หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 36 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 36 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 36 วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 36
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559

มีความสุขกันทุกคน วันนี้อากาศแจ่ม ตื่นแต่เช้าอากาศสดชื่นดี ผ่านงานกฐินสามัคคี เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน พระเราก็ช่วยกัน มีอะไรก็ช่วยกันจะได้เป็นระเบียบ ทั้งพระใหม่พระเก่า รู้จักการเจริญสติการเจริญภาวนา การวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเรา บวชใหม่หลายรูป ก็พยายาม มีอะไรก็ให้มาถามท่านอาจารย์ ท่านเจ้าคุณตาเด้อ มีการปฏิบัติ การทําวัตร การสวดมนต์ ก็พากันลงมาให้ได้ อย่าพากันปล่อยปละละเลย มีความขยันหมั่นเพียร มาฝึก มาศึกษาตัวเรา เราติดขัดอะไร เรามีความขยันหรือว่าเรามีความเกียจคร้าน เราก็พยายามละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้นในใจของเรา การเจริญสติเป็นอย่างไร การทําหน้าที่ของเราให้ดี

พระก็เยอะ ชีก็เยอะ อยู่กันคนละทิศละที่ ต่างคนก็ต่างปรารถนาหาทางดับทุกข์ เราก็พยายามแก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา อยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่านก็ให้มีความสมัครสมานสามัคคี อย่าอคติ อย่าเพ่งโทษกัน มีอะไรก็ให้ช่วยกันทํา งานเล็ก งานใหญ่ งานน้อยภายในวัด จัดระบบระเบียบ ทั้งสมมติ ทั้งวิมุตติ พยายามให้รอบรู้ในกองสังขารในดวงวิญญาณในกายของเรา รอบรู้ในโลกธรรมในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว การกระทําของเราให้ถึงพร้อม ละความเกียจคร้าน สร้างความขยัน สร้างความรับผิดชอบ สร้างความอ่อนน้อมถ่อมตน มองโลกในทางที่ดี แล้วก็คิดดี ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ขณะที่เรายังมีกําลัง ยังมีลมหายใจ พวกเรามีโอกาสมากก็ได้ช่วยกัน ช่วยเหลือกันมาก

โอกาสเปิดกาลเวลาเปิดแล้วก็ให้รีบทํา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การอบรมใจของเราเป็นอย่างนี้ พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร เราต้องพยายามศึกษาสร้างให้มี ให้เกิด​ ให้รู้ ให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา คําว่าการเจริญสติที่ต่อเนื่องเชื่อมโยงเป็นอย่างไร ศรัทธาเป็นอย่างไร ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนาให้รู้แจ้งเห็นจริงเป็นลักษณะอย่างไร การละกิเลส กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นอย่างไร เราต้องศึกษาให้ละเอียด กายของเราทําหน้าที่อย่างไร

จนกระทั่งถึงเวลานี้เดี๋ยวนี้ ความอยาก ความอยากความหิวเราแยกได้แล้วหรือยัง ความหิวเกิดขึ้นที่กาย ความอยากเกิดขึ้นที่ใจ เราก็พยายามดับความอยาก หยุดความอยาก ความอยากมีอยากเป็น ไม่อยากมีไม่อยากเป็น ความเกิดนั่นแหละ ความเกิดของใจ ความเกิดของใจเรา หยุดความเกิดของใจ หัดสังเกต หัดวิเคราะห์ จนใจคลายออกจากความคิดคลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเป็นส่วนนามธรรมด้วยกัน ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ แยกรูปแยกนาม ใจก็หงาย เหมือนกับหงายของที่คว่ำ หงายขึ้นมาใจก็โล่ง ใจก็โปร่ง กายก็เบา แล้วก็จะเห็นความเกิดความดับของขันธ์ห้า ซึ่งก็ว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ เราก็จะระลึกนึกถึงท่านว่า ความจริงอันประเสริฐที่พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบนั้นมีอยู่จริง พระพุทธเจ้ามีจริง ไม่ใช่ว่าไม่มี ท่านค้นคว้าตรัสรู้ด้วยตนเอง แล้วก็เอามาเปิดเผยจําแนกแจกแจง ในเมื่อเราแยกแยะได้ ตามดูรู้เห็นความเป็นจริง ละกิเลสได้ เราก็จะระลึกนึกถึงคุณของท่าน ว่าพระพุทธเจ้านี้มีจริง ท่านก็ปรินิพพานไปหลายพันปี สองพันร่วมสามพันปีแล้ว ความจริงที่ท่านได้ค้นพบก็ยังปรากฏขึ้นมีอยู่

ท่านบอกว่าให้ปฏิบัติตามคําสอนเสียก่อน ตามแนวทางเสียก่อน ให้ปรากฏขึ้นที่ใจ ท่านถึงบอกให้เชื่อ ใจที่ไม่มีกิเลส ใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่คลายจากขันธ์ห้า จากการละกิเลส จากหยาบไปหาละเอียด ให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา เราก็จะเห็น เห็นความบริสุทธิ์ เห็นความหลุดพ้น มองเห็นหนทางเดิน ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน การเกิดก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่เกิดก็ไม่หลง ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เกิดทางด้านจิตวิญญาณ ขณะนี้ใจของเราหลงมาเกิด มาหลงตั้งแต่ยังไม่ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ จนมาสร้างภพมนุษย์ขึ้นมา แล้วก็มาหลงมายึดต่อ แล้วก็เกิดต่อ ตราบใดที่ยังดับความเกิดไม่ได้ ใจก็ต้องเกิดต่อ

พระพุทธองค์ท่านถึงให้มาทําความเข้าใจขณะยังมีกําลังกายอยู่ อาศัยการเจริญสติลงที่กาย แล้วก็อบรมใจ คลายใจออกจากความคิด คลายใจออกจากขันธ์ห้า แล้วก็ละกิเลสที่มีเกิดขึ้นที่ใจ กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด แล้วก็ดับความเกิดของใจ กายเนื้อแตกดับ ใจก็ไม่เกิด ใจก็เข้าสู่ความบริสุทธิ์หรือว่านิพพาน

การพูดง่าย แต่การลงมือนี่ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรเป็นเลิศ ความเพียรในการขัดเกลากิเลส ไม่ว่าอิริยาบถไหน เราต้องพยายามดู เราบอกเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น หมั่นพร่ำสอนใจของตัวเราอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราสอนเราไม่ได้เราอย่าไปเที่ยวให้คนอื่นเขาสอน ไม่เกิดประโยชน์ ตื่นขึ้นมาใจเป็นอย่างไร กายเป็นอย่างไร อะไรคือหน้าที่ อะไรคือความรับผิดชอบ ต้องขยันหมั่นเพียรอยู่ตลอดเวลา พยายามเดินให้ถึง ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชายก็มีจิตวิญญาณ มีอาการ 32 มีอัตภาพร่างกายธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เหมือนกันหมด ในหลักธรรมแล้วก็ไม่มี มีตั้งแต่ธาตุ มีตั้งแต่ธาตุ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ยืมเขามาใช้ มีแต่ในสมมติบัญญัติ ในสมมติก็มีว่าตัวเราตัวเขา ตัวเรา ตัวเขา ตัวฉัน ตัวกู ตัวมึง มีขันธ์ห้า ถ้าขันธ์ห้าแตกดับ มันก็เหลือตั้งแต่วิญญาณ

เรามาจัดการอบรมใจของเราให้ได้ขณะยังมีกําลังกายอยู่ ให้มันสั้นลง ให้มันตัดภพตัดชาติให้สั้นลง ขณะนี้ยังอยู่ในภพของมนุษย์ ภพของมนุษย์ ชาติของมนุษย์ การเกิดมาของมนุษย์ ทีนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลง เกิดมาแล้วก็แก่ ก็พัฒนาขึ้นมา เกิด แก่ แล้วก็เจ็บ แล้วก็ตาย นี่แหละ ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ให้เราพยายามรีบวิเคราะห์สังเกต อบรมใจของเราขณะยังมีกําลังอยู่ ไม่ใช่ไปปล่อยวันเวลาทิ้ง

ความตายนี้มาตลอดเวลา ตั้งแต่มอบโลงศพ สามปีกว่านี่ 660 กว่าโลง 67-68 โลงแล้ว เผลอแป๊บเดียว วันที่ 25 นี้ก็จะเพิ่มเข้ามาอีก 80 โลง เดี๋ยวนี้เหลืออยู่ 5, 6-7 โลง จะทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ นั่นแหละความตายไม่ได้เลือกกาลเลือกเวลา ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ 3 ปี 2-3 ปีกว่า ถ้าไม่จดเอาไว้ก็ไม่รู้ว่าคนตายมีเยอะแยะถึงขนาดนี้ จับมานั่งในศาลาคงเต็มศาลาหมด คงแน่น คงไม่มีที่นั่ง ญาติโยมก็ปวารณา บางคนบางท่านก็มาร่วมบริจาคซื้อโลงศพ บางคนบางท่านก็ซื้อเครื่องฌาปนกิจศพมาช่วย หลวงพ่อก็ขอขอบใจ

มีโอกาส แล้วก็ได้มาช่วยคนที่ตายหรือว่าวายชนม์ บางทีไปดูแลรักษาก็หมดเงินหมดทอง เวลาตายไปแล้วก็ยิ่งลําบากหนักอีก นี่ก็เลยจัดตั้งอนุเคราะห์ขึ้นมาให้ศพละ 5,000 แล้วก็ผ้าไตรจีวรไปชักผ้าบังสกุล ผ้าขาว ธูปเทียน แล้วก็โลงอีก1 โลง ที่จัดทํามาก็ปาเข้าไปตั้ง 600 กว่า 660 กว่าแล้ว เผลอแป๊บเดียว จากนี้ไปหาวันหมดลมหายใจ ก็คงจะได้ช่วยเหลืออีกเยอะถ้าไม่ไปก่อน ไม่ว่าเขาว่าเราเกิดมาเท่าไรก็ตายหมด ไม่ตายช้าก็ตายเร็ว ตายภายในเจ็ดวัน ตายวันจันทร์ถึงวันอาทิตย์

ขณะที่ยังมีกําลังอยู่ให้รีบ รีบทําความเข้าใจ สร้างประคับประคองใจของเราให้ถึงฝั่ง ให้ถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ ทํางานไปด้วยดูใจไปด้วย มีความสุข รักษากายรักษาใจของเรา ไม่ใช่ว่าความคิดมันเล่นงานอยู่ตลอดเวลา กิเลสมันเล่นงานอยู่ตลอดเวลา กว่าจะผ่านอุปสรรคได้ก็ใช้กาลใช้เวลา ใช้ความเพียรอย่างยิ่งยวด

ตั้งใจรับพรกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง