หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 60

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 60
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 60
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 60
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2558

มีความสุขกันทุกคน วันนี้อากาศก็แจ่ม เมื่อวานนี้ท้องฟ้าก็โปร่ง ตกเย็นมาฝนฟ้าก็กระหน่ำลงมาหนักอยู่ บางที่บางทางก็ลมพายุก็เยอะ บางที่บางทางก็ตกสวยงาม ให้ต้นไม้ได้ชุ่มฉ่ำ จิตใจก็เย็นสบายทุกคน ตื่นเช้าขึ้นมาก็พากันมาทำบุญให้ทาน อย่าลืมดูใจ อย่าลืมรู้ใจ เจริญสติเข้าไปรู้ใจ อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา ให้รู้ทุกอิริยาบถ ตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ ก็รู้ใจ รู้ลมหายใจเข้าออก รู้ความปกติ เห็นการเกิดการดับ เห็นเหตุเห็นผลชี้เหตุชี้ผล รู้ไม่ทันความคิดก็รู้จักหยุดรู้จักดับ ตั้งแต่ต้นเหตุ เริ่มใหม่อยู่ตลอดเวลา

ทั้งพระ ทั้งโยม ทั้งชี ก็พยายามพากันพิจารณาอย่าพากันเกียจคร้าน ความเกียจคร้านเข้าครอบงำครั้งหนึ่ง ครั้ง 2 ครั้ง 3 ก็มากขึ้นๆ จนดูแลใจไม่ได้ ไม่รอบรู้ในกองสังขาร ไม่รอบรู้ในความคิด ไม่รอบรู้ในอารมณ์ และก็ไม่รอบรู้ในโลกธรรม เพียงแค่โลกธรรมแปด ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ทุกข์ นินทา สารพัดอย่าง ก็มาปิดบังอำพรางใจของเราเอาไว้หมด เราต้องมาเจริญสติเข้าไปแก้ไข รู้จักสำรวมกาย แล้วก็สำรวมวาจา เพียงแค่เรื่องของวาจาก็ยังยากที่จะควบคุม ปล่อยปละละเลย ความคิดอารมณ์ กาย วาจา ใจ ถ้าคนเรารู้จักวิเคราะห์พิจารณา จะดูจะรู้ อะไรควรพูด อะไรควรทำ อะไรควรคิด อะไรเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ต่อส่วนรวม เราต้องวิเคราะห์ตลอดเวลาทุกเรื่อง ไม่ให้มีความเห็นแก่ตัว ละความเห็นแก่ตัวออกไปให้หมด ให้รับผิดชอบด้วยปัญญา ทำหน้าที่ด้วยปัญญา

เราพยายามแก้ไขเราปรับปรุงตัวเรา ให้หัดฝึกหัดให้เป็นคนเสียสละ ขัดเกลาเอาออก มีความรับผิดชอบ มีพรหมวิหาร อะไรไม่ดีเราก็รีบแก้ไข ตั้งแต่วาจา แล้วก็ใจ ความคิดอารมณ์ต่างๆ รีบจัดระบบระเบียบเสียให้ดี ก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้า ถ้าเรามีทั้งใจมันเกิดครั้งหนึ่ง 2 ครั้ง 3 ครั้ง มากขึ้นๆๆ กําลังมันก็มาก กําลังของกิเลสมันก็มาก ถ้าเราเจริญสติเข้าไปอบรมบ่มชี้เหตุชี้ผลบ่อยๆ เราก็รู้จักหยุด รู้จักดับ รู้จักละ มันก็คลายออกๆๆ จนใจมันก่อตัวเมื่อไร เราก็ดับเมื่อนั้นแหละ นั่นแหละความนิ่งความสงบมันก็เกิดขึ้น ใจเกิดกิเลสเราก็ดับ บางครั้งบางคราวใจไม่เกิดกิเลสเขาก็ปกติ แต่เขาก็ยังคว่ำอยู่ เพราะว่าเขายังไม่ได้หงาย คือยังไม่ได้แยกได้คลายจากความคิด ซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรมด้วยกัน ตรงนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรที่ต่อเนื่อง หมั่นวิเคราะห์ หมั่นสังเกตจริงๆ

มาวัดก็ต้องรู้จักวัดตัวเรา แก้ไขตัวเรา ไม่ใช่ว่ามาวัดแล้วก็มีแต่ความเกียจคร้าน งอเท้า ทำอะไรก็ไม่เป็น กินข้าวก็ยังไม่รู้จักล้างถ้วยล้างชาม ทั้งที่อะไรก็มีพร้อมเพรียง ไม่รู้จักดูแล ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทิ้งมันระเกะระกะ ยิ่งพระยิ่งชีก็ต้องพยายามสร้างความขยัน สร้างความรับผิดชอบ ยิ่งอยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่านก็ยิ่งความรับผิดชอบมากมาย ทุกคนก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์ ทุกคนก็ปรารถนาที่จะสร้างบุญสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น แต่กลับแสวงหาไม่เป็น มาวัดก็มามีตั้งแต่ความเกียจคร้าน มาสร้างปัญหาให้ก็มีเยอะแยะ บางคนก็มีตั้งแต่ความขยันหมั่นเพียร มาสร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ ได้อานิสงส์ความเสียสละติดตามตัวไปในวันข้างหน้า บางคนก็ไม่รู้จักตัวเลยก็มี มาเจอเหตุการณ์ต่างๆ

บางคนมาวัดก็มีแต่ความโลภก็มี แทนที่จะเป็นผู้ให้ ผู้เอาออก เราต้องมาวัดตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเราตลอดเวลา ถึงจะเกิดประโยชน์ เป็นเยอะตั้งแต่มา บางทีก็มาทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วไปเราก็มี บางทีก็มาเหยียบย่ำเราก็มี วิบากกรรมต่างๆ เห็นมาเยอะ ผ่านมาเยอะ เราก็ได้ตั้งแต่ดูแต่รู้ เราจะไปห้ามคนอื่นพูดไม่ได้ ห้ามคนอื่นคิดไม่ได้ อะไรก็สู้แรงบุญไม่ได้ แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา อานิสงส์ก็จะเกิดขึ้นเอง โดยอัตโนมัติ

ตั้งใจรับพร

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกันสักพักหนึ่ง สักระยะหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ทำ หลวงพ่อก็จะพูดก็จะย้ำของเก่านี่แหละ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เรื่องการเจริญสติแล้วก็เรื่องการแก้ไขจิตใจของตัวเรา ทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง ใจหลงอะไร ความคิดซึ่งเป็นฝ่ายนามธรรม เขาเกิดอย่างไร

การสร้างสติ การเจริญสติ คําว่ารู้ตัวอยู่ปัจจุบันเป็นลักษณะอย่างไร ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ความรู้สึกที่ลมวิ่งเข้ากระทบปลายจมูกนั่นแหละ เขาเรียกว่า ‘สติรู้กาย’ ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’ ถ้าพลั้งเผลอเมื่อไรเราก็เริ่มใหม่ๆ ถ้าเราเริ่มบ่อยๆ ใหม่ๆ ก็อาจจะอึดอัด เราพยายามหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ การหายใจยาวเป็นอย่างไร หายใจสั้นเป็นอย่างไร หายใจธรรมชาติเป็นอย่างไร ถ้าความรู้ตัวต่อเนื่อง

ส่วนการเกิดการดับของจิต ของอาการของจิตนั้นเขามีอยู่เดิม เขาหลงมาตั้งนาน เขาเกิดมาตั้งนาน เราก็จะได้รู้เห็นแยกแจงออกเป็นคนละส่วน เราเจริญสติให้ต่อเนื่อง ส่วนการเกิดของใจนั้นก็มีส่วนหนึ่ง เราก็จะเห็นเป็นสอง 2 ส่วน ใจกับความรู้ตัวที่เราสร้างขึ้นมา ถ้าเราไม่เห็นต้นเหตุของความคิดกับใจเคลื่อนเข้าไปรวมกัน มันก็อาจจะสร้างคุณงามความดีอยู่ระดับของสมมติ ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง สักวันเราก็จะเห็นใจคลายออกจากความคิด เราก็จะเห็นเป็น 3 ส่วน จากเห็นเป็น 3 แล้วตามดูใจว่างรับรู้อยู่ มันเป็นเรื่องอะไรอีก ก็จะแจงลงไปอีก ถ้าเป็นเรื่องอดีตก็เป็นเรื่องของสัญญา บางทีก็เป็นกลางๆ บางทีก็เป็นอนาคต

ใจของเราเข้าไปรวมเป็นสิ่งเดียวกันนั่นแหละ ทำให้เกิดอัตตาตัวตน ทำให้เกิดความหลงทิฏฐิมานะ ตั้งแต่ตัวแรกเลยทีเดียว เราก็ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ ตามดูชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล แล้วก็มาดับความเกิดของตัวใจอีก เพียงแค่การเกิดของใจนี่ก็ความหลง ถ้าไม่หลงไม่เกิด แต่เขาหลงมาเกิดอยู่ในภพมนุษย์ มาสร้างกายเนื้อ มาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นเอาไว้อีก ตัวใจก็ยังเป็นทาสของกิเลสอีก เสริมส่งกันไปอีก สารพัดอย่าง มันก็ต้องมาเจริญสติ เจริญปัญญา เจริญพรหมวิหาร ชี้เหตุชี้ผลเข้าไปแก้ไขปัญหา แก้ไขกิเลสภายในให้มันจบ

กิเลสข้างในก็ยังไม่สะสาง กลับไปสะสมกิเลสภายนอกเข้ามาหมักหมมทับถมดวงใจของตัวเองอีก มันก็เลยยากที่จะแก้ไข ก็เลยได้แค่ทำบุญให้ทาน อยู่ระดับนี้เสียเป็นส่วนมาก เราก็ต้องพยายามทำได้เท่าไร เราก็ทำ อะไรที่จะเป็นบุญเป็นประโยชน์ เราก็พยายามทำตั้งแต่สำรวมกาย วาจา ใจ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา แก้ไขตัวเราได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็พยายามนะ อย่าพากันปล่อยโอกาสทิ้ง ถ้าเราไม่สอน เราไม่ชี้แนะเหตุผลให้เรา ไม่อบรมเรา ไม่มีใครเขาทำให้ได้หรอก

แต่การทำบุญให้ทาน มีโอกาสได้ทำร่วมกัน ทำบุญทำทานมากน้อยก็เป็นอานิสงส์ของพวกเรา อย่าว่าไม่ทำ ทำทุกอย่าง อะไรที่จะเป็นบุญ การเจริญสติเราก็ทำ จนกว่าจะคลายใจออกจากความคิด เห็นเหตุเห็นผล ชี้เหตุชี้ผล มองเห็นด้วยตนเอง พระพุทธองค์ถึงบอกให้เชื่อ เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล ก็ต้องพยายามเอา

สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงกันสักพักก็ยังดีนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กันค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง