หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 88 วันที่ 21 ธันวาคม 2561
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 88 วันที่ 21 ธันวาคม 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 88
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย และก็วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย
หลวงพ่อก็บอกแค่ชี้แนะแนวทางวิธีการ พวกท่านจงพยายามพากันไปทำ การเจริญสติ การสร้างความรู้ตัว เราพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ การหายใจเข้ามีความรู้สึกรับรู้อยู่ หายใจออกมีความรู้สึกรับรู้อยู่ให้ต่อเนื่อง ซึ่งท่านเรียกว่า สัมปชัญญะ สติรู้กายรู้ลมหายใจ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่อง เราก็จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ความปกติของใจ รู้การเกิดของใจ รู้การเกิดของขันธ์ห้า ซึ่งมีอยู่ในการกายของเราทุกคน ส่วนมากเราก็ไปนึกเอาไปคิดเอา ซึ่งปัญญาตัวนี้เกิดจากใจ เกิดจากอาการของขันธ์ห้า ซึ่งเขาเกิดก็หลงอยู่ตลอดเวลา ความเกิดนั่นแหละคือความหลงอันละเอียด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด
ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไปอบรมใจ แก้ไขใจของเรา บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา เรารู้จักวิธีการแล้ว รู้จักแนวทางแล้ว เราพยายามไปทำ กายวิเวกจากกิเลส หรือกายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกจากกิเลสเป็นอย่างนี้ กายวิเวกจากขันธ์ห้าเป็นอย่างนี้ ใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่สงบเป็นอย่างนี้ สงบด้วยการรู้แจ้งเห็นจริง หรือว่าสงบด้วยการบังคับเอาไว้ เราก็ต้องพยายามหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ หัดสํารวจ ทำความเข้าใจ ภาษาธรรมท่านว่าสักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟังเป็นลักษณะอย่างนี้ อย่าพากันปล่อยปละละเลย
ถ้าเราเข้าใจเราก็จะเอาไปใช้กับชีวิตของเรา ทำงานไปด้วยใจรับรู้ไปด้วย ผิดถูกชั่วดีสติปัญญาไปแก้ไข อย่าพากันปล่อยผัดวันประกันพรุ่ง พยายามดําเนินทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ว่าท่านสอนเรื่องอะไร ชี้แนะเรื่องอะไร ท่านก็สอนเรื่องชีวิตของเรานี่แหละมีอะไรบ้าง อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม ความเกิดความดับของขันธ์ห้า ความเกิดความดับของใจ ทำอย่างไรเราถึงจะเข้าถึงวิธีการอย่างไร
ท่านก็ให้เจริญสติ เจริญสติสร้างความรู้ตัวใหม่ให้เข้าไปอบรมความคิดตัวเก่า ไปหยุดไปดับไปควบคุม ใจเกิดกิเลสเราก็รู้จักละกิเลส ใจเกิดความตระหนี่เหนียวแน่นก็ละความตระหนี่เหนียวแน่น ใจเกิดความโกรธ เราก็พยายามละความโกรธ ด้วยการให้ด้วยการอโหสิกรรม ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกิเลส ใจของเราก็จะเบาบางจากกิเลสต่างๆ คือฐานเดิมของใจที่แท้จริง คือความบริสุทธิ์ความสะอาด ความไม่รู้เขาถึงเกิด เขาถึงเป็นทาสของกิเลส ก็ต้องพยายามกันนะ อย่าพากันไปปล่อยวันเวลาทิ้ง ทุกลมหายใจมีคุณค่ามากมายมหาศาล อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง
ศรัทธานั้นมีกันทุกคน มีการทำบุญ มีการให้ทาน มีอยู่ในระดับของสมมติ แต่ระดับของวิมุตติต้องเจริญสติเข้าไปทำความเข้าใจ จนใจคลายออกจากขันธ์ห้าหรือว่าแยกรูปแยกนาม ความจริงถึงจะปรากฏ อันนี้เพียงแค่เริ่มต้นของปัญญา ถ้าใจคลายออกจากขันธ์ห้าได้ เราก็ต้องตามทำความเข้าใจอีก ละกิเลสอีก จนถึงจุดหมายปลายทาง คือความบริสุทธิ์ของใจ
แต่เวลานี้กําลังสติของเรามีน้อย เราก็พยายามเจริญ เราพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักเอาไปอบรมใจของตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 1 ธันวาคม 2561
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย และก็วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ต้องพนมมือ ฟังไปด้วยน้อมสำเหนียกไปด้วย
หลวงพ่อก็บอกแค่ชี้แนะแนวทางวิธีการ พวกท่านจงพยายามพากันไปทำ การเจริญสติ การสร้างความรู้ตัว เราพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ การหายใจเข้ามีความรู้สึกรับรู้อยู่ หายใจออกมีความรู้สึกรับรู้อยู่ให้ต่อเนื่อง ซึ่งท่านเรียกว่า สัมปชัญญะ สติรู้กายรู้ลมหายใจ อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย ถ้าเรารู้ให้ต่อเนื่อง เราก็จะรู้ลึกลงไปอีก รู้ความปกติของใจ รู้การเกิดของใจ รู้การเกิดของขันธ์ห้า ซึ่งมีอยู่ในการกายของเราทุกคน ส่วนมากเราก็ไปนึกเอาไปคิดเอา ซึ่งปัญญาตัวนี้เกิดจากใจ เกิดจากอาการของขันธ์ห้า ซึ่งเขาเกิดก็หลงอยู่ตลอดเวลา ความเกิดนั่นแหละคือความหลงอันละเอียด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด
ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไปอบรมใจ แก้ไขใจของเรา บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา เรารู้จักวิธีการแล้ว รู้จักแนวทางแล้ว เราพยายามไปทำ กายวิเวกจากกิเลส หรือกายวิเวกเป็นอย่างนี้ ใจวิเวกจากกิเลสเป็นอย่างนี้ กายวิเวกจากขันธ์ห้าเป็นอย่างนี้ ใจที่ปราศจากกิเลส ใจที่สงบเป็นอย่างนี้ สงบด้วยการรู้แจ้งเห็นจริง หรือว่าสงบด้วยการบังคับเอาไว้ เราก็ต้องพยายามหัดสังเกต หัดวิเคราะห์ หัดสํารวจ ทำความเข้าใจ ภาษาธรรมท่านว่าสักแต่ว่าดู สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าฟังเป็นลักษณะอย่างนี้ อย่าพากันปล่อยปละละเลย
ถ้าเราเข้าใจเราก็จะเอาไปใช้กับชีวิตของเรา ทำงานไปด้วยใจรับรู้ไปด้วย ผิดถูกชั่วดีสติปัญญาไปแก้ไข อย่าพากันปล่อยผัดวันประกันพรุ่ง พยายามดําเนินทำความเข้าใจตามแนวทางของพระพุทธองค์ว่าท่านสอนเรื่องอะไร ชี้แนะเรื่องอะไร ท่านก็สอนเรื่องชีวิตของเรานี่แหละมีอะไรบ้าง อะไรคือส่วนรูปอะไรคือส่วนนาม ความเกิดความดับของขันธ์ห้า ความเกิดความดับของใจ ทำอย่างไรเราถึงจะเข้าถึงวิธีการอย่างไร
ท่านก็ให้เจริญสติ เจริญสติสร้างความรู้ตัวใหม่ให้เข้าไปอบรมความคิดตัวเก่า ไปหยุดไปดับไปควบคุม ใจเกิดกิเลสเราก็รู้จักละกิเลส ใจเกิดความตระหนี่เหนียวแน่นก็ละความตระหนี่เหนียวแน่น ใจเกิดความโกรธ เราก็พยายามละความโกรธ ด้วยการให้ด้วยการอโหสิกรรม ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกิเลส ใจของเราก็จะเบาบางจากกิเลสต่างๆ คือฐานเดิมของใจที่แท้จริง คือความบริสุทธิ์ความสะอาด ความไม่รู้เขาถึงเกิด เขาถึงเป็นทาสของกิเลส ก็ต้องพยายามกันนะ อย่าพากันไปปล่อยวันเวลาทิ้ง ทุกลมหายใจมีคุณค่ามากมายมหาศาล อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง
ศรัทธานั้นมีกันทุกคน มีการทำบุญ มีการให้ทาน มีอยู่ในระดับของสมมติ แต่ระดับของวิมุตติต้องเจริญสติเข้าไปทำความเข้าใจ จนใจคลายออกจากขันธ์ห้าหรือว่าแยกรูปแยกนาม ความจริงถึงจะปรากฏ อันนี้เพียงแค่เริ่มต้นของปัญญา ถ้าใจคลายออกจากขันธ์ห้าได้ เราก็ต้องตามทำความเข้าใจอีก ละกิเลสอีก จนถึงจุดหมายปลายทาง คือความบริสุทธิ์ของใจ
แต่เวลานี้กําลังสติของเรามีน้อย เราก็พยายามเจริญ เราพยายามสร้างขึ้นมา แล้วก็รู้จักเอาไปอบรมใจของตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ