หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 71

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 71
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 71
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2556 ลำดับที่ 71
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 9 มิถุนายน 2556

เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสียนะ นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้น ใจของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ นั่นแหละเขาเรียกว่าสติรู้กาย ถ้าเราพยายามสร้างให้ต่อเนื่อง ซึ่งเรียกว่าสัมปชัญญะ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่อง

เพียงแค่สร้าง แค่ทำให้มีให้เกิดขึ้นที่กายของเรานี่ก็ยาก ไม่ค่อยจะสนใจกัน อยากจะเอาตั้งแต่บุญ อยากจะได้ตั้งแต่ธรรม ตรงนี้มีกันเต็มเปี่ยมอยู่ การทำบุญ การให้ทานศรัทธา การรู้จักทำความเข้าใจคำว่า ความรู้ตัวอยู่ปัจจุบัน คือทุกขณะลมหายใจเข้าออก ทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก อะไรคือความรู้ตัวที่สร้างขึ้นมา ลึกลงไปลักษณะของใจที่ปกติ ใจที่สงบ ใจที่ปราศจากกิเลส จนกว่าจะจำแนกแจกแจง รู้เห็นใจของเราคลายออกจากความคิด ซึ่งเรียกว่าแยกรูปแยกนาม หรือว่าสัมมาทิฏฐิ

ความเห็น ความรู้ความเห็น เห็นอาการของใจ เห็นอาการของความคิด เห็นอาการของขันธ์ห้า ในหลักธรรมท่านเรียกว่ารอบรู้ในกองสังขาร แล้วก็ตามทำความเข้าใจ ให้ใจของเรารับรู้มองเห็นความเป็นจริง เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ เข้าใจคำว่าอัตตากับอนัตตา เข้าใจคำว่า สมมติวิมุตติ แล้วก็ตามทำความเข้าใจตั้งแต่ ต้นเหตุ กลางเหตุ ปลายเหตุ ทุกเรื่อง แล้วก็หมั่นพร่ำสอนใจของเราว่าอะไรผิดอะไรถูก นั่นแหละถึงจะเอาไปดำเนินกับชีวิตประจำวันได้ เอาไปใช้กับชีวิตได้ มองเห็นหนทางเดิน ว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิด เราละกิเลสได้มากได้น้อย กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ก็จะเห็นชัดเจนหมดทุกเรื่อง

แต่เวลานี้สติรู้ตัว ความรู้ตัวนี่ไม่ค่อยจะเจริญกันเลย อยากจะได้ตั้งแต่บุญ อยากจะรู้ตั้งแต่ธรรม เขาก็ปิดกั้นตัวเขาเอาไว้หมด ต้องพยายาม จำแนกแจกแจงแยกแยะให้ชัดเจน คำว่าความรู้ตัว แล้วแต่อุบายแล้วแต่วิธีที่เราจะทำจะสร้างขึ้นมา เน้นลงอยู่ที่กายของเรา ใจมาสร้างภพมนุษย์ขึ้นมา มีกายเนื้อเข้ามาห่อหุ้ม ซึ่งเรียกว่าขันธ์ห้า ทำไมท่านถึงเรียกว่าขันธ์ห้า ขันธ์ห้ามีเป็นกองเป็นขันธ์ ทำไมท่านถึงเรียกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ เราต้องเห็นด้วย ทำความเข้าใจได้ด้วย ตัวใจก็ยังมีความทะเยอทะยานอยากเกิดความโลภ ความโกรธ ความอยาก ความยินดียินร้ายสารพัดอย่าง เราต้องพยายาม เจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล หมั่นอบรมใจ หมั่นบริหารใจของเรา หมั่นพร่ำสอนใจของเราให้ใจมองเห็นความเป็นจริง

ตราบใดที่ใจยังแยกรูปแยกนามไม่ได้ มันก็รู้อยู่ในระดับของโลกียะของสมมติ ถ้าแยกรูปแยกนามได้ก็เหมือนกับเราหงายของที่คว่ำ ตามดูรู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่าง จนใจของเรามองเห็นความเป็นจริงนั่นแหละ เขาถึงจะปล่อยจะวางได้ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี พยายามขยันหมั่นเพียร ถ้าถึงเวลาเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน สร้างอานิสงส์ สร้างตบะ สร้างบารมี จากน้อยๆ ไปหามากๆ ตื่นขึ้นมาเรามีความขยันหมั่นเพียร เรามีความรับผิดชอบ เรามีความเสียสละ เสียสละส่วนตัว ส่วนรวม ประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ปัจจุบัน ประโยชน์ในโลกหน้า วันนี้มี วันพรุ่งนี้มี ภพหน้ามี เมื่อวานนี้ก็ผ่านมาก็เป็นอดีตไปแล้ว ทีนี้ปัจจุบันนี้เราควรที่จะทำความเข้าใจ และก็สร้างขึ้นมา สร้างสติเข้าไปรู้ให้เท่าทัน ทุกสิ่งทุกอย่าง สักวันหนึ่งก็คงจะรู้จะเห็น

การได้ยิน การได้ฟังกัน ได้อ่าน ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม แต่การลงมือ การสำรวจ การทำความเข้าใจ นี่แหละตรงนี้แหละสำคัญ ไม่จำเป็นต้องไปพูดมาก รู้จักแนวทางแล้ว ก็ทำความเพียร การเจริญสติเป็นอย่างนี้ การเจริญสติที่ต่อเนื่อง ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ อยู่คนเดียวก็ย่อมจะเข้าถึง ถ้าเรารู้จักวิธีการแนวทาง ขอให้เรามีความเพียรเถอะ อย่าไปทิ้ง การทำบุญ การสร้างอานิสงส์เราทำได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความแข็งกระด้าง หรือว่ามีความ ก้าวร้าว หรือว่าจิตใจของเรามีอคติมีมลทินต่างๆ ถ้าเราไม่แก้ไขเรา ไม่มีใครจะช่วยเหลือเราได้หรอก นอกจากตัวของเรา ยังสมมติของเราให้เกิดประโยชน์ อันนี้เราก็อนุเคราะห์กันได้ อยู่ในระดับของสมมติ แต่ในระดับของด้านจิตใจลึกๆ การละกิเลสเราต้องช่วยเหลือตัวเรา แก้ไขตัวเรา ก็ต้องพยายามกัน ทั้งพระทั้งโยมทั้งชี

วันนี้เราก็มีโอกาสได้ปลูกต้นไม้ช่วยกัน หลังจากฉันข้าวเสร็จ พากันไปปลูกต้นไม้ มีไม้สาละมาส่ง ประมาณ ไม้สาละใหญ่ประมาณสัก 8 ต้น ที่จะเอามาปลูกที่ฝั่งนี่ล่ะ เรามามีโอกาสเราก็ไปปลูกร่วมกัน หลังจากนั้นก็ ส่วนหนึ่งก็จะได้บวชนาคด้วยกัน ก็ขอเชิญพี่น้องเราทุกคนมาร่วมบวชนาค บวชพระ มาสร้างอานิสงส์ร่วมกันได้บุญหลายสิ่งหลายอย่าง การขัดเกลากิเลสก็ต้องละเอาทำเอา ก็ต้องพยายามกันนะ

เอาล่ะ วันนี้ก็เจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอา

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง