หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 048
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551 ลำดับที่ 048
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2551
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้การเข้าใจการหายใจเข้าออกของตัวเราเอง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราได้น้อมสร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้หัดสังเกตหัดวิเคราะห์จิตกายของเราแล้วหรือยัง
การเกิดของจิต การดับของจิต การเกิดของความคิดของอารมณ์ การกระทำของเรา ภาระหน้าที่ทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราต้องพยายามสำรวจทำให้ดีที่สุด เท่าที่กำลังสติปัญญาของเรามี ไม่ใช่ว่าเราจะเอาตั้งแต่ธรรม เราต้องทำความเข้าใจหมด ธรรมกับโลกเขาก็อยู่ด้วยกัน สมมติกับวิมุตติเขาก็อยู่ด้วยกัน กายของเราก็เป็นก้อนโลก จิตของเราก็มาอาศัยกายก้อนนี้อยู่ แล้วก็มาหลงยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวตนของเราจริงๆ ตามหลักของสมมติก็เป็นตัวตนของเราอยู่ แต่ในหลักตามความเป็นจริงแล้วเป็นเพียงสภาวธรรมที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป จิตของเราเข้ามายึดเอาตรงนี้ ก็เลยไปหลงเอาทุกสิ่งทุกอย่าง
เราต้องสำรวจแยกแยะด้วยสติปัญญาที่แหลมคมจึงจะเข้าใจ ถ้าสติปัญญา อานิสงส์ไม่เพียงพอ ยากที่จะเข้าใจตรงจุดนี้ จิตทุกดวงฝักใฝ่ในการสร้างอานิสงส์สร้างบุญ ฝักใฝ่หาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น แต่ดำเนินไม่ถูกทางก็ยิ่งห่างไกล ห่างไกลความบริสุทธิ์ แต่ก็ยังอยู่ในกองบุญอยู่ อยู่ในกองกุศลอยู่
ทำไมถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่ายังหลงอยู่ในบุญ ยังสร้างอานิสงส์ สร้างบุญ สร้างบารมีกันอยู่ ถ้าถึงวาระถึงเวลาก็คงจะถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ถึงช้าก็คงถึงเร็ว ตราบใดที่เรายังแสวงหาอยู่ ก็ต้องพยายามกัน อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง พยายามสร้างอานิสงส์สร้างบารมี ให้เกิดขึ้นในกายในใจของเราทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก
แม้ตั้งแต่เรื่องการเจริญสติ เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็ทำความเข้าใจกับลักษณะของความรู้ตัว รู้การหายใจเข้าออก อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย คนเราเกิดมาก็ต้องหายใจ แต่คนเราขาดการสร้างความรู้ สร้างความรู้สึกรับรู้ หายใจทิ้งไปเปล่าๆ ว่าไม่มีคุณค่า
แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราหมั่นสังเกตบ่อยๆ เราจะรู้เห็นเข้าออกๆ ลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออก ถ้าลมหายใจเข้าไม่ออกก็ตาย หายใจออกไม่เข้าก็ตาย สำคัญมากทีเดียว คนเราอยู่เนื่องด้วยลมหายใจประกอบกัน
ถ้าเราหมั่นวิเคราะห์เราถึงจะรู้เห็น เพียงแค่การหายใจเข้าออกพวกเรายังรู้ไม่ชำนาญกัน จะไปเอาตั้งแต่ธรรม ไปปฏิบัติธรรมที่นั่นปฏิบัติธรรมที่นี่ แต่การสร้างความรู้ตัวไม่ต่อเนื่อง มันจะไปรู้ได้อย่างไร บางครั้งบางคราวจิตของเราก็ยังเป็นบุญอยู่ ต้องบอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น มีความรับผิดชอบที่สูง มีความเสียสละที่สูง อย่าเป็นคนดื้อรั้น อย่าเป็นคนบอกยากสอนยาก ต้องเป็นคนบอกง่ายสอนง่าย แล้วก็บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น หมั่นพร่ำสอนตัวเราอยู่ตลอดเวลา
พร่ำสอนจิต การกระทำของเรา ทั้งด้านรูปธรรมทั้งด้านนามธรรม ทำให้เป็นบุญตลอดเวลา ไม่เบียดเบียนตนไม่เบียดเบียนคนอื่น ทั้งทางกายทางวาจา ลึกลงไปก็ทางใจ ฐานของจิต ทำความเข้าใจกับสมมติ ทำความเข้าใจกับศีลสมาธิปัญญา ลักษณะของศีล ลักษณะของสมาธิ ลักษณะของปัญญาที่จะดำเนินเข้าไปถึงจุดหมายปลายทางได้
ไม่ใช่ว่าปฏิบัติแบบหลงๆ งมๆ งายๆ เราต้องฝึกฝนตนเองให้รู้แจ้งเห็นจริงๆ รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในอัตภาพร่างกายของเรา รอบรู้ในสมมติ รอบรู้ในวิมุตติ รอบรู้ในกองของหลักอริยสัจ การเกิด การส่งไปข้างนอก การดับการละ เราต้องให้เห็นละเอียด จากหยาบๆ ไปหาละเอียด
ไม่ใช่ว่าจะไปมัวเมาเล่น ถ้ามัวเมาเล่นมีตั้งแต่เล่นสนุกสนาน เสียเวลาเปล่าๆ กายก็หนักจิตก็หนัก หนักสถานที่ หนักบุคคลรอบข้าง หนักทุกสิ่งทุกอย่าง
เราก็ต้องพยายามกันนะ แล้วก็รู้จักสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น อย่าไปเกียจคร้าน ถ้าเกียจคร้านแล้วก็ช่วยเหลือไม่ได้ เราต้องเป็นคนขยัน ขยันจริงๆ ขยันทั้งภายนอกภายใน ขยันละนิวรณ์ ขยันละกิเลส งานภายนอกเราก็ขยัน มีความรับผิดชอบ เป็นคนมีความเป็นระเบียบ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่กิน ไม่เห็นแก่นอน ไม่เห็นแก่พูดมาก พูดน้อย ทำให้มากๆ ปฏิบัติให้มากๆ
ยิ่งพวกเราได้มาอยู่ร่วมอยู่รวมกัน อยู่หลายทิศหลายที่หลายทาง มาอยู่ร่วมกันทั้งใกล้ทั้งไกล เราเคยสร้างอานิสงส์ร่วมกัน สร้างบุญทางบารมีมาร่วมกันถึงได้มาอยู่ร่วมกัน ในเมื่อพวกเราได้มาอยู่ร่วมกันแล้ว ขอให้พยายามมีตั้งแต่ความสมัครสมานสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว อย่าไปเกียจคร้าน
ก่อนที่พวกเราจะได้มาอยู่ร่วมกันได้ ก็เกิดจากอานิสงส์บุญ เป็นแรงบุญแรงกุศลที่ชักนำ มาตั้งแต่ก่อนก็ไม่มีใคร เป็นตั้งแต่ป่าช้าร้างไม่มีอะไร มีตั้งแต่ป่าเพ็กป่าหนาม ไม่น่าอยู่น่าอาศัยน่ารื่นรมย์ ก็เกิดจากรุ่นต่อรุ่นทำกันมาสร้างสะสมกันมา หลวงพ่อก็มาสร้างสานต่อ พวกเราก็มาสร้างสานต่อ ต่างคนก็ต่างช่วยกัน
เรามาอยู่ ณ สถานที่ตรงนี้ก็เป็นสถานที่ของทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดิน เราต้องพยายามสร้างให้เกิดประโยชน์ให้เกิดอานิสงส์ให้มาก ไม่ใช่ว่ามาทำลาย มาทำลายมาขัดมาขวาง อันนั้นไม่ใช่หนทาง เราพยายามทำสถานที่ของเราให้น่าอยู่น่ารื่นรมย์ ญาติโยมใครไปใครมาก็มีความสุข เข้ามาแล้วมีความสุข สบายกายสบายใจ เป็นที่พักเป็นที่พึ่งพิงของทุกคน
ถ้ามาแล้วก็มาสร้างความลำบากให้ เหนื่อยใจ ไม่มีประโยชน์ เราก็ต้องพยายามขยันกัน ทุกคนก็ขยันหมั่นเพียร ทั้งพระทั้งชีก็ช่วยกันดี หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน เรามาช่วยกันพวกเราก็พลอยได้รับอานิสงส์ได้รับความสุข คนอื่นมาก็พลอยได้รับความสุข ถ้าคนเกียจคร้านก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะว่าหมู่คณะพากันขยันหมั่นเพียร ถ้าตัวเองเกียจคร้านแล้วก็ละอาย ละอายหมู่ละอายคณะ ทุกคนก็มีข้อวัตรปฏิบัติอยู่ในตัว ถ้าเอาข้อวัตรผิดๆ เอาความเกียจคร้านเข้ามาไว้ ณ สถานที่ตรงนี้ พยายามกำจัดออกไปเสีย อย่าให้มี
ต้องเป็นคนขยัน ขยันวิเคราะห์ ขยันพิจารณา ขยันรับผิดชอบเท่าที่กำลังสติปัญญาของเรามี ทุกที่ในสถานที่ตรงนี้ ที่พักที่อาศัย ที่อยู่ที่อาศัย ที่หลับที่นอน เราต้องพยายามจัดให้เป็นระเบียบ ถึงจะไม่มีค่ามีราคา เราก็พยายามทำให้เป็นระเบียบ ให้สะอาด ต้องเป็นบุคคลที่รักสะอาดชอบสะอาด อย่าเป็นคนชอบสะอาดแต่รักความสกปรก สร้างตั้งแต่ความสกปรก ไม่ดี
ตั้งแต่ปากทางเข้ามา มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง อะไรไม่ดีเราก็รีบทำ ความระเกะระกะเราก็รีบทำให้เป็นระเบียบ ห้องส้วมห้องน้ำ ที่พักที่อาศัย โรงครัวต่างๆ ถ้าเราไม่ฝึกฝนพวกนี้ แล้วเราจะไปฝึกฝนอะไร ก็ความเป็นอยู่ของเรา ปัจจัยสี่ กายของเราก็อาศัยปัจจัยสี่อยู่ ปัจจัยสี่ก็อำนวยความสะดวกให้ การประพฤติปฏิบัติจิตก็จะไปได้เร็วได้ไว ถ้าที่พักที่อาศัยไม่มีการปฏิบัติจิตก็ลำบาก ห้องส้วมห้องน้ำไม่มีกายของเราก็ลำบาก โรงครัวโรงอาหารไม่มีกายของเราก็ยิ่งลำบากใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ให้มีเพียบพร้อมกันหมด ยังเหลือตั้งแต่ว่าพวกเราจะแก้ไขตัวเองหรือไม่ ปรับปรุงตัวเราเองหรือไม่เท่านั้นเอง
อย่าให้คนอื่นได้บังคับ เราต้องบังคับตัวเอง แก้ไขตัวเอง หมั่นชำระสะสางกิเลสออกจากใจของเรา ได้มากได้น้อยเราก็ต้องพยายามเอา ความเป็นสิริมงคลก็จะเกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา
ถ้าเอาตั้งแต่ธรรม จะมุ่งตั้งแต่ธรรม แต่ไม่รู้จักชำระสะสางกิเลส ไม่มีความเสียสละ ไม่มีความอดทน ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มันก็ยิ่งจะห่างไกล เราต้องหัดฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา ความเจริญงอกงามไพบูลย์ก็จะเกิดขึ้น ความเป็นสิริมงคลก็จะเกิดขึ้น
หลวงพ่อก็เพียงแค่ได้พูดให้ฟัง ได้ชี้แนะให้ฟัง ทุกคนก็ปฏิบัติกันอยู่ จะถึงช้าถึงเร็วก็ค่อยๆ เดินกัน ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มองโลกในทางที่ดีคิดดี อย่ามองโลกในแง่ร้าย เราก็ต้องพยายาม คนไหนที่ยังด้อยการพัฒนาตัวเองก็พยายามปรับปรุงตัวเอง บอกตัวเองแก้ไขตัวเอง ถ้าปรับปรุงตัวเองไม่ได้ก็อยู่ร่วมหมู่คณะไม่ได้เท่านั้นเอง ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา
การเกิดของจิต การดับของจิต การเกิดของความคิดของอารมณ์ การกระทำของเรา ภาระหน้าที่ทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราต้องพยายามสำรวจทำให้ดีที่สุด เท่าที่กำลังสติปัญญาของเรามี ไม่ใช่ว่าเราจะเอาตั้งแต่ธรรม เราต้องทำความเข้าใจหมด ธรรมกับโลกเขาก็อยู่ด้วยกัน สมมติกับวิมุตติเขาก็อยู่ด้วยกัน กายของเราก็เป็นก้อนโลก จิตของเราก็มาอาศัยกายก้อนนี้อยู่ แล้วก็มาหลงยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวตนของเราจริงๆ ตามหลักของสมมติก็เป็นตัวตนของเราอยู่ แต่ในหลักตามความเป็นจริงแล้วเป็นเพียงสภาวธรรมที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป จิตของเราเข้ามายึดเอาตรงนี้ ก็เลยไปหลงเอาทุกสิ่งทุกอย่าง
เราต้องสำรวจแยกแยะด้วยสติปัญญาที่แหลมคมจึงจะเข้าใจ ถ้าสติปัญญา อานิสงส์ไม่เพียงพอ ยากที่จะเข้าใจตรงจุดนี้ จิตทุกดวงฝักใฝ่ในการสร้างอานิสงส์สร้างบุญ ฝักใฝ่หาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น แต่ดำเนินไม่ถูกทางก็ยิ่งห่างไกล ห่างไกลความบริสุทธิ์ แต่ก็ยังอยู่ในกองบุญอยู่ อยู่ในกองกุศลอยู่
ทำไมถึงพูดอย่างนั้น เพราะว่ายังหลงอยู่ในบุญ ยังสร้างอานิสงส์ สร้างบุญ สร้างบารมีกันอยู่ ถ้าถึงวาระถึงเวลาก็คงจะถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ถึงช้าก็คงถึงเร็ว ตราบใดที่เรายังแสวงหาอยู่ ก็ต้องพยายามกัน อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง อย่าไปปล่อยเวลาทิ้ง พยายามสร้างอานิสงส์สร้างบารมี ให้เกิดขึ้นในกายในใจของเราทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก
แม้ตั้งแต่เรื่องการเจริญสติ เราก็ต้องพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็ทำความเข้าใจกับลักษณะของความรู้ตัว รู้การหายใจเข้าออก อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย คนเราเกิดมาก็ต้องหายใจ แต่คนเราขาดการสร้างความรู้ สร้างความรู้สึกรับรู้ หายใจทิ้งไปเปล่าๆ ว่าไม่มีคุณค่า
แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ถ้าเราหมั่นสังเกตบ่อยๆ เราจะรู้เห็นเข้าออกๆ ลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออก ถ้าลมหายใจเข้าไม่ออกก็ตาย หายใจออกไม่เข้าก็ตาย สำคัญมากทีเดียว คนเราอยู่เนื่องด้วยลมหายใจประกอบกัน
ถ้าเราหมั่นวิเคราะห์เราถึงจะรู้เห็น เพียงแค่การหายใจเข้าออกพวกเรายังรู้ไม่ชำนาญกัน จะไปเอาตั้งแต่ธรรม ไปปฏิบัติธรรมที่นั่นปฏิบัติธรรมที่นี่ แต่การสร้างความรู้ตัวไม่ต่อเนื่อง มันจะไปรู้ได้อย่างไร บางครั้งบางคราวจิตของเราก็ยังเป็นบุญอยู่ ต้องบอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น มีความรับผิดชอบที่สูง มีความเสียสละที่สูง อย่าเป็นคนดื้อรั้น อย่าเป็นคนบอกยากสอนยาก ต้องเป็นคนบอกง่ายสอนง่าย แล้วก็บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น หมั่นพร่ำสอนตัวเราอยู่ตลอดเวลา
พร่ำสอนจิต การกระทำของเรา ทั้งด้านรูปธรรมทั้งด้านนามธรรม ทำให้เป็นบุญตลอดเวลา ไม่เบียดเบียนตนไม่เบียดเบียนคนอื่น ทั้งทางกายทางวาจา ลึกลงไปก็ทางใจ ฐานของจิต ทำความเข้าใจกับสมมติ ทำความเข้าใจกับศีลสมาธิปัญญา ลักษณะของศีล ลักษณะของสมาธิ ลักษณะของปัญญาที่จะดำเนินเข้าไปถึงจุดหมายปลายทางได้
ไม่ใช่ว่าปฏิบัติแบบหลงๆ งมๆ งายๆ เราต้องฝึกฝนตนเองให้รู้แจ้งเห็นจริงๆ รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในอัตภาพร่างกายของเรา รอบรู้ในสมมติ รอบรู้ในวิมุตติ รอบรู้ในกองของหลักอริยสัจ การเกิด การส่งไปข้างนอก การดับการละ เราต้องให้เห็นละเอียด จากหยาบๆ ไปหาละเอียด
ไม่ใช่ว่าจะไปมัวเมาเล่น ถ้ามัวเมาเล่นมีตั้งแต่เล่นสนุกสนาน เสียเวลาเปล่าๆ กายก็หนักจิตก็หนัก หนักสถานที่ หนักบุคคลรอบข้าง หนักทุกสิ่งทุกอย่าง
เราก็ต้องพยายามกันนะ แล้วก็รู้จักสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น อย่าไปเกียจคร้าน ถ้าเกียจคร้านแล้วก็ช่วยเหลือไม่ได้ เราต้องเป็นคนขยัน ขยันจริงๆ ขยันทั้งภายนอกภายใน ขยันละนิวรณ์ ขยันละกิเลส งานภายนอกเราก็ขยัน มีความรับผิดชอบ เป็นคนมีความเป็นระเบียบ ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่กิน ไม่เห็นแก่นอน ไม่เห็นแก่พูดมาก พูดน้อย ทำให้มากๆ ปฏิบัติให้มากๆ
ยิ่งพวกเราได้มาอยู่ร่วมอยู่รวมกัน อยู่หลายทิศหลายที่หลายทาง มาอยู่ร่วมกันทั้งใกล้ทั้งไกล เราเคยสร้างอานิสงส์ร่วมกัน สร้างบุญทางบารมีมาร่วมกันถึงได้มาอยู่ร่วมกัน ในเมื่อพวกเราได้มาอยู่ร่วมกันแล้ว ขอให้พยายามมีตั้งแต่ความสมัครสมานสามัคคี มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว อย่าไปเกียจคร้าน
ก่อนที่พวกเราจะได้มาอยู่ร่วมกันได้ ก็เกิดจากอานิสงส์บุญ เป็นแรงบุญแรงกุศลที่ชักนำ มาตั้งแต่ก่อนก็ไม่มีใคร เป็นตั้งแต่ป่าช้าร้างไม่มีอะไร มีตั้งแต่ป่าเพ็กป่าหนาม ไม่น่าอยู่น่าอาศัยน่ารื่นรมย์ ก็เกิดจากรุ่นต่อรุ่นทำกันมาสร้างสะสมกันมา หลวงพ่อก็มาสร้างสานต่อ พวกเราก็มาสร้างสานต่อ ต่างคนก็ต่างช่วยกัน
เรามาอยู่ ณ สถานที่ตรงนี้ก็เป็นสถานที่ของทุกคน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดิน เราต้องพยายามสร้างให้เกิดประโยชน์ให้เกิดอานิสงส์ให้มาก ไม่ใช่ว่ามาทำลาย มาทำลายมาขัดมาขวาง อันนั้นไม่ใช่หนทาง เราพยายามทำสถานที่ของเราให้น่าอยู่น่ารื่นรมย์ ญาติโยมใครไปใครมาก็มีความสุข เข้ามาแล้วมีความสุข สบายกายสบายใจ เป็นที่พักเป็นที่พึ่งพิงของทุกคน
ถ้ามาแล้วก็มาสร้างความลำบากให้ เหนื่อยใจ ไม่มีประโยชน์ เราก็ต้องพยายามขยันกัน ทุกคนก็ขยันหมั่นเพียร ทั้งพระทั้งชีก็ช่วยกันดี หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน เรามาช่วยกันพวกเราก็พลอยได้รับอานิสงส์ได้รับความสุข คนอื่นมาก็พลอยได้รับความสุข ถ้าคนเกียจคร้านก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะว่าหมู่คณะพากันขยันหมั่นเพียร ถ้าตัวเองเกียจคร้านแล้วก็ละอาย ละอายหมู่ละอายคณะ ทุกคนก็มีข้อวัตรปฏิบัติอยู่ในตัว ถ้าเอาข้อวัตรผิดๆ เอาความเกียจคร้านเข้ามาไว้ ณ สถานที่ตรงนี้ พยายามกำจัดออกไปเสีย อย่าให้มี
ต้องเป็นคนขยัน ขยันวิเคราะห์ ขยันพิจารณา ขยันรับผิดชอบเท่าที่กำลังสติปัญญาของเรามี ทุกที่ในสถานที่ตรงนี้ ที่พักที่อาศัย ที่อยู่ที่อาศัย ที่หลับที่นอน เราต้องพยายามจัดให้เป็นระเบียบ ถึงจะไม่มีค่ามีราคา เราก็พยายามทำให้เป็นระเบียบ ให้สะอาด ต้องเป็นบุคคลที่รักสะอาดชอบสะอาด อย่าเป็นคนชอบสะอาดแต่รักความสกปรก สร้างตั้งแต่ความสกปรก ไม่ดี
ตั้งแต่ปากทางเข้ามา มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง อะไรไม่ดีเราก็รีบทำ ความระเกะระกะเราก็รีบทำให้เป็นระเบียบ ห้องส้วมห้องน้ำ ที่พักที่อาศัย โรงครัวต่างๆ ถ้าเราไม่ฝึกฝนพวกนี้ แล้วเราจะไปฝึกฝนอะไร ก็ความเป็นอยู่ของเรา ปัจจัยสี่ กายของเราก็อาศัยปัจจัยสี่อยู่ ปัจจัยสี่ก็อำนวยความสะดวกให้ การประพฤติปฏิบัติจิตก็จะไปได้เร็วได้ไว ถ้าที่พักที่อาศัยไม่มีการปฏิบัติจิตก็ลำบาก ห้องส้วมห้องน้ำไม่มีกายของเราก็ลำบาก โรงครัวโรงอาหารไม่มีกายของเราก็ยิ่งลำบากใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ให้มีเพียบพร้อมกันหมด ยังเหลือตั้งแต่ว่าพวกเราจะแก้ไขตัวเองหรือไม่ ปรับปรุงตัวเราเองหรือไม่เท่านั้นเอง
อย่าให้คนอื่นได้บังคับ เราต้องบังคับตัวเอง แก้ไขตัวเอง หมั่นชำระสะสางกิเลสออกจากใจของเรา ได้มากได้น้อยเราก็ต้องพยายามเอา ความเป็นสิริมงคลก็จะเกิดขึ้นกับเราตลอดเวลา
ถ้าเอาตั้งแต่ธรรม จะมุ่งตั้งแต่ธรรม แต่ไม่รู้จักชำระสะสางกิเลส ไม่มีความเสียสละ ไม่มีความอดทน ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย มันก็ยิ่งจะห่างไกล เราต้องหัดฝึกฝนตนเองอยู่ตลอดเวลา ความเจริญงอกงามไพบูลย์ก็จะเกิดขึ้น ความเป็นสิริมงคลก็จะเกิดขึ้น
หลวงพ่อก็เพียงแค่ได้พูดให้ฟัง ได้ชี้แนะให้ฟัง ทุกคนก็ปฏิบัติกันอยู่ จะถึงช้าถึงเร็วก็ค่อยๆ เดินกัน ต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มองโลกในทางที่ดีคิดดี อย่ามองโลกในแง่ร้าย เราก็ต้องพยายาม คนไหนที่ยังด้อยการพัฒนาตัวเองก็พยายามปรับปรุงตัวเอง บอกตัวเองแก้ไขตัวเอง ถ้าปรับปรุงตัวเองไม่ได้ก็อยู่ร่วมหมู่คณะไม่ได้เท่านั้นเอง ก็ต้องพยายามกันนะ
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา