หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 5 วันที่ 5 มกราคม 2560
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 5 วันที่ 5 มกราคม 2560
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2560 ลำดับที่ 5
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 5 มกราคม 2560
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ นั่งตามสบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย อย่าไปเพ่งลมหายใจ อย่าไปบังคับลมหายใจ ให้หายใจเป็นธรรมชาติที่สุด
การสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ กายของเราก็จะรู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น เราพยายามสร้างความรู้ตัวขึ้นมาลงที่กายของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ขับถ่าย ตั้งแต่ตื่นขึ้นให้มีสติรู้กาย ถ้าลึกลงไป ถ้าใจเกิด เราเห็นอาการเกิดของใจ เราก็รู้จักหยุดดับ ถ้ามีความคิดผุดขึ้นมา ในภาษาธรรมท่านเรียกว่า ขันธ์ห้า บางทีก็เป็นเรื่องอดีต บางทีก็เป็นเรื่องกลางๆ บางทีก็มีกุศลบ้างหรือว่าอกุศลบ้าง ใจของเราจะเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นตัวเดียวกัน เราก็รู้เพียงแค่ว่าเราคิดเราทำ
แต่ในส่วนลึกๆ เขายังหลงตรงนี้อยู่ หลงขันธ์ห้า เขาได้มาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเองเอาไว้ กองรูปนี่คือส่วนรูป กองนามคือความคิดอารมณ์ต่างๆ แล้วก็ตัววิญญาณ เลยมายึด คลายใจออกจากอาการของใจไม่ได้ ก็ยึดหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเรามาสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงสัก 1 นาที 2 นาที เป็น 5 นาที เป็น 10 นาที จนเรารู้เท่าทันใจ รู้จักควบคุมใจ จนเอาสติปัญญาของเราไปใช้อบรมใจได้ เราถึงจะมองเห็นหนทางเดิน
ถ้าใจคลายออกจากความคิดได้เมื่อไร ความเห็นถูกต้องถึงจะปรากฏ แต่กิเลสก็ยังมีอยู่ที่ใจอยู่ เราต้องมาละกิเลสที่ใจ กิเลสละเอียดอีกก็คือความเกิด ความเกิดของใจนี่ตัวละเอียด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด แต่เขาเกิดมาอยู่ในภพมนุษย์เขามาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเองเอาไว้ แล้วเขาก็ไปเกิดต่อ
นอกจากบุคคลที่มีความเพียร มีความเพียร มีความเสียสละ มีความอดทน หมั่นขัดหมั่นเกลา หมั่นวิเคราะห์ หมั่นทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ เราก็จะเข้าใจในเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ถ้าใจของเราคลายได้ เราจะเข้าใจในคำว่าอัตตาอนัตตา การละกิเลส กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือว่าเกิดขึ้นที่ใจ กิเลสหยาบหรือว่ากิเลสละเอียด เราพยายามไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเราคงจะเห็น
แต่การทำบุญให้ทานทุกคนมีกัน ศรัทธาตรงนี้มีกันเต็มเปี่ยม แต่เป็นศรัทธาที่ยังขาดปัญญา ที่จะเข้าไปคลายความหลง เข้าไปละกิเลส เราก็พยายามขัดพยายามเกลาเอาออกทีละเล็กละน้อย เราไม่ถึงวันนี้ เราก็ต้องถึงพรุ่งนี้ ไม่ถึงพรุ่งนี้ ก็ต้องถึงเดือนหน้าปีหน้า ไม่ถึงจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้า ตราบใดที่เรายังหมั่นฝักใฝ่หมั่นสนใจอยู่
ตามหลักของความเป็นจริงก็ต้องพยายามไปถึงในภพนี้แหละ เพราะอาศัยกายก้อนนี้เจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผลให้ใจของเรารู้ความเป็นจริง การเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด การเป็นทาสของกิเลสทั้งความอยากทั้งความไม่อยาก ถ้าเขารู้ความจริงเขาก็ไม่เอาไม่หลงไม่เอาไม่ยึด แล้วก็อยู่ด้วยปัญญาทำหน้าที่ด้วยปัญญา จะมีจะเป็นจะเอาก็เป็นเรื่องของปัญญา ทำมากทำน้อย มีมากมีน้อย ก็บริหารกายบริหารใจ ไปจนกว่าธาตุขันธ์ของเราจะแตกจะดับ ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าชีว่าโยม
สิ่งพวกนี้จะไปบังคับกันไม่ได้เลย นอกจากตัวเรา ตัวของเราเองที่จะแก้ไขเราเอง ตำราครูบาอาจารย์นั้นมีมาตั้งนาน เรามายกกายของเรานี่แหละเป็นตำราเป็นแผนที่ การเจริญสติลงที่กายได้ต่อเนื่องหรือไม่ เรารู้เท่าทันใจการเกิดการดับของใจหรือไม่ การเกิดการดับของขันธ์ห้าหรือไม่ ถ้าเรารู้เท่าทัน เขาแยกเขาคลายได้เมื่อไรจะสนุก กิเลสตัวไหนจะมาหลอกเราเรารู้ทัน เรารู้จักดับ รู้จักแก้ มันเป็นเรื่องของทุกคน เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะทำความเข้าใจ ได้มากได้น้อยก็อย่าไปทิ้งบุญ
อานิสงส์แห่งบุญนี่แหละ ที่จะทำให้เราไม่ต้องตกอับในวันข้างหน้า ทำไปเถอะ อย่าว่าไม่ทำ อยู่ที่ไหน อยู่ที่ไหนเราก็พยายามทำ ตื่นขึ้นมาเราก็ทำบุญให้กับตัวเรา วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเรา ละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ สักวันหนึ่งเราก็คงจะเห็นหนทางเดิน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้ชัดเจนกันสักนิดก็ยังดีนะ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจต่อตามอุปนิสัยของเรา
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 5 มกราคม 2560
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ นั่งตามสบาย ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย อย่าไปเพ่งลมหายใจ อย่าไปบังคับลมหายใจ ให้หายใจเป็นธรรมชาติที่สุด
การสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ กายของเราก็จะรู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็สงบตั้งมั่นขึ้น เราพยายามสร้างความรู้ตัวขึ้นมาลงที่กายของเรา ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน นั่ง นอน กินอยู่ขับถ่าย ตั้งแต่ตื่นขึ้นให้มีสติรู้กาย ถ้าลึกลงไป ถ้าใจเกิด เราเห็นอาการเกิดของใจ เราก็รู้จักหยุดดับ ถ้ามีความคิดผุดขึ้นมา ในภาษาธรรมท่านเรียกว่า ขันธ์ห้า บางทีก็เป็นเรื่องอดีต บางทีก็เป็นเรื่องกลางๆ บางทีก็มีกุศลบ้างหรือว่าอกุศลบ้าง ใจของเราจะเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นตัวเดียวกัน เราก็รู้เพียงแค่ว่าเราคิดเราทำ
แต่ในส่วนลึกๆ เขายังหลงตรงนี้อยู่ หลงขันธ์ห้า เขาได้มาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเองเอาไว้ กองรูปนี่คือส่วนรูป กองนามคือความคิดอารมณ์ต่างๆ แล้วก็ตัววิญญาณ เลยมายึด คลายใจออกจากอาการของใจไม่ได้ ก็ยึดหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเรามาสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยงสัก 1 นาที 2 นาที เป็น 5 นาที เป็น 10 นาที จนเรารู้เท่าทันใจ รู้จักควบคุมใจ จนเอาสติปัญญาของเราไปใช้อบรมใจได้ เราถึงจะมองเห็นหนทางเดิน
ถ้าใจคลายออกจากความคิดได้เมื่อไร ความเห็นถูกต้องถึงจะปรากฏ แต่กิเลสก็ยังมีอยู่ที่ใจอยู่ เราต้องมาละกิเลสที่ใจ กิเลสละเอียดอีกก็คือความเกิด ความเกิดของใจนี่ตัวละเอียด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด แต่เขาเกิดมาอยู่ในภพมนุษย์เขามาสร้างขันธ์ห้าปิดกั้นตัวเองเอาไว้ แล้วเขาก็ไปเกิดต่อ
นอกจากบุคคลที่มีความเพียร มีความเพียร มีความเสียสละ มีความอดทน หมั่นขัดหมั่นเกลา หมั่นวิเคราะห์ หมั่นทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ เราก็จะเข้าใจในเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ถ้าใจของเราคลายได้ เราจะเข้าใจในคำว่าอัตตาอนัตตา การละกิเลส กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือว่าเกิดขึ้นที่ใจ กิเลสหยาบหรือว่ากิเลสละเอียด เราพยายามไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเราคงจะเห็น
แต่การทำบุญให้ทานทุกคนมีกัน ศรัทธาตรงนี้มีกันเต็มเปี่ยม แต่เป็นศรัทธาที่ยังขาดปัญญา ที่จะเข้าไปคลายความหลง เข้าไปละกิเลส เราก็พยายามขัดพยายามเกลาเอาออกทีละเล็กละน้อย เราไม่ถึงวันนี้ เราก็ต้องถึงพรุ่งนี้ ไม่ถึงพรุ่งนี้ ก็ต้องถึงเดือนหน้าปีหน้า ไม่ถึงจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้า ตราบใดที่เรายังหมั่นฝักใฝ่หมั่นสนใจอยู่
ตามหลักของความเป็นจริงก็ต้องพยายามไปถึงในภพนี้แหละ เพราะอาศัยกายก้อนนี้เจริญสติเข้าไปชี้เหตุชี้ผลให้ใจของเรารู้ความเป็นจริง การเกิดเป็นทุกข์เขาก็ไม่เกิด การเป็นทาสของกิเลสทั้งความอยากทั้งความไม่อยาก ถ้าเขารู้ความจริงเขาก็ไม่เอาไม่หลงไม่เอาไม่ยึด แล้วก็อยู่ด้วยปัญญาทำหน้าที่ด้วยปัญญา จะมีจะเป็นจะเอาก็เป็นเรื่องของปัญญา ทำมากทำน้อย มีมากมีน้อย ก็บริหารกายบริหารใจ ไปจนกว่าธาตุขันธ์ของเราจะแตกจะดับ ก็ต้องพยายามกันนะ ไม่ว่าพระว่าชีว่าโยม
สิ่งพวกนี้จะไปบังคับกันไม่ได้เลย นอกจากตัวเรา ตัวของเราเองที่จะแก้ไขเราเอง ตำราครูบาอาจารย์นั้นมีมาตั้งนาน เรามายกกายของเรานี่แหละเป็นตำราเป็นแผนที่ การเจริญสติลงที่กายได้ต่อเนื่องหรือไม่ เรารู้เท่าทันใจการเกิดการดับของใจหรือไม่ การเกิดการดับของขันธ์ห้าหรือไม่ ถ้าเรารู้เท่าทัน เขาแยกเขาคลายได้เมื่อไรจะสนุก กิเลสตัวไหนจะมาหลอกเราเรารู้ทัน เรารู้จักดับ รู้จักแก้ มันเป็นเรื่องของทุกคน เป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะทำความเข้าใจ ได้มากได้น้อยก็อย่าไปทิ้งบุญ
อานิสงส์แห่งบุญนี่แหละ ที่จะทำให้เราไม่ต้องตกอับในวันข้างหน้า ทำไปเถอะ อย่าว่าไม่ทำ อยู่ที่ไหน อยู่ที่ไหนเราก็พยายามทำ ตื่นขึ้นมาเราก็ทำบุญให้กับตัวเรา วิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจของเรา ละความเกียจคร้าน สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ สักวันหนึ่งเราก็คงจะเห็นหนทางเดิน
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้ชัดเจนกันสักนิดก็ยังดีนะ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจต่อตามอุปนิสัยของเรา