หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 5

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 5
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 5
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2558 ลำดับที่ 5
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 7 มกราคม 2558

มีความสุขกันทุกคน พระเราชีเราก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง รู้สึกว่าพระกับชีจะเยอะกว่าโยมนะโยมน้อยกว่า ยังจะมีมาอีกโยม เจ็ด แปดนาคที่จะมาบวช ไม่ใช่หน้าฝนนี่เอากลดเอาเต็นท์ไปกางร่มไม้ ใต้ร่มไม้ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ รอบําเพ็ญจนมันออกดอกสวยงามอยู่ที่สวนมะลิวัลย์ มีความสุข

พยายาม เรามาศึกษาเรา แก้ไขเราปรับปรุงตัวเราให้เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบในตัวเอง อย่าให้คนอื่นได้บังคับ คนมีกิเลสหนาชอบให้มีข้อวัตรปฏิบัติ ถ้าคนกิเลสบางจะบังคับตัวเองแก้ไขตัวเองปรับปรุงตัวเอง อยู่คนเดียวก็ดูใจรู้ใจแก้ไขใจ ถ้าคนกิเลสหนาพูดปากเปียกปากแฉะมันก็ไม่เอาไม่สนใจ ชอบเป็นบุคคลประเภทไหนก็เลือกเอา ไม่ใช่ว่าไปอยู่ที่โน้นไม่รู้ธรรมไปอยู่ที่นี้ไม่รู้ธรรม จะไปรู้ได้อย่างไรเราไม่ได้ทำความเข้าใจ เราไม่ได้เจริญสติ เราไม่ได้ละกิเลส จะไปโทษตั้งแต่ท่านเจ้าคุณ มาอยู่กับท่านเจ้าคุณไม่เห็นรู้อะไรว่าอย่างนั้น

ท่านเจ้าคุณก็อนุเคราะห์ให้อะไรก็อนุเคราะห์ให้ ที่นั่งที่หลับที่นอนแม้แต่เต็นท์ก็อนุเคราะห์ให้ สาดเสื่อเอาไปแล้วก็ไม่รู้จักพากันเก็บพากันดูแลรักษา มีตั้งแต่ทำลายของแค่นั้นก็ยังรับผิดชอบไม่ได้ จะไปรู้ธรรมได้อย่างไรเพียงแค่ระดับของสมมติเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังไม่พากันดูแลรักษา ความขยันหมั่นเพียรความรับผิดชอบ ความเสียสละต้องเต็มเปี่ยมอย่าเอาแต่พูด การพูดการจา รักษากายวาจา ดับความเกิดของใจลง หยุดต้นเหตุอีก เราก็ต้องพยายามได้เท่าไรก็เอา ดีกว่าไม่ได้ ดีกว่าไม่ทำ

พากันดูดีๆ นะ พระใหม่ชีใหม่ ยิ่งฝึกใหม่เท่าไรยิ่งเห็นเยอะยิ่งเห็นเยอะเท่าไรยิ่งทำความเข้าใจ เวลาขบเวลาฉันเวลาจะรับประทานข้าวปลาอาหารนี่แหละ ความอยากเราต้องพยายามดับความอยากที่เกิดจากหัวใจของเราให้ได้ ยิ่งฝึกไปเท่าไรอย่านึกว่าไม่มี มีกันหมดทุกคนแต่เราไม่ได้เจริญสติเข้าไปดูรู้เท่าทันเท่านั้นเอง ยิ่งเจริญสติไปเท่าไรกิเลสมันก็ไม่ยอมแพ้ มันก็จะหาทางต่อสู้สารพัดอย่าง หาเหตุหาผลมาอ้างเป็นแค่เรื่องอาหาร กายก็หิว ใจจะเกิดความอยาก มันกิเลสมันก็จะบอกว่ากายของเราต้องการอันโน้นกายของเราต้องการอันนี้ อันนี้มีค่าทางอาหารอย่างโน้นมีค่าทางอาหารอย่างนี้สารพัดอย่างมันจะปรุง เราดับให้ได้เสียก่อนค่อยเอาค่อยพิจารณา จะมีมากมีน้อยก็อย่าให้ใจเกิดความอยาก เกิด อย่าให้ใจปรุงแต่ง จะเอาอะไรก็เป็นเรื่องของปัญญา เอามากเอาน้อยก็เป็นเรื่องของปัญญา แต่เราต้องขัดเกลาเสียก่อน

ความอยากกับความไม่อยากก็อยู่ด้วยกัน ความอยากก็เกิดตรง ความคิดก็เกิดตรงความอยากนั่นแหละ สำหรับตัวใจจะมีความคิดที่แทรกเข้ามาเขาเรียกว่า อาการของใจ ต้องดูดีให้ดีๆ จะได้ไม่เสียที่เสียเที่ยว เรารู้ด้วยเห็นด้วย ส่วนมากปัญญาเก่าปัญญาที่เกิดจากใจปัญญาที่เกิดจากขันธ์ห้า เขาแย่งชิงไปก่อน ปัญญาโลกีย์ปัญญาโลกๆ

ปัญญามีเต็มร้อยก็ต้องคลายออกให้มันหมด เหลืออยู่ที่ศูนย์ ‘ความว่างเปล่า’ ปัญญาใหม่เข้าไปแทน ปัญญาที่เกิดจากการเจริญภาวนา ปัญญาที่เกิดจากการเจริญสติก็ไปทำหน้าที่แทน ทุกเรื่องเปลี่ยนพลิกปัญญาโลกให้เป็นปัญญาธรรมไปได้ ช่วงใหม่ๆ ก็ฝืน ท่านก็เรียกว่าทวนกระแส ถ้าถึงเวลาก็คงจะได้พลิกได้หงายได้รู้ได้เห็น ถ้าไม่ถึงเวลาก็สร้างตบะสร้างบารมี มีความเพียร ขยันหมั่นเพียรทั้งภายนอกทั้งภายในเราก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้าได้เอง

จุดมุ่งหมายของการฝึกหัดปฏิบัติเราต้องให้รู้ไม่ใช่ว่าไปปล่อยปละละเลย แต่ละชั่วโมงมีกี่นาที นาทีหนึ่งมีกี่การหายใจเข้าออก ใจจนรู้เป็นอัตโนมัตินะเขาเรียกว่า ‘รู้อยู่ปัจจุบัน’ รู้ไม่ทันก็หยุดใช้สมถะเข้าไปดับ บางทีก็อาจจะอยู่กับลมหายใจ บางทีก็อาจจะอยู่กับคําบริกรรม แล้วก็เจริญพรหมวิหารเข้าไปทดแทน มองโลกในทางที่ดี คิดดี ให้อภัยอโหสิกรรม ไม่อคติไม่เพ่งโทษ กําจัดมลทินออกจากใจของตัวเรา

ยิ่งอยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่านยิ่งเห็นเยอะนะกิเลสตัวละเอียด คนโน้นเป็นอย่างนั้นคนนั้นเป็นอย่างนี้ คนนี้มีนิสัยอย่างนั้นคนนั้นมีนิสัยอย่างนี้ มันผุดออกมามีแต่ของเราทั้งนั้น ไม่มีของคนอื่นมีแต่ของเรา เราดีอย่างนั้นเราดีอย่างนี้ ใจมันเกิดอัตตามันเลยเกิด เราต้องพยายามแก้ไข ยิ่งอยู่ร่วมกันมีความสมัครสมานสามัคคี มีอะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไขมันก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้า จะไปแสวงหาแต่สิ่งดีๆ แต่การกระทำไม่มี มันก็ไม่เกิดประโยชน์

ต้องเป็นบุคคลที่ขยัน มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ ยังประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน เอาประโยชน์ภายในให้จบแล้วก็ยังประโยชน์สมมติให้สมบูรณ์แบบ อยู่ด้วยกันหลายคนหลายท่านก็มีความสุข ถ้าใจใครไม่ดีก็รีบแก้ไข เพียงแค่การเกิดของใจก็อย่าให้เกิด เราดับที่หยุดที่ใจต้นเหตุไม่ได้ ก็อย่าให้ออกทางกายทางวาจา เราพยายามดับพยายามหยุด อดทนอดกลั้น สร้างตบะ มีอะไรก็รีบแก้ไขตัวเรา สมมติมีอะไรก็ช่วยเหลือกัน

ถ้าเราไม่ยังสมมติกายก็ลําบากความเป็นอยู่ก็ลําบาก สมมติภายในเราก็แก้ไขวิมุตติภายในเราก็แก้ไข สมมติภายนอกเราก็ยังประโยชน์ก็เกิดประโยชน์ พวกเราก็พลอยได้รับประโยชน์ ได้รับอานิสงส์ในความเป็นอยู่ดีมีความสุขในทางสมมติ ถ้าเกียจคร้านเอาแต่งอมืองอเท้าทำอะไรไม่เป็น อยู่คนเดียวก็ทุกข์อยู่หลายคนก็ทุกข์ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ใช้ตัวเองไม่เป็น จะเอาตั้งแต่ธรรม มีแต่ทำเมาทำกิเลส ไปที่โน่นก็ติโน่นตินี่ ตรงโน้นไม่ดีตรงนี้ไม่ดี ไม่ดีเราก็ทำให้มันดีเสียสิมันก็จะดีเอง

ทำภารกิจภายในของเราให้จบ ก็รับผิดชอบภาระต่อหน้าที่ต่อสมมติต่อสังคม ง่ายแต่การกระทำจริงๆ ก็ค่อยดำเนินไป เพียงแค่การสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงนี้ก็ยากแสนยาก ถ้าคนไม่ได้ฝึกเลยนี่ไม่รู้เรื่องเลยไปด้วยความหลงทั้งนั้น อยู่ด้วยความหลงทั้งนั้นก็ว่าตัวเองไม่หลง ตราบใดบุคคลที่มาเจริญสติ ‘แยกรูปแยกนามได้’ ถึงจะรู้ว่าเราหลง เพียงแค่การสร้างสติให้ต่อเนื่องให้ได้เสียก่อนเราก็จะรู้ว่าแต่ก่อนเราไม่มีสติความระลึกรู้ตัวอยู่ปัจจุบันเลย มีตั้งแต่สติปัญญาของสมมติของโลกีย์ที่วิ่งพล่านอยู่ตลอด นั่นแหละคือความหลง เป็นแค่การเกิด เกิดของจิตนั้นก็หลงแล้ว ทีนี้ตัวจิตตัวใจก็มาสร้างภพมนุษย์นี่ก็ปิดกั้นนี่หลงเอาไว้อย่างแน่นหนาอีก เป็นทาสของกิเลสอีกสารพัดอย่าง ถ้าไม่ขยันหมั่นเพียรในการวิเคราะห์ ในการสร้างอานิสงส์บารมีเจริญพรหมวิหารขัดเกลากิเลส มันก็ยากที่จะถึงตัวมันได้จริงๆ

‘ตัวใจ’ มหาโจรใหญ่เลยทีเดียว เรานั่นก็จับขโมย ใหม่ๆ ก็เอาไปกักไปขัง ทั้งผูกทั้งเฆี่ยนทั้งตี ประพฤติดีขึ้นมาหน่อยก็ค่อยปล่อยค่อยคลายจนอยู่ในโอวาทของปัญญาถึงปล่อยวางให้เป็นอิสรภาพ คุกใบใหญ่ที่ขังเราแต่ก็ยินดีแต่ก็ยอม ยอมให้ขัง ถ้าคนรู้แล้วไม่ขังเด็ดขาดไม่เอา ไม่มีอะไรน่าเอาน่าเป็น เพียงแค่การเกิดก็เป็นทุกข์ ค่อยฝึกฝนตัวเราไป ไม่ได้วันหนึ่งก็ได้วันหนึ่ง มันไม่ได้จริงจริงก็ไปต่อภพหน้า เพราะว่าทุกคนเกิดมาตายหมด ไม่ตายช้าก็ตายเร็ว เราจะจัดการกับกิเลสของเราได้หรือไม่ก็ค่อยว่ากัน


ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสทางลมหายใจของเราให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง จะลําบากอย่างไรเราก็ต้องพยายามสร้าง ความพลั้งเผลอมันมีอยู่ เพียงแค่การสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องตรงนี้มันก็ยากแสนยากทั้งที่ใจก็ฝักใฝ่ในบุญ ใจก็อยากจะรู้ธรรมอยากจะเห็นธรรม ความอยากนั้นปิดกันเอาไว้หมด ทั้งความอยากความไม่อยาก ทั้งความทะเยอทะยานอยาก ทั้งความอยากความหวัง ให้เราหยุดเอาไว้ให้หมด เพียงแค่กระตุ้นความรู้ตัวให้เชื่อมโยงให้ต่อเนื่อง แล้วก็ให้ความรู้ตัวของเราเข้มแข็งต่อเนื่อง ลึกลงไปเขาก็จะรู้เท่าทันใจ รู้การเกิดของใจ รู้ลักษณะของใจ

การเกิดการดับของใจนั้นมีกันมาตั้งนานหลายภพหลายกัปหลายกัลป์ เกิดมาเป็นมนุษย์เขาก็ยังเกิดต่อขนาดมีร่างกายอยู่เขาก็ยังเกิดต่อ เขาก็ยังสร้างอาการของใจมาปิดตัวเขาไว้อีก ตัวเขาก็ยังส่งออกไปภายนอกอีกก็มีหลายชั้น ถ้าความรู้ตัวไม่ต่อเนื่องเร็วไว รู้จักสร้างตบะสร้างบารมี ทั้งกดทั้งข่ม ทั้งให้ ทั้งคลายทั้งเอาออก ทั้งสารพัดอย่าง จนกว่าจะอยู่ในโอวาทของสติปัญญาของเราได้นั่นแหละ แยกแยะได้เมื่อไรตามดูได้เมื่อไรเราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ ว่าท่านสอนเรื่องอะไรในชีวิต สอนเรื่องชีวิต กายของเรานี่ประกอบด้วยอะไร ที่เป็นกองเป็นขันธ์มีวิญญาณเข้ามาครอบครอง

อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม มีเหตุมีปัจจัยมีผลหมดทุกอย่าง ท่านชี้ลงที่เหตุ ต้นเหตุไล่ลงไปเรื่อยๆ เอาแค่เหตุอยู่ปัจจุบันขณะยังมีลมหายใจอยู่นี่ก็เอาให้มันทันเถอะ เราก็ต้องพยายามกัน ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ไม่จำเป็นต้องไปพูดมากเลย การเจริญสติเป็นอย่างนี้ กายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกเป็นนี้ กลางคืนออกมาเดินดูใจตามร่มไม้ อยู่ตามหลุมศพดูใจของเรา เกิดความกลัวเกิดความหวั่นไหว หรือว่าเกิดความอยาก ความรู้ตัวของเราพลั้งเผลอได้อย่างไร เราต้องพยายามแก้ไขตัวเรา ชีวิตของเราทำไมถึงลําบาก เราก็ต้องดู สมมติของเราบริบูรณ์หรือไม่ เรามีความขยันหมั่นเพียร ทั้งสมมติ วิมุตติ

สิ่งพวกนี้จะไปบังคับกันไม่ได้เลยมันขึ้นอยู่กับความเพียรของแต่ละบุคคล แล้วก็ขึ้นอยู่กับอานิสงส์บุญบารมีที่บุคคลแต่ละคนสร้างสะสมมาไม่เหมือนกัน บางคนบางท่านก็สมบูรณ์ทั้งสองอย่างทั้งสมมติทั้งวิมุตติ

บางคนบางท่านก็สมบูรณ์ตั้งแต่สมมติแต่ไม่เคยสนใจเรื่องวิมุตติ เรื่องจิตใจ บางคนบางท่านก็เป็นกลางกลาง บางคนบางท่านก็ฝักใฝ่ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย เราก็ต้องพยายามเอา ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวใหม่ จนกว่าจะได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็นก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตายเพราะว่าเป็นกฎของไตรลักษณ์ ทุกคนเกิดมาตายหมดคือถ้าพูดถึงเรื่องความตายแล้วไม่มีใครอยากจะหวัง ถ้าบุคคลที่มีปัญญาแล้วจะมองทะลุปรุโปร่ง เตรียมพร้อมที่จะอยู่เตรียมพร้อมที่จะไป ไม่เสียเที่ยวเสียทีที่ได้เกิดมา

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันให้ต่อเนื่องเชื่อมโยงกันนะ

พากันไปพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง