หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 50 วันที่ 24 กรกฏาคม 2561

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 50 วันที่ 24 กรกฏาคม 2561
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 50 วันที่ 24 กรกฏาคม 2561
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2561 ลำดับที่ 50
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2561

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจ ที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ชั่วครั้งชั่วคราว ถึงเราหยุดไม่ได้ถึงเราละไม่ได้ ก็ขอให้หยุดขณะที่เรากําลังนั่งอยู่นี่แหละ ฟังไปด้วย น้อมสำเหนียกไปด้วย

ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว การสูดลมหายใจยาวผ่อนลมหายใจยาว ความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ก็จะหยุดชะงักลงไป ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้ากระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน พยายามฝึกพยายามสร้างความรู้ตัวตรงนี้แหละ

ตั้งแต่ตื่นขึ้นตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ รู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกปุ๊บทันที หายใจเข้าก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ หายใจออกก็มีความรู้สึกรับรู้อยู่ จนกระทั่งความรู้ตัวของเราต่อเนื่องเชื่อมโยง จากหนึ่งครั้งสองครั้งสามครั้ง จากนาทีเป็น 2-3 นาทีเป็น 4 เป็น 5 ความรู้ตัวที่ต่อเนื่องนี่แหละที่เรียกว่า สติสัมปชัญญะ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม

แล้วก็ถ้าเรามีความรู้ตัวอยู่ทุกขณะลมหายใจเข้าออกอยู่ปัจจุบัน การเกิดของใจเราก็จะเห็นอาการการเกิดของใจ การปรุงแต่งของใจ ใจส่งไปภายนอกเป็นลักษณะอย่างนี้ รู้เท่าทันอาการของความคิด อาการของขันธ์ห้าผุดขึ้นมา ใจเคลื่อนเข้าไปรวม เรารู้เท่ารู้ทัน สังเกตทัน ใจก็จะแยกก็จะคลายออกจาก ออกจากขันธ์ห้าซึ่งเรียกว่า แยกรูปแยกนาม ความเห็นถูกในหลักธรรมก็จะปรากฏขึ้น เราก็จะเข้าใจในคําสอนของพระพุทธองค์ คําว่า อัตตา อนัตตา สมมติวิมุตติ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในกายของเรา

แต่เวลานี้ความรู้ตัวของเราอาจจะมีเป็นบางช่วงบางครั้งบางครั้งคราว แต่ความสืบต่อความต่อเนื่องกันตรงนี้ยังไม่มีพอ กําลังสติยังไม่มีพอ มีตั้งแต่ศรัทธา ฝักใฝ่ปฏิบัติในการทำบุญให้ทาน การสร้างบารมีตรงนี้มีกันทุกคน แต่การสร้างความรู้ตัวที่จะเข้าไปรู้เท่ารู้ทัน รู้กันรู้แก้ รู้จักจําแนกแจกแจงว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน กายทำหน้าที่อย่างนี้ ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างนี้ เราก็จะรู้ในรายละเอียดอยู่ในกายของเราอีกมากมาย

แต่เวลานี้เราพยายามสร้างความรู้ตัวเอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืน เดิน เดิน นั่ง นอน กิน อยู่ ขับถ่าย หมั่นสังเกตหมั่นวิเคราะห์ รู้ไม่ทันก็หยุดเอาไว้ เริ่มต้นใหม่ ยิ่งฝึกไปเท่าไรยิ่งเห็นเยอะ เห็นกิเลสเยอะ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด มีอยู่ในกายในใจของเราหมด

แต่ก่อนแต่เดิมความบริสุทธิ์ของใจนั้นไม่มี ความบริสุทธิ์ของใจนั้นมีอยู่ แต่ความหลงเข้าครอบงำทำให้ใจเป็นทาสกิเลส ทำให้ใจของเราเกิด เกิดแล้วก็เป็นทาสกิเลส ความบริสุทธิ์ จิตที่บริสุทธิ์ตัวเดิมนั้นมีอยู่ ความไม่รู้ ความไม่เข้าใจทำให้ใจของเราเกิด เกิดแล้วยังไม่พอยังไปยึด ยึดมั่นถือมั่น ทำให้เกิดอัตตาตัวตน เกิดทิฏฐิ เกิดมานะ เกิดกิเลส สารพัดอย่างมาห่อหุ้มดวงใจของเราเอาไว้ท่านถึงให้เจริญสติเข้าไปอบรมใจ รู้จักสร้างบารมี

ใจของเรามีความเสียสละ มีการให้ มีการเอาออก รู้จักให้อภัยทาน อโหสิกรรม เรามีสัจจะ มีความเชื่อมั่นในตัวของเรา เป็นบุคคลที่มีความเป็นระเบียบ รู้จักเป็นผู้ให้ ผู้ทำ ผู้ยังประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์อยู่ปัจจุบัน เราก็พยายามดำเนินทำ

แต่ละวันตื่นขึ้นมาเราพยายามหัดวิเคราะห์ใจของเรา ถ้าเรารู้ไม่ทันตั้งแต่ต้นเหตุ เราก็รู้จักหยุดเอาไว้ รู้จักดับเอาไว้ เหตุเกิดจากภายนอกมาทำให้ใจเกิดหรือเกิดจากภายใน ท่านถึงบอกว่าให้รอบรู้ในกองสังขาร รอบรู้ในดวงวิญญาณในกายของตัวเรา รอบรู้ในปัจจัยสี่แล้วก็โลกธรรมในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยังประโยชน์เราก็พลอยได้รับประโยชน์นั้นด้วย

ทำมากทำน้อยเราก็ได้อาศัยอานิสงส์ประโยชน์ทางสมมติ จนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะเราอยู่กับสมมติ กายของเรานี่แหละคือก้อนสมมติ เราจะไปทิ้งสมมติไม่ได้ ตอนนี้นอกจากหมดลมหายใจเราถึงจะได้วางสมมติก้อนนี้จริงๆ แต่เราต้องวางด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา ส่วนทางด้านจิตใจ ทางด้านวิญญาณในกายของเรา แต่สมมติภายนอกเราก็รับผิดชอบด้วยสติด้วยปัญญาจนกว่าเขาจะแตกดับ ถึงจะได้ละทิ้งกันจริงๆ

แต่เวลานี้กําลังสติความรู้ตัวเนี่ยมีไม่เพียงพอ เพียงแค่การสร้าง การทำความเข้าใจให้ต่อเนื่อง ตรงนี้ก็พยายามทำให้ต่อเนื่อง ทำให้ได้กันนะ สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องให้เชื่อมโยง ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ

พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง