
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 105
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 105
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 105
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 28 กันยายน 2562
วันนี้ก็เป็นวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เหลืออีกนิดหน่อย เหลืออีกครึ่งเดือนก็จะออกพรรษา เผลอแป๊บเดียว วันเดือนปีผ่านไปเร็วไวหนอ อายุก็สั้นลงอีกหนึ่งปี มีโอกาสก็พากันเตรียมพร้อมเตรียมพร้อมทุกอย่าง เตรียมพร้อมในการสร้างคุณงามความดี เตรียมพร้อมที่จะอยู่ เตรียมพร้อมที่จะไป อะไรที่ขัดติดขัดตรงไหน ก็รีบแก้ไขเท่ากำลังสติปัญญาของเรามี ให้รีบๆ ทำขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ หมดลมหายใจ ก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป อีกสักหน่อยก็ได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง อายุขัยในมนุษย์มีไม่เยอะ เผลอแผล็บดียว พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
ออกพรรษาที่วัดของเราก็งานกฐินวันที่เท่าไหร่นะ วันที่ 3 พฤศจิกายน ญาติโยมท่านใดปรารถนาอยากจะมาทำกฐินสามัคคี อยากจะมาร่วมก็เชิญมาได้ อยากจะมาร่วมกฐินสามัคคี ที่ปักธงชัยของเราก็วันที่ 19 ตุลามีงานกฐิน แล้วก็หลายสิ่งหลายอย่าง ที่องค์หลวงปู่ใหญ่ก็ขึ้นถึงเศียรแล้ว ใกล้จะได้ขึ้นเศียรแล้ว แม่กวนอิมก็คงปีใหม่ ก็คงจะได้ขึ้นองค์ท่าน ตอนนี้กำลังเทลานอยู่ เทลานแม่กวนอิมอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นอานิสงส์แห่งบุญให้กับชาติบ้านเมืองของเรา มีโอกาส ไม่ว่าอยู่ที่ไหน โอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิดก็ให้พากันทำ ทำมากทำน้อยก็เป็นอานิสงส์ของพวกเรา เราทำไม่ได้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ก็มีส่วนแห่งบุญ ญาติโยมมาพร้อมเพียงกันก็จะได้สมาทานศีลกันก่อน ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง ทำหน้าที่ของเรา ย้อนดูกายของเรา ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ก็ยังไม่ได้ลุกจากที่ ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเชื่อมโยงเราก็จะรู้อะไรดีๆ อีกเยอะอยู่ในกายของเรา หลวงพ่อก็เพียงแค่ย้ำแค่เตือน บอกกล่าววิธีการแนวทางให้ทุกท่าน เพื่อพากันไปทำ อย่าไปมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา
ส่วนศรัทธานั้นทุกคนก็มีกันเต็มเปี่ยม ฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการให้ทาน แต่การทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ให้รู้ลักษณะใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่เกิดเป็นอย่างไร ทำไมใจถึงเกิดส่งออกไปภายนอก ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมใจถึงหลงขันธ์ห้า ยึดติดขันธ์ห้า คำว่าขันธ์ห้ามีอะไรบ้าง เห็นความเกิดความดับ เห็นการแยกการคลาย อันนั้นเอาไว้ทีหลัง
เพียงแค่สร้างความรู้ตัว หรือว่าเจริญสติให้ต่อเนื่องให้ได้ ตรงนี้ก็ยังลำบาก ไม่พากันทำ ก็เลยขาดการทำความเข้าใจในปัญญาขั้นสูง ปัญญาก็ไม่สูงหรอก ก็อยู่ที่กายของเรานี่แหละ ใจกับขันธ์ห้า การสังเกตจนใจคลายออกจากขันธ์ห้า รู้ต้นตอ รู้ต้นเหตุ รู้จักการละกิเลส กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร กิเลสเกิดขึ้นที่กาย ใจส่งเสริมหรือไม่หรือว่าเกิดขึ้นที่ใจเหตุจากภายนอกทำให้เกิดหรือเกิดจากภายใน เราต้องจำแนกแจกแจง รู้จักแยกรูปรสกลิ่นเสียงออกจากใจของเรา
ทวารทั้งหกเขาก็ทำหน้าที่ ตาก็ทำหน้าที่ดู หูก็ทำหน้าที่ฟัง แต่เรารู้อยู่ในภาพรวม รู้อยู่ในระดับของโลกีย์ของสมมติ มันก็ยังเกิดความทุกข์อยู่ อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติ แต่ยังดับความทุกข์ไม่ได้ ละกิเลสไม่ได้ เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น การฝึกหัดปฏิบัติการเจริญสติเราก็ต้องทำให้ต่อเนื่อง จะเอาสติไปสังเกต ไปวิเคราะห์ จนเป็นอัตโนมัติ จนไม่ได้สร้าง จนชี้เหตุชี้ผลได้ จนมองเห็นความเป็นจริงได้
พวกเรามีโอกาสเข้าถึงจุดหมายได้ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีโอกาส ไม่มีวาสนา ทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีวาสนา ทุกคนมีบุญ เกิดมาก็มีอัตตา มีขันธ์ห้าเท่ากันหมด แต่กำลังสติ กำลังปัญญา กำลังศรัทธา กำลังการสร้างตบะบารมี ความเสียสละ ความอดทน การฝักใฝ่ ความเพียรในการวิเคราะห์อาจจะมีไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมีมาก บางคนก็อาจจะมีน้อย บางคนก็อาจจะขาดตรงโน้นบ้าง บางคนก็อาจจะขาดตรงนี้บ้าง บางคนบางท่านก็สมมติบริบูรณ์ บางคนบางท่านก็สมมติไม่บริบูรณ์ บางคนบางท่านก็ไปได้เร็ว บางคนบางท่านก็ไปได้ช้า เพราะวิบากกรรมแต่ละคนสร้างมาไม่เหมือนกัน
แต่เราก็ต้องพยายามขวานขวายฝักใฝ่ พยายามสร้าง หากำไรในกายก้อนนี้ให้ได้ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง ได้มากได้น้อย เราก็พยายามทำ อันนี้สติที่เราสร้างขึ้นมานะ อันนี้ใจนะ การเกิดการดับของขันธ์ห้าของใจ การเกิดของความอยากของกิเลส เราดับได้ตั้งแต่ต้นเหตุการณ์ กลางเหตุ ปลายเหตุ ดับได้ตั้งแต่ความคิดเริ่มก่อตัว ความคิดเกิดจากใจ หรือว่าเกิดจากขันธ์ห้า เราดับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ก็ไม่ให้ออกทางวาจา ทางกาย ทางวาจาที่ท่านบอกว่าวจีกรรม มโนกรรมแล้วก็กายกรรม
แต่ส่วนมากมันเอาไม่อยู่ แต่ละวันๆ ตื่นเช้าขึ้นมาไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ตัวใจ ใจไปยังไม่พอ กายอีก วาจาอีกสารพัดอย่างมันนัวเนียกันไป รวมกันไปทั้งก้อน นอกจากบุคคลที่มาเจริญสติแยกแยะให้เห็นแต่ละส่วนๆ ที่ท่านบอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ ท่านถึงบอกให้เชื่อ ไม่เชื่อแบบงมงาย ให้รู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย ทำความเข้าใจได้ด้วย หมดความสงสัย มีตั้งแต่จะขัดเกลากิเลสให้เบาบางลงไป ให้ถึงจุดหมายปลายทาง
จะเอา จะมี จะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญา จะเอามากทำมากทำน้อย ก็รับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญา ยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านให้เต็มเปี่ยม
ของเก่า ใจของเรานี่หลงมาตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด หลงมาสร้างขันธ์ห้า หลงเป็นทาสกิเลส หลงความคิด หลงอารมณ์ว่าตัวเองนี้ ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่มันก็ยิ่งปิดกั้นเอาไว้หมด ในหลักธรรมแล้วท่านให้คลายของเก่าออก กลับไปสู่สภาพเดิมคือความสะอาดความบริสุทธิ์ของใจแล้วก็ค่อยมีใหม่ มีด้วยเหตุด้วยผล มีด้วยสติ มีด้วยปัญญา ทำด้วยเหตุด้วยผล อยู่กับสมมติ เคารพสมมติไม่ยึดติดสมมติ รู้จักแก้ไขตัวเรา ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ที่ท่านบอกว่าตนเป็นที่พึ่งของตน หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟัง ถ้าพวกท่านไม่ไปทำ ก็ไม่มีวันที่จะเข้าใจ ก็ต้องไปทำกันนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 28 กันยายน 2562
วันนี้ก็เป็นวันแรม 15 ค่ำเดือน 10 เหลืออีกนิดหน่อย เหลืออีกครึ่งเดือนก็จะออกพรรษา เผลอแป๊บเดียว วันเดือนปีผ่านไปเร็วไวหนอ อายุก็สั้นลงอีกหนึ่งปี มีโอกาสก็พากันเตรียมพร้อมเตรียมพร้อมทุกอย่าง เตรียมพร้อมในการสร้างคุณงามความดี เตรียมพร้อมที่จะอยู่ เตรียมพร้อมที่จะไป อะไรที่ขัดติดขัดตรงไหน ก็รีบแก้ไขเท่ากำลังสติปัญญาของเรามี ให้รีบๆ ทำขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ หมดลมหายใจ ก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป อีกสักหน่อยก็ได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง อายุขัยในมนุษย์มีไม่เยอะ เผลอแผล็บดียว พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด
ออกพรรษาที่วัดของเราก็งานกฐินวันที่เท่าไหร่นะ วันที่ 3 พฤศจิกายน ญาติโยมท่านใดปรารถนาอยากจะมาทำกฐินสามัคคี อยากจะมาร่วมก็เชิญมาได้ อยากจะมาร่วมกฐินสามัคคี ที่ปักธงชัยของเราก็วันที่ 19 ตุลามีงานกฐิน แล้วก็หลายสิ่งหลายอย่าง ที่องค์หลวงปู่ใหญ่ก็ขึ้นถึงเศียรแล้ว ใกล้จะได้ขึ้นเศียรแล้ว แม่กวนอิมก็คงปีใหม่ ก็คงจะได้ขึ้นองค์ท่าน ตอนนี้กำลังเทลานอยู่ เทลานแม่กวนอิมอยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นอานิสงส์แห่งบุญให้กับชาติบ้านเมืองของเรา มีโอกาส ไม่ว่าอยู่ที่ไหน โอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิดก็ให้พากันทำ ทำมากทำน้อยก็เป็นอานิสงส์ของพวกเรา เราทำไม่ได้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ก็มีส่วนแห่งบุญ ญาติโยมมาพร้อมเพียงกันก็จะได้สมาทานศีลกันก่อน ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง ทำหน้าที่ของเรา ย้อนดูกายของเรา ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ตั้งแต่ก็ยังไม่ได้ลุกจากที่ ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเชื่อมโยงเราก็จะรู้อะไรดีๆ อีกเยอะอยู่ในกายของเรา หลวงพ่อก็เพียงแค่ย้ำแค่เตือน บอกกล่าววิธีการแนวทางให้ทุกท่าน เพื่อพากันไปทำ อย่าไปมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งมีอยู่ในกายของเรา
ส่วนศรัทธานั้นทุกคนก็มีกันเต็มเปี่ยม ฝักใฝ่ในการทำบุญ ในการให้ทาน แต่การทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ให้รู้ลักษณะใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่เกิดเป็นอย่างไร ทำไมใจถึงเกิดส่งออกไปภายนอก ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมใจถึงหลงขันธ์ห้า ยึดติดขันธ์ห้า คำว่าขันธ์ห้ามีอะไรบ้าง เห็นความเกิดความดับ เห็นการแยกการคลาย อันนั้นเอาไว้ทีหลัง
เพียงแค่สร้างความรู้ตัว หรือว่าเจริญสติให้ต่อเนื่องให้ได้ ตรงนี้ก็ยังลำบาก ไม่พากันทำ ก็เลยขาดการทำความเข้าใจในปัญญาขั้นสูง ปัญญาก็ไม่สูงหรอก ก็อยู่ที่กายของเรานี่แหละ ใจกับขันธ์ห้า การสังเกตจนใจคลายออกจากขันธ์ห้า รู้ต้นตอ รู้ต้นเหตุ รู้จักการละกิเลส กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร กิเลสเกิดขึ้นที่กาย ใจส่งเสริมหรือไม่หรือว่าเกิดขึ้นที่ใจเหตุจากภายนอกทำให้เกิดหรือเกิดจากภายใน เราต้องจำแนกแจกแจง รู้จักแยกรูปรสกลิ่นเสียงออกจากใจของเรา
ทวารทั้งหกเขาก็ทำหน้าที่ ตาก็ทำหน้าที่ดู หูก็ทำหน้าที่ฟัง แต่เรารู้อยู่ในภาพรวม รู้อยู่ในระดับของโลกีย์ของสมมติ มันก็ยังเกิดความทุกข์อยู่ อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติ แต่ยังดับความทุกข์ไม่ได้ ละกิเลสไม่ได้ เราต้องทำความเข้าใจให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น การฝึกหัดปฏิบัติการเจริญสติเราก็ต้องทำให้ต่อเนื่อง จะเอาสติไปสังเกต ไปวิเคราะห์ จนเป็นอัตโนมัติ จนไม่ได้สร้าง จนชี้เหตุชี้ผลได้ จนมองเห็นความเป็นจริงได้
พวกเรามีโอกาสเข้าถึงจุดหมายได้ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีโอกาส ไม่มีวาสนา ทุกคนมีโอกาส ทุกคนมีวาสนา ทุกคนมีบุญ เกิดมาก็มีอัตตา มีขันธ์ห้าเท่ากันหมด แต่กำลังสติ กำลังปัญญา กำลังศรัทธา กำลังการสร้างตบะบารมี ความเสียสละ ความอดทน การฝักใฝ่ ความเพียรในการวิเคราะห์อาจจะมีไม่เท่ากัน บางคนอาจจะมีมาก บางคนก็อาจจะมีน้อย บางคนก็อาจจะขาดตรงโน้นบ้าง บางคนก็อาจจะขาดตรงนี้บ้าง บางคนบางท่านก็สมมติบริบูรณ์ บางคนบางท่านก็สมมติไม่บริบูรณ์ บางคนบางท่านก็ไปได้เร็ว บางคนบางท่านก็ไปได้ช้า เพราะวิบากกรรมแต่ละคนสร้างมาไม่เหมือนกัน
แต่เราก็ต้องพยายามขวานขวายฝักใฝ่ พยายามสร้าง หากำไรในกายก้อนนี้ให้ได้ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง ได้มากได้น้อย เราก็พยายามทำ อันนี้สติที่เราสร้างขึ้นมานะ อันนี้ใจนะ การเกิดการดับของขันธ์ห้าของใจ การเกิดของความอยากของกิเลส เราดับได้ตั้งแต่ต้นเหตุการณ์ กลางเหตุ ปลายเหตุ ดับได้ตั้งแต่ความคิดเริ่มก่อตัว ความคิดเกิดจากใจ หรือว่าเกิดจากขันธ์ห้า เราดับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ก็ไม่ให้ออกทางวาจา ทางกาย ทางวาจาที่ท่านบอกว่าวจีกรรม มโนกรรมแล้วก็กายกรรม
แต่ส่วนมากมันเอาไม่อยู่ แต่ละวันๆ ตื่นเช้าขึ้นมาไปแล้ว ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ตัวใจ ใจไปยังไม่พอ กายอีก วาจาอีกสารพัดอย่างมันนัวเนียกันไป รวมกันไปทั้งก้อน นอกจากบุคคลที่มาเจริญสติแยกแยะให้เห็นแต่ละส่วนๆ ที่ท่านบอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ ท่านถึงบอกให้เชื่อ ไม่เชื่อแบบงมงาย ให้รู้ด้วย เห็นด้วย เข้าถึงด้วย ทำความเข้าใจได้ด้วย หมดความสงสัย มีตั้งแต่จะขัดเกลากิเลสให้เบาบางลงไป ให้ถึงจุดหมายปลายทาง
จะเอา จะมี จะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญา จะเอามากทำมากทำน้อย ก็รับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญา ยังประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านให้เต็มเปี่ยม
ของเก่า ใจของเรานี่หลงมาตั้งแต่ยังไม่ได้เกิด หลงมาสร้างขันธ์ห้า หลงเป็นทาสกิเลส หลงความคิด หลงอารมณ์ว่าตัวเองนี้ ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่มันก็ยิ่งปิดกั้นเอาไว้หมด ในหลักธรรมแล้วท่านให้คลายของเก่าออก กลับไปสู่สภาพเดิมคือความสะอาดความบริสุทธิ์ของใจแล้วก็ค่อยมีใหม่ มีด้วยเหตุด้วยผล มีด้วยสติ มีด้วยปัญญา ทำด้วยเหตุด้วยผล อยู่กับสมมติ เคารพสมมติไม่ยึดติดสมมติ รู้จักแก้ไขตัวเรา ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ที่ท่านบอกว่าตนเป็นที่พึ่งของตน หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟัง ถ้าพวกท่านไม่ไปทำ ก็ไม่มีวันที่จะเข้าใจ ก็ต้องไปทำกันนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ