หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 47

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 47
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 47
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 47
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 10 เมษายน 2558

มีความสุขกันทุกคน ดูดีๆ นะ พระเราชีเรา สามเณรพิจารณาปฏิสังขาโย ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราต้องรู้กายของเรา รู้ใจของเรา ไม่ให้ใจของเราส่งออกไปภายนอก ให้เขารับรู้อยู่ภายใน จะทำอะไรสติปัญญาดำเนินกาย พากายไป ใจรับรู้ สติปัญญาเป็นผู้บงการเป็นผู้บริหาร ไม่ใช่ตัวใจเป็นผู้บงการ ก็ต้องสร้างความรู้ตัว ให้รู้ใจ รู้ความปกติเป็นหลัก รู้ฐานของใจของตัวเราอยู่ตลอดเวลา

เรามีโอกาสได้มาบวชมาศึกษา ทุกเรื่องในชีวิตของเรา รู้จักวิธีการ ความรู้ตัวหรือว่าสติเป็นลักษณะอย่างนี้ อย่าไปเลือกกาลเลือกเวลา ทุกอิริยาบถ ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ ขับถ่าย อยู่กับหมู่ อยู่กับคณะ อยู่กับบริวาร เราต้องสำรวจว่าพฤติกรรมของใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเรามีความเห็นอย่างไร มีทิฏฐิอย่างไร เราจะแก้ไขอย่างไร อยู่คนเดียวเราก็แก้ไขใจของเรา แก้ไขกายของเรา เรามีความขยันหมั่นเพียรเพียบพร้อมหรือไม่ หรือว่าเรามีความเกียจคร้าน หรือว่าเรามีความเห็นแก่ตัว ความกังวล ความฟุ้งซ่านต่างๆ

เราต้องพยายามมาแก้ไขตัวเรา ไม่ใช่ว่าบวชมาแล้ว เราจะได้บุญได้ธรรมเลยอันนั้นก็ยังไม่ใช่ ต้องมาศึกษามาทำความเข้าใจ แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมา สติของเราต่อเนื่องหรือเปล่า เรารู้จักเอาสติปัญญาไปใช้หรือไม่ ก็ต้องดูภารกิจสมมติต่างๆ ที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ใกล้สงกรานต์เข้ามานะ ไปไหนมาไหนก็อาจจะลําบาก รถราก็เยอะ ให้ระมัดระวังขึ้นอย่าประมาท อุบัติเหตุก็เยอะ ทางสมมติเราก็พยายาม รักษาตัวเรา แก้ไขตัวเรา ไม่ประมาท แต่ละวันๆ ผ่านไปเร็วไว เราก็พยายามหมั่นวิเคราะห์กาย วิเคราะห์ใจของตัวเรา อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง สมมติอะไรเราติดขัดเราก็รีบแก้ไขเสีย ส่วนวันที่​ 1 มิถุนา ก็เหลืออีกไม่นาน ก็ขอเชิญพี่น้องเรามาร่วมแจกทานด้วยกัน คนไทยใจบุญเยอะ ไม่ว่าอยู่ใกล้อยู่ไกล ใครได้ยินข่าวทราบข่าวก็พากันมา ทั้งเหนือ ทั้งใต้ก็พากันมา มาร่วมบุญกัน ตะวันออก กลาง อีสาน คนไทยใจบุญ

หลวงพ่อก็จะพาทำพาสร้างเท่าที่โอกาสจะเอื้ออํานวยให้ ถ้าทำสมมติภายในวัดเรียบร้อย มีโอกาสก็จะได้พาสร้างมหาเจดีย์ใหญ่ ถ้าเรื่องที่ดินสำเร็จลุล่วงลงไปก็จะได้พาสร้างมหาเจดีย์ใหญ่ฝากเอาไว้ ตอนนี้กําลังดำเนินอยู่ ผู้ใจบุญท่านก็จะถวายที่ดินให้อยู่ ขายไม่แพง กําลังตกลงกับพี่กับน้องกันอยู่ว่าจะทำบุญถวายให้ขายไม่แพง อีกวันสองวันก็ได้ทราบข่าว ถ้ามีอานิสงส์สมมติเต็มเปี่ยมก็คงจะได้ทำได้สร้างกัน ขอซื้อ 15 ไร่ มีโอกาสพวกเราก็จะได้มาร่วมกัน ฝากเอาไว้ มีโอกาสได้ทำ มาก็ได้ทำ ท่านเจ้าคุณท่านบอกว่าใครมาทันก็ทัน ไม่ทันท่านทำเสร็จก่อนบอกว่าอย่างนั้น เอาก่อนเพื่อนเลยนะได้ยินข่าวรีบเลย ไม่ปล่อยเวลาทิ้ง ทุกเรื่องในชีวิต

ทำบุญมากก็เป็นของเรา บุญน้อยก็เป็นของเรา อย่าว่าไม่ทำ เห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย มีความสุขพลอยยินดีด้วยเราคงมีอานิสงส์แห่งบุญ พวกเรามีโอกาสมากเท่านั้นเองถึงได้ทำ ฝากเอาไว้ในใจของเรา ฝากเอาไว้กับสมมติ ฝากเอาไว้กับแผ่นดิน ไม่มีใครเอาอะไรไปได้เลยนอกจากอานิสงส์คุณงามความดี รูปกายแตกดับก็เหลือแต่จิตวิญญาณที่จะไป ตราบใดที่ใจยังเกิด จิตวิญญาณยังเกิดอยู่ ก็อาศัยอานิสงส์แห่งบุญนี่แหละ เป็นเครื่องเสบียงเดินทาง เพราะว่าจิตวิญญาณตายไม่เป็น ถ้าดับความเกิดไม่ได้ เขาก็จะเกิดอยู่อย่างนั่นแหละ ขนาดเขาเกิดอยู่ในภพมนุษย์ เขายังเกิดต่อสารพัดอย่าง ความคิดนั่นแหละปรุงแต่งสารพัดอย่าง ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาไม่รู้ว่าสักกี่เรื่องที่เข้าไป บางทีก็ความคิด อาการของใจผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ

พระพุทธองค์ท่านถึงให้เจริญสติ เข้ามาวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจ มีศรัทธาน้อมกายของเราเข้ามา วิธีการประหัตประหารกิเลส ใจเกิดความโลภ ท่านก็ให้ละความโลภด้วยการให้ด้วยการเอาออก ใจเกิดความโกรธ ท่านก็ให้ละความโกรธด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม มองโลกในทางที่ดี อบรมใจของเราให้มีความอ่อนน้อม ให้มีความถ่อมตน มีความกตัญญูกตเวที เป็นบารมีเพื่อที่จะไปประหัตประหารกิเลสในสิ่งตรงกันข้าม ไปประหัตประหารกิเลสที่เป็นฝ่ายอกุศล เราเจริญกุศล

ถ้ากําลังสติปัญญาของเราแหลมคมขึ้นไปอีก เราก็จะเห็น ใจคลายออกจากความคิด อะไรคือส่วนรูปส่วนนาม แยกรูปแยกนาม ละกิเลสหยาบ ละกิเลสละเอียด ดับความเกิดในขั้นละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ จนใจของเราสะอาดบริสุทธิ์ ดับความเกิดของใจอีก ใจไม่เกิดวางใจให้เป็นอิสรภาพอีกหลายชั้น มีความสุขในการดู ในการละกิเลส ในหลักธรรมขัดเกลาใจจนกลับคืนสู่สภาพเดิมถึงวางให้เป็นอิสรภาพอีก เรามีโอกาสมากก็พยายาม ทำทุกอย่างเท่าที่ใจจะสะอาดบริสุทธิ์

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งเวลาขบเวลาฉัน กะประมาณในการขบฉันของตัวเรา พิจารณากายของเราหิวหรือว่าใจของเราเกิดความยาก เอามากก็เหลือ เอาน้อยก็ไม่อิ่ม ให้รู้จักพิจารณา กว่าจะหามาได้ พิจารณาหามาได้ก็ลําบาก ขณะนี้อานิสงส์ตรงนี้เกิดด้วยแรงบุญ อาศัยบุญอานิสงส์ของพระพุทธองค์ที่ได้มาอาศัยอยู่ในเพศสมณะบรรพชิตก็ด้วยแรงบุญของทุกคน อาหารการอยู่การขบการฉัน ถึงหลั่งไหลมามากมาย เพราะว่าอานุภาพแห่งบุญ เราก็ต้องพยายาม ยกระดับใจของเราให้เข้าสู่ความสะอาด ความบริสุทธิ์ ก่อนที่จะสะอาดบริสุทธิ์ได้ก็ต้องเจริญสติไปขัดไปเกลา ไปอบรมไปบ่ม เพราะว่าเขาเกิดมานาน เขาหลงมานาน ลองอดพูดอดคิด สังเกตดูความคิด ดูสิเขาจะวิ่งวุ่น สารพัดอย่าง แต่ส่วนมากก็ตามใจ ปล่อยเลยตามเลย

การเจริญสติเป็นอย่างไร การควบคุมใจเป็นอย่างไร การวางใจเป็นอย่างไร การละกิเลสเป็นอย่างไร การสร้างกําลังใจ ความหนักแน่นเป็นอย่างไร อะไรคือรูปอะไรคือนาม อะไรคือวิญญาณในกาย เราต้องรู้ลักษณะ พระพุทธองค์ท่านสอนเรื่องอะไร เราต้องรีบทำความเข้าใจว่า ท่านว่ากายของเรานี่เป็นกองเป็นขันธ์ แต่ทำไมเราถึงมองเห็นเป็นตัวเป็นตน เป็นอัตตาตัวตน พระพุทธองค์ทำไมถึงมองว่าเป็นของว่าง นอกจากปัญญาของผู้มีปัญญาเป็นเลิศเท่านั้นแหละ ถึงจะรู้ความเป็นจริง

แต่เราก็อย่าทิ้งศรัทธาบุญของเรา วันนี้มีพรุ่งนี้มีพ่อแม่มีพี่น้องมี เมื่อวานนี้มี ภพภูมิต่างๆ มี แต่เราอยู่ในภพของมนุษย์ ภพของเดรัจฉานเราก็มองเห็น สัตว์เดรัจฉานต่างๆ ภพของสวรรค์ พรหม นิพพาน ที่ท่านได้ชี้แนะแนวทางเดินไว้หมด อย่างน้อยๆ ก็ยกระดับใจของเราให้ขึ้นสู่ที่สูง ไม่ต้องลําบากในวันข้างหน้าในวันหลัง

พระเราก็เหมือนกัน ขยันหมั่นเพียรมีอะไรก็ช่วยกัน สามเณรก็ลูกเณรก็ช่วยกัน วันนี้ลูกเณรเราช่วยหลวงพ่อเอาไว้ เศษอิฐเศษหินเศษปูน ที่ศาลาเมรุที่ช่างเขาทำแตกหักกันเอาไปเอารถมาช่วยกันเข็น เอาไปทิ้งลงที่ตรงแปลงผัก ตรงวางท่อน้ำให้หน่อยนะเพราะว่าน้ำมันไหลเซาะลงไปเยอะเลยทีเดียว เยอะเลยทีเดียว ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อย เอารถมาเข็นกัน ช่วยกันออกกําลังกาย วันข้างหน้าก็จะได้ ไม่ได้เสียหายเยอะ เอาเศษอิฐ เศษหิน เศษปูน เก็บทุกที่ให้เป็นระเบียบ

ความเป็นระเบียบเรียบร้อย นั่นแหละคือข้อวัตรปฏิบัติ สมมติภายนอกก็เป็นระเบียบ ความเป็นระเบียบจากภายนอกส่งถึงข้างใน จากข้างในส่งถึงข้างนอก จะเอาตั้งแต่ความเป็นระเบียบภายในก็ไม่ได้เพราะอาศัยสมมติอยู่ ถ้าสมมติไม่พร้อมก็ลําบาก ไม่ว่าเศษขยะที่ไหน อะไรต่างๆ เราเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยกันลูกเณรก็ช่วยกัน เอารถไปเข็นเอาทีละเล็กทีละน้อย เห็นอยู่กอง กองหนึ่ง รอบนั่นแหละ ทั้งรอบ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนบ้างก็ช่วยกันเก็บ เอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ กันน้ำเซาะได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ความเป็นระเบียบตั้งแต่ปากทางเข้ามาก้นครัว มองบน มองล่าง มองกลางใจของตัวเราตลอดเวลา ไล่เรียงลงไป ความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบ ความไม่เห็นแก่ตัว ความเสียสละ ฝักใฝ่ สนใจ ทุกเรื่องเลยในชีวิต ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์สูงสุด

จะเอาตั้งแต่ธรรม มีแต่กับความเกียจคร้าน มันจะไปได้อะไร ทำอะไรก็ไม่เป็น ยิ่งออกไปข้างนอกก็ยิ่งจะหนักเข้าไปอีก หนักตัวเอง หนักคนอื่น หนักสถานที่ แทนที่จะได้ประโยชน์ แทนที่จะได้อานิสงส์ใหญ่ ได้ความขยันหมั่นเพียร ได้ความรับผิดชอบ ได้ความเสียสละ ถึงเวลาแล้วก็จะเดินปัญญาได้เร็วได้ไว ถ้าคนเราไม่มีความเสียสละ มันก็ยาก เสียสละภายนอกก็ไม่ได้ ข้างในมันยิ่งยากเข้าไปอีก ถ้าคนเรามีความเสียสละ มีความอดทน นั่นแหละตบะ รู้จักให้รู้จักเอาออก ไม่ต้องไปกังวล ไปกลัวว่าจะเสียเปรียบกิเลสคนโน้น เสียเปรียบกิเลสคนนี้ เราชนะกิเลสภายในใจของเรา เราจะชนะได้หมดเลย มีตั้งแต่จะประโยชน์สร้างคุณงามความดี

เราก็รู้ เราแก้ไข เราปรับปรุงตัวเรา ถ้าสอนเรา ถ้าสอนตัวเองไม่ได้อย่าไปเที่ยวให้คนอื่นเขาสอนไม่เกิดประโยชน์ ครูบาอาจารย์ก็เป็นแค่คนชี้แนะแนวทางให้แล้วก็ไปดำเนินตาม แต่ละวันๆ พูดน้อย นอนน้อย ฝึกหัดปฏิบัติขัดเกลาให้มากๆ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกจากความคิด จากอารมณ์ จากกิเลสเป็นอย่างนี้ ยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าใจของเราปล่อยวางคลาย มีความยึดมั่นถือมั่น ดับความเกิดได้ ถึงจะร้องตะโกนอยู่ใจก็สงบเพราะอยู่กันคนละส่วน อยู่กลางโรงหนังกลางตลาดใจก็สงบ ถ้าใจไม่สงบ ไปอยู่หลบหลีกอยู่ตามป่าตามเขาตามถ้ำใจมันก็ไม่สงบเหมือนเดิม กายวิเวกแต่ใจไม่วิเวก ถ้าใจละความเกิดดับกิเลสได้ใจนิ่งได้ อยู่กลางโรงหนังใจก็วิเวก แต่เราต้องฝึกๆ ต้องหัด ต้องขัด ต้องเกลา รู้จักจําแนกแจกแจง กายทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร

แม่ชีเรา มีฝีมือดีๆ ว่างๆ ก็ไม่ว่างแล้ว พากันไปช่วยติดหินกาบที่กุฏิของท่านเจ้าคุณให้หน่อยนะ ช่วยกันติดชั้นล่างข้างนอก บางทีอาจจะได้เสร็จก่อนให้เสร็จก่อน เพื่อที่จะให้เด็กๆ ลูกเณรได้ไปพักอาศัยด้วย จะได้ไม่ได้ลําบากฝนฟ้าตกลงมา วัดเราพระก็เยอะชีก็เยอะ สถานที่ก็คับแคบ แต่ตามความเป็นจริงเราก็ไม่คับแคบเท่าไรหรอก ต้นไม้ก็เยอะร่มไม้ก็เยอะ เอากลดเอาเต็นท์ไปกาง มีความสุข กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นอย่างนี้ มีพอได้หลบได้อาศัย มีความสุข

สมัยก่อนยิ่งลําบากกว่านี้ เพียงแค่แม้แต่ถ้วยชามหลวงพ่อก็ยังไปขุดเอาตามโลงศพมาไว้ใส่กับข้าวกับปลาถึงขนาดนั้น ถนนหนทางที่พักที่อาศัยนี่ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอย่างนี้หรอก มีแต่ป่ารกป่าหนาม แม้แต่จะปลูกต้นไม้ก็ยังต้องเอารากเพ็กออกเสียก่อน รากเพ็กรากหญ้าคาออกเสียก่อน ถึงได้เป็นป่าให้พวกท่านได้ดูได้รู้ได้เห็นถึงขนาดนี้ อันนี้เป็นผลอานิสงส์ของทุกคนหล่อหลอมรวมกันของคนรุ่นเก่าๆ ฝากเอามาไว้ทำไว้ พวกเราก็มาสร้างมาสานต่อ พวกเราจากไปคนรุ่นใหม่ก็จะได้ไม่ได้ลําบาก

ตั้งใจรับพรกัน

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย หลวงพ่อเพียงแค่ย้ำแค่พูดแค่เตือนพวกท่านว่าการเจริญสติเป็นลักษณะอย่างนี้ การหยุดความนึกคิดปรุงแต่งเป็นลักษณะอย่างนี้ การสร้างความรู้ตัวเป็นลักษณะอย่างนี้ พวกท่านจงน้อมแล้วก็ทำ แล้วก็สร้างให้มีให้เกิดให้เชื่อมโยงให้ต่อเนื่อง ถ้าความรู้สึกพลั้งเผลอก็เริ่มใหม่

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก​2-3 เที่ยว อย่าไปบังคับลมหายใจ อย่าไปเพ่งลมหายใจ ถ้าไปเพ่ง ไปจดจ่อ ถ้าเราเอาใจไปจดจ่ออยู่ที่ปลายจมูก หน้าอกก็จะแน่น ถ้าเราเอาสติส่วนบนไปจดจ่อไปเพ่ง สมองก็จะตึง เพียงแค่มีความรู้สึกว่าการหายใจเข้าหายใจออกเป็นธรรมชาติเป็นอย่างนี้ ความรู้สึกรับรู้เป็นอย่างนี้ ความรู้สึกที่ชัดเจนเป็นอย่างนี้ ความรู้สึกเวลาลมหายใจเข้าเวลาลมหายใจออก อันนี้เป็นการเจริญสติรู้กายของตัวเรา

ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พยายามรู้ให้เกิดความเคยชิน ฝึกให้เกิดความเคยชิน หายใจยาว หายใจออกยาวออกสั้น หายใจเข้าสั้น หายใจออกสั้น หายใจธรรมชาติ ใหม่ๆ ก็อึดอัด บางทีกายก็อึดอัด บางทีใจก็อึดอัด สารพัดอย่างที่จะมาปิดกั้นเอาไว้ บางทีมันก็เจ็บโน่นบ้างเจ็บปวดอันนี้บ้าง บางทีก็เสลดมาตันคอบ้าง น้ำลายมาตันคอบ้าง วิบากกรรมต่างๆ เขาจะฉุดจะรั้งเอาไว้ ไม่ให้เราเข้าถึงได้ง่ายๆ เหมือนกัน บางทีนั่งไปบางทีเขาเกิดความกลัวสารพัดอย่าง ให้เราพยายามหยุดดับด้วยการสูดลมหายใจยาวๆ

ความนึกคิดปรุงแต่งที่เกิดจากใจบางทีเขาก็ก่อตัวขึ้นมาแล้วก็ปรุงแต่งเป็นเรื่องเป็นราว บางทีก็ความคิดผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจอันนี้มีอยู่เดิม ตัวใจหรือว่าวิญญาณในกายของเรากับความคิดนี่มีมาตั้งนาน ท่านถึงให้มาสร้างผู้รู้หรือว่ามาเจริญสติเข้าไปอบรมใจ บางคนก็รู้ เขาหลงอยู่ในความรู้ เขาหลงเกิดอยู่ ถ้าไม่หลงไม่เกิด เพียงแค่วิญญาณ เพียงแค่ใจการเกิดของใจถึงมายึด แต่การเกิดเขาก็มีอยู่สารพัดอย่าง

ในหลักธรรมท่านให้ดับความเกิด ให้ละความเกิด แต่ต้องคลายความหลงเสียก่อนคือคลายขันธ์ห้าให้ได้เสียก่อน เพราะว่าเขาหลงมาสร้างภพ สร้างกายเนื้อมาปิดกั้นเอาไว้ หัดสังเกตหัดวิเคราะห์ ทำความเข้าใจให้ได้ แต่คนทั่วไป ก็จะไปมองเอาตั้งแต่ภายนอกอย่างเดียว ส่วนนามธรรมเพราะเกิดๆ ดับๆ เขาหลงไปด้วยกันตรงนี้ ถ้าไม่มีความเพียรจริงๆ ถ้าไม่ถึงกาลถึงเวลาจริงๆ ก็ยากอยู่

ทุกคนมีบุญถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ทุกคนฝักใฝ่ในการทำบุญในการให้ทานอยู่ตลอดเวลา แต่การเจริญสติชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผล ตามดูรู้ทุกเรื่องจนใจยอมรับความเป็นจริง ขัดเกลากิเลส จนถึงจุดหมายปลายทาง ตรงนี้ทุกคนไม่ค่อยจะสนใจกัน จะเอาตั้งแต่ทำบุญอย่างเดียวก็ดีเหมือนกัน เป็นการสร้างบารมี ถึงเวลาก็คงจะเดินปัญญาได้ อย่าไปบังคับกันไม่ได้เลยสิ่งพวกนี้ นอกจากตัวเราจะฝักใฝ่สนใจ เดินให้ถึงจุดหมาย สักวันหนึ่งก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกันนะ

สร้างความรู้สึกรับรู้ให้ชัดเจน อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวขณะนี้ก็ให้รู้ว่าลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กันค่อยไปสร้างสานต่อนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง