หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 28 วันที่ 2 เมษายน 2560

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 28 วันที่ 2 เมษายน 2560
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 28 วันที่ 2 เมษายน 2560
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 28
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 2 เมษายน 2560

มีความสุขกันทุกคน เช้าวันนี้อากาศเย็นสดชื่น เมื่อวานนี้ก็ได้สร้างอานิสงส์ใหญ่บุญใหญ่ ได้สร้างองค์แทนพระพุทธองค์ หล่อองค์แทนพระพุทธเจ้า เพื่อที่จะประดิษฐานเอาไว้ที่โรงเรียนไทยรัฐ ให้โรงเรียนได้กราบไหว้สักการะบูชาในสิ่งที่ควรบูชา

ส่วนการขัดเกลากิเลสเราก็ต้องเจริญสติไปอบรมใจของเราทุกวันๆ ทำไมใจถึงเกิดทำไมใจถึงหลง การเกิดของใจเป็นอย่างไร การแยกรูปแยกนามหรือว่าเจริญสติรู้เท่ารู้ทันตัวใจกับอาการของใจให้ทัน จนกว่าใจจะคลายออกแยกออกจากขันธ์ห้า แยกออกจากขันธ์ห้า หงายขึ้นมาเหมือนกับหงายของที่คว่ำ ความรู้ตัวหรือว่าปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ตามเห็นการเกิดการดับของขันธ์ห้า รู้เรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

เข้าใจในความหมายในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบ แล้วก็เอามาเปิดเผยจำแนกแจกแจงให้สัตว์โลกก็คือพวกเรานี้แหละ ได้น้อมนำไปปฏิบัติให้มี ให้เกิดขึ้นในกายในใจของเรา อยู่ด้วยปัญญา บริหารด้วยปัญญา ทำด้วยปัญญา ปัญญารู้แจ้งเห็นจริง ศรัทธา แล้วก็ให้เกิดด้วยปัญญาเห็นเหตุเห็นผล ทั้งส่วนนามธรรมทั้งส่วนรูปธรรม รอบรู้ในวิญญาณในกายในขันธ์ห้าของตัวเรา รอบรู้ในโลกธรรมในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว เราก็อยู่ด้วยปัญญา มองเห็นหนทางเดินว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิดกัน

ทุกเรื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บก็สำรวจใจปั๊บ จะลุกจะก้าวจะเดินใจเป็นอย่างไร ใจปกติใจสงบ ความคิดผุดขึ้นมาได้อย่างไร ใจของเราอยู่ในกองบุญกองกุศลหรือไม่ ใจของเรามีความสงบมีความสุขความสะอาดหรือเปล่า เราก็ต้องวิเคราะห์พิจารณาหลายสิ่งหลายอย่าง

กายของเรานี้ก็เป็นสนามรบเป็นอย่างดี สนามรบกับกิเลส เจริญสติเข้าไปอบรมใจเข้าไปชี้เหตุชี้ผล ท่านถึงบอกว่า ‘ตนเป็นที่พึ่งของตน’ ทีนี้เราก็ยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพันธะภาระหน้าที่การงานต่างๆ ให้แยกออกจากใจของตัวเรา เห็นก็สักแต่ว่าเห็น ฟังก็สักแต่ว่าฟัง กายทำหน้าที่อย่างไร เราต้องหัดวิเคราะห์จนถึงจุดหมายปลายทางกัน จนกว่าจะหมดลมหายใจจนกว่าจะไม่ต้องกลับมาเกิดกัน

การทำบุญการสร้างสะสมบุญ สร้างสะสมคุณงามความดีเป็นสิ่งที่จะต้องทำ ทำมากก็เป็นของเรา ทำน้อยก็เป็นของเรา เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย หลวงพ่อก็ขอขอบใจขอบคุณทุกคนที่ได้มาร่วมกัน แล้วก็ขอบคุณเหล่าเทวดาที่ได้มาช่วยมาร่วม เทวดาที่มีกายเนื้อ เทวดาที่ไม่มีกายเนื้อก็มาสร้างบุญร่วมกัน วันนี้ก็ประมาณสักสามโมงหรือเก้าโมง เจ้าภาพผู้ใจบุญท่านก็จะได้พาทำถวายองค์หลวงพ่อพุทธโสธรจำลองหรือว่าองค์แทนของพระพุทธเจ้านั่นแหละ

พุทธะก็คือ ผู้รู้ เราจงสร้างผู้รู้ให้มีให้เกิด แต่เวลานี้ผู้รู้ของเราคือตัวใจของเรา ทั้งหลง ทั้งเกิด ทั้งยึด บางคนก็ยึดมากบางคนก็ยึดน้อย บางคนก็หลงมากบางคนก็หลงน้อย ถ้าเราไม่ได้เจริญสติเข้าไปแยกเข้าไปคลายก็จะว่าตัวเองไม่หลง ในส่วนลึก ‘ความเกิด’ นั่นแหละคือความหลงอันละเอียด ความเกิดของใจ ใจก็มาสร้างภพมนุษย์ มาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวใจอีก ใจก็ยังเป็นทาสของกิเลสอีก กิเลสก็มีหลายชนิดกิเลสหยาบกิเลสละเอียดต่างๆ ไล่เรียงลงไป จนกระทั่งถึงการเกิดของใจมันปิดกั้นตัวเขาเอาไว้หมด

เราจงพยายามเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ เห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผล ปรับปรุงสภาพใจของเราให้อยู่ในความบริสุทธิ์ ปรับปรุงสภาพใจของเราให้มีหน้าที่รับรู้แต่ไม่ให้เกิด ให้ขยันหมั่นเพียรด้วยสติปัญญา ไอ้ตัวเกิดคือตัวปัญญา เราพยายามแยกแยะให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น

การจะขึ้นสู่ที่สูงก็ต้องอาศัยบุญอาศัยบารมี เหมือนกับเราขึ้นบันไดก็อาศัยขั้นบันได อาศัยราวบันได จนถึงตัวบ้าน ปัดกวาดทำความสะอาดบ้าน จะขึ้นจะลงก็เป็นการขึ้นลงด้วยปัญญา การปฏิบัติใจก็เหมือนกัน เราพยายามแต่ละวันๆ จิตใจของเรามีความอ่อมน้อมถ่อมตน หรือว่าจิตใจของเรามีความแข็งกร้าวแข็งกระด้าง จิตใจของเราเกิดสักกี่เที่ยวเกิดสักกี่ครั้ง เหตุจากภายนอกทำให้เกิดหรือว่าเกิดขึ้นภายในใจ อันนี้เรื่องของกายอันนี้เรื่องของใจ เขามาอยู่รวมกันได้อย่างไร เราต้องรู้จักลักษณะของการเจริญสติ เอาสติปัญญาไปใช้ เห็นเหตุเห็นผลจนทะลุปรุโปร่ง รู้แจ้งเห็นจริง หมดความสงสัย หมดความลังเลในพระพุทธองค์

คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นมีจริง พระพุทธเจ้ามีจริง เราจงพยายามน้อมนำเอาคำสอนมาปฏิบัติให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา จนใจของเราเป็นผู้รู้หรือว่าธาตุรู้ แต่เวลานี้ใจของเราก็เป็นผู้รู้อยู่ แต่รู้ทั้งรู้ ทั้งหลงเกิด หลงยึดสารพัดอย่าง อันนั้นก็ของเรา อันนี้ก็ของเรา ในทางสมมติก็เป็นของเราอยู่ แต่ถ้าหมดลมหายใจเมื่อไหร่แม้แต่กายตัวเราก็ไม่ใช่ของเรา

นี่แหละท่านพยายามให้วิเคราะห์ ให้รู้ให้เห็น ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น สอนเราให้ได้ ถ้าเราสอนเราไม่ได้ จะไปให้คนอื่นเขาสอนไม่มีทางเลยนะ หมดโอกาสเลย คนอื่นครูบาอาจารย์ก็เป็นแค่เพียงผู้ชี้แนะแนวทางวิธีการเท่านั้น เราจงพยายามแก้ไขใจของตัวเราขณะที่ยังมีกำลังอยู่ ถ้าหมดลมหายใจแล้วก็เหลือตั้งแต่เรื่องบุญกับบาป เราพยายามมีโอกาสหมั่นสร้างคุณงามความดี

นี่แหละโอกาสเปิด กาลเวลาเปิด สถานที่เปิด เราก็ได้มีการสร้างบุญสร้างกุศลฝากเอาไว้ อย่าไปมองข้ามเพียงแค่บุญเล็กๆ น้อยๆ เราก็อย่าไปมองข้าม เก็บสะสมสร้างสะสมบุญ หลวงพ่อจะไม่ปล่อยทิ้งไปโดยเด็ดขาด บุญสมมติ บุญวิมุตติ บุญสมมติเราก็ทำให้เต็มเปี่ยม แม้ตั้งแต่ญาติโยมที่มาบริจาคเงินบาทเงินสลึงเงินสตางค์ต่างๆ หลวงพ่อก็ต้องเก็บรวบรวมเอาไว้ เผื่อ เพื่อที่จะให้ทำโรงทานไม่ให้ขาด อะไรที่จะเป็นบุญเราก็พยายามมาช่วยกัน

มีโอกาสแล้ว โอกาสเปิด กาลเวลาเปิด ขณะยังมีกำลังอยู่ ทำมากทำน้อยก็เป็นของพวกเรา ทั้งพระทั้งโยมทั้งชีมาร่วมกัน หลายที่อยู่ที่ไหนครูบาอาจารย์พาทำก็ให้ทำ พยายามทำ เราทำแล้วก็ให้มีปัญญาด้วย มีปัญญาด้วย รู้จักวิเคราะห์ รู้จักพิจารณา ทำความเข้าใจกับคำสอนของพระพุทธองค์ให้ปรากฏขึ้นที่ใจของตัวเรา จนใจของเราสะอาดบริสุทธ์ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน อะไรที่ไม่ดีอะไรที่เป็นอกุศลเราก็พยายามละ อะไรที่จะเป็นกุศลเราก็พยายามเจริญ ส่วนกิเลสของเราก็ละเอา

ตั้งใจรับพร

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง