หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 29 วันที่ 2 เมษายน 2560

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 29 วันที่ 2 เมษายน 2560
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 29 วันที่ 2 เมษายน 2560
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 29
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 2 เมษายน 2560

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเองให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย แล้วก็วางใจให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว การสูดลมหายใจยาวผ่อนลมหายใจยาว กายของเราก็รู้ว่าสึกสบายขึ้นเยอะ ใจของเราจะนึกคิดไปที่ไหนเขาก็หยุดสงบระงับลงทันที

เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออก อานาปานสติพวกเราก็พยายามสร้างขึ้นมาให้เกิดความเคยชิน อย่าไปปล่อยปละละเลย เราหายใจตั้งแต่เกิดจากท้องแม่มา ถ้าหยุดการหายใจสัก 5 นาที 3 นาที อันนี้ก็หมดสภาพทันที เราพยายามหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ หัดสำรวจ หัดทำความเข้าใจ คนเราอยู่เนื่องด้วยการหายใจเป็นหลัก ถ้าหมดลมหายใจ ก็สภาพร่างกายของเราก็กลับคืนสู่สภาพเดิมคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

การเจริญสติก็เพื่อที่จะรู้เท่าทัน ใจที่เกิดหรือว่าวิญญาณในกายของตัวเรานั่นแหละ วิญญาณหรือว่าใจของเรานี่หลงมาตั้งนาน หลงมาเกิดอยู่ในภพน้อยอยู่ภพใหญ่ จนกระทั่งถึงเวลามาสร้างภพมนุษย์ มีขันธ์ห้ามาปกปิดตัวใจเอาไว้ ภพมนุษย์ก็มีส่วนนามคือตัวใจกับอาการของใจ ส่วนร่างกายหรือว่ารูปธรรมก็คือร่างกายของตัวเรา

พระพุทธองค์ท่านให้เจริญสติเข้าไปดู รู้เท่าทัน จนใจของเราคลายออกจากนามธรรม อาการของขันธ์ห้าซึ่งเป็นความคิด ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมซึ่งเรียกว่า แยกรูปแยกนาม ใจหงายขึ้นมา ใจก็จะว่างกายก็จะเบา ความรู้ตัว เราก็ตามเห็นการเกิดการดับของความคิดของอารมณ์ต่างๆ ที่ท่านบอกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความเกิดขึ้น แล้วก็ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ความว่างเปล่า อนัตตาเข้ามาปรากฏ เรื่องใหม่เข้ามา ใจของเราไปหลงเอาความคิด ทำให้เกิดอัตตาตัวตน แต่อัตตาทางสมมติก็มีอยู่

เราพยายามปรับสภาพใจของเราให้อยู่ในพรหมวิหาร ให้อยู่ในความเมตตา ให้อยู่ในความอ่อนน้อมถ่อมตน ละทิฏฐิ ละความเห็นผิด ละกิเลส กิเลสก็มีหลายชั้น กิเลสหยาบๆ อันนี้อาจจะเห็นได้ง่าย กิเลสละเอียดไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ จนความเกิดของใจ ก็ต้องพยายามน้อมใจของเราให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ ถึงเราดับความเกิดไม่ได้ ละ เดินปัญญาไม่ได้ ก็ขอให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้เป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไปจนกว่าเราจะเดินทางให้ถึงจุดหมายคือ ความสะอาดความบริสุทธิ์ของใจ ความไม่เกิดของใจ

มีโอกาสไม่ว่าที่ไหน ตั้งแต่ตื่นขึ้น ให้เรารีบทำบุญกับตัวของเรา ความรับผิดชอบของเรามีหรือไม่ ความขยันหมั่นเพียร ความเสียสละ ความอดทน ว่าอะไรควรทำก่อนอะไรควรทำหลัง อะไรบุญมากอะไรบุญน้อย อะไรที่จะเป็นประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ฝากเอาไว้ในสมมติ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนให้มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ความขยันหมั่นเพียรก็ต้องถึงพร้อมถึงจะเกิดประโยชน์ เราก็พลอยได้รับประโยชน์นั้นด้วย

ขณะที่เรายังมีลมหายใจ เราก็ยังสมมติของเราไม่ได้ให้ลำบาก กายของเราก็ไม่ได้ลำบาก อย่าไปมองข้ามว่าผัดวันประกันพรุ่ง ทุกขณะจิตทุกขณะลมหายใจเข้าออกมีคุณค่ามากมายมหาศาล กำลังสติของเราถ้าเดินปัญญาไม่ได้ แยกแยะไม่ได้ สติจะพลั้งเผลอ ส่วนมากจะพลั้งเผลอเพราะความเคยชินเก่าๆ ความคิดที่เกิดจากใจ เกิดจากขันธ์ห้า ทั้งเกิดจากส่วนสมอง รวมกันไปหมด ก็เลยมองไม่เห็นความเป็นจริงว่าตัวเองหลง

นอกจากบุคคลที่เจริญสติที่ต่อเนื่องเชื่อมโยง เห็นการเกิดการดับ แยกแยะได้ ตามดูได้ เห็นตามความเป็นจริงได้ทุกอย่าง หมดความสงสัย หมดความลังเล มีตั้งแต่จะก้าวเดินให้ถึงจุดหมายปลายทาง สนุกสร้างบุญ ทำใจให้เป็นบุญ ทำกายให้เป็นบุญ ทำใจให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ เราก็จะอยู่กับบุญ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อยู่ทุกลมหายใจเข้าออกใจของเราก็จะเป็นบุญ ก็ต้องพยายามกัน อย่าไปปิดกั้นตัวเราว่าไม่มีโอกาสว่าไม่มีเวลา ทุกคนมีเวลาเหมือนกันหมด จะสร้างมามากสร้างมาน้อยเราก็มาดำเนินอยู่ปัจจุบันนี้ให้มันถูกที่ ให้มันถูกทางเสีย เราก็จะไปในทางที่ดี ก็ต้องพยายาม เพียงแค่การเจริญสติพวกเราก็ยังทำกันได้กระท่อนกระแท่น ก็ต้องพยายาม ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็ต้องพยายามทำกันเอา

สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรา อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกัน

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง