หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 33 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 33 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 33 วันที่ 8 พฤศจิกายน 2559
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2559 ลำดับที่ 33
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจน นั่งกันตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสําเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายของเราก็จะสบายขึ้นเยอะ

เราพยายามฝึก พยายามฝึกสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้นมา แล้วก็สํารวจกายสํารวจใจของเรา แต่ละวัน แต่ละวันๆ ใจของเราเป็นอย่างไรบ้าง ใจของเราปกติ ใจของเราสงบ หรือว่าใจของเราเกิดความกังวล เกิดความฟุ้งซ่าน เราก็รู้จักหาวิธีแก้ไขด้วยการเจริญสติเข้าไปหยุด เข้าไปดับ เข้าไปควบคุม หมั่นอบรมใจของเรา

แต่ละวันตื่นขึ้นมาเรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ เรามีความเสียสละด้วยการให้ ด้วยการออก ด้วยการช่วยเหลือ มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทําดี จิตใจของเรามีอคติมีมลทิน เราก็รีบแก้ไข บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น ตั้งแต่ตัวเล็กๆ ตั้งแต่เด็กๆ ขึ้นมา เราพยายามฝึกความเสียสละ ฝึกความรับผิดชอบ ฝึกความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้นที่ใจของเรา

วันนี้ก็ญาติโยม ลูกๆ หลานๆ พี่น้องเราก็มาวัดกันหลายคนหลายท่าน เด็กนักเรียนมาจากโรงเรียนอะไร โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนชัย คุณครูพามา พามาหาประสบการณ์ อยากจะให้นักเรียนได้เปลี่ยนบรรยากาศ ได้หาประสบการณ์ มาสร้างอานิสงส์ให้มีให้เกิดขึ้น ตื่นขึ้นมาได้เข้ามาวัด เมื่อคืนพากันไปพักที่ไหน ศาลากลางน้ำ

ตื่นขึ้นมาแล้วเราก็พยายามสร้างความรับผิดชอบให้ตัวเรา มีความรู้จักแก้ไขปัญหาต่างๆ ตื่นขึ้นมาจะลุกเข้าห้องส้วมห้องน้ำ สบู่ ยาสีฟัน เรามีพร้อม เครื่องใช้ไม้สอยปัจจัยสี่ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ที่โรงเรียน เราพยายามแก้ไข สร้างความขยันหมั่นเพียรให้มีให้เกิดขึ้น ไม่เอารัดเอาเปรียบเพื่อน มีความเสียสละ อนุเคราะห์ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้า ให้เรามีความขยัน ความรับผิดชอบ เมื่อเราโตขึ้น

เวลานี้เรายังเป็นเด็กยังต้องการการศึกษาการเล่าเรียน ผ่านกาลผ่านเวลา คุณครูก็พาดําเนิน ดําเนินทั้งการพรํ่าสอนให้ ทั้งการพามาหาประสบการณ์ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง เราพยายามเก็บเกี่ยวเอาไปใช้กับชีวิตประจําวันของเรา เรามีความประหยัดมัธยัสถ์ อะไรควรละ อะไรควรเจริญ หรือว่าเรามีความตระหนี่เหนียวแน่น เราก็พยายามละความตระหนี่เหนียวแน่นออกจากใจของเรา เรามีความเห็นแก่ตัว เราก็พยายามละความเห็นแก่ตัว เรามีความรับผิดชอบเพียงพอหรือไม่ อยู่ด้วยกันหลายคน เราเอารัดเอาเปรียบหมู่คณะเพื่อนฝูงหรือเปล่า เราพยายามแก้ไขตัวเรา ฝึกหัดให้เป็นคนมีระเบียบ ให้เป็นคนสะอาด รักสะอาด ไปที่ไหน ตรงไหนไม่ดีเราก็ช่วยกัน ขยะต่างๆ อย่าไปโยนทิ้งให้เกลื่อน เพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ เราก็พยายามเก็บ

ไม่ว่าที่บ้าน ที่โรงเรียน ไม่ว่าที่วัด อยู่ที่ไหนเราพยายามทําตัวของเราให้เกิดประโยชน์ เราก็จะได้ประโยชน์ อานิสงส์ก็จะได้ติดตามตัวเราไป เรามีความประหยัดมัธยัสถ์ ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ฟุ่มเฟือย เรารู้จักใช้เงินทองพ่อแม่ซึ่งขวนขวายหามาให้ เพื่อได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน ในเมื่อเรามีโอกาสมากมายกว่าคนหลายร้อยหลายพันล้านคน พวกเราก็พยายามตั้งใจเรียนขยันหมั่นเพียร เรียนผ่านการศึกษา ผ่านกาลผ่านเวลา กําลังสติก็มีมากขึ้น กําลังปัญญาก็มีมากขึ้น มีความรับผิดชอบผิดถูกชั่วดี

ไปโรงเรียนคุณครูก็พร่ำสอนให้ ก็พยายามตั้งใจเรียน วันนี้ พรุ่งนี้ก็จะมาเป็นวันนี้ อาทิตย์หน้า เดือนหน้าก็จะมาเป็นวันนี้ เราพยายามเรียนให้ดี ตั้งใจเรียนให้ดี ไม่เข้าใจเราก็พยายามศึกษา อ่านบ่อยๆ ทําความเข้าใจบ่อยๆ ถึงวันเวลาสอบ เขาก็จะผุดขึ้นมาให้เราเห็นเอง นี่แหละ ครูบาอาจารย์ก็พาลูกศิษย์ลูกหาพามา คุณครูพามากันกี่คน ครูมาด้วยกี่คน มา 9 คน มา 5 คน เวลารับประทานข้าวปลาอาหารก็เหมือนกันนะ เวลาเราจะรับประทานข้าวปลาอาหาร ถ้าใจของเราเกิดความอยาก เราก็พยายามควบคุมความอยากของเราให้ได้ กายของเราเกิดความหิว ใจจะเกิดความอยาก มันจะเกิดความโลภขึ้นมาทันที อันโน้นก็อร่อยอันนี้ก็อร่อย มันบอกว่าเอาเยอะๆ เอาน้อยๆ ก็กลัวไม่อิ่ม

ถ้ามันอยาก เราก็พยายามหาวิธีดับ ดับโดยการเจริญสติอานาปานสติ ถ้าเราดับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ เราก็อย่าเพิ่งไปทําตามมัน ให้มันดับของมันเอง ให้มันดับของมันเองค่อยทาน ทุกครั้งทุกเรื่อง ตั้งแต่เวลาคิด ถ้าเรารู้จักการเจริญสติ สร้างความรู้สึกอยู่ที่การเดินบ้าง อยู่ที่ลมหายใจบ้าง ขยันหมั่นเพียร เพียงแค่คําพูดคําจาเราก็ไม่อคติ ไม่เพ่งโทษ ไม่ว่าคนโน้นไม่ว่าคนนี้ มีความรับผิดชอบ

วันนี้ท่านอาจารย์ ท่านเจ้าคุณท่านจะให้ทําอะไรเดี๋ยวท่านจะบอกนะ พากันช่วยกันทํา ยังประโยชน์ ทําความสะอาดที่ตรงโน้นบ้างที่ตรงนี้บ้าง จะได้เป็นอุปนิสัยติดตามตัวเรา เมื่อเราโตขึ้นความรับผิดชอบก็จะเต็มเปี่ยม ความขยันหมั่นเพียรก็จะเต็มเปี่ยม อานิสงส์แห่งบุญก็จะติดตามตัวเราไป ถ้าเรางอมืองอเท้า ไม่รู้จักทำ ไม่รู้จักขยันหมั่นเพียร เมื่อเวลาโตขึ้นไปแล้วจะลําบาก อะไรที่เป็นประโยชน์เราก็ช่วยกันทําให้มีความสุข สุขกายแล้วก็สุขใจ

ตกกลางคืนก็ถ้าใครขยันหมั่นเพียรอีก ก็เพิ่มความเพียรในการสังเกตในการวิเคราะห์ ขัดเกลากิเลส ละนิวรณ์ ละความเกียจคร้าน สิ่งต่างๆ ฝึกหัดให้เป็นนิสัยของเรา ไม่ว่าอยู่ที่ไหน เราก็จะได้เป็นบุคคลที่เข้าวัด ทํากายให้เป็นวัด ทําใจให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระบ่อยๆ สักวันหนึ่งก็จะมองเห็นหนทางเดิน เดิน มองเห็นหนทางเดิน จนไม่กลับมาเกิด ความเกิดความดับของใจของทุกคนนี้มีอยู่ตลอดเวลา ขณะนี้เรายังดับไม่ได้ ยังละไม่ได้ เราก็ต้องพยายามสร้างอานิสงส์ สร้างบุญ สร้างบารมี ให้เป็นเข้าพกเข้าห่อสืบต่อไปในวันข้างหน้า

เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทําความเข้าใจให้ได้ทุกอิริยาบถยิ่งดีใหญ่

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง