หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 13

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 13
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 13
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 13
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556

ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียก สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจน การหายใจเข้าหายใจออกเราขาดการทำความเข้าใจ เพราะว่าความเคยชินเก่าๆ ไม่รู้ไม่สังเกต เราก็หายใจอยู่แล้วแต่เราขาดการทำความเข้าใจก็เลยไม่รู้ความจริง

เพราะว่าเรามองข้ามความจริงในชีวิตของเรา ทั้งที่ใจของเราก็ปรารถนาที่อยากจะดับทุกข์ อยากจะหลุดพ้น อยากจะแสวงหาความสุข แต่การเกิดของใจนั้นเขาปิดกันตัวเขาเองเอาไว้ เขาหลงมานาน เพียงแค่เกิด เขาก็หลง แล้วก็เกิดอยู่ในภพของมนุษย์ พัฒนาการมาเรื่อยๆ เพราะว่าดวงวิญญาณของแต่ละดวงนั้น เขามีมาเดิม ความไม่เข้าใจ ความหลง เขาถึงได้เกิดวนเวียนว่ายตายเกิด กายเนื้อแตกดับไปหาที่เกิดใหม่ กายเนื้อแตกดับไปหาที่เกิดใหม่ ไปด้วยแรงบุญไปด้วยแรงกรรม

เราต้องมาทำความเข้าใจ แล้วก็มาเจริญสติไปหมั่นพร่ำสอนใจของตัวเรา จนกว่าใจของเราจะคลายความหลงในขันธ์ห้าในอัตภาพร่างกายตรงนี้ แล้วก็มาละกิเลส แล้วมาดับความเกิดที่ใจของเรา รู้ด้วยเห็นด้วย ทำความเข้าใจให้ได้ด้วย ให้ใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้ด้วย จนใจของเราปล่อยวาง ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น มาละความเกิดออกจากใจของเรา มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิด หรือไม่กลับมาเกิดกัน

ยืน เดิน นั่ง นอน ก็ให้เป็นแค่เพียงอิริยาบถ การเจริญสติเราพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ รู้การหายใจเข้าออกปั๊บ รู้ใจ รู้ความปกติปุ๊บ จะก้าวจะเดินใจนิ่งรับรู้ จะทำอะไรใจของเราก็รับรู้ จะลุก จะก้าว จะเดิน จะเข้าห้องส้วมห้องน้ำ ทำกับข้าวกับปลา ใจของเรายังความปกติ ความรู้ตัวหรือว่าสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมานี่พากายไปให้ใจรับรู้จะทำโน่นทำนี่ พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน

ความเคยชินเก่าๆ ที่เกิดจากวิญญาณเป็นตัวสั่ง ก็เลยปิดกั้นตัวของเขาเอาไว้หมด ก็เลยเรียกว่าจิตหลอก จิตส่งออกไป ทั้งส่งด้วย ทั้งความทะเยอทะยานอยากด้วย ทั้งอาการของขันธ์ห้าด้วย เข้ามาปรุงแต่งผสมโรงกันไป ถ้าเราไม่ได้เจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ไปแยกแยะ ไปสังเกต จิตของเราหรือว่าใจของเราคลายออกจากขันธ์ห้า เราก็จะมองไม่เห็นความจริงตรงนี้ ถ้าเรามองเห็นความจริงตรงนี้แล้วก็มีตั้งแต่จะทำความเข้าใจ จนใจของเราปล่อยวางได้นั่นแหละ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล

พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบ แล้วก็เอามาแจงให้พวกเราได้ต้องทำเจริญสติ เข้าไปดู เข้าไปรู้ เข้าไปเห็นอย่างนี้ เป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างนี้ ใจที่ไม่เกิดเป็นอย่างนี้ ใจที่ไม่มีความยึดมั่นถือมั่นเป็นลักษณะอย่างนี้ มันจะรู้ด้วยเห็นด้วยความหมายแล้วก็ชื่อของมันเป็นลักษณะอย่างนั้นๆ ท่านแจงเอาไว้หมด

ท่านบอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อ ให้ประพฤติปฏิบัติตามในทางเส้นนี้ แล้วให้เห็นปรากฏขึ้นที่ใจของเราจริงๆ ท่านถึงบอกให้เชื่อ แต่พวกเราเดินตามกันแล้วหรือยัง เดินตามอยู่ จะเดินตามดูด้วยใจที่เป็นบุญเป็นกุศล แต่การเจริญสตินี่ ไม่ค่อยจะแข็งแรงไม่ค่อยจะต่อเนื่อง เพราะว่าไม่มีความขยันกันเสียเลย ขยันอยากจะรู้ตั้งแต่ธรรม อยากจะได้ตั้งแต่ธรรม ความอยากก็เลยปิดกั้นเอาไว้หมดเสีย

เราไม่ได้เจริญสติเข้าไปดับความอยาก ไปสังเกตไปวิเคราะห์ ไปเห็นต้นเหตุเขาเกิดอย่างไร ไปอย่างไรมาอย่างไร ที่ท่านเปรียบเสมือนกับพยับแดด เปรียบเสมือนกับลูกคลื่น ที่ท่านว่าไม่มีตัวไม่มีตน ทั้งที่ตัวตนกายเนื้อก็นั่งอยู่ กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร มีหมด เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะทำความเข้าใจให้ถูกต้อง แล้วก็ให้ถึงจุดหมาย ให้เห็นลักษณะที่ท่านบัญญัติเอาไว้หรือไม่เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ก็ต้องพยายามกันนะ

พยายามทำกัน ให้มีความขยันหมั่นเพียรเป็นเลิศ ให้มีความอดทน มีความจริงใจ มีสัจจะ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักสำรวมกายอินทรีย์ของตัวเราตลอดเวลา กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหก ทำหน้าที่อย่างไร คนทั่วไป แม้ตั้งแต่วาจาก็ไม่รู้จักควบคุม เรื่องใจซึ่งเป็นนามธรรมอีก มันก็ยิ่งห่างไกลเข้าไปอีก

เราก็ต้องควบคุมอบรมตั้งแต่ตัวใจรู้จักลักษณะของใจ ลักษณะของความว่าง รู้ลักษณะการเกิด รอบรู้ในกองสังขารของตัวเองให้มันได้ ใช้ตัวเองให้มันเป็น ไม่อยู่ในอำนาจของความทะเยอทะยานอยาก ละกิเลสออกจากใจของเราให้มันจบ ทีนั้นทีนี้มันก็จะเหือดแห้งไปๆ จบที่เรา จบที่ใจ จบที่เรา ทำภาระหน้าที่การงานของเราให้ดี อะไรที่เป็นอกุศลเราก็พยายามละเสีย อะไรที่เป็นกุศลเราก็พยายามเจริญเสีย หมั่นพร่ำสอนตัวเองอยู่ตลอดเวลา สักวันหนึ่งเราคงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน อย่าพากันงอมืองอเท้าอย่าพากันเกียจคร้าน

ยิ่งบวชเป็นพระเป็นชีต้องขยันหมั่นเพียร ท่านฆราวาสญาติโยม ละทิฐิ ละความเห็นผิด ก่อนที่จะละทิฐิ ละความเห็นผิดได้ เราต้องเห็น ต้องรู้ลักษณะใจของเรา ต้องแยกแยะให้ได้ ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ถ้าเรารู้จักจุดปล่อยจุดวางแล้ว ใจมันถึงจะยอมวางได้ ก็ต้องพยายามกัน ให้ขยันหมั่นเพียรกัน อย่าพากันเกียจคร้านทั้งกลางวัน ทั้งกลางคืน

พระเราทุกองค์ทุกท่านนั่นแหละ ที่เป็นหนุ่มน้อยเป็นพระหนุ่มเณรน้อย ก็ช่วยๆ กัน วันนี้พากันช่วยกันไปถมบ่อขยะให้หน่อยนะอยู่ที่สวนมะลิวัลย์ ขยะก็เต็มเกือบจะทุกบ่อ ฝนฟ้าตกลงมาส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง หลวงพ่อก็ให้เขาเอารถดินมาเทไว้ให้แล้วแหละ ช่วยกันขนกลบทีละเล็กทีละน้อย วันโน้นบ้างวันนี้บ้าง ช่วยกัน เรื่องบ่อขยะนี้สำคัญ เรื่องขยะนี่สำคัญไปที่ไหนก็ลำบาก ไม่ว่าบ้านเล็กเมืองใหญ่เมืองน้อยถ้าไม่จัดการเรื่องบ่อขยะนี้ลำบากทุกที่ เดือดร้อนทุกที่ ให้พยายามช่วยกัน

ความสะอาด ความเป็นระเบียบ ความเรียบร้อย ตั้งแต่ที่นั่ง ที่พัก ที่อาศัย ที่หลับ ที่นอน ที่อยู่ ที่กิน กว่าจะได้มีวันนี้ได้ ก็ต้องลำบากมามากต่อมาก เรามาช่วยกันดูแลรักษา เรามาช่วยกันทำให้น่าอยู่น่าอาศัย คนเรารักสะอาด แต่ชอบสกปรกไปอยู่ที่ไหนทิ้งมันเกลื่อน เราต้องพยายามแก้ไขตัวเรา จากตัวเราเสียก่อน ก็ล้นไปสู่หมู่สู่คณะ อย่าพากันเกียจคร้าน ให้มีความเสียสละ ช่วยกัน

กว่าจะได้มาอยู่ดีมีความสุขได้ก็อาศัยกาลอาศัยเวลา อาศัยพรหมวิหาร ความเสียสละของทุกคน หล่อหลอมช่วยกันมาจนกระทั่งมาถึงวันนี้ได้ และก็รู้จักชนะใจของเรา ละกิเลสออกจากใจของเราให้ได้ ทั้งภายนอกได้ทั้งภายใน อยู่ที่ไหนก็จะมีความสุข ให้เราช่วยกันทั้งพระทั้งชีทั้งฆราวาส ว่างๆ ก็ไปช่วยกัน อย่าพากันเกียจคร้าน ถ้าเรามีกำลัง ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่ไร่ ที่นา ที่สวน ที่ทำการทำงาน เราก็จะอยู่กับบุญ เราก็จะอยู่กับพระ ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ

ไม่ใช่ว่ามานั่งหลับตาแล้วได้ปฏิบัติธรรม มันยังไม่ใช่ เราต้องขัดเกลากิเลสออกจากใจของเราทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย ทำความเข้าใจกับโลกธรรม ทำความเข้าใจกับโลกธรรมแปด ทำความเข้าใจกับสมมติ ไม่ยึดติดสมมติ เคารพสมมติ อยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสุข สนุกสร้างตั้งแต่บุญ งานพรุ่งนี้ก็จะได้พาทำบุญใหญ่กันอีก ก็ขอเชิญทุกคนนะ

เอาล่ะ วันนี้ก็เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง