หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 098

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 098
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 098
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกันสักพักหนึ่ง ทำใจของเราให้สงบ ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ นั่งตามสบายวางกายให้สบายแล้วก็วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราวถึงเราละไม่ได้ ไม่ต้องพนมมือนั่งตามสบายวางกายให้สบาย ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายของเราก็สงบระงับตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกรับรู้เวลาลมวิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราก็ชัดเจน เวลาลมวิ่งออกกระทบปลายจมูกก็ชัดเจน เราพยายามสร้างความรู้สึกตรงนี้แหละ แล้วก็พยายามสร้างความรู้สึกตรงนี้ให้ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม

ส่วนมากความคิดเก่าที่เกิดจากตัวใจของเรา หรือว่าความคิดที่เกิดจากขันธ์ห้าของเราอันนี้มีอยู่เดิม การเกิดการดับของความคิดของอารมณ์อันนี้มีอยู่เดิม เขาหลงอยู่ในความรู้ตรงนี้อยู่ เราถึงได้มาสร้างความรู้ตัวหรือว่ามาสร้างวิชา มาเจริญสติเข้าไปสำรวจใจของเราเข้าไปพร่ำสอนใจของเรา การเกิดของใจของเราเขาก่อตัวตรงไหน เรื่องอะไรที่เขาเกิด ความคิดผุดขึ้นมาใจของเราเคลื่อนเข้าไปรวมได้อย่างไร เราต้องพยายามหัด หัดวิเคราะห์หัดสังเกตหัดวิเคราะห์ เรามาสร้างตัวรู้เข้าไปวิเคราะห์ดู รู้ไม่ทันต้นเหตุเราก็รู้จักควบคุมเอาไว้ ทั้งที่ใจของเราใจของทุกคนนั้นก็เป็นบุญ ปรารถนาอยากจะได้บุญอยากจะรู้ธรรม ความปรารถนาความอยากนั่นแหละปิดกันเอาไว้ ผ่านกาลผ่านเวลาหลายภพหลายชาติ

แต่เวลานี้อยู่ในภพของมนุษย์ ได้เกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์ก็มีการพัฒนา มีการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เด็กเป็นเด็กเล็กเด็กโต ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน มีความรับผิดชอบผิดถูกชั่วดีต่างระดับ ผ่านกาลผ่านเวลา​ บางคนบางท่านก็เรียนจบได้ทำการทำงาน บางคนบางท่านก็สมมติบริบูรณ์ บางคนบางท่านก็สมมติยังไม่บริบูรณ์

ทุกคนก็มีบุญถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ทุกคนก็ได้ปฏิบัติธรรมกันมาก่อน แต่การเจริญสติเข้าไปเดินปัญญาแยกรูปแยกนามตามดูตามรู้ตามเห็น ตัวจิตตัววิญญาณอยู่ในกายเนื้ออยู่ในขันธ์ห้าของเรา ตรงนี้ขาดการจำแนกแจกแจงกัน ก็เลยไม่เข้าใจในชีวิตก็เลยไปมุ่งเอาตั้งแต่ทางด้านรูปธรรมอย่างเดียว กิเลสต่างๆ ก็เลยปิดกั้นเอาไว้ก็เพราะว่าความหลงเข้าครอบงำอยู่หลงเกิด

เราถึงได้มาเจริญสติ มาหัดวิเคราะห์มาหัดสำรวจมาทำความเข้าใจ มาทำความเข้าใจมาศึกษามาค้นคว้าชีวิตของเรา กายของเราเป็นอย่างไร วิญญาณของเราเป็นอย่างไร แต่ละวันตื่นขึ้นมา คำว่าสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร เราถึงได้มาสร้างมาสร้างมาทำความเข้าใจ ใจไม่สงบเราก็พยายามทำใจของเราให้สงบ ใจของเรายังเกิดอยู่เราก็พยายามรู้จักระงับยับยั้งรู้จักควบคุม ในหลักธรรมท่านเรียกว่า ‘สมถะ’ สมถภาวนา
ถ้ากำลังสติความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเราก็จะเห็นลักษณะของใจ การแยกการคลายการตามดู รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในความคิด รอบรู้ในอารมณ์ของเรา เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร ปฏิบัติใจอย่างไร อะไรคือกายกรรมวจีกรรมมโนกรรม เราต้องหัดศึกษาหัดค้นคว้าขณะเรายังมีลมหายใจอยู่ วันนี้ก็เป็นวันที่ 29​ ใกล้จะเข้าพรรษา เหลืออีกวัน​ 2-3 วัน ก็จะวันที่ 3 วันที่ 2 วันที่ 3 ก็จะวันเป็นวัน​ปราวารณาเข้าพรรษากัน ปีหนึ่งผ่านไปแป๊บเดียวเผลอแป๊บเดียวผ่านเร็วไว เราก็จะไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้ง โอกาสอานิสงส์แห่งบุญแห่งทานแห่งการเจริญภาวนา​

การที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นี่ก็ยากแสนยาก เราต้องมาศึกษามาค้นคว้ามาแสวงหาหนทางที่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน วันนี้ญาติโยมของเราก็เยอะ ญาติพี่น้องของเราก็เยอะทั้งใกล้ทั้งไกล ก็พากันมา อีกอย่างหนึ่งทั้งลูกหลานๆ เด็กๆ ทางโรงเรียนราชภัฏเลยเขาพากันมาตั้งแต่เมื่อวาน เขาพากันมาหลายคนพากันมาที่วัด มาศึกษามาค้นคว้ามาทำความเข้าใจ ในชีวิตของเราก็อาจจะลำบากหน่อยนะ

เมื่อคืนนี้ฝนฟ้าก็ตกก็ลงที่พักที่อาศัยก็ยังไม่เพียงพอกัน อย่างที่เราเห็นนี่แหละ เวลาญาติโยมมาเยอะสถานที่ก็ไม่เพียงพอกัน พระเราก็เยอะชีเราก็เยอะทั้งญาติโยมที่มาช่วยการช่วยงาน ลำบากกายสถานที่คับแคบก็คงไม่เป็นไร แต่ใจอย่าให้ลำบากให้ใจของเรามีความสุข มีอะไรเราก็ช่วยกันทำ รู้จักหน้าที่รู้จักรับผิดชอบ มีความรับผิดชอบต่อภาระต่อหน้าที่ของเรา

และอีกอย่างหนึ่งวันนี้ก็จะได้บวชนาคกันหลายคนหลายท่าน ที่ได้ลางานมาบวชมาศึกษากัน สถานที่ของเราก็อาจจะคับแคบก็คงจะไม่เป็นไร เพราะว่าอานิสงส์แห่งบุญเราปิดกั้นกันเอาไว้ไม่ได้ มีโอกาสก็อยากจะมาน้อมกายของเรา มาทำบุญมาสร้างบุญมาสร้างบารมีให้มีให้เกิด มาเจริญสติ​ มาเจริญปัญญา

ถ้าเราเข้าใจเราเจริญสติได้ตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา การเจริญสติ ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างนี้ การควบคุมใจ การสังเกตการวิเคราะห์ เราขาดตกบกพร่องอะไรในแต่ละวัน ตื่นเช้าขึ้นมาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเรามีหรือไม่ เรามีความขยันหมั่นเพียร เรามีความรับผิดชอบ เราไม่เห็นแก่ตัวเราพยายามกำจัดความเห็นแก่ตัวออกจากใจของเรา ใจของเราเกิดกิเลสเมื่อไร เราก็รู้จักละรู้จักหัดเจริญพรหมวิหารให้มีให้เกิดขึ้น มองโลกในทางที่ดี ทำวันนี้ให้ดีอนาคตก็จะออกมาดี พยายามอย่าไปมองข้ามอย่าไปมองข้ามแหล่งบุญ

เพียงแค่คิดดีก็เป็นบุญ ใจของเรามีความสงบมีความสุขใจของเราก็เป็นบุญ สมมติภายนอกเราก็ยังหน้าที่ของเราให้เกิดประโยชน์ จากภาระเป็นหน้าที่มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัวมีความเสียสละ ไม่ปล่อยวันเวลาทิ้ง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนอยู่ที่บ้านที่ไร่ที่นาที่ทำการทำงาน ตอนนี้เรามีหน้าที่เวลานี้ เรามา มีหน้าที่อย่างไรเราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี ขยันหมั่นเพียรอนาคตก็จะออกมาดี ก็พยายามกันนะ เพราะว่าทุกคนก็เกิดมาเพื่อที่จะดำเนินเดินทางให้ถึงจุดหมายปลายทางกันคือความสะอาดความบริสุทธิ์ของจิตใจ ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ทำค่อยๆ บริหาร ไปเรื่อยๆ ผิดพลาดเราก็แก้ไขใหม่ ผิดพลาดเราก็แก้ไขใหม่ ก็จะส่งผลถึงอนาคตที่ดี เพียงแค่เรื่องการเจริญสติเราก็พยายามสร้างไปเรื่อยๆ

การทำบุญการให้ทานทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม การศึกษาการประพฤติการปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา เราก็ต้องดำเนินไป กิเลสเกิดขึ้นเมื่อไรเราก็รีบแก้ไข อะไรเราผิดพลาดวันนี้เราก็รีบแก้ไขวันนี้ ผิดพลาดเดี๋ยวนี้เราก็รีบแก้ไขเดี๋ยวนี้ จะส่งผลดีในอนาคตในวันข้างหน้า

ลองสร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง ทำใจให้โล่งสมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรา อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ ไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อเอานะ อันนี้เพียงแค่เล่าให้ฟังเท่านั้นเอง

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง