หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 85

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 85
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 85
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 85
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 6 ตุลาคม 2558

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของตัวเราเองให้ชัดเจนแล้วก็ให้ต่อเนื่อง วางภาระหน้าที่การงานทางบ้านทางช่อง ทางสมมติ พวกเราก็อุตส่าห์วางมาแล้ว น้อมกายของเราเข้ามาถึงวัด การเจริญสติ การทำความเข้าใจ เราก็ต้องพยายามมาสร้างขึ้นมา มาศึกษา มาสร้างขึ้นให้ได้เสียก่อน ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียก ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ นั่งตามสบายก็ได้นะ ไม่ต้องพนมมือ ลมหายใจยาวๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ การสูดลมหายใจยาว หายใจออกยาวเข้ายาว กายของเราก็จะสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจนั่นแหละท่านเรียกว่า ความรู้ตัว กายรู้ตัวถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่องเวลาลมหายใจเข้าก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ ลมหายใจออกก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ เขาเรียกว่า ‘ปัจจุบันธรรม’ คือทุกขณะลมหายใจเข้าออก แต่เราจะรู้ให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเพียร

แล้วก็รู้จักเอาสติไปใช้ ลักษณะของสติรู้กายเป็นอย่างนี้ ลึกลงไปลักษณะของ ความรู้ใจ ใจที่ปกติเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจที่มีกิเลส เราก็รู้จักละกิเลส รู้จักควบคุม หมั่นอบรมใจ หมั่นสอนใจของเรา เจริญสติเข้าไปเป็นเพื่อนใจของเราอยู่ตลอดเวลา อะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ระดับสมมติประโยชน์ระดับวิมุตติ

การหลุดพ้น คําว่า ‘หลุดพ้น’ หลุดจากอะไร ใจที่คลายจากความคิดซึ่งเรียกว่าแยกรูปแยกนาม หงายจากความคิด ของที่คว่ำเป็นลักษณะอย่างไร คําว่านามธรรมไม่มีตัวไม่มีตน ทำไมท่านถึงว่าไม่มีตัวมีตน ทำไมเราถึงจะรู้เห็นลักษณะหน้าตาอาการของเขา

คําสอนแนวทางนั้นมีมานาน พระพุทธองค์ท่านได้ค้นพบมีมานาน เว้นแต่เชื่อว่าพวกเราจะน้อมนําไปประพฤติไปปฏิบัติ ไปทำให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเราตัวใจ ใจของเรามีความแข็งกระด้าง เราก็พยายามละความแข็งกระด้าง ใจของเรามีความตระหนี่เหนียวแน่น เราก็พยายามละความตระหนี่เหนียวแน่น ใจของเรามีความยึดมั่นถือมั่นยึดอะไรล่ะ เราต้องคลายภายในให้ได้เสียก่อน ข้างนอกก็จะปล่อยวางได้โดยปริยาย ถ้าเราคลายภายในไม่ได้ แยกรูปแยกนามไม่ได้แล้วก็ยากที่จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์

ท่านสอนเน้นลงที่เหตุ เหตุจากตัวใจของเรานั่นแหละไม่ใช่จากอะไรหรอก ใจของเรานี่หลง หลงมานาน เขาหลงมานาน ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติกี่กัปกี่กัลป์ อันนั้นอย่าไปกังวลกับเขาเถอะ เรามาดูรู้อยู่ปัจจุบันขณะที่ดูกายเนื้อนี่แหละ ท่านถึงบอกว่าให้รอบรู้ในกองสังขาร ให้รอบรู้ในโลกธรรม แยกรูปแยกนามให้ได้ คําว่าแยกรูปแยกนามเราจะแยกอย่างไร

เรามาเจริญสติเข้าไปรู้ทัน ถ้าเห็นความคิดหรือว่าอาการของขันธ์ห้าผุดขึ้นมา ใจของเขาจะเคลื่อนเข้าไปรวมเอง เพราะว่าเขาไปด้วยกันมานาน รวมจนเป็นตัวเดียวกันนั่นแหละ เราก็เลยรู้ว่าเราคิดเราทำ แล้วก็ส่งเสริมกันไป ทั้งที่ส่งเสริมด้วยความหลง หลงหลายชั้น ตั้งแต่ยัง ตั้งแต่จะวิญญาณอันเกิดอยู่ แล้วก็มาสร้างภพมนุษย์ สร้างกายเนื้อเข้ามาปิดกั้น อันนี้หลงอยู่ในภาพที่เรามองเห็นด้วยตาเนื้อ แล้วก็เกิดต่ออีก ทั้งมีกิเลสและก็ไม่มีกิเลส ทั้งเป็นกลาง เขายังเกิดยังวิ่งอยู่ อันนี้ก็หลงอีก แล้วก็หลงความคิดอีก แต่เรายังแยกไม่ได้ เราไม่เข้าใจตรงนี้

การทำบุญให้ทานนั้นเราทำอยู่ การละกิเลส เราก็ละอยู่ อาจจะได้เป็นบางช่วงบางครั้งบางคราว แต่เราละไม่ได้ทุกเรื่อง เราต้องพยายามละให้ได้ทุกเรื่อง ถอนรากถอนโคน จนกระทั่งดับความเกิด มองเห็น ดำเนินสติปัญญาไปเกิดแทน ถ้าไม่มีความเพียรอย่างยิ่งยวดจริงๆ ก็ยากที่จะเข้าใจ เราค่อยเพียรค่อยเป็นค่อยไปทีละน้อยๆ พอเต็มเดี๋ยวก็ถึงฝั่ง อย่าพากันประมาท

ในการทำบุญในการให้ทาน น้อมใจของเราเข้ามา ตื่นขึ้นมาเราก็รีบสอนใจ ถ้าเราสอนเราไม่ได้ก็ยากที่จะให้คนอื่นเขาสอนให้ เราจงพร่ำสอนตัวเรา ตนเป็นที่พึ่งของตน คนทั่วไปเพียงแค่ระดับสมมติก็ยังบริหารไม่ถูกต้องก็เลยยากลําบาก เพียงแค่ระดับของสมมติโลกธรรมมันก็ยาก ลึกลงไปกว่าจะใจจะคลายออกไปได้อีก แต่ก็ไม่เหลือวิสัย พยายามเอานะ

พยายามหมั่นทำความเพียร ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย ประคับประคองใจของเราให้อยู่ในพรหมวิหาร อยู่ในความเมตตาให้มีให้เกิดขึ้น มองโลกในทางที่ดี คิดดีอยู่ตลอด แล้วก็ดับความเกิดให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงใหม่ อย่างน้อยๆ ก็ให้อยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ ระลึกนึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วนึกถึง นึกถึงคุณงามความดี อะไรที่ไม่ดีเราอย่าไปนึกถึงมัน เราพยายามนึกถึงคุณงามความดี หมั่นสร้างคุณงามความดี หมั่นสร้างประโยชน์

มาวัดหลวงพ่อก็พาทำพาสร้าง อะไรที่จะเป็นประโยชน์ก็พาทำพาสร้างจนสมมติไม่ได้ลําบากนั่นแหละ จะล้นออกไปสู่พี่สู่น้องอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเกิดจนกระทั่งถึงวันตายนั่นแหละ อนุเคราะห์ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อะไรไม่ดีก็รีบแก้ไข อะไรที่มันดีก็พยายามรีบดำเนิน พระเราก็เหมือนกัน ชีเราก็เหมือนกัน ขยันหมั่นเพียร ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา อย่าไปงอมืองอเท้า จงเป็นคนที่ขยันหมั่นเพียร ทั้งประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ภายนอกประโยชน์ภายใน ละความเกียจคร้าน เพิ่มความขยัน เพิ่มความรับผิดชอบ ให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย

ถ้าเรามีความขยันหมั่นเพียรอยู่ที่ไหนก็ไม่ได้ลําบาก สมมติก็ไม่ได้ลําบาก วิมุตติการขัดเข้ากิเลส ถ้าเรารู้ความจริงแล้ว เราก็ยิ่งเจริญสติปัญญาไปได้เร็วได้ไวขึ้น ถึงไม่ถึงจุดหมายปลายทางในวันนี้ ก็ต้องถึงจุดหมายปลายทางในวันข้างหน้า ก็ต้องพยายามนะ

เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง