หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 026

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 026
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 026
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง แล้วก็พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง

พยายามทำความเข้าใจคือกายของเราใจของเรา รู้จักละความเกิดละกิเลสออกจากใจของเราแล้วหรือยัง เราต้องรู้จักวิธี เราต้องทำความเข้าใจกับชีวิตของเราทุกเรื่อง ไม่ว่าทั้งภายนอกภายใน ไม่ว่าทั้งสมมติที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าทางด้านรูปร่างกายของเรา ไม่ว่าทางด้านจิตหรือว่าวิญญาณของเรา เขาเกิดอย่างไร เขาเป็นลักษณะอย่างไร

ใจที่สงบนิ่งเป็นอย่างไร ใจที่ไม่มีกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่คลายออกจากความคิดซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ตรงนั้นอย่าเพิ่งไปเอาเถอะ เพียงแค่การสร้างความรู้ตัวหรือว่าสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน มีไม่ค่อยต่อเนื่องและก็ไม่ค่อยจะเจริญให้มีให้เกิดขึ้น ไม่ค่อยขยันหมั่นเพียรตรงนี้เท่าไร ทั้งที่ใจก็เป็นบุญอยากจะได้บุญ อยากจะได้ธรรมอยากจะรู้ธรรม แสวงหาทางดับทุกข์แสวงหาธรรม ตัวใจนั่นแหละคือตัวธรรม

แต่เวลานี้เขายังทั้งเกิดด้วยทั้งหลงด้วย ถ้าเรายังเจริญสติไม่ต่อเนื่อง ยังสังเกตยังแยกสังเกตจนใจคลายออกจากความคิดไม่ได้ก็จะไม่รู้ว่าเราหลง ถ้าเราสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องได้เมื่อไร เราสังเกตได้เมื่อไร ใจคลายออกจากความคิดออกจากอารมณ์ได้เมื่อไร นั่นแหละเราถึงจะรู้ว่าเราหลง กำลังสติต้องต่อเนื่อง ขยันหมั่นเพียร ทั้งสมมติ สมมติภายนอกโลกธรรมแปดในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวเราก็ต้องทำความเข้าใจ ความเป็นอยู่ทางสมมติของเราเป็นอย่างไร ทำไมเราถึงมีไม่พร้อม ทำไมเราถึงลำบาก เราก็ต้องมาสำรวจตัวเราแก้ไขตัวเรา เพิ่มความขยันหมั่นเพียรรู้จักแสวงหา ยังสมมติให้เกิดประโยชน์

อันนั้นก็ขาดอันนี้ก็ขาด เราก็ต้องพยายามทำขึ้นมาให้มีให้เกิด เพื่อที่จะยังสมมติของเราให้บริบูรณ์ ถึงจะมีไม่มากแต่ก็ไม่ให้ถึงกับลำบากทางด้านสมมติ ถ้าสมมติไม่ลำบากแล้วจิตใจของเราก็เบาก็คลายลงไปได้เยอะ ทีนี้กายของเราก็ยังอาศัยปัจจัยสี่อยู่ อาศัยอานิสงส์แห่งปัจจัยสี่อยู่ เราก็ต้องทำความเข้าใจ วิญญาณก็มาอาศัยกายนี้อีก มันจะลึกลงไปหลายชั้น ความคิด อารมณ์ ขันธ์ห้า ซึ่งเราสวดเราท่องกันทุกเช้าทุกเย็นว่าขันธ์ห้าเป็นของหนัก ก็กายของเรานี้ส่วนรูป ส่วนวิญญาณ ความคิดอารมณ์นั้นเป็นส่วนนาม

จิตใจของเราเป็นธาตุรู้มาก่อน แต่เขาหลงหลงเกิด ไม่รู้ว่ากี่ภพกี่ชาติกี่กัปกี่กัลป์ ทีนี้ก็หลงมาเกิดอยู่ในภพของมนุษย์ มาก่อร่างสร้างกายเนื้อขึ้นมาปกปิดตัวของเขาเอาไว้ แล้วก็ทางความคิดทางอารมณ์ก็มาปกปิดดวงวิญญาณเอาไว้อีก แม้แต่วิญญาณการเกิดของวิญญาณอีก มันปิดไว้หลายชั้น กำลังสติปัญญาของเราถ้าไม่แหลมคมจริงๆ ยากที่จะรู้ ยากที่จะเห็นยากที่จะเข้าใจ เพียงแค่รู้แค่เห็นยังไม่พอก็ต้องตามทำความเข้าใจ แล้วก็ละออกดับความเกิด ละกิเลสให้มันหมดจดอีกทุกอย่าง ต้องใช้ความเพียรอย่างเต็มเปี่ยมอย่างเต็มที่ แล้วก็เจริญพรหมวิหารให้เต็มที่

ใจของเรามีความละกิเลสออกจากใจของเราได้หรือไม่ เรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน เรามีความจริงใจต่อตัวเราเอง เรามีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่เห็นแก่ตัว เรารู้จักคลายละกิเลสออกจากใจของเรา ได้มากได้น้อยก็ต้องพยายามเอา แต่การทำบุญ การให้ทาน ความเสียสละมีกันทุกคน แต่จะมีกันอย่างเต็มเปี่ยมถึงจุดหมายปลายทางคือฐานของใจได้หรือไม่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคลอย่าพากันทิ้ง ตื่นเช้าขึ้นมาเราก็รีบสำรวจ ไม่ใช่ว่าเอาปัญญาโลกีย์ไปสำรวจ ต้องปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา

การเจริญภาวนา ลักษณะของการเจริญภาวนา ลักษณะของการเจริญสติ ความหมายของสติรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นอย่างไร แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องกันเป็นอย่างไร แต่ละวันตัวใจหรือว่าดวงวิญญาณของเราส่งออกไปภายนอก เขาก่อตัวอย่างไร เขาเกิดอย่างไร ความคิดที่ไม่ตั้งใจคิดผุดขึ้นมาได้อย่างไร เราต้องศึกษาค้นคว้าให้ละเอียดแล้วค่อยละแล้วค่อยดับไปทีละเล็กทีละน้อย ใจของเรานี้ยังมีความทะเยอทะยานยากอยู่

เพียงแค่การเกิด การปรุงการแต่ง เขาก็ส่งออกไปภายนอกนั่นแหละ เข้าหลักของสมุทัยสาเหตุแห่งทุกข์คือความไม่เที่ยง การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ถ้าเรามาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ เข้าไปรู้เข้าไปเห็น เข้าไปแยกเข้าไปคลาย เข้าไปละเข้าไปดับ ดับทีนั้นทีนี้มันก็สั้นลงๆ หนุนกำลังสติไปเกิดแทนไปทำหน้าที่แทน เราดับความเกิดของวิญญาณเสีย จะมีอะไรมาเกิดก็เหลือตั้งแต่กายเนื้อ กายเนื้อแตกดับก็เข้าสู่ความสะอาดของบริสุทธิ์ เราก็ต้องพยายามกัน

ขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เราก็บริหารกายเนื้อของเรา บริหารใจของเราให้ถูกทางให้ถูกทิศ ถูกที่ถูกทาง มองเห็นหนทางเดินของตัวเองให้ชัดแจ้ง อีกสักหน่อยกายเนื้อจะดับก็ต้องได้ไป ทุกคนก็ต้องได้พลัดพรากจากกันหมดนั่นแหละ ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย

เราพยายามรีบเดินเสีย แก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา ตำหนิตัวเราอย่าไปโทษคนโน้นอย่าไปโทษคนนี้ จงโทษตัวเราเองแก้ไขตัวเราเองปรับปรุงตัวเราเอง หมั่นพร่ำสอนใจของเรา ท่านถึงเรียกว่า ‘ตนเป็นที่พึ่งของตน’ เรานี่แหละ สตินี่แหละตัวแรกเป็นที่พึ่งของใจ สติก็บริหารทั้งกายทั้งใจทั้งสมมติให้อยู่ดีมีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข

ยิ่งเรามาอยู่ร่วมกันหลายๆ คน หลายๆ ท่าน ก็พยายามเพิ่มความสมัครสมานสามัคคี เป็นบุคคลที่มีความเสียสละอย่างเต็มเปี่ยมอย่างยิ่งยวด เสียสละทั้งภายนอกเสียสละทั้งภายใน มีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มองโลกในทางที่ดี

ถ้าเราเข้าใจ จะไปวิ่งดิ้นรนแสวงหาธรรม หานอกกายหาไม่เจอหรอก ต้องเน้นลงอยู่ที่กายของเรา เน้นลงอยู่ที่ใจของเรา สติความรู้ตัวไม่มีเราต้องสร้างขึ้นมาให้มีอยู่ที่กายของเรานี่แหละ อยู่กับลมหายใจบ้างหรืออยู่การเคลื่อนไหวของใครบ้าง อยู่กับกายของเรา อยู่กับการเดิน อยู่กับลมหายใจ เราก็ต้องพยายามหัดวิเคราะห์หัดสังเกต หัดจำแนกแจกแจงแยกรูปรสกลิ่นเสียงออกจากใจของเรา

ทวารทั้งหกเขาก็ทำหน้าที่ของเขา ตาก็ทำหน้าที่ดู หูก็ทำหน้าที่ฟัง เราไปห้ามไม่ได้ ห้ามหูอย่าไปฟังนะก็ไม่ได้ เราไปห้ามที่ใจของเราไม่ให้เกิดความยินดียินร้าย ทุกสิ่งทุกอย่างทำหน้าที่ของเขาบริบูรณ์ หูตาจมูกลิ้นกาย มีตัวใจเป็นตัวรับรู้ คือว่าตัววิญญาณเป็นตัวรับรู้ ถ้าวิญญาณเกิดหรือว่าใจเกิด เราก็รู้จักดับ รู้จักดับรู้จักละ

แต่เวลานี้เขายังแยกยังคลายไม่ได้สมมติยังครอบอยู่ อาจจะถูกต้องอยู่ระดับของสมมติ แต่หลักธรรมแล้ว เราต้องแยกต้องคลายให้ได้เสียก่อน หมั่นสังเกตหมั่นวิเคราะห์ หมั่นพร่ำสอนตัวเราตลอดเวลา ถ้าเราไม่สอนเราไม่รู้ว่าใครจะสอนเราให้ เราต้องสอนตัวเราแก้ไขตัวเรา จะไปวิ่งให้คนโน้นเขาสอนคนนี้เขาสอน คนฉลาดเขาไม่ทำอย่างนั้นหรอก คนฉลาดเขาจะสอนตัวเอง แก้ไขตัวเองปรับปรุงตัวเอง รู้ไม่เท่าทันเราก็รู้จักควบคุมเอาไว้ เริ่มใหม่สังเกตใหม่ทำอยู่บ่อยๆ ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่แก้ไขใหม่ สักวันหนึ่งก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทาง ไม่เดินถึงช้าก็ต้องเดินถึงเร็ว พยายามนะ

เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง