หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 38 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 38 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 38 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2559
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 38
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2559

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย แล้วก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสําเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน กายของเราก็สบายขึ้น ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น

ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจ หายใจเข้ายาวๆ ผ่อนลมออกมายาวๆ ให้เป็นธรรมชาติ อย่าไปบังคับ ถ้าเราบังคับ ถ้าเราตั้งสติหรือว่าส่วนบนจดจ่อจดจ้องเกินไป สมองก็จะตึง เราเอาใจไปจดจ่ออยู่ที่ปลายจมูก หน้าอกก็จะแน่น เพียงแค่เราหายใจให้เป็นธรรมชาติที่สุด การสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ก็จะหยุดระงับลงไปทันที ความรู้สึกสัมผัสที่ลมกระทบปลายจมูกของเรานั่นแหละ ภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘สติรู้กาย’

เราพยายามสร้างขึ้นมาบ่อยๆ หัดสังเกตบ่อยๆ หัดสํารวจบ่อยๆ หัดสังเกตหัดทําความเข้าใจบ่อยๆ มีศรัทธาน้อมกายน้อมใจเข้ามา เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย แล้วก็ปฏิบัติตามคําสอนของพระพุทธองค์ว่าท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องชีวิตของเรานั่นแหละ ไม่ได้สอนเรื่องอะไรหรอก ก็สอนเรื่องชีวิตของเรา สอนเรื่องกายของเราว่ามีอะไรบ้าง กายของเรานี่มีขันธ์ห้า มีวิญญาณเข้ามาครอง ทําอย่างไรเราถึงจะเข้าใจ เราถึงได้มาเจริญสติลงที่กาย มาสํารวจ มาวิเคราะห์ มาอบรมใจของตัวเรา

ใจทุกดวงนั้นบริสุทธิ์มาอยู่แต่ก่อน ความไม่รู้ ความหลง ทําให้เขาเกิดอยู่ในภพน้อยอยู่ในภพใหญ่ จนกระทั่งมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ มาสร้างกายเนื้อมีขันธ์ห้ามาปิดกั้นตัวใจเอาไว้ ใจก็มาหลง มายึด แล้วก็มาเกิดต่อ เกิดต่อก็ยังไม่พอ แล้วก็ยังเป็นทาสของกิเลสอีก กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ความเกิดอีก หลายสิ่งหลายอย่าง ก็ต้องมาศึกษาค้นคว้าทําความเข้าใจ มาขัดเกลา หมั่นสํารวจใจของเรา

แต่ละวันๆ เรามีความรับผิดชอบเพียงพอหรือไม่ เรามีความขยันหมั่นเพียร เรามีการสํารวจตรวจตรา จิตใจของเรามีความแข็งกร้าว มีความแข็งกระด้างเราก็พยายามละ สร้างความอ่อนน้อมถ่อมตน สร้างความกตัญญูกตเวที สร้างความเสียสละ สร้างความรับผิดชอบให้มีให้เกิดขึ้น เรามีความเกียจคร้าน เราก็สร้างความขยันหมั่นเพียรขึ้นมา เราไม่มีความรับผิดชอบ เราก็พยายามสร้างความรับผิดชอบขึ้นมา เพียงแค่ระดับสมมติ เราก็พยายามทําให้ดี

ถ้าถึงเวลา ถ้าเราหมั่นวิเคราะห์ ทําความเข้าใจอยู่บ่อยๆ ถึงเวลาสักวันหนึ่งเราก็จะเข้าถึงตัวใจของเรา ทําใจของเราให้สะอาดให้บริสุทธิ์ หมั่นฝักใฝ่ หมั่นสนใจ ค่อยพัฒนาสติปัญญาของเราไปเรื่อยๆ สักวัน เวลาสติปัญญาของเราแก่กล้าขึ้นเราก็จะเข้าใจในเรื่องของชีวิตของเรา ว่า ‘การเกิด’ เกิดทางรูปเกิดทางนาม เกิดเป็นกุศลหรือว่าอกุศล กายทําหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทําหน้าที่อย่างไร ใจทําหน้าที่อย่างไร เราก็รู้จักวิเคราะห์พิจารณา ถึงเราเดินปัญญาไม่ได้ก็ให้น้อมใจของเราให้อยู่ในกองบุญ เป็นบุคคลที่มีความเสียสละ ไม่เอารัดเอาเปรียบคนโน้นคนนี้ ไม่เอารัดเอาเปรียบหมู่คณะเพื่อนฝูง

พวกเด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ก็พากันมา พากันมา ครูบาอาจารย์ก็พากันมา มาพัฒนา มาศึกษา เปลี่ยนบรรยากาศ มาแก้ไขตัวเรา แต่ละวันเรามีความรับผิดชอบ เรามีความขยันหมั่นเพียรหรือไม่ ค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ จากเด็กก็จะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่มีการศึกษาการเล่าเรียน ผ่านกาลผ่านเวลา ผ่านความรับผิดชอบโตขึ้นไป เราก็จะได้พัฒนาสติปัญญาของเราไปในทางที่ถูก เป็นบุคคลที่มีความเสียสละ อดทนอดกลั้น เราออกจากบ้าน ออกจากบ้านมาพักที่วัดได้คืนหนึ่ง สองคืน สามคืน ก็มาสร้างอานิสงส์ สร้างตบะ สร้างบารมี คนเราค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ จากเด็กเป็นผู้ใหญ่ จากผู้ใหญ่ก็จะมองเห็นความเป็นจริงของชีวิต อย่าพากันเกียจคร้าน

การเป็นทาสของกิเลส กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร ครูบาอาจารย์ก็คอยอบรม อยู่ที่บ้านพ่อแม่ก็อบรม อบรมประพฤติปฏิบัติ พาประพฤติปฏิบัติขัดเกลาตัวเรา ไปโรงเรียนครูบาอาจารย์ก็ช่วยชี้แนะแนวทางให้ แล้วก็พาน้อมนํามาหาประสบการณ์กับพระคุณเจ้า มีอะไรก็แก้ไขตัวเรา

การปฏิบัติธรรม ก็คือการแก้ไขตัวเราเองนั่นแหละ สํารวจตัวเราอยู่ตลอดเวลาว่าใจของเรามีกิเลสหยาบ กิเลสละเอียด ใจของเรามีความแข็งกร้าวแข็งกระด้างก็รู้จักแก้ไขรู้จักปรับปรุง เอาใจเขามาใส่ใจเรา เอาใจเราไปใส่ใจเขา พิจารณาอยู่บ่อยๆ ทําความเข้าใจอยู่บ่อยๆ โตขึ้นไปก็จะได้รู้ความเป็นจริง เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก พวกเราก็พยายามศึกษาให้ชํานาญ หัดสังเกต หัดวิเคราะห์ หัดทําให้ต่อเนื่อง เมื่อโตขึ้นไปเราก็จะรู้ลึกลงไปอีก อะไรคือรูป อะไรคือนาม

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันนะ อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมหายใจเข้าหายใจออกวิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ทําสมองให้โล่ง ทําใจให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้เชื่อมโยงกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยพากันศึกษาทําความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง