันได้อยู่ ถ้าไม่วางภาระหน้าที่การงานทางบ้านก็มาไม่ได้ ว่าไงหนุ่ม จะขึ้นมาหรือ เอาไหมโตขึ้นมา มาอยู่กับท่านเจ้าคุณ สังฆราชน้อย นี่แหละพามาวัดตั้งแต่น้อยๆ อานิสงส์บุญก็จะค่อยซึมซาบลงไปถึงจิตใจ ตาเห็นรูป หูฟังเสียง ได้เข้ามาวัด ความทรงจำก็จะฝังเอาไว้ในจิตใจว่าเคยได้มาทำบุญ ได้เคยเข้ามาทำบุญ เคยมาให้ทาน

สมัยก่อนเป็นเด็กก็เป็นอย่างนี้แหละ ตอนเด็กอยู่ชั้นป.2 ป.3 ใช้รถเข็น เข็นพ่อตามไปวัด เวลาวันศีลวันพระ ตกตีสี่ตีห้า ก็เอารถเข็นไปเข็นกลับ เวลาตอนเช้าพ่อแม่ก็จัดปิ่นโตไปให้ ไปจังหันจังเพล หรือว่าไปทำบุญ เห็นพระทานอาหารของเราหมด ดีอกดีใจ ดีใจใหญ่ว่าความดีใจนั่นแหละคือตัวบุญ ความอิ่มอกอิ่มใจ บุญก็เกิดขึ้น เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ไม่รู้จักรักษาบุญ ไม่รู้จักพิจารณา เกิดขึ้นชั่วครั้งชั่วคราวก็ปล่อยเลยตามเลย เวลาใจเกิด เขาก็เกิดไปใหม่เขาก็วิ่งไปใหม่ เรารู้จักรักษาบุญ รู้จักประคับประคองบุญ พากันมาวัดได้นุ่งขาวห่มขาวได้เข้ามาวัด จิตใจก็มีความสุข บุญก็เลยเกิดขึ้น ถ้าวางภาระหน้าที่การงานทางบ้านไม่ได้ เคลียร์สมมติทางบ้านไม่ได้ กายก็ไม่ได้เข้ามาวัด เพียงแค่จัดการสมมติได้วันหนึ่งสองวันก็เป็นอานิสงส์บุญ ได้วางพันธะวางภาระทางสมมติ

ทีนี้ก็เข้ามาถึงวัด เราก็มาเจริญสติ มารู้จักเจริญสติ มารู้จักสำรวจ ใจของเราเป็นอย่างไร กายอยู่วัด ใจมันวิ่งไปที่ไหนบ้าง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตาเห็นโน่นตาเห็นนี่ ใจของเรายังปกติดีอยู่หรือไม่ กายของเราหิว ใจของเราเกิดความอยาก เดินจงกรมไป เจริญสติไป กายก็หิวอันโน้นก็อร่อย อันนี้ก็อร่อย กิเลสมันสั่งเอาน้อยๆ ก็กลัวไม่อิ่ม บอกว่าเอาเยอะๆ เอาเยอะๆ มองมัน ยิ่งฝึกเท่าไร ยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นกิเลสเยอะ ถ้าการดับ การละ การอด การข่ม การสังเกต การอนุเคราะห์ การเอาออกไม่มี ใจของเราก็ไม่สะอาดนะ เราก็ได้เพียงแค่บุญ เข้ามาวัดก็ได้แค่บุญ ได้แค่ความสงบ ได้ค่อยสร้างสะสมบุญไป ถึงมีมากมีน้อย บุญมากบุญน้อย เราก็ค่อยสร้างสะสมไป อนุโมทนาสาธุบุญ ร่วมบุญ

สูงขึ้นไปก็สังเกตใจของเราเขาเกิดอย่างไร ทำไมเขาถึงไปหลง รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในกองสังขาร ตามดูรู้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องความจริงของชีวิต สอนเรื่องหลักของอริยสัจ สอนเรื่องหลักของอนิจจังทุกขังอนัตตา คำว่าอัตตากับอนัตตาเป็นอย่างไร ทุกชีวิตเกิดมาก็มาด้วยแรงบุญแรงกรรม เรามาสร้างสะสมสร้างบุญสร้างกุศลต่อ จนกว่าใจของเราจะไม่กลับมาเกิดกันนั่นแหละ ถึงจะจบกัน

ตราบใดที่ใจยังเกิด เราก็ต้องพยายามสร้างตบะ สร้างบารมี สร้างบุญ สร้างเข้าพกเข้าห่อ ให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง ทำกายให้เป็นบุญ ทำใจให้เป็นบุญ ทำวาจาให้เป็นบุญ ไม่ต้องไปแสวงหาบุญที่ไหนหรอก แสวงหาที่ใจที่กายของเรานี่แหละ บุญสมมติเราก็ได้มีโอกาสได้ทำร่วมกัน ตอนนี้เราก็ได้ทำร่วมกัน ได้มาไถ่ชีวิตโคร่วมกัน คนโน้นบ้างคนนี้บ้าง ขอแขวนกันไป ส่วนการชำระสะสางกิเลส กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไรก็จัดการมันเมื่อนั้นแหละ มันไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลาหรอกกิเลส ความอยากเกิดขึ้นเมื่อไร เราก็ดับมันเมื่อนั้นแหละ ดับความอยากเสียก่อน ค่อยเอาค่อยมีค่อยเป็น อยากร่ำอยากรวยก็ขยันหมั่นเพียร ยังสมมติด้วยสติด้วยปัญญาให้เกิดประโยชน์

ทุกสิ่งทุกอย่างเขาก็ล้วนทำหน้าที่ของเขา แต่ภายในตัวใจดวงวิญญาณของเรายังเกิดอยู่ ยังหลงอยู่ เราต้องมาคลายความหลง มาดับความเกิด ถ้าเราสังเกต ใจของเราไม่คลายออกจากขันธ์ห้า ถึงใจของเราจะยังสงบอยู่ปกติอยู่ แต่ก็ยังดับทุกข์ได้ในระดับหนึ่ง ถ้าเราตามดูรู้เห็นทุกอาการของความคิด ตั้งแต่เกิดๆ ดับๆ เราก็รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในอารมณ์ นั่นแหละเขาเรียกว่ารอบรู้ในขันธ์ห้าของตัวเอง กายก็จะเบา จิตก็จะว่างจิตก็จะโล่ง พูดง่ายอยู่นะ แต่การลงมือจริงๆ ต้องเป็นคนขยันหมั่นเพียร ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ขยันในการชำระสะสางกิเลส ขยันในการอบรมใจ ขยันหมั่นเพียรในการทำใจของเราให้สงบ ทำใจของเราให้สะอาด ทำใจของเราให้บริสุทธิ์ ขยันหมั่นเพียรรอบรู้ในโลกธรรม ในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว

โลกนี้ทั้งโลก กายของเราก็เป็นก้อนโลก ความคิดก็เป็นกองโลก ตัวจิตวิญญาณมาสร้างโลกตรงนี้ มาปิดกั้นตัวเองเอาไว้ ต้องอาศัยปัญญาของพระพุทธเจ้า ถึงจะรู้ความเป็นจริง ในเมื่อเรารู้เราเห็นแล้ว เราพยายามจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่ธาตุขันธ์จะแตกจะดับ ก็ต้องสร้างบุญ อยู่กับบุญ เอาบุญ ตั้งแต่ตื่นขึ้น ความเกียจคร้านเข้าครอบงำหรือไม่ ความเห็นแก่ตัวเข้าครอบงำหรือไม่ ยิ่งบวชเป็นพระเนี่ยถ้ามีความขี้เกียจเกียจคร้านแล้วก็แย่เลยนะ ต้องเป็นคนขยัน มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ ขยันในการรู้จักฝักใฝ่ รู้จักสนใจ รู้จักสร้างขึ้นมาให้มีให้เกิดขึ้น แล้วรู้จักรักษาจนใจของเรารู้เห็นความเป็นจริง ก็วางใจให้เป็นอิสรภาพ รอตั้งแต่ธาตุขันธ์แตกดับ ก็เข้าสู่ความบริสุทธิ์ ให้เขาบริสุทธิ์ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่นี่แหละ ยืน เดิน นั่ง นอน ก็เป็นแค่เพียงอิริยาบถ

ได้เท่าไรก็เก่งแล้วนะ ผู้เฒ่าผู้แก่ ญาติโยมเรา วางทางบ้านมาได้สักชั่วโมงหนึ่ง ได้สักวันหนึ่ง ส่วนใจก็จัดการเอา ให้อยู่ในกายของเรา แต่ส่วนมากมันจะหนีไปเที่ยว นั่งอยู่นี้บางทีก็วิ่งไปโน้นบ้าง วิ่งไปนี้บ้าง นึกถึงลูกคนโน้น นึกถึงหลานคนนี้ ลูกคนโน้นเป็นอย่างนั้น ลูกคนนี้เป็นอย่างนี้ คนโน้นเป็นอย่างนั้น คนนั้นเป็นอย่างนี้ บางทีก็วิ่งหนีไปต่างประเทศโน่น ไปเที่ยว เราก็ต้องพยายามหยุด ให้สติปัญญาพากายไปให้ใจรับรู้ ฝึกบ่อยๆ เขาก็จะอยู่ในโอวาทของสติปัญญาของเรา

สตินี้เปรียบเสมือนกับเชือก เพียงแค่การสร้างความรู้ตัว หรือว่าเจริญสติให้ต่อเนื่อง ตรงนี้ก็ยังทำกันไม่ชำนาญ ทั้งที่ใจก็อยากจะได้บุญนั่นแหละ ใจอยากจะได้บุญ ใจอยากจะรู้บุญ ตัวใจนั่นแหละคือตัวบุญ เราจัดการกับตัวใจไม่ให้เกิด ไม่ให้หลง เขานิ่ง เขาก็สงบนั่นแหละ สมาธิก็เกิดขึ้น ใหม่ๆ ก็ทั้งควบคุม ทั้งอบรม ทั้งหมั่นพร่ำสอน ทั้งละกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียด กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือว่าเกิดขึ้นที่ใจ เราก็ต้องหมั่นวิเคราะห์พิจารณา ส่วนมากมันจะหาเรื่องเข้าข้างตัวเอง อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติ

อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ไม่รู้ความจริงอยากจะรู้แนวทาง มาวัดมาหาท่านเจ้าคุณสังฆราชน้อย ท่านจะแจงให้ แล้วเอาไปทำ พูดเฉยๆ ไม่ไปทำมันก็เหมือนเดิมนั่นแหละ พูดจนปากเปียกปากแฉะ ถ้าไม่ไปทำให้มันเกิดขึ้นที่ใจของเรา มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร บุคคลที่มีบุญมีปัญญาฟังนิดเดียว ไปทำความเพียร ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ ไล่ลงไป ความเกียจคร้านของเรามีหรือไม่ สติความรู้ตัวของเราต่อเนื่องหรือไม่ ใจของเราเกิดกิเลส เราละกิเลสได้หรือไม่ ไปจัดการอยู่คนเดียว กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจมีวิเวกเป็นอย่างนี้ เราทำได้เท่าไร ก็เป็นความเพียรของเรา เราสร้างบุญสร้างอานิสงส์มากน้อยได้เท่าไร ก็เป็นอานิสงส์ของเรา เห็นคนอื่นเขาทำบุญสร้างบุญสร้างอานิสงส์ เราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็ได้บุญเพิ่มขึ้นไปอีก เราพยายามสร้างบุญให้เต็ม ของเราให้เต็ม จนล้นออกไปสู่สมมติต่างๆ ก็ต้องพยายามกันนะ

ทุกเรื่องนั่นแหละตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ รู้กายแล้วก็รู้ใจ จะเข้าห้องส้วมเข้าห้องน้ำ ทำกับข้าวกับปลา ใจของเราเป็นอย่างไร เราจะต้องการสิ่งไหนก็เป็นความต้องการของปัญญา ไม่ใช่ว่ามาวัดถึงได้ปฏิบัติ อยู่บ้านไม่ได้ปฏิบัติ คิดผิด ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน คือตัวปฏิบัติ ถ้าเรามีสติรู้กายรู้ใจ ไม่ใช่ว่ามาฝึกมาเดินมานั่งหลับตาแล้วถึงเป็นการปฏิบัติ อันนี้เป็นแค่เพียงอุบาย เป็นแค่เพียงพิธี เป็นแค่เพียงรูปแบบ

เราพยายามรู้จัก อันนี้สตินะ อันนี้ใจนะ ใจเกิดเราระงับยับยั้ง ใจของเราเข้าไปหลงเข้าไปรวม เราแยกเราคลาย เราตามดู เขาถึงเรียกว่าวิปัสสนา วิปัสสนาเราละกิเลสระดับไหนอีก จนไม่เหลือหรือไม่ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด เราจะบริหารสมมติของเราอย่างไรถึงจะมีความสุข จนกว่าจะหมดลมหายใจ นั่นแหละคือวิธีการของพระพุทธองค์ แล้วก็มองเห็นหนทางเดินว่าจะกลับมาเกิด หรือไม่ได้กลับมาเกิดกัน ท่านท้าให้พิสูจน์ เพราะว่าความจริงสัจธรรมมีอยู่ ความจริงมีอยู่ในกายของเราทุกคน เพียงแค่เราดับความหลง คลายความหลง แยกรูปแยกนาม ให้เห็นต้นเหตุเสียก่อน ท่านชี้ลงที่เหตุ เห็นเหตุ ตามดูเหตุ ทำความเข้าใจแล้วก็ละให้หมดจด

ตั้งใจรับพร

ขอให้พี่น้องเราทุกคนจงเจริญสติให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง นั่งอดทนต่อทุกขเวทนาทางด้านร่างกายกันสักระยะหนึ่ง นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องไปเกร็งร่างกาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ อันนี้เป็นเพียงอุบายในการเจริญอานาปาณสติ เราพยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ทั้งที่เราก็หายใจเข้าหายใจออกอยู่ตลอดเวลา แต่เราขาดการสร้างความรู้ตัว แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่อง

ความรู้ตัวนี่เขาเรียกว่ารู้กาย ถ้ารู้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่าสัมปะชัญญะ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม ถ้าพลั้งเผลอแล้วเริ่มใหม่ พลั้งเผลอแล้วเริ่มใหม่ ส่วนมากจะเกียจคร้านในการสร้างความรู้ตัวตรงนี้ให้ต่อเนื่อง เพราะว่าความเคยชินเก่าๆ ตัวใจมันไปก่อน ตัวใจเกิด ตัวใจบงการ ตัวใจปรุงแต่งความคิดอารมณ์ต่างๆ เราก็เลยไปยึด ไปเหมาเอาตรงจุดนั้นเสีย

พระพุทธเจ้า หรือว่าหลักธรรมในทางศาสนา ท่านให้เจริญสติเข้าไปหมั่นพร่ำสอนใจ ไปแยกไปคลาย ทำไมใจถึงหลง หลงอะไร ทำไมใจถึงหลงเกิด ทำไมใจถึงหลงขันธ์ห้า ทั้งที่เขาสร้างขึ้นมาปกปิดตัวเขาเอาไว้เรียบร้อย กำลังสติปัญญาของเราต้องเจริญเข้าไปหาเหตุหาผล เพียงแค่การสร้างความรู้ตัวพวกเราก็ยังทำไม่ชำนาญ ก็เลยขาดการเข้าใจในทรัพย์อันตัวใหญ่ตัวสูง คือความว่างความบริสุทธิ์

กิเลสมารต่างๆ เขาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนกัน เขาก็จะหาของดีๆ นั่นแหละมาหลอกเอาไว้ หาตั้งแต่สิ่งดีๆ มาหลอกเอาไว้ อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วยังหลงกันอยู่ ตราบใดที่ยังแยกไม่ได้ ตามดูไม่ได้ ตามความเกิดไม่ได้ ก็ยังหลง เพียงแค่การเกิดก็หลง ถ้าไม่หลงไม่เกิด ก็ต้องพยายามกันนะ พยายามสร้างตบะ สร้างบารมี สร้างอานิสงส์ ได้มากได้น้อยก็ต้องพยายามกัน อย่าไปทิ้ง อย่าไปทิ้งวัด อย่าไปทิ้งในการทำบุญกับตัวเราอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราก็จะอยู่กับบุญ

วันนี้พระเรา ชีเรา มีโอกาสว่างๆ ก็ไปช่วยกันเคลียสถานที่องค์หลวงปู่ใหญ่ พระศรีอริยเมตไตร หลวงพ่อจะได้พาเทพื้นปูน เพื่อที่จะวางศาลาน้อย ซึ่งก็อีก 2-3 วัน โยมก็จะเอามาให้อีกสัก 2-3 หลัง ก็จะได้วางที่ลานสวนธรรมจักร สวนมะลิวัลย์ ซึ่งคุณยายมะลิวัลย์ท่านได้มอบถวายไว้ให้กับทุกคน เป็นบุญเป็นอานิสงส์ของแผ่นดิน นี่แหละตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านก็ได้มอบถวายไว้ให้ มีโอกาสเราได้สร้างบุญร่วมกันมากมายเยอะแยะ คนโน้นบ้างคนนี้บ้าง มาสร้างร่วมกัน

พระองค์ใหญ่ก็คุณหมอท่านก็ได้ยังได้ทำไว้ให้ ศาลาที่พวกเรานั่งอยู่นี้ ก็เกิดจากอานิสงส์ของคุณโยมบุญฤทธิ์ ท่านได้ซื้อกระเบื้องมาถวายให้ทุกคนได้อยู่แทบทุกหลังเลย นี่แหละได้มาฝากมาทำเอาไว้ ที่นั่งที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ลานจอดรถ ถนนหนทาง ท่านได้มาบริจาคเอาไว้ ฝากเอาไว้ให้กับทุกคน พวกเรามีโอกาสก็ได้มาทำร่วมกัน เป็นอานิสงส์ร่วมกัน จงพากันอนุโมทนาสาธุ แล้วก็รู้จักรักษา รู้จักยังให้เกิดประโยชน์ พวกเราอยู่ก็ทำประโยชน์ให้มากมาย พวกเราจากไป คนรุ่นหลังก็จะได้มาสร้างมาสานต่อ หลวงพ่อก็จะได้พาทำสวนมะลิวัลย์ ให้เป็นที่พักที่อาศัยที่ร่มรื่น ได้จัดบ้านน้อยไปตั้งเอาไว้ ก่อนที่จะได้ตั้ง ก็จะได้เทพื้นปูนให้สวยงาม ให้มีที่เดินที่นั่งให้เรียบร้อยเสียก่อน

ญาติโยมก็ได้บริจาคบ้านน้อยมาคนละหลัง หลังบ้างสองหลังบ้าง ก็ได้ร่วมสิบกว่าหลังแล้วแหละ คนโน้นก็บริจาคคนนี้ก็บริจาค รอตั้งแต่ช่างให้ทำเสร็จแล้วค่อยมาส่งไปเรื่อยๆ ญาติโยมท่านใดอยากจะมาร่วมมาช่วยก็ขอเชิญมา มาฝากเอาไว้ ใครไปใครมาก็จะได้มีที่นั่งที่นอน ที่หลับที่ปฏิบัติ ที่ปักกลดปักเต้นท์ ให้กายสร้างสมมติไม่ได้ลำบาก หลวงพ่อก็จะเป็นแค่เพียงสะพาน เป็นทางผ่านให้กับทุกคน อะไรที่จะเป็นประโยชน์ อะไรที่จะเป็นบุญ หลวงพ่อก็จะมาทำให้หมดทุกอย่างขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ ขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่ กำลังกายก็สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไร ก็อาศัยยา ฉีดยามาหลายปีแล้วแหละ ฉีดอินซูลินเพราะว่าเบาหวานก็หนักอยู่ วันละ 300-400 บางทีก็ 500 มันเป็นที่กาย แต่ใจไม่ได้ป่วยด้วย ถึงวาระเวลาก็ประคับประคองเขาไป

ถึงเวลาก็ต้องได้จากกัน ไม่จากกันตอนเป็นก็ต้องจากกันตอนตาย เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ใต้กฎของไตรลักษณ์ อยู่ใต้กฎของความเป็นจริง ก่อนที่จะถึงวันนั้น เราต้องทำความเข้าใจให้รอบเสียก่อน แล้วก็สนุกสร้างบุญสร้างอานิสงส์ฝากเอาไว้กับสมมติ ให้เกิดประโยชน์ให้มากมายที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลวงพ่อก็ขอขอบคุณทุกคนที่ได้มาร่วมกัน มาช่วยกัน ขอบคุณเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดาทั้งหลายที่ได้มาสร้างอานิสงส์ร่วมกัน แหล่งบุญอยู่ที่ไหนเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดาย่อมจะหลั่งไหลมาที่นั่น ขอให้สถานที่ตรงนี้จงเป็นแหล่งบุญใหญ่ในวันข้างหน้า เดี๋ยวนี้ก็เป็นแหล่งบุญใหญ่สำหรับทุกคน เพราะว่าได้ฝากฝังเอาไว้ ความเป็นสิริมงคลก็บังเกิดขึ้น ณ สถานที่ตรงนี้ แต่ละวันคนก็มากราบมาไหว้ มาศึกษามาทำความเข้าใจ เห็นแล้วก็อนุโมทนาสาธุด้วย

ขอให้กราบไหว้พระพร้อมๆ กันทุกคน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง