หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 126
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 126
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
พากันดูดีๆ นะพระเราก่อนที่จะขบจะฉัน ดูใจของเราอย่าให้ใจของเราเกิดความอยาก ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาต้องให้ใจปกติ เราดูเราแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา พิจารณาเราทุกเรื่องแม้แต่การขบการฉัน อาหารจะมากจะน้อยก็อย่าให้ใจของเราเกิดความอยากเกิดความยินดียินร้าย กะประมาณพิจารณาปฏิสังขาโย เราเอาอาหารมาให้กายเพื่อบรรเทาความหิว อย่าให้เจ้าใจของเราเกิดความอยาก ถ้าเราเห็นความอยาก ต้นตอแห่งความอยาก เราก็รู้จักดับรู้จักละรู้จักควบคุม
ความอยากนั่นแหละคือบ่อเกิดของความเกิด อยากมีอยากเป็น อยากไปอยากมา ไม่อยากมีไม่อยากเป็นไม่อยากมา จะเอาตั้งแต่ธรรมจะเอาตั้งแต่ตัวใหญ่ๆ ไม่ดับความอยากตัวเล็กๆ ใจมันจะนิ่งได้อย่างไร เราดับเราละความอยากความทะเยอทะยานอยาก จะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญาของเราเข้าไปทำหน้าที่แทน
วันนี้ก็เป็นวันที่ 1 ปวารณาออกพรรษามาได้วันสองวัน เห็นว่าพระเราก็จะได้สิกขาลาเพศกันหลายรูปหลายท่านเพื่อไปทำหน้าที่ทางสมมติ เดี๋ยวฉันข้าวเสร็จค่อยพร้อมเพรียงกันทั้งชีด้วย ชีท่านใดอยากสึกวันนี้ก็จะให้โอกาสสึกนะ หลังจากวันนี้ไปแล้วไม่ได้สึกนะให้โอกาสวันนี้วันเดียว ใครจะสึกก็เตรียมพร้อมหลังจากวันนี้ไปแล้วก็ปีหน้าโน่นแหละค่อยว่ากันใหม่
ส่วนที่จะมาบวชเพิ่มก็อีกเยอะสิบกว่ารูป ที่พักที่อาศัยก็แทบจะไม่มีกัน ก็ปิดกั้นอานิสงค์แห่งบุญไม่ได้ ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตามกำลังของเรา ทุกคนก็ฝักใฝ่ในบุญ ทุกคนก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ได้เท่าไรก็เอาได้มาสร้างสะสมบุญบารมี ได้เข้ามาวัดก็ได้มาช่วยกัน มาเจริญสติมาเจริญสมาธิให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย
เราต้องพยามฝึกฝนตัวเรา ไม่มีใครที่จะฝึกเราได้หรอกนอกจากตัวของเราเอง การได้ยินได้ฟังได้อ่านก็เป็นแค่เพียงแนวทาง แต่การลงมือการเจริญสติที่ต่อเนื่อง การดับการละการตามดู การรู้การเห็นนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนโน้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนนี้ เราพยายามเอาถึงเรายังเดินปัญญาแยกรูปแยกนามในกายในขันธ์ห้าของเรายังไม่ได้ เราก็สร้างสะสมบารมีของเราไป สักวันหนึ่งเราก็จะเข้าใจ
การสร้างความรู้ตัวการเจริญสติ เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมาแล้วก็รู้จักเอาไปใช้เอาไปวิเคราะห์ สักวันหนึ่งก็คงจะถึงจุดหมายกัน ไม่ต้องไปรีบเร่งแต่ขยันขยันหมั่นเพียร แล้วก็รู้จักรับผิดชอบ มีความเสียสละ มีความอดทน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน ส่วนมากก็มีตั้งแต่มองดูตั้งแต่เรื่องภายนอกเรื่องคนอื่น คนโน้นเป็นอย่างนั้นคนนั้นเป็นอย่างนี้ ทั้งที่ใจของเราเกิดอยู่ตลอดเวลาไม่รู้จัก แทนที่จะทำใจของเราให้มันจบให้จบกิจภายใน แล้วก็ทำประโยชน์ยังประโยชน์ให้กับส่วนตัวส่วนรวม
ส่วนมากก็มีตั้งแต่เรื่องภายนอกกัน เรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัดอย่าง ถ้าเป็นเรื่องดีก็ดี ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ก็เอาบาปมาใส่ตัวเองโดยไม่รู้ตัว คนโน้นเป็นอย่างนั้นคนนั้นเป็นอย่างนี้ ไม่เคยละดับความเกิดภายในของเรา เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ พยายามแก้ไขปรับปรุงเอา เรามาอยู่กับโลกมนุษย์ เราเกิดมาถ้าถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เราพยายามยังภาระหน้าที่ของเราให้มันจบก่อนที่ธาตุขันธ์จะแตกจะดับ เราอนุเคราะห์ช่วยเหลือกันได้ในระดับของสมมติ แต่ระดับของการชำระสะสางกิเลสก็ต้องเป็นตัวของเราเอง
พระพุทธเจ้าท่านก็ค้นพบชี้แนะแนวทางให้ ท่านละกิเลสให้เราไม่ได้แต่ท่านชี้แนะแนวทางให้ แล้วเราก็เดินตามปฏิบัติตามก็จะถึงจุดหมาย เมื่อถึงจุดหมายแล้วเราก็จะรู้เองทราบเองเห็นเองหมดความสงสัยเอง พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ก็อยู่ที่ใจของเราไม่ได้อยู่ที่ไหน อะไรที่จะเป็นอกุศลเราก็พยายามละเสีย อะไรที่จะเป็นกุศลเราก็พยายามเจริญให้มีให้เกิดขึ้นทุกเรื่อง แม้แต่ในการรับประทานข้าวปลาอาหารการขบการฉัน ความอยากแม้แต่นิดเดียวนั้นอย่าให้เกิดที่ใจของเราได้เลย พูดง่ายนะแต่การดับการละการวิเคราะห์นี้เราต้องขยันให้ได้ทุกอิริยาบถ คนที่จะทำคนที่จะฝึกรู้แนวทางนิดเดียวไปถึงจุดหมายเลย
การเจริญสติที่ต่อเนื่อง การละกิเลส การแยกรูปนาม ลักษณะของวิญญาณในขันธ์ห้า รอบรู้ในความคิดรอบรู้ในอารมณ์ รู้จักฝักใฝ่รู้จักสนใจ คนที่จะไม่เอาพูดจนปากเปียกปากแฉะเขาก็ไม่สนใจ เสียเวลาเปล่าๆ ถ้าคนจะเอาอยู่คนเดียวก็ขยันหมั่นเพียรดูตัวเราแก้ไขตัวเอง อะไรคือธรรมอะไรคือโลก โลกธรรมเขาก็อยู่ร่วมกัน สมมติกับวิมุตติก็อยู่ร่วมกัน รูปกับธรรมก็อยู่ร่วมกัน เราต้องจำแนกแจกแจงให้ชัดเจนจนหมดความสงสัย หมดภาระหน้าที่การงานจบกิจภายใน เหลือตั้งแต่งานภายนอกที่จะทำประโยชน์
พระเราก็เหมือนกันพยายามเอา ได้มาร่วมกันได้มาอยู่ด้วยกัน ก็มารู้จักตัวเราแก้ไขตัวเราแล้วก็ทำหน้าที่ของเรา รู้จักรับผิดชอบต่อส่วนรวม เหตุการณ์เราทำความเข้าใจกับสมมติ ละสมมติภายใน แล้วก็สมมติภายนอกก็เข้ามาหา เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี สมัยก่อนก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก หาคนจะเหยียบย่างเข้ามาวัดค่อนข้างยาก แต่ทุกวันนี้ลูกเด็กเล็กแดงผู้เฒ่าผู้แก่ชวนกันมา เห็นแล้วก็ภูมิใจก็เป็นอานิสงค์ของทุกคน หล่อหลอมยังสมมติของเราให้เกิดบุญ มามากมายทั่วประเทศทั้งใกล้ทั้งไกลต่างประเทศก็มา ถ้าเราประกาศป่าวประกาศหรือว่าเราแสวงหาอย่างนั้นไม่ใช่ทาง ให้มาด้วยแรงบุญแรงศรัทธาให้มาด้วยอำนาจแห่งบุญ ให้เกิดด้วยแรงบุญของทุกคนหล่อหลอมรวมกันถึงจะมีความสุขที่แท้จริง ถึงจะเป็นบุญถึงจะเป็นบุญสมมติก็ให้เป็นบุญสมมติที่บริบูรณ์
ทางด้านจิตทางด้านใจก็ทำให้หลุดพ้น ขัดเกลาตัวเราเอง ไม่ใช่ว่าดิ้นรนแสวงหาทุกวิถีทางอย่างนั้นไม่ใช่ทาง ทางไหนที่จะเงียบเรียบง่ายคือหนทาง ขยันหมั่นเพียร ยังประโยชน์ ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียร ยังประโยชน์ ประโยชน์สมมติประโยชน์วิมุตติ ประโยชน์ภายในประโยชน์ภายนอกให้บริบูรณ์ อะไรไม่ดีเราก็รีบแก้ไขทั้งภายนอกภายในไม่ใชไปหมักหมมไปสะสม สักวันหนึ่งก็จะเดินถึงจุดหมายปลายทางได้เอง
ใกล้แล้วใกล้จะถึงงานกฐินในอีกสองอาทิตย์กว่าๆ สองสามอาทิตย์ก็จะถึงงานกฐิน ญาติโยมท่านใดหรือว่ามีพี่น้องของเราอยากจะมาร่วมตั้งโรงทานก็มานะ มาตั้งโรงทานวันที่ 24 วันที่ 25 โอกาสเปิดให้สถานที่เปิดให้กาลเวลาเปิดให้ เรามีความพร้อมเราก็มาตั้งโรงทาน หรือมาช่วยเอากำลังกายมาช่วยมายังประโยชน์ เราก็จะได้เกิดประโยชน์
หลวงพ่อก็ได้เพียงแค่เล่าให้ฟังแค่พูดให้ฟัง สภาพร่างกายของหลวงพ่อก็มีตั้งแต่ทรงกับทรุด บางวันนี้แทบจะเดินไม่ไหว เพราะว่าอาศัยยาฉีดยาอยู่ทุกวันอาศัยฉีดอินซูลิน หนักอยู่เหมือนกันวันละสามร้อยสี่ร้อย เบาหวานก็หนักอยู่แต่เราก็ไม่ได้ทุกข์ ไม่ทุกข์ไม่ครียดกับสิ่งพวกนี้ ดูสภาพร่างกายก็เหมือนกับไม่เป็นไรภายนอกเพราะว่าใจของเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียด แต่สภาพร่างกายก็เป็นให้เห็นเราพิจารณาเราแก้ไขเราดูเราอยู่ตลอดเวลา ว่ากายของเราเป็นอย่าไร ใจของเราเป็นอย่างไร ประคับประคองเขาเอาไว้เพื่อยังประโยชน์ให้กับสมมติให้เต็มที่จนกว่าจะถึงวาระเวลา ถ้าถึงเวลาแล้วไม่อยากจะไปก็ต้องได้ไป ไม่อยากจะอยู่มันก็ต้องทนอยู่ ทำความเข้าใจ ใจเกิดความเบื่อหน่าย เราก็มาละมาดับมาอุเบกขาเขาเสีย ถึงเวลาเขาก็ต้องไปถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป
ขณะที่ยังมีลมหายใจก็สนุกสร้างอานิสงส์สร้างบุญให้กับสมมติเท่าที่สภาพร่างกายอำนวยให้ ตอนนี้ก็ทำให้ทุกอย่างเท่าที่โอกาสทเปิดให้ ทำให้ทุกคนอยากจะให้ทุกคนมีความสุข ปรารถนาที่จะให้ทุกคนมีความสุข เข้ามาแล้วก็ไม่ได้ลำบากเพียงแค่เข้ามาก็มีตั้งแต่ความร่มรื่นร่มเย็น ที่อยู่ที่อาศัย ที่พักที่หลับที่นอนก็เพื่อที่จะให้ทุกคนได้ฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเอง ได้ไปได้เร็วได้ไวไม่ต้องมากังวลกับสิ่งพวกนี้
เราก็ต้องมีโอกาสมาช่วยกัน มาช่วยกันทำมาช่วยกันสร้างมาช่วยกันรักษา เพื่อประโยชน์ในระดับของสมมติ บุญระดับของสมมติเพื่อจะส่งผลถึงบุญระดับของปัญญา ไม่ต้องมาพะว้าพะวงเรื่องการเป็นอยู่ทางสมมติ แล้วก็สนุกขัดเกลาตัวเราเองแก้ไขตัวเราเอง ไม่เห็นเพียงความเกียจคร้าน ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันเพิ่มความรับผิดชอบ
พวกเราก็มีบุญร่วมกันนั่นแหละถึงได้มาอยู่ร่วมกัน ถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของอนิจจังทุกขังอนัตตา เราต้องรู้อนิจจังทุกขังอนัตตาในขันธ์ห้าของเรา ก็ต้องละต้องดับให้ได้ ได้ไม่ได้ก็ต้องทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องทำ มัวตั้งแต่ไปรู้ตั้งแต่เรื่องของคนโน้นคนนี้เสียเวลาเปล่า เอาเรื่องของเราให้มันจบทำงานของเราให้มันจบ ยังประโยชน์ให้กับสมมติให้กับสังคม ให้มันมากเท่าที่โอกาสจะเปิดให้
ก็ขอขอบใจทุกคนทั้งพระทั้งชีทั้งฆราวาสญาติโยมมาก็ช่วยกัน ยังเหลืออีกเยอะงานก็เอาว่าปีนี้ก็คงเกือบจะเสร็จแล้วแหละ งานสมมติเหลืออยู่งานเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็เยอะอยู่ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ การตกแต่งต่างๆ ญาติโยมมาก็มีความสุข คนอยู่ก็มีความสุขคนไปก็มีความสุข อย่าลืมนะวันนี้ฉันข้าวเสร็จ ถ้าใครพลาดโอกาสวันนี้ก็ปีหน้าถึงจะได้สึก
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกันตรงปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน การทำให้ต่อเนื่องนี้สำคัญเราต้องพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักประคับประคองจนเกิดความเคยชินเกิดความชำนาญ ไม่ใช่ว่าเราสร้างไปเพื่ออะไร เราสร้างไปเพื่อที่จะรู้ใจ เพื่อที่จะละกิเลสออกจากใจ เพื่อที่จะคลายหรือว่าแยกรูปแยกนาม ทำความเข้าใจให้กระจ่าง
เพียงแค่การเจริญสติไม่ต่อเนื่อง เราจะเข้าใจในธรรมอันละเอียดได้อย่างไร ก็กระท่อนกระแท่นได้บ้างไม่ได้บ้าง บางทีไม่สนใจเลย จะเอาตั้งแต่บุญอยากจะได้บุญอยากจะทำบุญอย่างเดียว อันนั้นมันก็ได้อยู่แต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ ละทุกข์ไม่ได้ละกิเลสไม่ได้ แม้แต่บุญนั้นก็ยังเป็นกิเลส ฝ่ายบุญฝ่ายดีฝ่ายกุศล แต่เราก็ต้องทำแต่ไม่ให้หลงไม่ให้ยึด
ตราบใดที่ใจของเรายังเกิดอยู่ เรายังแยกรูปแยกนามไม่ได้เราก็ว่าเราไม่หลง ถ้าเราแยกรูปแยกนามได้เมื่อไรคลายได้เมื่อไร นั่นแหละเราถึงจะเห็นความหลง ถ้าเราเจริญสติหรือว่าสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องได้เมื่อไร นั่นแหละเราถึงจะได้มองเห็นว่าตั้งแต่ก่อนๆ มาสติของเราไม่มีเลย มีตั้งแต่สติปัญญาของโลกิยะที่ใจกับความคิดวิ่งอยู่ตลอดเวลา เป็นทาสของกิเลสอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเรามาอดทนอดกลั้น รู้จักสร้างขึ้นมารู้จักวิเคราะห์ให้ต่อเนื่อง แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ให้เร็วให้ไวจนเป็นอัตโนมัติในการดูในการรู้ในการละในการทำความเข้าใจ ยิ่งรู้ด้วยเห็นด้วยตามทำความเข้าใจได้ด้วย หมดความสงสัยได้นั่นแหละเราก็จะเข้าถึงคำสอนของพระพุทธองค์ เข้าถึงความหมายด้วย เข้าถึงลักษณะ เข้าถึงความหมายรู้เห็นตามความเป็นจริงด้วยหมดความสงสัย มีตั้งแต่จะทำความเพียรปรับสภาพกายปรับสภาพใจ ปรับสภาพสติปัญญาของเรา อยู่กับสมมติอย่างมีความสงบความสุข
ไม่จำเป็นต้องไปฟังมากเลย หมั่นพร่ำสอนตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ถ้าเรามีสติที่ต่อเนื่อง เราจะได้ฟังธรรมะตลอดเวลา ครูบาอาจารย์ก็รูปรสกลิ่นเสียงนั่นแหละที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งภายนอกตัววิญญาณภายในขันธ์ห้าภายในรับรู้ในกองสังขาร น้อมเข้าไปสู่หลักของความเป็นจริง อันนี้สมมติบัญญัติเป็นอย่างนี้ วิมุตติเป็นอย่างนี้หมดความสงสัย ดำเนินเอา ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อนะ หลวงพ่อเพียงแค่เล่าให้ฟังเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
ความอยากนั่นแหละคือบ่อเกิดของความเกิด อยากมีอยากเป็น อยากไปอยากมา ไม่อยากมีไม่อยากเป็นไม่อยากมา จะเอาตั้งแต่ธรรมจะเอาตั้งแต่ตัวใหญ่ๆ ไม่ดับความอยากตัวเล็กๆ ใจมันจะนิ่งได้อย่างไร เราดับเราละความอยากความทะเยอทะยานอยาก จะมีจะเป็นก็เป็นเรื่องของปัญญาของเราเข้าไปทำหน้าที่แทน
วันนี้ก็เป็นวันที่ 1 ปวารณาออกพรรษามาได้วันสองวัน เห็นว่าพระเราก็จะได้สิกขาลาเพศกันหลายรูปหลายท่านเพื่อไปทำหน้าที่ทางสมมติ เดี๋ยวฉันข้าวเสร็จค่อยพร้อมเพรียงกันทั้งชีด้วย ชีท่านใดอยากสึกวันนี้ก็จะให้โอกาสสึกนะ หลังจากวันนี้ไปแล้วไม่ได้สึกนะให้โอกาสวันนี้วันเดียว ใครจะสึกก็เตรียมพร้อมหลังจากวันนี้ไปแล้วก็ปีหน้าโน่นแหละค่อยว่ากันใหม่
ส่วนที่จะมาบวชเพิ่มก็อีกเยอะสิบกว่ารูป ที่พักที่อาศัยก็แทบจะไม่มีกัน ก็ปิดกั้นอานิสงค์แห่งบุญไม่ได้ ก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตามกำลังของเรา ทุกคนก็ฝักใฝ่ในบุญ ทุกคนก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ได้เท่าไรก็เอาได้มาสร้างสะสมบุญบารมี ได้เข้ามาวัดก็ได้มาช่วยกัน มาเจริญสติมาเจริญสมาธิให้ได้ทุกอิริยาบถ ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย
เราต้องพยามฝึกฝนตัวเรา ไม่มีใครที่จะฝึกเราได้หรอกนอกจากตัวของเราเอง การได้ยินได้ฟังได้อ่านก็เป็นแค่เพียงแนวทาง แต่การลงมือการเจริญสติที่ต่อเนื่อง การดับการละการตามดู การรู้การเห็นนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวของเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนโน้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนนี้ เราพยายามเอาถึงเรายังเดินปัญญาแยกรูปแยกนามในกายในขันธ์ห้าของเรายังไม่ได้ เราก็สร้างสะสมบารมีของเราไป สักวันหนึ่งเราก็จะเข้าใจ
การสร้างความรู้ตัวการเจริญสติ เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมาแล้วก็รู้จักเอาไปใช้เอาไปวิเคราะห์ สักวันหนึ่งก็คงจะถึงจุดหมายกัน ไม่ต้องไปรีบเร่งแต่ขยันขยันหมั่นเพียร แล้วก็รู้จักรับผิดชอบ มีความเสียสละ มีความอดทน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน ส่วนมากก็มีตั้งแต่มองดูตั้งแต่เรื่องภายนอกเรื่องคนอื่น คนโน้นเป็นอย่างนั้นคนนั้นเป็นอย่างนี้ ทั้งที่ใจของเราเกิดอยู่ตลอดเวลาไม่รู้จัก แทนที่จะทำใจของเราให้มันจบให้จบกิจภายใน แล้วก็ทำประโยชน์ยังประโยชน์ให้กับส่วนตัวส่วนรวม
ส่วนมากก็มีตั้งแต่เรื่องภายนอกกัน เรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัดอย่าง ถ้าเป็นเรื่องดีก็ดี ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี ก็เอาบาปมาใส่ตัวเองโดยไม่รู้ตัว คนโน้นเป็นอย่างนั้นคนนั้นเป็นอย่างนี้ ไม่เคยละดับความเกิดภายในของเรา เห็นแล้วก็น่าสงสารนะ พยายามแก้ไขปรับปรุงเอา เรามาอยู่กับโลกมนุษย์ เราเกิดมาถ้าถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เราพยายามยังภาระหน้าที่ของเราให้มันจบก่อนที่ธาตุขันธ์จะแตกจะดับ เราอนุเคราะห์ช่วยเหลือกันได้ในระดับของสมมติ แต่ระดับของการชำระสะสางกิเลสก็ต้องเป็นตัวของเราเอง
พระพุทธเจ้าท่านก็ค้นพบชี้แนะแนวทางให้ ท่านละกิเลสให้เราไม่ได้แต่ท่านชี้แนะแนวทางให้ แล้วเราก็เดินตามปฏิบัติตามก็จะถึงจุดหมาย เมื่อถึงจุดหมายแล้วเราก็จะรู้เองทราบเองเห็นเองหมดความสงสัยเอง พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ก็อยู่ที่ใจของเราไม่ได้อยู่ที่ไหน อะไรที่จะเป็นอกุศลเราก็พยายามละเสีย อะไรที่จะเป็นกุศลเราก็พยายามเจริญให้มีให้เกิดขึ้นทุกเรื่อง แม้แต่ในการรับประทานข้าวปลาอาหารการขบการฉัน ความอยากแม้แต่นิดเดียวนั้นอย่าให้เกิดที่ใจของเราได้เลย พูดง่ายนะแต่การดับการละการวิเคราะห์นี้เราต้องขยันให้ได้ทุกอิริยาบถ คนที่จะทำคนที่จะฝึกรู้แนวทางนิดเดียวไปถึงจุดหมายเลย
การเจริญสติที่ต่อเนื่อง การละกิเลส การแยกรูปนาม ลักษณะของวิญญาณในขันธ์ห้า รอบรู้ในความคิดรอบรู้ในอารมณ์ รู้จักฝักใฝ่รู้จักสนใจ คนที่จะไม่เอาพูดจนปากเปียกปากแฉะเขาก็ไม่สนใจ เสียเวลาเปล่าๆ ถ้าคนจะเอาอยู่คนเดียวก็ขยันหมั่นเพียรดูตัวเราแก้ไขตัวเอง อะไรคือธรรมอะไรคือโลก โลกธรรมเขาก็อยู่ร่วมกัน สมมติกับวิมุตติก็อยู่ร่วมกัน รูปกับธรรมก็อยู่ร่วมกัน เราต้องจำแนกแจกแจงให้ชัดเจนจนหมดความสงสัย หมดภาระหน้าที่การงานจบกิจภายใน เหลือตั้งแต่งานภายนอกที่จะทำประโยชน์
พระเราก็เหมือนกันพยายามเอา ได้มาร่วมกันได้มาอยู่ด้วยกัน ก็มารู้จักตัวเราแก้ไขตัวเราแล้วก็ทำหน้าที่ของเรา รู้จักรับผิดชอบต่อส่วนรวม เหตุการณ์เราทำความเข้าใจกับสมมติ ละสมมติภายใน แล้วก็สมมติภายนอกก็เข้ามาหา เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดี สมัยก่อนก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก หาคนจะเหยียบย่างเข้ามาวัดค่อนข้างยาก แต่ทุกวันนี้ลูกเด็กเล็กแดงผู้เฒ่าผู้แก่ชวนกันมา เห็นแล้วก็ภูมิใจก็เป็นอานิสงค์ของทุกคน หล่อหลอมยังสมมติของเราให้เกิดบุญ มามากมายทั่วประเทศทั้งใกล้ทั้งไกลต่างประเทศก็มา ถ้าเราประกาศป่าวประกาศหรือว่าเราแสวงหาอย่างนั้นไม่ใช่ทาง ให้มาด้วยแรงบุญแรงศรัทธาให้มาด้วยอำนาจแห่งบุญ ให้เกิดด้วยแรงบุญของทุกคนหล่อหลอมรวมกันถึงจะมีความสุขที่แท้จริง ถึงจะเป็นบุญถึงจะเป็นบุญสมมติก็ให้เป็นบุญสมมติที่บริบูรณ์
ทางด้านจิตทางด้านใจก็ทำให้หลุดพ้น ขัดเกลาตัวเราเอง ไม่ใช่ว่าดิ้นรนแสวงหาทุกวิถีทางอย่างนั้นไม่ใช่ทาง ทางไหนที่จะเงียบเรียบง่ายคือหนทาง ขยันหมั่นเพียร ยังประโยชน์ ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันหมั่นเพียร ยังประโยชน์ ประโยชน์สมมติประโยชน์วิมุตติ ประโยชน์ภายในประโยชน์ภายนอกให้บริบูรณ์ อะไรไม่ดีเราก็รีบแก้ไขทั้งภายนอกภายในไม่ใชไปหมักหมมไปสะสม สักวันหนึ่งก็จะเดินถึงจุดหมายปลายทางได้เอง
ใกล้แล้วใกล้จะถึงงานกฐินในอีกสองอาทิตย์กว่าๆ สองสามอาทิตย์ก็จะถึงงานกฐิน ญาติโยมท่านใดหรือว่ามีพี่น้องของเราอยากจะมาร่วมตั้งโรงทานก็มานะ มาตั้งโรงทานวันที่ 24 วันที่ 25 โอกาสเปิดให้สถานที่เปิดให้กาลเวลาเปิดให้ เรามีความพร้อมเราก็มาตั้งโรงทาน หรือมาช่วยเอากำลังกายมาช่วยมายังประโยชน์ เราก็จะได้เกิดประโยชน์
หลวงพ่อก็ได้เพียงแค่เล่าให้ฟังแค่พูดให้ฟัง สภาพร่างกายของหลวงพ่อก็มีตั้งแต่ทรงกับทรุด บางวันนี้แทบจะเดินไม่ไหว เพราะว่าอาศัยยาฉีดยาอยู่ทุกวันอาศัยฉีดอินซูลิน หนักอยู่เหมือนกันวันละสามร้อยสี่ร้อย เบาหวานก็หนักอยู่แต่เราก็ไม่ได้ทุกข์ ไม่ทุกข์ไม่ครียดกับสิ่งพวกนี้ ดูสภาพร่างกายก็เหมือนกับไม่เป็นไรภายนอกเพราะว่าใจของเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียด แต่สภาพร่างกายก็เป็นให้เห็นเราพิจารณาเราแก้ไขเราดูเราอยู่ตลอดเวลา ว่ากายของเราเป็นอย่าไร ใจของเราเป็นอย่างไร ประคับประคองเขาเอาไว้เพื่อยังประโยชน์ให้กับสมมติให้เต็มที่จนกว่าจะถึงวาระเวลา ถ้าถึงเวลาแล้วไม่อยากจะไปก็ต้องได้ไป ไม่อยากจะอยู่มันก็ต้องทนอยู่ ทำความเข้าใจ ใจเกิดความเบื่อหน่าย เราก็มาละมาดับมาอุเบกขาเขาเสีย ถึงเวลาเขาก็ต้องไปถ้าไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป
ขณะที่ยังมีลมหายใจก็สนุกสร้างอานิสงส์สร้างบุญให้กับสมมติเท่าที่สภาพร่างกายอำนวยให้ ตอนนี้ก็ทำให้ทุกอย่างเท่าที่โอกาสทเปิดให้ ทำให้ทุกคนอยากจะให้ทุกคนมีความสุข ปรารถนาที่จะให้ทุกคนมีความสุข เข้ามาแล้วก็ไม่ได้ลำบากเพียงแค่เข้ามาก็มีตั้งแต่ความร่มรื่นร่มเย็น ที่อยู่ที่อาศัย ที่พักที่หลับที่นอนก็เพื่อที่จะให้ทุกคนได้ฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาตัวเอง ได้ไปได้เร็วได้ไวไม่ต้องมากังวลกับสิ่งพวกนี้
เราก็ต้องมีโอกาสมาช่วยกัน มาช่วยกันทำมาช่วยกันสร้างมาช่วยกันรักษา เพื่อประโยชน์ในระดับของสมมติ บุญระดับของสมมติเพื่อจะส่งผลถึงบุญระดับของปัญญา ไม่ต้องมาพะว้าพะวงเรื่องการเป็นอยู่ทางสมมติ แล้วก็สนุกขัดเกลาตัวเราเองแก้ไขตัวเราเอง ไม่เห็นเพียงความเกียจคร้าน ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยันเพิ่มความรับผิดชอบ
พวกเราก็มีบุญร่วมกันนั่นแหละถึงได้มาอยู่ร่วมกัน ถึงวาระเวลาก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของอนิจจังทุกขังอนัตตา เราต้องรู้อนิจจังทุกขังอนัตตาในขันธ์ห้าของเรา ก็ต้องละต้องดับให้ได้ ได้ไม่ได้ก็ต้องทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ต้องทำ มัวตั้งแต่ไปรู้ตั้งแต่เรื่องของคนโน้นคนนี้เสียเวลาเปล่า เอาเรื่องของเราให้มันจบทำงานของเราให้มันจบ ยังประโยชน์ให้กับสมมติให้กับสังคม ให้มันมากเท่าที่โอกาสจะเปิดให้
ก็ขอขอบใจทุกคนทั้งพระทั้งชีทั้งฆราวาสญาติโยมมาก็ช่วยกัน ยังเหลืออีกเยอะงานก็เอาว่าปีนี้ก็คงเกือบจะเสร็จแล้วแหละ งานสมมติเหลืออยู่งานเล็กๆ น้อยๆ แต่มันก็เยอะอยู่ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสถานที่ การตกแต่งต่างๆ ญาติโยมมาก็มีความสุข คนอยู่ก็มีความสุขคนไปก็มีความสุข อย่าลืมนะวันนี้ฉันข้าวเสร็จ ถ้าใครพลาดโอกาสวันนี้ก็ปีหน้าถึงจะได้สึก
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกันตรงปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน การทำให้ต่อเนื่องนี้สำคัญเราต้องพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักประคับประคองจนเกิดความเคยชินเกิดความชำนาญ ไม่ใช่ว่าเราสร้างไปเพื่ออะไร เราสร้างไปเพื่อที่จะรู้ใจ เพื่อที่จะละกิเลสออกจากใจ เพื่อที่จะคลายหรือว่าแยกรูปแยกนาม ทำความเข้าใจให้กระจ่าง
เพียงแค่การเจริญสติไม่ต่อเนื่อง เราจะเข้าใจในธรรมอันละเอียดได้อย่างไร ก็กระท่อนกระแท่นได้บ้างไม่ได้บ้าง บางทีไม่สนใจเลย จะเอาตั้งแต่บุญอยากจะได้บุญอยากจะทำบุญอย่างเดียว อันนั้นมันก็ได้อยู่แต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ ละทุกข์ไม่ได้ละกิเลสไม่ได้ แม้แต่บุญนั้นก็ยังเป็นกิเลส ฝ่ายบุญฝ่ายดีฝ่ายกุศล แต่เราก็ต้องทำแต่ไม่ให้หลงไม่ให้ยึด
ตราบใดที่ใจของเรายังเกิดอยู่ เรายังแยกรูปแยกนามไม่ได้เราก็ว่าเราไม่หลง ถ้าเราแยกรูปแยกนามได้เมื่อไรคลายได้เมื่อไร นั่นแหละเราถึงจะเห็นความหลง ถ้าเราเจริญสติหรือว่าสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องได้เมื่อไร นั่นแหละเราถึงจะได้มองเห็นว่าตั้งแต่ก่อนๆ มาสติของเราไม่มีเลย มีตั้งแต่สติปัญญาของโลกิยะที่ใจกับความคิดวิ่งอยู่ตลอดเวลา เป็นทาสของกิเลสอยู่ตลอดเวลา
ถ้าเรามาอดทนอดกลั้น รู้จักสร้างขึ้นมารู้จักวิเคราะห์ให้ต่อเนื่อง แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ให้เร็วให้ไวจนเป็นอัตโนมัติในการดูในการรู้ในการละในการทำความเข้าใจ ยิ่งรู้ด้วยเห็นด้วยตามทำความเข้าใจได้ด้วย หมดความสงสัยได้นั่นแหละเราก็จะเข้าถึงคำสอนของพระพุทธองค์ เข้าถึงความหมายด้วย เข้าถึงลักษณะ เข้าถึงความหมายรู้เห็นตามความเป็นจริงด้วยหมดความสงสัย มีตั้งแต่จะทำความเพียรปรับสภาพกายปรับสภาพใจ ปรับสภาพสติปัญญาของเรา อยู่กับสมมติอย่างมีความสงบความสุข
ไม่จำเป็นต้องไปฟังมากเลย หมั่นพร่ำสอนตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ถ้าเรามีสติที่ต่อเนื่อง เราจะได้ฟังธรรมะตลอดเวลา ครูบาอาจารย์ก็รูปรสกลิ่นเสียงนั่นแหละที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งภายนอกตัววิญญาณภายในขันธ์ห้าภายในรับรู้ในกองสังขาร น้อมเข้าไปสู่หลักของความเป็นจริง อันนี้สมมติบัญญัติเป็นอย่างนี้ วิมุตติเป็นอย่างนี้หมดความสงสัย ดำเนินเอา ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อนะ หลวงพ่อเพียงแค่เล่าให้ฟังเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง