หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 72 วันที่ 6 ตุลาคม 2561
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 72 วันที่ 6 ตุลาคม 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 72
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักที่ ได้เจริญสติ ได้เข้าไปสํารวจกายสํารวจใจของพวกเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่ม ระลึกได้เมื่อไรเราก็พยายามสร้างความรู้ตัว พยายามทำความเข้าใจชีวิตของเราทุกเรื่อง จนกระทั่งหมดลมหายใจเพราะว่าทุกคนเกิดมาเท่าไรตายหมด มีความเกิดก็มีความตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง เราต้องพยายามหมั่นวิเคราะห์ ไม่อยากจะตายก็ไม่ต้องเกิด ดับพร้อมเกิด แต่เวลานี้ เหตุจิตวิญญาณมาสร้างกายเนื้อ มาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ คือร่างกายชีวิตของพวกเรานี่แหละ ท่านให้เจริญสติลงที่กาย เพื่อเข้าไปอบรมใจของเรา เข้าไปวิเคราะห์ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผลๆ เห็นการเกิดการดับ ทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง
ความเป็นจริงนั้น ใจสะอาดบริสุทธิ์อยู่เดิม ความไม่เข้าใจเขาถึงเกิด เกิดแล้วก็ยังไม่พอยังมายึดอีก เป็นทาสกิเลสอีก กิเลสก็มีหลายระดับ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด มีมากมายที่ตัวใจสร้างมาปิดกั้นตัวเอง บุคคลผู้รู้ย่อมทำความเข้าใจ ขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเรา จนทำใจของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเกิด ดับความเกิดให้มันหมดจด ขณะที่ยังมีกายนี้อยู่ กายเนื้อแตกดับใจของเราก็ไม่ได้เกิดอีก เข้าสู่ความบริสุทธิ์ แต่เวลานี้ ในใจของเรามีกิเลสเข้าปิดปกคลุมเอาไว้ ทั้งกายเนื้อ ทั้งกิเลส เยอะแยะมากมาย ทั้งการเกิด
ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไปจําแนกแจกแจงตามดู รู้เห็นตามความเป็นจริง ชี้เหตุชี้ผล อันนี้ส่วนรูป อันนี้ส่วนนาม ส่วนรูป ร่างกายของเรานี้เป็นก้อนทุกข์ นั่งนานก็ทุกข์ เดินนานก็ทุกข์ ไม่กินไม่รับประทานข้าวปลาอาหารก็ทุกข์ แต่พวกเรานี่ จําแนกแจกแจงไม่ได้ก็เลยรวมกันไปทั้งก้อน ก็ขอให้อยู่ในกองบุญเอาไว้ ให้ใจน้อมอยู่ในกองบุญ หมั่นทำบุญให้ทาน หมั่นวิเคราะห์พิจารณาสูงขึ้นไปก็ละหมดนั่นแหละ ถ้าเราทำความเข้าใจละทั้งบุญละทั้งบาป แต่สร้างบุญไม่ยึดติดในบุญ สนุกสร้างบุญจนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะกายนี่เป็นก้อนทุกข์ เดี๋ยวก็เจ็บเดี๋ยวก็ป่วย ถึงวาระเวลาก็เยียวยาเอาไว้สักพักสักระยะหนึ่ง ถึงเวลาเขาก็ต้องแตกดับ เอาอะไรมาฉุดมารั้งเอาไว้ไม่อยู่ เพราะว่ามันมีความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา เราพยายามทำความเข้าใจให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นขณะที่ยังมีกําลัง มีลมหายใจอยู่ กายเนื้อแตกดับเราก็จะไม่ได้กลับมาทนทุกข์ทรมานอีก
อย่าปิดกั้นตัวเรา อย่าปิดกั้นตัวเองว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาส ทุกคนก็มีบุญแล้วแหละที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีจิตใจที่เป็นสัมมาทิฏฐิ อยู่ในครรลองของบุญของกุศล แต่ก็ยังหลงอยู่ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เราต้องพยายามละความหลง คลายความเกิด ละกิเลสออกจากใจของเรา ให้เกิดด้วยสติ เกิดด้วยปัญญา ใจของเรานั้นให้อยู่ในความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น ก็ต้องพยายามกัน เพราะว่ากายของคนเรานี้ไม่ได้ตั้งอยู่นาน ถึงเวลาก็ต้องแตกต้องดับ
ญาติโยมท่านใดปรารถนาที่จะไปเยี่ยมหลวงพ่อหลวงปู่ เจ้าคณะตำบลที่ท่านป่วย เดี๋ยวนี้ก็อยู่ที่โรงพยาบาล หลวงพ่ออุปัชฌาย์ เขมาภิยุต ได้เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน สองวันแล้วแหละ ก็เห็นว่าเจาะท้องหรือว่าเจาะอะไรนี่แหละ มีโอกาสก็ไปเยี่ยมท่าน เพราะว่าร่างกายของคนเราก็เป็นนู่นเป็นนี่ เจ็บโน่นเจ็บนี่ เยียวยาไปได้สักพักสักระยะหนึ่ง ถึงเวลามันแตกดับมันก็ต้องแตกดับ ไม่ว่าจะร่ำรวยยากจนอย่างไรถึงเวลาก็แตกดับเหมือนกันหมด เพราะว่ามีความเสื่อม มีความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ความไม่เที่ยง เราพยายามรีบตักตวงสร้างบุญสร้างกุศล ให้มีให้เกิดขึ้นในกายก้อนนี้ ในจิตดวงนี้ให้เร็วให้ไว ให้อยู่กับกองบุญเอาไว้ เพราะว่าคนเราหมดลมหายใจก็มีตั้งแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป ถ้าเราทำความเข้าใจได้เราก็จะละบาปสร้างบุญ ไม่ยึดติดในบุญ อย่างน้อยๆ ใจของเรายังไม่หลุดพ้นก็ให้อยู่ในกองบุญเอาไว้ ก็จะได้ไม่ได้ลําบากก็พยายามกันนะ
สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
ไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ยังไม่ได้รู้จักที่ ได้เจริญสติ ได้เข้าไปสํารวจกายสํารวจใจของพวกเราแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่ม ระลึกได้เมื่อไรเราก็พยายามสร้างความรู้ตัว พยายามทำความเข้าใจชีวิตของเราทุกเรื่อง จนกระทั่งหมดลมหายใจเพราะว่าทุกคนเกิดมาเท่าไรตายหมด มีความเกิดก็มีความตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง เราต้องพยายามหมั่นวิเคราะห์ ไม่อยากจะตายก็ไม่ต้องเกิด ดับพร้อมเกิด แต่เวลานี้ เหตุจิตวิญญาณมาสร้างกายเนื้อ มาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ คือร่างกายชีวิตของพวกเรานี่แหละ ท่านให้เจริญสติลงที่กาย เพื่อเข้าไปอบรมใจของเรา เข้าไปวิเคราะห์ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผลๆ เห็นการเกิดการดับ ทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง
ความเป็นจริงนั้น ใจสะอาดบริสุทธิ์อยู่เดิม ความไม่เข้าใจเขาถึงเกิด เกิดแล้วก็ยังไม่พอยังมายึดอีก เป็นทาสกิเลสอีก กิเลสก็มีหลายระดับ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด มีมากมายที่ตัวใจสร้างมาปิดกั้นตัวเอง บุคคลผู้รู้ย่อมทำความเข้าใจ ขัดเกลากิเลสออกจากจิตจากใจของเรา จนทำใจของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์เหมือนเดิม แล้วก็ไม่ต้องกลับมาเกิด ดับความเกิดให้มันหมดจด ขณะที่ยังมีกายนี้อยู่ กายเนื้อแตกดับใจของเราก็ไม่ได้เกิดอีก เข้าสู่ความบริสุทธิ์ แต่เวลานี้ ในใจของเรามีกิเลสเข้าปิดปกคลุมเอาไว้ ทั้งกายเนื้อ ทั้งกิเลส เยอะแยะมากมาย ทั้งการเกิด
ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไปจําแนกแจกแจงตามดู รู้เห็นตามความเป็นจริง ชี้เหตุชี้ผล อันนี้ส่วนรูป อันนี้ส่วนนาม ส่วนรูป ร่างกายของเรานี้เป็นก้อนทุกข์ นั่งนานก็ทุกข์ เดินนานก็ทุกข์ ไม่กินไม่รับประทานข้าวปลาอาหารก็ทุกข์ แต่พวกเรานี่ จําแนกแจกแจงไม่ได้ก็เลยรวมกันไปทั้งก้อน ก็ขอให้อยู่ในกองบุญเอาไว้ ให้ใจน้อมอยู่ในกองบุญ หมั่นทำบุญให้ทาน หมั่นวิเคราะห์พิจารณาสูงขึ้นไปก็ละหมดนั่นแหละ ถ้าเราทำความเข้าใจละทั้งบุญละทั้งบาป แต่สร้างบุญไม่ยึดติดในบุญ สนุกสร้างบุญจนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะกายนี่เป็นก้อนทุกข์ เดี๋ยวก็เจ็บเดี๋ยวก็ป่วย ถึงวาระเวลาก็เยียวยาเอาไว้สักพักสักระยะหนึ่ง ถึงเวลาเขาก็ต้องแตกดับ เอาอะไรมาฉุดมารั้งเอาไว้ไม่อยู่ เพราะว่ามันมีความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา เราพยายามทำความเข้าใจให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นขณะที่ยังมีกําลัง มีลมหายใจอยู่ กายเนื้อแตกดับเราก็จะไม่ได้กลับมาทนทุกข์ทรมานอีก
อย่าปิดกั้นตัวเรา อย่าปิดกั้นตัวเองว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาส ทุกคนก็มีบุญแล้วแหละที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีจิตใจที่เป็นสัมมาทิฏฐิ อยู่ในครรลองของบุญของกุศล แต่ก็ยังหลงอยู่ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เราต้องพยายามละความหลง คลายความเกิด ละกิเลสออกจากใจของเรา ให้เกิดด้วยสติ เกิดด้วยปัญญา ใจของเรานั้นให้อยู่ในความบริสุทธิ์ความหลุดพ้น ก็ต้องพยายามกัน เพราะว่ากายของคนเรานี้ไม่ได้ตั้งอยู่นาน ถึงเวลาก็ต้องแตกต้องดับ
ญาติโยมท่านใดปรารถนาที่จะไปเยี่ยมหลวงพ่อหลวงปู่ เจ้าคณะตำบลที่ท่านป่วย เดี๋ยวนี้ก็อยู่ที่โรงพยาบาล หลวงพ่ออุปัชฌาย์ เขมาภิยุต ได้เข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวาน สองวันแล้วแหละ ก็เห็นว่าเจาะท้องหรือว่าเจาะอะไรนี่แหละ มีโอกาสก็ไปเยี่ยมท่าน เพราะว่าร่างกายของคนเราก็เป็นนู่นเป็นนี่ เจ็บโน่นเจ็บนี่ เยียวยาไปได้สักพักสักระยะหนึ่ง ถึงเวลามันแตกดับมันก็ต้องแตกดับ ไม่ว่าจะร่ำรวยยากจนอย่างไรถึงเวลาก็แตกดับเหมือนกันหมด เพราะว่ามีความเสื่อม มีความเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ความไม่เที่ยง เราพยายามรีบตักตวงสร้างบุญสร้างกุศล ให้มีให้เกิดขึ้นในกายก้อนนี้ ในจิตดวงนี้ให้เร็วให้ไว ให้อยู่กับกองบุญเอาไว้ เพราะว่าคนเราหมดลมหายใจก็มีตั้งแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป ถ้าเราทำความเข้าใจได้เราก็จะละบาปสร้างบุญ ไม่ยึดติดในบุญ อย่างน้อยๆ ใจของเรายังไม่หลุดพ้นก็ให้อยู่ในกองบุญเอาไว้ ก็จะได้ไม่ได้ลําบากก็พยายามกันนะ
สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน
ไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ