หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 26 วันที่ 9 เมษายน 2561

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 26 วันที่ 9 เมษายน 2561
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 26 วันที่ 9 เมษายน 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 26
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 9 เมษายน 2561

ขอทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตามความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียกไปด้วย ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาพวกเราได้สังเกต ได้วิเคราะห์ใจ ได้อบรมใจของตัวเราเองแล้วหรือยัง อะไรคือความรู้ตัว ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบันธรรมที่ต่อเนื่องเป็นอย่างไร การเกิดของใจเราควบคุมได้ระดับต้นเหตุ กลางเหตุ ปลายเหตุ การเกิดของขันธ์ห้าความคิดที่ไม่ได้ตั้งใจคิด ตัวใจเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นสิ่งเดียวส่งออกไปภายนอกได้อย่างไร

เราต้องหัดสังเกตหัดวิเคราะห์ สร้างความรู้ตัวให้เข้มแข็งสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง เอาความรู้ตัวรู้กายนี้แหละไปใช้ จนใจคลายออกจากขันธ์ห้า รู้ว่าแยกรูปแยกนาม มีแต่ความเห็นทุกข์ในหลักธรรม ถ้ายังแยกไม่ได้ก็อาจจะถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ ถ้าแยกแยะได้ ตามดูได้ กำลังสติมีกำลังมากขึ้นมากขึ้นจนเป็นมหาสติ ตามดูเห็นเหตุเห็นผลทุกสิ่งทุกอย่าง ปรับสภาพใจของเราให้อยู่ในความบริสุทธิ์ ให้อยู่ในคุณงามความดี ทุกคนมีจิตวิญญาณมีขันธ์ห้าเหมือนกันหมด เว้นเสียแต่ว่าจะเจริญสติเข้าไปอบรมได้ต่อเนื่องได้รวดเร็วไวทันเหตุการณ์หรือไม่เท่านั้นเอง

แนวทางคำสอนของพระพุทธองค์นั้นมีมาตั้งนานไม่ได้ล้าสมัย เป็นคำสอนที่ทันสมัยที่สุดถึงแม้จะผ่านมาล่วงเลยหลายร้อยหลายพันปี ทำไมถึงว่าทันสมัย ท่านบอกว่าทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออกนี่แหละถึงเรียกว่าทันสมัย ท่านสอนเรื่องการดำเนินชีวิต การทำความเข้าใจกับชีวิตให้ถูกต้อง อะไรคืออัตตา อะไรคืออนัตตา อะไรคือสมมติวิมุตติ อะไรคืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตาในกายของเรา วิญญาณในกายของเราเป็นอย่างไร การสร้างบารมีของเราเป็นอย่างไร

แต่ละวันตื่นขึ้นมาเรามีความรับผิดชอบ เรามีความขยันหมั่นเพียรหรือไม่ เรารอบรู้ในกองสังขารในขันธ์ห้าในอัตภาพร่างกายของเราแล้วหรือยัง รอบรู้ในโลกธรรมแล้วหรือยัง ในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้าเรายังแยกแยะไม่ได้เจริญสติเข้าไปคลายความหลงไม่ได้ เราก็อาจจะอยู่ในกองบุญกองกุศล หมั่นสร้างบุญสร้างบารมีให้เกิดขึ้น ให้มีให้เกิดขึ้นในใจในกายก้อนนี้ของเราให้ได้ บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น หมั่นพร่ำสอนใจของเรา

ที่ท่านบอกว่าตนเป็นที่พึ่งของตน ที่พึ่งระดับของสมมติ เราก็พยายามยังสมมติไม่ให้ได้ลำบาก สมมติที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวนั่นแหละ รูป รส กลิ่น เสียง โลกธรรมแปดต่างๆ ที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้รู้ด้วยปัญญา ทำหน้าที่ด้วยปัญญา แต่ละวันความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความเสียสละ มีความสัจจะกับตัวเอง ไม่เป็นคนปลิ้นปล้อน เป็นคนมีความสัจจะมีความจริงใจให้กับตัวเราแล้วก็ให้กับสังคมให้กับโลกเขา เราก็จะอยู่กับบุญตลอดเวลา

หลวงพ่อก็ได้พูดให้ฟังเรื่องเก่าๆ ของเก่าๆ พูดเรื่องเก่าซ้ำแล้วซ้ำอีกตั้งแต่ 30 กว่าปี แต่บุคคลมีบุญมีกุศลก็จะไปดำเนินตาม การเจริญสติเป็นอย่างนี้นะ การควบคุมใจเป็นอย่างนี้ การแยกรูปแยกนามเป็นอย่างนี้ การละกิเลสเป็นอย่างนี้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียดเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจของเรามีนิวรณ์ มีความเกียจคร้านมีมลทินต่างๆ ก็ขัดเกลาเอาออกให้มันหมด สมมติก็ทำให้เรียบร้อย หลวงพ่อก็พูดวนเวียนของเก่านี้แหละ แต่พวกท่านก็อาจจะยังเข้าไม่ถึงเพราะว่าสมมติยังไม่คลายให้ บางทีสมมติมันคลายเราก็อาจจะเข้าถึงตรงนั้นได้

ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ตราบใดที่เรายังดำเนินอยู่ ตราบใดที่เรายังฝักใฝ่อยู่ ตราบใดที่เรายังหัดวิเคราะห์หัดสังเกตจนเห็นเหตุเห็นผล แยกเหตุแยกผลได้ มองเห็นความเป็นจริงได้ หมดความสงสัย หมดความลังเลในคำสอนของพระพุทธองค์ ยังความบริสุทธิ์หลุดพ้นให้ปรากฏที่ใจของตัวเรา ท่านถึงบอกให้เชื่อ

พระเราก็เหมือนกันนะ ทั้งพระใหม่พระเก่าจงเป็นผู้ใหม่ตลอด เป็นผู้ตื่นผู้ใหม่ตลอด ทั้งพระ ทั้งเณร ทั้งชี ก็ต้องพยายาม เพียงแค่ระดับของสมมติเราก็มีความรับผิดชอบ มีความขยันหมั่นเพียร มีความเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ ระเบียบทั้งภายนอกภายใน จัดการตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน

เอาล่ะ วันนี้ก็เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง