
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 127
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 127
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 127
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 30 ธันวาคม 2562
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งที่เกิดจากใจเอาไว้ ด้วยการสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน
เราพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พอตื่นขึ้นมาเราก็สร้างความรู้สึกรับรู้อยู่ที่การหายใจเข้าออก เป็นงานชิ้นเอก เป็นงานชิ้นโบว์แดง แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องอันนี้เป็นการรู้กายเป็นการสร้างสติรู้กายของเราให้ได้เสียก่อน ถ้าเราสร้างความรู้สึกตัวได้ต่อเนื่อง
ส่วนการเกิดการดับของใจนั้นมีอยู่เดิม การเกิดการดับของความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดหรือว่าอาการของขันธ์ห้านั้นมีอยู่เดิม ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง เราก็จะรู้เท่ารู้ทันการเกิดของใจ รู้ลักษณะของใจ แต่เรารู้ไม่ทันการเกิดของใจ เพราะว่ากำลังสติหรือว่าความรู้ตัวของเรามีกำลังไม่เพียงพอก็เลยขาดกระท่อนกระแท่น
ส่วนบารมีส่วนอื่นนั้น ทุกคนก็สร้างกันมาดี ความเสียสละ ก็มีอยู่บ้าง การศรัทธามีการทำบุญ มีการให้ทาน ฝักใฝ่ ในการทำบุญในระดับของสมมติตรงนี้ก็มีอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปเห็นเหตุเห็นผลเห็นการเกิดการดับจนใจของเราคลายออกจากขันธ์ห้าตรงนี้มีไม่เพียงพอ ก็เลยได้แค่ทำบุญ ทำบุญแล้วก็สร้างบารมีอยู่ในระดับของสมมติ ก็ต้องพยายาม อะไรที่จะเป็นกุศลอะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็พยายามรีบทำ อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลาทุกขณะจิตทุกขณะลมหายใจเข้าออก นั่นแหละที่ท่านเรียกว่า ‘ปัจจุบันธรรม’
กายของเราทำหน้าที่อย่างไร หู ตา จมูก ลิ้น กาย แล้วก็ใจ ที่ท่านบอกว่าอันนี้กองรูปกองนามพระพุทธองค์บอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ กองวิญญาณ กองสังขาร ในกายในขันธ์ห้าของเรา เราอาจจะได้ยินตั้งแต่ชื่อแต่เรายังไม่เห็นเพราะว่ายังแยกแยะไม่ได้ เพราะว่าทั้งใจทั้งอาการของใจเขารวมกันไปทั้งก้อน แต่ก็อย่าพากันเกียจคร้าน พยายามขยัน ขยันหมั่นเพียร หมั่นขัดเกลากิเลสออกจากใจของเรา ความอยากทั้งความไม่อยากนั่นแหละเพราะว่าการเกิดของใจมีอยู่ความเกิดของใจก็คือกิเลสอันละเอียดที่สุด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เขาหลงมาเกิดอยู่ในภพมนุษย์
เรามีโอกาสที่จะศึกษาทำความเข้าใจ ถ้ากายเนื้อแตกดับก็คงจะมีตั้งแต่เรื่องบุญเรื่องบาปเรื่องกรรม ถ้าเราอยากจะรู้เรื่องกรรมให้ละเอียด เราก็ต้องเจริญสติเข้าไปแยกรูปแยกนาม เข้าใจในขันธ์ห้า ทำความเข้าใจกับขันธ์ห้า รู้ความเป็นจริง รู้จักเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในกายในขันธ์ห้าของเรา เราก็จะเข้าใจในเรื่องวิบากของกรรมที่มาปรุงแต่งใจของเรา แยกแยะได้ทำความเข้าใจได้แล้วก็ละได้ กรรมเก่าก็ตามไม่ทัน ก็เลยกลายเป็นอโหสิกรรม กรรมใหม่ที่เกิดจากสติปัญญา ที่เกิดจากใจเราก็ไม่ยึดก็เลยอยู่เหนือกรรม ไม่ยึดมั่นถือมั่น อยู่เหนือกรรม อยู่เหนือบุญเหนือบาป อันนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีกำลังสติเร็วไว มีความเสียสละ มีความเพียรเป็นเลิศ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ก็ต้องพยายามหมั่นสร้างบุญสร้างอานิสงส์กันเอา
หลวงพ่อก็แค่เพียงเล่าให้ฟัง เรื่องเก่าของเก่าเล่าของเก่าย้ำของเก่า แต่พวกท่านต้องพยายามไปทำให้เห็น แต่ส่วนมากจะไปวิ่งเอากระโดดเอาตั้งแต่ผล ไม่ศึกษาเข้าไปดูตั้งแต่ต้นเหตุ ต้นเหตุของการเกิด แต่การเกิดนี้เกิดมาแล้วเกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์ มาอาศัยกายก้อนนี้อยู่ตั้งแต่เป็นเด็กนู่นแหละ เติบโตขึ้นมาผ่านกาลผ่านเวลา ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน ผ่านทุกข์ผ่านสุขมามากต่อมาก ผ่านวิบากกรรมต่างๆ เราต้องมาศึกษาเรื่องกรรม ถ้าเราศึกษาไม่ได้เรื่องนี้เขาก็จะไปตามกรรม กรรมตัวไหนจะแรงกว่ากัน ฝ่ายกุศลหรือว่าอกุศล เราพยายามละอกุศล เจริญกุศล มันในหลักธรรมแล้วก็มีค่าเท่ากัน ทางอกุศลก็จะนำความทุกข์มาให้ ทางกุศลก็จะนำความสุขมาให้ แต่การเกิดก็เกิดเหมือนกันแต่อาจจะเป็นการเกิดฝ่ายทุกข์ฝ่ายสุข ฝ่ายดำฝ่ายขาว
ในหลักธรรม ท่านก็ให้ละทั้งสองอย่าง แต่สร้างกุศลแต่ไม่ให้ยึดติด ยังกุศลให้มีให้เกิดขึ้นขณะที่เรายังมีลมหายใจ อานิสงส์แห่งบุญแห่งกุศลก็เป็นเข้าพกเข้าห่อที่ติดตามตัวเราไป ทำให้กันไม่ได้นอกจากตัวของเรา หายใจก็หายใจแทนกันไม่ได้ นอกจากตัวของเราที่จะศึกษากายศึกษาใจของเรา วิธีการแนวทางนั้นพระพุทธองค์ได้ค้นพบเอามาเจริญ เอามาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็คือพวกเรานี้แหละได้ประพฤติได้ปฏิบัติตาม ให้มีให้ปรากฎขึ้นที่ใจของเรา รีบเร่งหากำไรในกายก้อนนี้ให้ได้ขณะที่เขายังมีกำลังกายอยู่
อันนี้ก็ใกล้จะถึงปีใหม่ ปีใหม่อีกวันสองวันก็จะถึง วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ขอเชิญญาติโยมพี่น้องเรามาร่วมกันทำวัตรสวดมนต์ ทำวัตรสวดมนต์ข้ามปีกันอยู่ที่ลาดหลวงปู่ใหญ่ปางลีลา อากาศก็เริ่มเย็นสบายๆ ปีนี้ก็รู้สึกว่าอากาศหนาว หนาวมาบ้างนิดหน่อยไม่หนาวเยอะเท่าไหร่ก็เริ่มจะมาอีก อากาศหนาวๆ เย็นๆ มาทำวัตรสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของเรา แล้วก็รู้จักแก้ไขชีวิตของตัวเรา บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา หมั่นอบรมใจของเราอยู่ตลอดเวลา หมั่นขัดเกลากิเลสอยู่ตลอดเวลา ยิ่งฝึกไปเท่าไหร่ยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไหร่เราก็ยิ่งทำความเข้าใจ
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่อยู่ตลอดเวลา ท่านถึงบอกว่าเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เบิกบานในบุญในกุศล เบิกบานในการสร้างคุณงามความดีมีความสุขในการยังประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ในปัจจุบัน ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในโลกนี้ประโยชน์ในโลกหน้า มีหมด วันนี้มี พรุ่งนี้มี เดือนนี้มี เดือนหน้ามี ภพนี้มี ภพหน้ามี อย่าพากันประมาท
สร้างรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 30 ธันวาคม 2562
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบายวางกายให้สบาย วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งที่เกิดจากใจเอาไว้ ด้วยการสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว กายของเราก็รู้สึกว่าสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้น ความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน
เราพยายามสร้างความรู้ตัวตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พอตื่นขึ้นมาเราก็สร้างความรู้สึกรับรู้อยู่ที่การหายใจเข้าออก เป็นงานชิ้นเอก เป็นงานชิ้นโบว์แดง แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องอันนี้เป็นการรู้กายเป็นการสร้างสติรู้กายของเราให้ได้เสียก่อน ถ้าเราสร้างความรู้สึกตัวได้ต่อเนื่อง
ส่วนการเกิดการดับของใจนั้นมีอยู่เดิม การเกิดการดับของความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดหรือว่าอาการของขันธ์ห้านั้นมีอยู่เดิม ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง เราก็จะรู้เท่ารู้ทันการเกิดของใจ รู้ลักษณะของใจ แต่เรารู้ไม่ทันการเกิดของใจ เพราะว่ากำลังสติหรือว่าความรู้ตัวของเรามีกำลังไม่เพียงพอก็เลยขาดกระท่อนกระแท่น
ส่วนบารมีส่วนอื่นนั้น ทุกคนก็สร้างกันมาดี ความเสียสละ ก็มีอยู่บ้าง การศรัทธามีการทำบุญ มีการให้ทาน ฝักใฝ่ ในการทำบุญในระดับของสมมติตรงนี้ก็มีอยู่ แต่การเจริญสติที่จะเข้าไปเห็นเหตุเห็นผลเห็นการเกิดการดับจนใจของเราคลายออกจากขันธ์ห้าตรงนี้มีไม่เพียงพอ ก็เลยได้แค่ทำบุญ ทำบุญแล้วก็สร้างบารมีอยู่ในระดับของสมมติ ก็ต้องพยายาม อะไรที่จะเป็นกุศลอะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็พยายามรีบทำ อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลาทุกขณะจิตทุกขณะลมหายใจเข้าออก นั่นแหละที่ท่านเรียกว่า ‘ปัจจุบันธรรม’
กายของเราทำหน้าที่อย่างไร หู ตา จมูก ลิ้น กาย แล้วก็ใจ ที่ท่านบอกว่าอันนี้กองรูปกองนามพระพุทธองค์บอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ กองวิญญาณ กองสังขาร ในกายในขันธ์ห้าของเรา เราอาจจะได้ยินตั้งแต่ชื่อแต่เรายังไม่เห็นเพราะว่ายังแยกแยะไม่ได้ เพราะว่าทั้งใจทั้งอาการของใจเขารวมกันไปทั้งก้อน แต่ก็อย่าพากันเกียจคร้าน พยายามขยัน ขยันหมั่นเพียร หมั่นขัดเกลากิเลสออกจากใจของเรา ความอยากทั้งความไม่อยากนั่นแหละเพราะว่าการเกิดของใจมีอยู่ความเกิดของใจก็คือกิเลสอันละเอียดที่สุด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด เขาหลงมาเกิดอยู่ในภพมนุษย์
เรามีโอกาสที่จะศึกษาทำความเข้าใจ ถ้ากายเนื้อแตกดับก็คงจะมีตั้งแต่เรื่องบุญเรื่องบาปเรื่องกรรม ถ้าเราอยากจะรู้เรื่องกรรมให้ละเอียด เราก็ต้องเจริญสติเข้าไปแยกรูปแยกนาม เข้าใจในขันธ์ห้า ทำความเข้าใจกับขันธ์ห้า รู้ความเป็นจริง รู้จักเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในกายในขันธ์ห้าของเรา เราก็จะเข้าใจในเรื่องวิบากของกรรมที่มาปรุงแต่งใจของเรา แยกแยะได้ทำความเข้าใจได้แล้วก็ละได้ กรรมเก่าก็ตามไม่ทัน ก็เลยกลายเป็นอโหสิกรรม กรรมใหม่ที่เกิดจากสติปัญญา ที่เกิดจากใจเราก็ไม่ยึดก็เลยอยู่เหนือกรรม ไม่ยึดมั่นถือมั่น อยู่เหนือกรรม อยู่เหนือบุญเหนือบาป อันนี้ต้องเป็นบุคคลที่มีกำลังสติเร็วไว มีความเสียสละ มีความเพียรเป็นเลิศ แต่ก็ไม่เหลือวิสัย ก็ต้องพยายามหมั่นสร้างบุญสร้างอานิสงส์กันเอา
หลวงพ่อก็แค่เพียงเล่าให้ฟัง เรื่องเก่าของเก่าเล่าของเก่าย้ำของเก่า แต่พวกท่านต้องพยายามไปทำให้เห็น แต่ส่วนมากจะไปวิ่งเอากระโดดเอาตั้งแต่ผล ไม่ศึกษาเข้าไปดูตั้งแต่ต้นเหตุ ต้นเหตุของการเกิด แต่การเกิดนี้เกิดมาแล้วเกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์ มาอาศัยกายก้อนนี้อยู่ตั้งแต่เป็นเด็กนู่นแหละ เติบโตขึ้นมาผ่านกาลผ่านเวลา ได้รับการศึกษาได้รับการเล่าเรียน ผ่านทุกข์ผ่านสุขมามากต่อมาก ผ่านวิบากกรรมต่างๆ เราต้องมาศึกษาเรื่องกรรม ถ้าเราศึกษาไม่ได้เรื่องนี้เขาก็จะไปตามกรรม กรรมตัวไหนจะแรงกว่ากัน ฝ่ายกุศลหรือว่าอกุศล เราพยายามละอกุศล เจริญกุศล มันในหลักธรรมแล้วก็มีค่าเท่ากัน ทางอกุศลก็จะนำความทุกข์มาให้ ทางกุศลก็จะนำความสุขมาให้ แต่การเกิดก็เกิดเหมือนกันแต่อาจจะเป็นการเกิดฝ่ายทุกข์ฝ่ายสุข ฝ่ายดำฝ่ายขาว
ในหลักธรรม ท่านก็ให้ละทั้งสองอย่าง แต่สร้างกุศลแต่ไม่ให้ยึดติด ยังกุศลให้มีให้เกิดขึ้นขณะที่เรายังมีลมหายใจ อานิสงส์แห่งบุญแห่งกุศลก็เป็นเข้าพกเข้าห่อที่ติดตามตัวเราไป ทำให้กันไม่ได้นอกจากตัวของเรา หายใจก็หายใจแทนกันไม่ได้ นอกจากตัวของเราที่จะศึกษากายศึกษาใจของเรา วิธีการแนวทางนั้นพระพุทธองค์ได้ค้นพบเอามาเจริญ เอามาเปิดเผยให้สัตว์โลกก็คือพวกเรานี้แหละได้ประพฤติได้ปฏิบัติตาม ให้มีให้ปรากฎขึ้นที่ใจของเรา รีบเร่งหากำไรในกายก้อนนี้ให้ได้ขณะที่เขายังมีกำลังกายอยู่
อันนี้ก็ใกล้จะถึงปีใหม่ ปีใหม่อีกวันสองวันก็จะถึง วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ขอเชิญญาติโยมพี่น้องเรามาร่วมกันทำวัตรสวดมนต์ ทำวัตรสวดมนต์ข้ามปีกันอยู่ที่ลาดหลวงปู่ใหญ่ปางลีลา อากาศก็เริ่มเย็นสบายๆ ปีนี้ก็รู้สึกว่าอากาศหนาว หนาวมาบ้างนิดหน่อยไม่หนาวเยอะเท่าไหร่ก็เริ่มจะมาอีก อากาศหนาวๆ เย็นๆ มาทำวัตรสวดมนต์ข้ามปีเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตของเรา แล้วก็รู้จักแก้ไขชีวิตของตัวเรา บอกตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็นอยู่ตลอดเวลา หมั่นอบรมใจของเราอยู่ตลอดเวลา หมั่นขัดเกลากิเลสอยู่ตลอดเวลา ยิ่งฝึกไปเท่าไหร่ยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไหร่เราก็ยิ่งทำความเข้าใจ
ล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่อยู่ตลอดเวลา ท่านถึงบอกว่าเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เบิกบานในบุญในกุศล เบิกบานในการสร้างคุณงามความดีมีความสุขในการยังประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ในปัจจุบัน ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในโลกนี้ประโยชน์ในโลกหน้า มีหมด วันนี้มี พรุ่งนี้มี เดือนนี้มี เดือนหน้ามี ภพนี้มี ภพหน้ามี อย่าพากันประมาท
สร้างรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ