หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 45 วันที่ 26 พฤษภาคม 2563
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 45 วันที่ 26 พฤษภาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 45
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกของตัวเราเองให้ชัดเจน อยู่หลายคนเราก็รู้ อยู่คนเดียวเราก็พยายามวิเคราะห์เรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกเรื่องในชีวิตจนกระทั่งหมดลมหายใจ แต่ละวันๆ มีภาระหน้าที่การงานมากมายที่เราจะต้อง ทำความเข้าใจงานสมมติงานวิมุตติ เพียงแค่งานสมมติเราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่าไปเกียจคร้านให้เป็นคนขยัน ขยันหมั่นเพียรแล้วก็ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์เราก็พยายามห่างไกล อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็พยายามทำ แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยทำกัน มีแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ก็เลยลำบากทางสมมติ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าคนเราขยันหมั่นเพียร รู้จักวิเคราะห์ รู้จักการกระทำให้ถึงพร้อมไม่ลำบาก อยู่คนเดียวก็ไม่ลำบากก็หลายคนก็ไม่ลำบาก ถ้าเรามีความเกียจคร้านเข้าครอบงำก็หนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นปัญหาให้ตัวเรา เป็นปัญหาให้ตัวเอง แล้วก็เป็นปัญหาให้สถานที่ ปัญหาให้คนอื่น
ถ้าเรารู้จักฝักใฝ่สนใจ มีความเสียสละค้นคว้าการกระทำของเราให้ถึงพร้อม หนักเอาเบาสู้ ไปอยู่ที่ไหนก็จะค่อยพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ จากทั้งสติปัญญา ทั้งการสร้างบารมีของตัวเรา ก็ต้องพยายามศึกษากัน
เมื่อวานนี้ก็เกิดผลฟ้าตกลมแรง ต้นไม้ใหญ่โค่น โค่นลงเกือบโดนสายไฟ ก็หย่อนไปเยอะอยู่ โชคดีที่ไม่ได้พังทับศาลาเฉียดไปนิดเดียว หลายสิ่งหลายอย่างก็ให้ช่วยกัน วันนี้ก็พระเรา คนอยู่ที่วัดเราก็ให้ช่วยกัน มาช่วยกันเก็บเศษไม้กิ่งไม้ที่ยังเอาไปไม่หมดเมื่อวานอยู่ที่หน้าโรงครัว มาเก็บช่วยกัน ทำความสะอาดช่วยกัน ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย รู้จักพิจารณาตัวเรา บางคนเดินไป ตามองเห็นเราทำการทำงานอยู่ก็ไม่มีการช่วยเหลือ การกระทำ ขอให้กูได้อยู่ดีมีความสุข
ถ้าเรามาอยู่วัด มีอะไรเราก็ให้ช่วยกัน ถ้าไม่มีความขยันก็ให้ออกจากวัดได้เลยนะ ไม่มีความเสียสละ มาหนักวัดหนักสถานที่ ไม่ว่าใครทั้งนั้น ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ถ้ามามีความเกียจคร้านอยู่ในวัด ให้มองดูให้เห็น กระดากตา ไม่ว่าใครทั้งนั้น ให้ขยันหมั่นเพียรกัน ถ้าเรามีความเสียสละ มีอะไรฝักใฝ่สนใจ หนักเอาเบาสู้ จากความไม่มีเราก็ทำให้มีให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข จากปัญหามันไม่มี มาอยู่ด้วยกันปัญหามันก็เยอะ เยอะแล้วถ้าบอกไม่เชื่อฟัง หรือมีความเกียจคร้านเข้าครอบงำล่ะก็ อย่ามาอยู่ให้เห็นไม่ว่าใครทั้งนั้น ก็ขอบอกกล่าวกันเอาไว้ก่อน
จงเป็นบุคคลที่ขยัน มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ เป็นผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ว่าขอให้กูอยู่ดีมีความสุข อันอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง คนเราโตกันแล้วไม่จำเป็นต้องไปพูดมาก ไปบอกมากพูดมาก มีอะไรเราก็แค่ช่วยกัน พระเรา ใครนั่นก็วันนี้ก็มาช่วยกันดึงสายไฟให้หน่อย สายไฟมันหย่อนมันตกหลายจุดหลายที่ ใครถนัดทางไหนก็ช่วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่จะงอมืองอเท้าอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่เราจะอยู่ดีมีความสุขได้ก็ต้องมีลำบากก่อน ทุกที่นั่นแหละ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
หลักของการปฏิบัติของเราก็ละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน อะไรไม่ดี เราก็ทำให้มันดีเสีย ความอยู่ดีมีสุขก็จะตามมา ไม่ใช่ว่าหนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ บุคคลมีสติ มีปัญญา เขามองแป๊บเดียวเขาก็ดู เขาก็รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรควรทำให้มันดี สมมติตรงไหนไม่ดีเราก็ทำ สิ่งไหนมันไม่ดีเราก็ทำให้ให้มันดีเสีย ก่อนที่มันไม่มีเราก็สร้างขึ้นมาให้มี เพื่อความอนุเคราะห์ทางสมมติให้อยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าเอาตั้งแต่มาทำลาย เอาตั้งแต่งอมืองอเท้า มันก็ ไปไหนก็ไม่มีความสุข ไปไหนก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บอกตัวเองไม่ได้ใช้ตัวเองไม่เป็น มันหนักอยู่อย่างนั้นแหละ หนักตัวเรา หนักคนอื่น หนักสถานที่ อะไรควรจะประหยัดมัธยัสถ์ เราก็ต้องประหยัดมัธยัสถ์ ช่วยกัน อะไรที่มันไม่ดีไม่สวยไม่งามเราก็รีบทำให้มันดีเสีย แล้วสมมติของเราก็จะอยู่ดีมีความสุข
อีกสักหน่อยเราจะได้พลัดพรากจากกันหมดนั่นแหละ ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนตาย ก็ต้องพลัดพรากจากกันตอนเป็น ขณะที่ยังมีลมหายใจ ขณะที่ยังอยู่ด้วยกัน อยู่กันคนละทิศละที่ก็มาอยู่ร่วมกันมาอยู่ด้วยกัน แทนที่จะเป็นคนที่มีความเสียสละกลับสร้างปัญหาให้มันก็ใช้การไม่ได้ ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2563
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกของตัวเราเองให้ชัดเจน อยู่หลายคนเราก็รู้ อยู่คนเดียวเราก็พยายามวิเคราะห์เรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกเรื่องในชีวิตจนกระทั่งหมดลมหายใจ แต่ละวันๆ มีภาระหน้าที่การงานมากมายที่เราจะต้อง ทำความเข้าใจงานสมมติงานวิมุตติ เพียงแค่งานสมมติเราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดี อย่าไปเกียจคร้านให้เป็นคนขยัน ขยันหมั่นเพียรแล้วก็ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์เราก็พยายามห่างไกล อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็พยายามทำ แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยทำกัน มีแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ก็เลยลำบากทางสมมติ
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนถ้าคนเราขยันหมั่นเพียร รู้จักวิเคราะห์ รู้จักการกระทำให้ถึงพร้อมไม่ลำบาก อยู่คนเดียวก็ไม่ลำบากก็หลายคนก็ไม่ลำบาก ถ้าเรามีความเกียจคร้านเข้าครอบงำก็หนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเป็นปัญหาให้ตัวเรา เป็นปัญหาให้ตัวเอง แล้วก็เป็นปัญหาให้สถานที่ ปัญหาให้คนอื่น
ถ้าเรารู้จักฝักใฝ่สนใจ มีความเสียสละค้นคว้าการกระทำของเราให้ถึงพร้อม หนักเอาเบาสู้ ไปอยู่ที่ไหนก็จะค่อยพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ จากทั้งสติปัญญา ทั้งการสร้างบารมีของตัวเรา ก็ต้องพยายามศึกษากัน
เมื่อวานนี้ก็เกิดผลฟ้าตกลมแรง ต้นไม้ใหญ่โค่น โค่นลงเกือบโดนสายไฟ ก็หย่อนไปเยอะอยู่ โชคดีที่ไม่ได้พังทับศาลาเฉียดไปนิดเดียว หลายสิ่งหลายอย่างก็ให้ช่วยกัน วันนี้ก็พระเรา คนอยู่ที่วัดเราก็ให้ช่วยกัน มาช่วยกันเก็บเศษไม้กิ่งไม้ที่ยังเอาไปไม่หมดเมื่อวานอยู่ที่หน้าโรงครัว มาเก็บช่วยกัน ทำความสะอาดช่วยกัน ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย รู้จักพิจารณาตัวเรา บางคนเดินไป ตามองเห็นเราทำการทำงานอยู่ก็ไม่มีการช่วยเหลือ การกระทำ ขอให้กูได้อยู่ดีมีความสุข
ถ้าเรามาอยู่วัด มีอะไรเราก็ให้ช่วยกัน ถ้าไม่มีความขยันก็ให้ออกจากวัดได้เลยนะ ไม่มีความเสียสละ มาหนักวัดหนักสถานที่ ไม่ว่าใครทั้งนั้น ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ถ้ามามีความเกียจคร้านอยู่ในวัด ให้มองดูให้เห็น กระดากตา ไม่ว่าใครทั้งนั้น ให้ขยันหมั่นเพียรกัน ถ้าเรามีความเสียสละ มีอะไรฝักใฝ่สนใจ หนักเอาเบาสู้ จากความไม่มีเราก็ทำให้มีให้ทุกคนได้อยู่ดีมีความสุข จากปัญหามันไม่มี มาอยู่ด้วยกันปัญหามันก็เยอะ เยอะแล้วถ้าบอกไม่เชื่อฟัง หรือมีความเกียจคร้านเข้าครอบงำล่ะก็ อย่ามาอยู่ให้เห็นไม่ว่าใครทั้งนั้น ก็ขอบอกกล่าวกันเอาไว้ก่อน
จงเป็นบุคคลที่ขยัน มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ เป็นผู้กล้าหาญ ไม่ใช่ว่าขอให้กูอยู่ดีมีความสุข อันอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง คนเราโตกันแล้วไม่จำเป็นต้องไปพูดมาก ไปบอกมากพูดมาก มีอะไรเราก็แค่ช่วยกัน พระเรา ใครนั่นก็วันนี้ก็มาช่วยกันดึงสายไฟให้หน่อย สายไฟมันหย่อนมันตกหลายจุดหลายที่ ใครถนัดทางไหนก็ช่วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าจะเอาแต่จะงอมืองอเท้าอยู่ตลอดเวลา ก่อนที่เราจะอยู่ดีมีความสุขได้ก็ต้องมีลำบากก่อน ทุกที่นั่นแหละ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
หลักของการปฏิบัติของเราก็ละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน อะไรไม่ดี เราก็ทำให้มันดีเสีย ความอยู่ดีมีสุขก็จะตามมา ไม่ใช่ว่าหนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ บุคคลมีสติ มีปัญญา เขามองแป๊บเดียวเขาก็ดู เขาก็รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรควรทำให้มันดี สมมติตรงไหนไม่ดีเราก็ทำ สิ่งไหนมันไม่ดีเราก็ทำให้ให้มันดีเสีย ก่อนที่มันไม่มีเราก็สร้างขึ้นมาให้มี เพื่อความอนุเคราะห์ทางสมมติให้อยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าเอาตั้งแต่มาทำลาย เอาตั้งแต่งอมืองอเท้า มันก็ ไปไหนก็ไม่มีความสุข ไปไหนก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บอกตัวเองไม่ได้ใช้ตัวเองไม่เป็น มันหนักอยู่อย่างนั้นแหละ หนักตัวเรา หนักคนอื่น หนักสถานที่ อะไรควรจะประหยัดมัธยัสถ์ เราก็ต้องประหยัดมัธยัสถ์ ช่วยกัน อะไรที่มันไม่ดีไม่สวยไม่งามเราก็รีบทำให้มันดีเสีย แล้วสมมติของเราก็จะอยู่ดีมีความสุข
อีกสักหน่อยเราจะได้พลัดพรากจากกันหมดนั่นแหละ ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนตาย ก็ต้องพลัดพรากจากกันตอนเป็น ขณะที่ยังมีลมหายใจ ขณะที่ยังอยู่ด้วยกัน อยู่กันคนละทิศละที่ก็มาอยู่ร่วมกันมาอยู่ด้วยกัน แทนที่จะเป็นคนที่มีความเสียสละกลับสร้างปัญหาให้มันก็ใช้การไม่ได้ ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะวันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา