หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 23 วันที่ 25 มีนาคม 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 23 วันที่ 25 มีนาคม 2563
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 23 วันที่ 25 มีนาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 23
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 25 มีนาคม 2563

มีความสุขกันทุกคน พระเรา ชีเรา ดูดีๆ นะ พิจารณาปฏิสังขาโย กายหิวหรือว่าใจเกิดความอยาก เราก็ต้องแก้ไขเราทุกเรื่องตั้งแต่ตื่นขึ้นมา แต่ละวันๆ เราก็มอง มองใกล้มองไกล มองบนมองล่าง มองกลางใจของเรา เหตุการณ์ต่างๆ รุมล้อมเข้ามา เหตุการณ์ทางบ้านเมืองก็รุมล้อมเข้ามา

โรคภัยไข้เจ็บทั่วโลก ดั่งที่พวกเราได้ยินข่าวทราบข่าวกัน คือโรคโควิด โควิดระบาดกันไปทั่วโลก ประเทศไทยก็เพิ่งจะเริ่มต้น เห็นว่าเป็นพันกว่าคนแล้วมั้งที่ติดเชื้อ ที่หนักๆ ก็เยอะ ที่ตายไปก็สามสี่คน เดี๋ยวนี้ก็ตามที่ฟังข่าวมา ก็สี่สิบกว่าจังหวัดแล้ว เกือบจะทั่วเมืองแล้ว เราก็อย่าพากันประมาท รู้จักรักษาตัวเรา แก้ไขตัวเรา ถ้าไม่เหลือวิสัยจริงๆ ถ้าสุดวิสัยก็ยกให้เป็นเรื่องของกรรม อย่าไปตกใจ เราก็ค่อยแก้ไข

ทางรัฐบาลก็หากฎต่างๆ เข้ามาช่วยมาแก้ไข เราก็พยายามทำตามหน้าที่ตรงนั้น เห็นว่าวันพรุ่งนี้ ก็จะออกกฎหลายอย่างอยู่ เพียงแค่เริ่มต้น กฎหลายอย่างเพื่อสกัดโรคโควิด บางทีก็ไม่ให้ออกจากบ้าน ออกจากอะไรต่างๆ ให้อยู่บ้านอยู่ช่อง ให้หยุดพักทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ เราก็พยายามเตรียมพร้อม เตรียมพร้อมทุกอย่าง เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เตรียมพร้อมที่จะอยู่ เตรียมพร้อมที่จะไป

วันนี้พวกชีเรา ใครว่างๆ ก็ไปซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมาให้หน่อยนะ เมล็ดพันธุ์ผัก ผักบุ้ง ผักกาด ผักอะไรที่ปลูกได้โตเร็วนั่นแหละ ซื้อมาไว้เยอะๆ เอามาปลูก เอามาปลูกที่สวน ที่สวนกล้วย ที่ข้างหน้า เอามาปลูกเอาไว้ เผื่อลำบากติดขัดมาก็จะได้ช่วยเหลือคนได้เยอะ ได้ช่วยเหลือคนได้เยอะไปซื้อมาไว้ ซื้อเมล็ดพันธุ์ผักมาไว้ ซื้อสิ่งที่จำเป็น แล้วก็ข้าวเปลือก ข้าวเปลือกอยู่ในยุ้งในฉางของเรา มีถึงร้อยถุงไหม ถ้ามีเนี่ยเอาไปสีให้หมด เอามาเอาไว้ พอวันข้างหน้าถ้าเกิดเหตุการณ์ต่างๆ มา คนลำบากจะเยอะ คนลำบากจะเยอะ เราก็มาอนุเคราะห์เผื่อแผ่ ถึงจะปิดวัด ปิดอะไรต่างๆ ก็ต้องมีคนเข้ามาอยู่ดี เราก็อนุเคราะห์กันไป ให้เอารถไปสีให้หมดเลยทั้งข้าวเจ้าข้าวเหนียว จะมีถึงร้อยถุงไหม ห้าสิบหรือหกสิบถุง ไอ้ส่วนที่สีแล้วก็ส่งไปทางปักธงชัย เอารถ ให้โรงสีมาเอาไปสีให้ด้วย รู้จักโรงสี สีเอาไว้

เผื่อเหตุการณ์ต่างๆ ประดังประเดเข้ามา พี่น้องที่ลำบากเข้ามา เราก็จะได้มีข้าวมีอะไร อย่างน้อยๆ ก็มีข้าวหุงข้าวผัด ข้าวต้มก็ยังดี ถึงจะอยู่ที่ไหนถ้าถึงวาระเวลาก็ต้องได้ไป ถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไปหรอก เรายกให้เป็นเรื่องของกรรม เราก็คอยช่วยเหลือกัน ทุกคนก็อาศัยวัดนั่นแหละ มาก็อาศัยวัด คนอยู่วัดเราก็มาช่วยกัน อะไรพอช่วยกันได้ก็ช่วยกัน อย่าไปงอมืองอเท้า รู้จักช่วยตัวเรา แก้ไขตัวเรา จนล้นออกไปสู่หมู่ สู่คณะ สู่เพื่อน สู่ฝูง

ส่วนหนึ่งเราก็ปลูกเอาไว้เยอะแล้วแหละที่สวนกล้วย ปลูกพืชผักต่างๆ แต่เราเอามาเสริม พืชผักอายุน้อย พวกผักบุ้งเยอะๆ เมล็ดพันธุ์ผักบุ้ง เมล็ดพันธุ์ผักกาด ผักอะไรต่างๆ ก็เอามาปลูก มาช่วยกันปลูกคนละแปลงสองแปลง พระเราอำนวยกับศักดิ์กับณรงค์กับสามเณร พากันไปช่วยต่อน้ำให้หน่อยนะวันนี้นะ ท่อน้ำที่รื้อนั่นแหละต่อน้ำบาดาลเอาไปไว้รดผัก เห็นว่าตัดน้ำบาดาลช่วงวางท่อระบายน้ำ วันนี้ไปทำตรงนั้นก่อน ไปทำไปต่อน้ำเอาไว้ก่อน ส่วนณรงค์ไปต่อ ชวนกันไปต่อเอาไว้เพื่อจะได้มีน้ำรด น้ำรดผัก น้ำรดพืชผักของเรา

เราต้องเตรียม ต้องพิจารณา ไม่ใช่ว่าเกิดเหตุการณ์แล้ว เราเกิดความลำบากแล้วถึงจะไปดิ้นรนเราเตรียมเอาไว้ เผื่อเราด้วย เผื่อคนอื่นด้วย นี่ก็จะได้บรรเทาไปในระดับหนึ่ง ไม่ได้ถึงกับเป็นทุกข์มากมาย ถึงวาระตายก็ตาย อยู่ที่ไหนก็ตายถ้าจะตาย ก่อนจะตายเราก็พยายามแก้ไขให้ได้เสียก่อน เพราะว่าทุกคนเกิดมาเท่าไหร่ก็ตายหมด ไม่ตายช้าก็ตายเร็ว ที่มารับเอาโลงศพวันละสามโลง สี่โลง ห้าโลง เจ็ดโลง อยู่อย่างนี้ ทุกวันๆ เลย แทบทุกวันเลย โลงนี้ต้องสั่งมาเดือนละครั้ง หรือเดือนละสองครั้งก็มี ครั้งละสี่สิบโลง ห้าสิบโลง เที่ยวนี้หลวงพ่อสั่งมาห้าสิบโลง นี่แหละความตาย ไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลา

ขณะที่ยังมีลมหายใจ คนเราก็ยังมีปากมีท้อง ยังกินอยู่ขับถ่ายอยู่ บางคนก็มีพร้อม บางคนก็ไม่มีพร้อม เขาก็ต้องวิ่งเข้ามาวัด มาอาศัยวัด ถึงจะบังคับยังไง ถึงจะปิดยังไงก็เอาไว้ไม่อยู่หรอกถ้าถึงเวลาเราก็เตรียมพร้อมไว้ให้ สำหรับพวกเราด้วย แล้วก็สำหรับคนที่จะเข้ามาด้วย ข้าวมีเท่าไหร่ให้เอาไปสีให้หมดนะ แล้วก็เก็บไว้ดีๆ เก็บไว้ดีๆ มีเท่าไหร่เราก็จะอนุเคราะห์ให้หมดจนกว่าจะตายจากกันนั่นแหละ พวกเราก็พยายามดูแล ดูแลความเป็นอยู่ของเราไม่ให้ขาดตกบกพร่อง เครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ เครื่องทำกับข้าวกับปลา เครื่องปรุงอาหารต่างๆ เราก็มีพร้อมอยู่ระดับหนึ่ง ไม่ให้ขาด มีตั้งแต่ล้น แจกจ่ายให้กับที่นู่นบ้างที่นี่บ้าง ทีนี้เราก็ให้เตรียมพร้อมเอาไว้ให้สมบูรณ์แบบ เตรียมรอเอาไว้ เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาเมื่อไหร่ ดูท่าที อันนี้ฝึก เพียงแค่เริ่มต้นเพียงแค่เริ่มต้นก็เริ่มเยอะแล้ว ไม่กี่วันก็เป็นพันกว่าแล้ว

เราก็อย่าประมาท ดูเรา รักษาเรา แก้ไขเรา ปรับปรุงตัวเรา แล้วก็อนุเคราะห์เพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน พวกชีก็อย่าพากันเกียจคร้าน อยู่กุฏิของใคร อยู่ข้างกุฏิของใคร พอมีที่ดินว่างก็ทำปลูกผักทิ้งเอาไว้ รดน้ำ รดฝุ่น รดปุ๋ย สวนส่วนรวมก็อยู่ที่สวนกล้วย ประมาณห้าหกไร่ สี่ห้าไร่ ห้าหกไร่นี่แหละ ปลูกเต็มที่เลย ส่วนหนึ่งเราก็ปลูกเอาไว้เยอะแล้วแหละ เราก็จะปลูกเพิ่มเสริมเติมเข้าไปอีก ไม่ให้ลำบาก ส่วนมากก็ติดขัดมา ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่อาศัยเพียงแค่สมมติ ก็ขาดที่พึ่ง เขาก็จะได้มาพึ่งสมมติของเรา

ส่วนทางด้านจิตใจยิ่งหนักเข้าไปอีก ถ้าคนไม่รู้จักแก้ไข ที่พึ่งภายนอกก็ลำบาก จิตใจยิ่งดิ้นรนใหญ่เลยทีนี้ เราก็ช่วยกันทุกอย่าง ปลูกเครื่องหอม เครื่องครัวต่างๆ ผักโหระพา ผักอะไรต่างๆก็ตามที่โรงทานข้างล่าง ตามที่เนินดิน ตามที่หลวงพ่อวางปุ๋ยเอาไว้ ตามกรอบที่จะปลูกต้นไม้ก็ปลูกได้เลย ลงได้เลย เพราะเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ ที่ผสมปุ๋ยเอาไว้หมด ปลูกพืชผักสวนครัวทิ้งเอาไว้ให้รอบวัดเลย ปลูกมะละกอ พวกนี้เอามาปลูกก็ปลูกเยอะอยู่ มะละกอก็ปลูกเยอะอยู่ อะไรที่จะหยิบฉวยได้เวลาจำเป็น ผักต่างๆ ก็เอามาผัดได้ เอามาลวกได้ ตำพริกตำแจ่วก็ทานได้บรรเทาไปได้แต่ละวันๆ

ยังไงเหตุการณ์ต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นอยู่ดีๆ เพราะว่าทั่วโลกเขาก็เกิดขึ้นมามากต่อมาก เมืองไทยเพิ่งจะเริ่มไม่รู้จะไปหยุดอยู่ที่ตรงจุดไหน ถ้าไม่เกิดได้ยิ่งดีใหญ่ แต่มันก็ห้ามยากเสียแล้ว เราก็ต้องช่วยกันแก้ไข ช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่ตัวเอง อันนี้เหตุการณ์อย่างเดียว เราต้องแก้ไขเหตุการณ์สถานการณ์ แก้ไขไม่ได้ก็เป็นเรื่องของกรรมแต่ละบุคคล แก้ไขระดับสมมติกรรมสมมติเราก็แก้ไขให้ดี กรรมวิมุตติส่วนทางด้านจิตใจนั้นก็เป็นของแต่ละบุคคล อะไรเราพอช่วยกันได้เราก็ช่วย อนุเคราะห์กันได้เราก็อนุเคราะห์

ส่วนการงานต่างๆ ในวัด เราก็ช่วยกันทำ อันไหนพอทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ให้ช่างเขาทำ อย่าไปเกียจคร้าน ถือเสียว่าเราได้พักผ่อน พักผ่อนกับการกับงาน มีความสุขในการสร้างบารมี มีความสุขในการสร้างสะสมคุณงามความดี ให้กับส่วนรวมให้กับส่วนกลาง ไม่เป็นทรัพย์สมบัติของคนใดคนหนึ่ง เป็นทรัพย์ของแผ่นดิน เป็นทรัพย์ของส่วนรวมส่วนกลางมาใช้ร่วมกันได้หมด ทั้งใกล้ทั้งไกล เราจะไปห้ามไม่ได้ นี่มาอาศัยอยู่ จนกว่าจะหมดลมหายใจ ถ้าหมดลมหายใจแล้วก็ต้องไป นี่ดำเนินกันไปคนละทิศ ละที่ละทาง

พวกเรามีบุญร่วมกันนั่นแหละถึงได้มาอยู่ร่วมกัน เราจะไปห้ามคนโน้นไม่ให้เข้า คนนี้ไม่ให้เข้าเราห้ามไม่ได้หรอก เราก็เปิดกว้าง เปิดกว้างแต่เราก็ไม่ประกาศ เราก็เปิดกว้างไว้รอทุกคนไว้ตลอด แต่เราก็ไม่ห้าม ใครจะมาก็มา มาอาศัยแต่ก็ต้องรู้จักแก้ไขตัวเองบ้าง ปรับปรุงตัวเราบ้างกินก็รู้จักล้าง จะทำความสะอาด เป็นคนมีระเบียบ แก้ไขตัวเรา แล้วก็รักษาตัวเรา รักษาคนอื่น

พวกชีก็พยายามทำหน้าที่ให้ดี การแจกจ่ายอาหาร ก็ตักให้ ไม่ให้ตักรุ่มร่าม ให้คอยตักให้ ใครจะมามากมาน้อย หรือตักห่อวางเอาไว้ก็ได้ ใครมาก็จะได้หยิบไปทาน หิวๆ มานี้ลำบากนะลำบาก ถ้าได้ทานข้าวปลาอาหารแล้วก็กายก็ดีขึ้น ใจก็จะดีขึ้น ก็อนุเคราะห์ให้ได้ในระดับหนึ่งตักกับข้าวกับปลาใส่ห่อใส่ถุงวางเอาไว้ หรือจะทานข้าวปลาอาหารก็ให้ทานห่างๆ ให้นั่ง ไม่ให้จัดโต๊ะ ให้จัดนั่งเฉพาะเก้าอี้ห่างๆ ให้ตักให้ ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างตัก ต่างนั่น เดี๋ยวจะเป็นการขยายเชื้อ ถ้ามีก็ให้ตักให้ ต่อไปข้างหน้าก็ห่อ เพราะว่ามีหลายส่วนหลายคณะที่มาคอยรับประทานข้าวปลาอาหารที่โรงทาน ทั้งพวกญาติโยมข้างนอก ทั้งญาติโยมภายใน ทั้งทางตำรวจก็มาคอยรับเอาอยู่ ก็อนุเคราะห์กันไปเท่าที่กำลังของพวกเรามี

ตั้งใจรับพรกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง