หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 15

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 15
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 15
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 15
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2562

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราได้วิเคราะห์กาย วิเคราะห์ใจของเราแล้วหรือยังรู้จักวิธีการสร้างความรู้ตัวหรือว่าเจริญสติให้มี ให้เกิดขึ้น สำรวจใจของเรา แต่ละวันๆ ใจของเราปกติเป็นอย่างไร ใจของเราเกิด การเกิดของใจส่งออกไปภายนอกเป็นลักษณะอย่างไร ใจเกิดกิเลสเรารู้จักดับ รู้จักละ รู้จักคลายหรือไม่ เราพยายามสร้างความรู้ตัว หรือว่าเจริญสติ หรือว่ามาสร้างผู้รู้

ใจนั้นเป็นธาตุรู้ แต่เวลานี้เขาทั้งรู้ ทั้งหลง ทั้งเกิด ทั้งเป็นทาสกิเลส สารพัดอย่างที่มาปกปิดเอาไว้ บางครั้งบางคราวใจก็ปกติ ใจก็ไม่มีกิเลส บางครั้งบางคราวใจก็มีตั้งแต่ความทะเยอทะยานอยาก

ในหลักธรรม ทั้งอยากทั้งไม่อยาก การเกิดของใจนั่นแหละคือกิเลสอันละเอียดที่สุด เรามาสร้างสติมาสร้างผู้รู้ เข้าไปอบรมใจของเรา ไปชี้เหตุชี้ผล จนใจคลายออกจากขันธ์ห้า หรือว่าแยกรูปแยกนาม ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความเห็นถูก

ความเห็นถูก ใจก็จะหงาย ใจก็จะว่าง ใจก็จะคลายความยึดมั่นถือมั่น เราก็จะเข้าใจคำว่า ‘อัตตา’ เข้าใจคำว่า ‘อนัตตา’ ความรู้ตัวที่เราสร้างขึ้นมา ตามดูตามเห็นการเกิดการดับของความคิด ของขันธ์ห้า เราก็จะเห็นเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่เกิดขึ้นในกายของเรา อันนี้เป็นส่วนรูป อันนี้เป็นส่วนนาม เราก็จะมองเห็นชัดเจน


แต่เวลานี้พวกเรามองเห็นเป็นกลุ่มเป็นก้อน ร่างกายก็ของเรา ใจก็ของเรา รวมกันไปทั้งก้อน แต่ในหลักธรรมพระพุทธองค์ท่านมองเห็นเป็นกอง เป็นชิ้น เป็นอัน ให้แยกแยะด้วยปัญญา แต่เขาก็รวมอยู่ในกายของเรา นอกจากบุคคลที่มีความเพียร สร้างตบะ สร้างบารมีให้ถูกที่ถูกทาง เราก็จะเข้าใจในชีวิต เข้าใจในการเรื่องการดำเนินชีวิตกายของเรามีอะไรบ้าง คำว่า ‘วิญญาณ’ กองของวิญญาณเป็นลักษณะอย่างไร กองรูปเป็นลักษณะอย่างไร กองสังขารเป็นลักษณะอย่างไร ดังที่เราเคยสวด เคยท่องทำวัตรสวดมนต์

ศรัทธานั้นทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ศรัทธาการทำบุญให้ทานตรงนี้มีกันอยู่ในระดับขั้นพื้นฐาน แต่ระดับการเจริญภาวนา ที่จะนำเอาสติปัญญาไปใช้ ไปชี้เหตุชี้ผล ตรงนี้ต้องมีความเพียรอย่างยิ่งยวดเลยทีเดียว แล้วก็สร้างตบะบารมี


ใจของเรามีความตระหนี่เหนียวแน่น เราก็พยายามละความตระหนี่เหนียวแน่น ใจของเรามีความโลภ เราก็พยายามละความโลภ ด้วยการคลาย ด้วยการให้ ด้วยการช่วยเหลือ ด้วยการอนุเคราะห์ ใจของเราเกิดความโกรธ เราก็พยายามดับความโกรธด้วยการให้อภัย อโหสิกรรมมองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำความเข้าใจให้ดี ให้ถูกต้อง ตั้งแต่ความคิด ตั้งแต่การเกิด เรารักษาใจของเราไม่ให้คิดในสิ่งที่เป็นอกุศล ให้คิดเฉพาะสิ่งที่เป็นกุศล

สูงขึ้นมาอีก ก็ไม่ให้ใจของเราคิด ให้สติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ไปทำหน้าที่ไปคิดแทน

ต้องแยกแยะให้ได้ว่าอันนี้ส่วนสติปัญญา อันนี้ส่วนใจ แต่เวลานี้เราแยกไม่ได้ คิดก็รู้ ทำก็รู้ อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้ว เราต้องพยายามจำแนกแจกแจงให้ชัดเจน ไม่ให้ใจของเราเข้าไปหลง เข้าไปร่วม เข้าไปรวม


แต่เวลานี้ใจของเรารวมอัตโนมัติ เพราะว่าความเคยชิน ความเคยชินเก่าๆ ความคิดเก่าๆ ปัญญาเก่าๆ ซึ่งเรียกว่า ‘ปัญญาโลกีย์’ ปัญญาอยู่ในระดับโลก อาจจะถูกต้อง อาจจะใช้ได้อยู่ในระดับโลก แต่ยังเข้าไปดับทุกข์ที่ใจไม่ได้ เพราะว่าใจยังไม่ได้คลาย ใจยังเป็นทาสกิเลสอยู่กิเลสนี้เป็นยางเหนียวมาปิดกั้นเอาไว้ ใจก็มีตั้งแต่ความทะเยอทะยานอยาก ทั้งอยากทั้งไม่อยาก ท่านถึงบอกว่าให้ละความอยาก ละความหวัง แต่การกระทำด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติ ด้วยปัญญา ให้มองเห็นให้ชัดเจน อันนี้คือส่วนรูปที่เรามองเห็นด้วยตาเนื้อ อันนี้ส่วนนามธรรมที่เราสร้างสติ เจริญสติรู้ด้วย ความรู้ตัวหรือว่าปัญญา

สักวันหนึ่งเราก็คงจะเข้าถึงเข้าใจ อย่าพากันปิดกั้นตัวเองว่าไม่มีโอกาส ทุกคนมีโอกาส ทุกลมหายใจเข้าออก มีเวลาอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ในการสร้างประโยชน์ ในการสร้างคุณงามความดี สักวันหนึ่ง ก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน

แม้ตั้งแต่การเจริญสติ เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็ยังทำกันไม่ค่อยจะชำนาญเวลาดูทีก็อึดอัดสารพัดอย่าง เราพยายามฝืน ที่ท่านบอกว่าเป็นการทวนกระแสกิเลส ถ้าเราเข้าใจแล้ว ใจคลายออกแล้ว คือใจของเราก็จะตกกระแสธรรม เราจะละกิเลสได้หมดจดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของเรา มีเรื่องนี้เท่านั้นแหละ ที่มนุษย์เกิดมาที่จะหาหนทางแก้ไขตัวเรา ว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิดกัน ถึงเกิดก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ จะได้ไม่เสียทีเสียเที่ยวที่ได้เกิดมา

ก็ต้องพยายามกัน สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำทำใจให้สงบ ทำใจให้ปกติ มีความรู้สึกรับรู้ อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง