หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 067
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 067
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบายไม่ต้องพนมมือ หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ ถึงเราละไม่ได้หยุดไม่ได้เด็ดขาด เราก็ขอให้หยุดขณะที่กำลังนั่งฟังอยู่นี้แล้วก็น้อมสำเหนียก สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ลองดูสิการสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราชัดเจน ความรู้สึกรับรู้เวลาลมวิ่งเข้าเวลาลมวิ่งออกนั่นแหละเขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ถ้าเรามีความรู้สึกที่ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
ให้เราพยายามสร้างความรับรู้ตรงนี้ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ จนรู้จักเอาไปใช้เอาไปรู้เท่าทันจิต รู้ลักษณะของจิตหรือว่ารู้ลักษณะของใจ ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่สงบเป็นอย่างไร ใจที่ไม่ปรุงแต่งเป็นอย่างไร ความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดผุดขึ้นมาใจของเราเคลื่อนเข้าไปร่วมได้อย่างไร ตรงนี้แหละสำคัญโมหะอย่างลุ่มลึก
ทุกคนเป็นบุคคลที่มีบุญมีอานิสงส์ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างกุศล สร้างอานิสงส์อยู่ระดับของสมมติ น้อมกายน้อมใจเข้ามาในการทำบุญในการให้ทาน ตั้งแต่ปู่ย่าตายายจนกระทั่งถึงรุ่นของพวกเรา มีความรู้สึกรับรู้ในการทำบุญในการให้ทาน ฝักใฝ่ในการทำบุญ แสวงหาหมั่นสร้างให้มีให้เกิดขึ้น แต่การเจริญสติการสร้างความรู้ตัวเรายังทำกันไม่ค่อยจะต่อเนื่องเท่าไร มีตั้งแต่ไปนึกเอาไปคิดเอาว่าจะเป็นอย่างโน้นว่าจะเป็นอย่างนี้ ในชีวิตร่างกายของเรานี้เราต้องหมั่นวิเคราะห์หมั่นสังเกต ว่าเราเกิดมาทำไม อยู่อย่างไรไปอย่างไร อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม
ขณะที่เรายังมีลมหายใจ ทำอย่างไรถึงจะให้กายมีความสุข ทำอย่างไรถึงจะให้ใจมีความสุข อะไรคือสมมติอะไรคือวิมุตติ เราจะเอาปัญญาชนิดไหนเข้าไปศึกษาเข้าไปค้นคว้า มีตั้งแต่ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ลักษณะของการเจริญภาวนา การเจริญสติ คำว่าความรู้ตัว รู้สึกตัวพร้อมอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร นี่แหละเราต้องพยายาม
การเกิดของใจ เราควบคุมได้ระดับไหน ระดับต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ ระดับของความคิดอารมณ์เขาก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งก็มีอยู่แล้วมีกันทุกคนในกายก้อนนี้ในขันธ์ห้าก้อนนี้ คำว่า ‘ขันธ์ห้า’ หรือว่ากองหรือว่าขันธ์ในร่างกายของเรา มันเป็นลักษณะอย่างไร ซึ่งประชุมรวมกันมีหนังเข้ามาห่อหุ้มเอาไว้ เราต้องหัดศึกษาหัดค้นคว้า หัดพิจารณาหัดทำความเข้าใจ
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเรามีความรับผิดชอบที่เต็มเปี่ยมหรือไม่ เราเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ มีความรับผิดชอบมีความเสียสละ จิตใจน้อมเข้าไปในการให้อภัยทาน น้อมเข้าไปในความเสียสละ น้อมเข้าไปในพรหมวิหาร ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ความอิจฉาริษยา มีตั้งแต่การเอาออกมีตั้งแต่การให้ ให้ด้วยความเมตตา ให้ด้วยสติให้ด้วยปัญญา
เราต้องพยายามศึกษาค้นคว้าชีวิตของเราให้ถ่องแท้ก่อนที่จะหมดลมหายใจ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้งอย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดนั่นแหละ เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะขยันหมั่นเพียรในการทำในการสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักใช้ รู้จักบริหารด้วยสติด้วยปัญญาให้ถูกต้อง ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสงบ ไปอยู่ที่ไหนก็มีตั้งแต่ความสุข ถ้าคนเรารู้จักตัวของเราเอง
แต่ส่วนมากเราก็รู้อยู่ในระดับของสมมติ อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติแต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ การเกิดการดับของกายเนื้อก็เกิดมาแล้ว ทีนี้การเกิดการดับของวิญญาณหรือว่าตัวใจของเราเนี่ยเขาเกิดอยู่ตลอดนั่นแหละ แต่ถ้าเราไม่ได้เจริญสติให้ต่อเนื่องเราก็จะรู้ไม่รู้เท่าทันตรงนี้ ถ้าเราเจริญให้สติต่อเนื่อง ถ้าไม่รู้จักสังเกตไม่รู้จักวิเคราะห์เราก็ไม่เห็นอีก เรารู้แล้วเห็นแล้วถ้าเราไม่ทำความเข้าใจ ไม่ละใจของเราก็จะไม่สงบอีก
กิเลสหลายชั้นหลายขั้นหลายตอนจริงๆ ที่มาปกปิดเอาไว้ โมหะความลุ่มหลง กายเนื้อก็มาปกปิดดวงใจเอาไว้ ความคิดอารมณ์ก็มาปกปิดดวงใจเอาไว้ แม้แต่การเกิดของใจเขาก็ปิดบังอำพรางตัวของเขา นอกจากบุคคลที่มีกำลังสติมีกำลังปัญญา หมั่นวิเคราะห์หมั่นพิจารณา หมั่นอบรมหมั่นสั่งสอนใจของตัวเรา อะไรควรละอะไรควรเจริญ เราก็ต้องพยายาม
เพียงแค่ระดับของสมมติ เราก็จัดระบบระเบียบให้เป็นระเบียบให้ถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ ลึกลงไปก็คือตัวใจคือวิมุตติ พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอัตตาเรื่องอนัตตา มีไม่มากหรอกอยู่ในกายของเราถ้าคนเรารู้จักค้นคว้า แต่ในระดับของสมมติ เรามีโอกาสได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ร่วมกัน สร้างตบะสร้างบารมีร่วมกันอยู่ แต่สำหรับการละกิเลสการขัดเขากิเลสที่เกิดจากตัวใจของเรา ความคิดที่เข้ามาปรุงแต่งใจของเรา ตรงนี้เราต้องหัดสังเกตเอาทำความเข้าใจเอา อย่าไปทำด้วยความอยาก ลักษณะของสติที่ต่อเนื่องเป็นอย่างไร กายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร
มีโอกาสพวกเราได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ร่วมกัน เมื่อวานนี้ชาวคณะโรงปูนทางสระบุรีก็ได้พากันมา 20-30 กว่าท่าน มีโอกาสก็มา มากันทุกเดือนมากันทุกปี ผู้นำหรือว่าผู้บริหารท่านเปิดโอกาสให้บริวารของท่านได้มาได้เปลี่ยนบรรยากาศ เป็นผู้บริหารที่ดีเป็นผู้นำที่ดี ได้ทำบุญให้กับบริวารได้ทำบุญกับลูกน้อง เปิดโอกาสให้บริวารได้มาได้เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนโอกาส มาศึกษาตัวเรานั่นแหละมาศึกษาชีวิตของเรานั่นแหละ แต่ศึกษากันต่างสถานที่ สร้างโอกาสให้ได้เข้ามาวัดเข้ามาศึกษาเข้ามาทำความเข้าใจ มาทีไรก็ได้มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ใหญ่ทุกที ก็ทางวัดก็ได้เปิดโอกาสให้ได้มีโอกาสได้มาร่วมกันอยู่
อยากจะร่วมกันอยากจะช่วยกันสร้างองค์หลวงปู่ใหญ่ สร้างพระใหญ่ ก็ขอขอเชิญนะทุกคนนั่นแหละ เราก็ได้ทำช่วยกันทุกวันได้ทำช่วยกันทุกวัน สร้างองค์พระศรีอริยเมตไตรย ตอนนี้ก็ไปได้เยอะ แต่ละวันๆ พี่น้องทั้งใกล้ทั้งไกล ญาติโยมผู้หญิงผู้ชายไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง ได้ยินข่าวทราบข่าวก็พากันมาช่วยกันก่ออิฐถือปูนเทปูนกันทุกวัน กลัวจะไม่ได้ทำนั่นแหละ
บุคคลที่มีบุญมีโอกาส โอกาสเปิดให้ก็รีบขวนขวายรีบสร้างรีบทำ ไม่เอาตั้งแต่ความเกียจคร้าน ไม่เอาตั้งแต่ความตระหนี่ มีโอกาสก็ได้รีบมาทำ ทำเสร็จก็หมดโอกาส พวกเราได้มีโอกาสได้ร่วมกัน ได้มาสร้างมาทำฝากเอาไว้ในแผ่นดินฝากเอาไว้ในใจของเรา เพื่อความเป็นสิริมงคลของสถานที่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่จิตใจของเรา โอกาสได้เปิดให้ก็ได้พากันมาทำ
หลวงพ่อก็ขอขอบใจกันทุกคน ขอบใจเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดา บางคนบางท่านก็ทุ่มเทกำลังกายมาช่วยทั้งกำลังกายกำลังใจ บางคนบางท่านไม่ได้มาก็ส่งจตุปัจจัยมาช่วย อันนี้หลวงพ่อก็ขอขอบคุณมากๆเลยทีเดียว ทุกคนเลยทีเดียวมีโอกาสได้มาร่วมกัน ยิ่งบุคคลที่ไม่มีโอกาสนั่นแหละยิ่งหาโอกาสมา จะได้เป็นเข้าพกเข้าห่อที่ตามตัวเราไป บุญสมมติเราก็ทำบุญวิมุตติเราก็ทำ ขอให้เรามีศรัทธาน้อมเข้ามาในสิ่งที่จะเป็นบุญ ในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในโลกนี้ประโยชน์อยู่ปัจจุบัน ทางด้านจิตใจก็จะมีตั้งแต่ความสุข มีโอกาสเราก็ได้ช่วยกันทำ หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ
ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ลองดูสิการสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราชัดเจน ความรู้สึกรับรู้เวลาลมวิ่งเข้าเวลาลมวิ่งออกนั่นแหละเขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ถ้าเรามีความรู้สึกที่ต่อเนื่องเขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
ให้เราพยายามสร้างความรับรู้ตรงนี้ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ จนรู้จักเอาไปใช้เอาไปรู้เท่าทันจิต รู้ลักษณะของจิตหรือว่ารู้ลักษณะของใจ ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่สงบเป็นอย่างไร ใจที่ไม่ปรุงแต่งเป็นอย่างไร ความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดผุดขึ้นมาใจของเราเคลื่อนเข้าไปร่วมได้อย่างไร ตรงนี้แหละสำคัญโมหะอย่างลุ่มลึก
ทุกคนเป็นบุคคลที่มีบุญมีอานิสงส์ถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างกุศล สร้างอานิสงส์อยู่ระดับของสมมติ น้อมกายน้อมใจเข้ามาในการทำบุญในการให้ทาน ตั้งแต่ปู่ย่าตายายจนกระทั่งถึงรุ่นของพวกเรา มีความรู้สึกรับรู้ในการทำบุญในการให้ทาน ฝักใฝ่ในการทำบุญ แสวงหาหมั่นสร้างให้มีให้เกิดขึ้น แต่การเจริญสติการสร้างความรู้ตัวเรายังทำกันไม่ค่อยจะต่อเนื่องเท่าไร มีตั้งแต่ไปนึกเอาไปคิดเอาว่าจะเป็นอย่างโน้นว่าจะเป็นอย่างนี้ ในชีวิตร่างกายของเรานี้เราต้องหมั่นวิเคราะห์หมั่นสังเกต ว่าเราเกิดมาทำไม อยู่อย่างไรไปอย่างไร อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม
ขณะที่เรายังมีลมหายใจ ทำอย่างไรถึงจะให้กายมีความสุข ทำอย่างไรถึงจะให้ใจมีความสุข อะไรคือสมมติอะไรคือวิมุตติ เราจะเอาปัญญาชนิดไหนเข้าไปศึกษาเข้าไปค้นคว้า มีตั้งแต่ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ลักษณะของการเจริญภาวนา การเจริญสติ คำว่าความรู้ตัว รู้สึกตัวพร้อมอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร นี่แหละเราต้องพยายาม
การเกิดของใจ เราควบคุมได้ระดับไหน ระดับต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ ระดับของความคิดอารมณ์เขาก่อตัวขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งก็มีอยู่แล้วมีกันทุกคนในกายก้อนนี้ในขันธ์ห้าก้อนนี้ คำว่า ‘ขันธ์ห้า’ หรือว่ากองหรือว่าขันธ์ในร่างกายของเรา มันเป็นลักษณะอย่างไร ซึ่งประชุมรวมกันมีหนังเข้ามาห่อหุ้มเอาไว้ เราต้องหัดศึกษาหัดค้นคว้า หัดพิจารณาหัดทำความเข้าใจ
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเรามีความรับผิดชอบที่เต็มเปี่ยมหรือไม่ เราเป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ มีความรับผิดชอบมีความเสียสละ จิตใจน้อมเข้าไปในการให้อภัยทาน น้อมเข้าไปในความเสียสละ น้อมเข้าไปในพรหมวิหาร ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ความอิจฉาริษยา มีตั้งแต่การเอาออกมีตั้งแต่การให้ ให้ด้วยความเมตตา ให้ด้วยสติให้ด้วยปัญญา
เราต้องพยายามศึกษาค้นคว้าชีวิตของเราให้ถ่องแท้ก่อนที่จะหมดลมหายใจ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้งอย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา ทุกคนมีเวลาเท่ากันหมดนั่นแหละ เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะขยันหมั่นเพียรในการทำในการสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักใช้ รู้จักบริหารด้วยสติด้วยปัญญาให้ถูกต้อง ไปอยู่ที่ไหนก็จะมีตั้งแต่ความสงบ ไปอยู่ที่ไหนก็มีตั้งแต่ความสุข ถ้าคนเรารู้จักตัวของเราเอง
แต่ส่วนมากเราก็รู้อยู่ในระดับของสมมติ อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติแต่ก็ยังดับทุกข์ไม่ได้ การเกิดการดับของกายเนื้อก็เกิดมาแล้ว ทีนี้การเกิดการดับของวิญญาณหรือว่าตัวใจของเราเนี่ยเขาเกิดอยู่ตลอดนั่นแหละ แต่ถ้าเราไม่ได้เจริญสติให้ต่อเนื่องเราก็จะรู้ไม่รู้เท่าทันตรงนี้ ถ้าเราเจริญให้สติต่อเนื่อง ถ้าไม่รู้จักสังเกตไม่รู้จักวิเคราะห์เราก็ไม่เห็นอีก เรารู้แล้วเห็นแล้วถ้าเราไม่ทำความเข้าใจ ไม่ละใจของเราก็จะไม่สงบอีก
กิเลสหลายชั้นหลายขั้นหลายตอนจริงๆ ที่มาปกปิดเอาไว้ โมหะความลุ่มหลง กายเนื้อก็มาปกปิดดวงใจเอาไว้ ความคิดอารมณ์ก็มาปกปิดดวงใจเอาไว้ แม้แต่การเกิดของใจเขาก็ปิดบังอำพรางตัวของเขา นอกจากบุคคลที่มีกำลังสติมีกำลังปัญญา หมั่นวิเคราะห์หมั่นพิจารณา หมั่นอบรมหมั่นสั่งสอนใจของตัวเรา อะไรควรละอะไรควรเจริญ เราก็ต้องพยายาม
เพียงแค่ระดับของสมมติ เราก็จัดระบบระเบียบให้เป็นระเบียบให้ถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ ลึกลงไปก็คือตัวใจคือวิมุตติ พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอัตตาเรื่องอนัตตา มีไม่มากหรอกอยู่ในกายของเราถ้าคนเรารู้จักค้นคว้า แต่ในระดับของสมมติ เรามีโอกาสได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ร่วมกัน สร้างตบะสร้างบารมีร่วมกันอยู่ แต่สำหรับการละกิเลสการขัดเขากิเลสที่เกิดจากตัวใจของเรา ความคิดที่เข้ามาปรุงแต่งใจของเรา ตรงนี้เราต้องหัดสังเกตเอาทำความเข้าใจเอา อย่าไปทำด้วยความอยาก ลักษณะของสติที่ต่อเนื่องเป็นอย่างไร กายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร
มีโอกาสพวกเราได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ร่วมกัน เมื่อวานนี้ชาวคณะโรงปูนทางสระบุรีก็ได้พากันมา 20-30 กว่าท่าน มีโอกาสก็มา มากันทุกเดือนมากันทุกปี ผู้นำหรือว่าผู้บริหารท่านเปิดโอกาสให้บริวารของท่านได้มาได้เปลี่ยนบรรยากาศ เป็นผู้บริหารที่ดีเป็นผู้นำที่ดี ได้ทำบุญให้กับบริวารได้ทำบุญกับลูกน้อง เปิดโอกาสให้บริวารได้มาได้เปลี่ยนบรรยากาศเปลี่ยนโอกาส มาศึกษาตัวเรานั่นแหละมาศึกษาชีวิตของเรานั่นแหละ แต่ศึกษากันต่างสถานที่ สร้างโอกาสให้ได้เข้ามาวัดเข้ามาศึกษาเข้ามาทำความเข้าใจ มาทีไรก็ได้มีโอกาสได้สร้างบุญสร้างอานิสงส์ใหญ่ทุกที ก็ทางวัดก็ได้เปิดโอกาสให้ได้มีโอกาสได้มาร่วมกันอยู่
อยากจะร่วมกันอยากจะช่วยกันสร้างองค์หลวงปู่ใหญ่ สร้างพระใหญ่ ก็ขอขอเชิญนะทุกคนนั่นแหละ เราก็ได้ทำช่วยกันทุกวันได้ทำช่วยกันทุกวัน สร้างองค์พระศรีอริยเมตไตรย ตอนนี้ก็ไปได้เยอะ แต่ละวันๆ พี่น้องทั้งใกล้ทั้งไกล ญาติโยมผู้หญิงผู้ชายไม่ว่าลูกเด็กเล็กแดง ได้ยินข่าวทราบข่าวก็พากันมาช่วยกันก่ออิฐถือปูนเทปูนกันทุกวัน กลัวจะไม่ได้ทำนั่นแหละ
บุคคลที่มีบุญมีโอกาส โอกาสเปิดให้ก็รีบขวนขวายรีบสร้างรีบทำ ไม่เอาตั้งแต่ความเกียจคร้าน ไม่เอาตั้งแต่ความตระหนี่ มีโอกาสก็ได้รีบมาทำ ทำเสร็จก็หมดโอกาส พวกเราได้มีโอกาสได้ร่วมกัน ได้มาสร้างมาทำฝากเอาไว้ในแผ่นดินฝากเอาไว้ในใจของเรา เพื่อความเป็นสิริมงคลของสถานที่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่จิตใจของเรา โอกาสได้เปิดให้ก็ได้พากันมาทำ
หลวงพ่อก็ขอขอบใจกันทุกคน ขอบใจเหล่ามนุษย์เหล่าเทวดา บางคนบางท่านก็ทุ่มเทกำลังกายมาช่วยทั้งกำลังกายกำลังใจ บางคนบางท่านไม่ได้มาก็ส่งจตุปัจจัยมาช่วย อันนี้หลวงพ่อก็ขอขอบคุณมากๆเลยทีเดียว ทุกคนเลยทีเดียวมีโอกาสได้มาร่วมกัน ยิ่งบุคคลที่ไม่มีโอกาสนั่นแหละยิ่งหาโอกาสมา จะได้เป็นเข้าพกเข้าห่อที่ตามตัวเราไป บุญสมมติเราก็ทำบุญวิมุตติเราก็ทำ ขอให้เรามีศรัทธาน้อมเข้ามาในสิ่งที่จะเป็นบุญ ในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในโลกนี้ประโยชน์อยู่ปัจจุบัน ทางด้านจิตใจก็จะมีตั้งแต่ความสุข มีโอกาสเราก็ได้ช่วยกันทำ หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่ตลอดเวลา
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ