หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 115

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 115
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 115
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 115
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562


ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกของตัวเราเองให้ชัดเจนให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พากันหัดวิเคราะห์ หัดสังเกตรู้ความปกติของใจ รู้การเกิดการดับของใจ รู้จักภาระหน้าที่สมมติ อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ ใจที่ปกติเป็นอย่างไร ใจที่ปราศจากกิเลสเป็นอย่างไร ใจที่คลายจากขันธ์ห้าเป็นอย่างไร การเจริญสติการสร้างความรู้ตัว เราสร้างความรู้ตัวได้ต่อเนื่อง แล้วก็เอาไปใช้เอาไปวิเคราะห์ เอาไปอบรมใจของเราได้แล้วหรือยัง ตั้งแต่ตื่นขึ้นจนกระทั่งนอนหลับจนกระทั่งหมดลมหายใจ หมั่นอบรมใจของเราบ่อยๆ หมั่นพร่ำสอนใจของเราอยู่บ่อยๆ

อยู่คนเดียวเราก็สอนใจเรา อยู่หลายคนเราก็สอนใจเรา กายของเราทำหน้าที่อย่างไร ทวารทั้งหกทำหน้าที่อย่างไร มีความสุขในการวิเคราะห์ในการสำรวจในการทำความเข้าใจ อะไรขาดตกบกพร่องเราก็รีบแก้ไขเสีย งานสมมติภายนอกอะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ทำ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเพราะว่าเราก็ยังอาศัยปัจจัยสี่ อาศัยสมมติ หมดลมหายใจนั่นแหละถึงจะได้วางกายก้อนนี้

ส่วนการเกิดการดับของใจ ถ้าดับความเกิดไม่ได้ ละกิเลสไม่ได้ เขาก็ยังเกิดต่อ ก็ขอให้เกิดอยู่ในอานิสงส์แห่งบุญ จะได้ไม่ได้ลำบาก ก็พยายามหมั่นทำความเข้าใจสำรวจขณะที่ยังมีกำลังกายอยู่นี้แหละ หมดกำลังกายหมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญเรื่องบาป พยายามแก้ไขให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น อะไรคือปัญญา อะไรคือใจ ทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง เพียงแค่ระดับสมมติเราก็พยายามศึกษาทำความเข้าใจให้ละเอียด แล้วก็อยู่กับสมมติ เคารพสมมติ ไม่ยึดติดสมมติพูดง่ายอยู่หรอกนะแต่การลงมือ การปฏิบัติ การฝึก การศึกษาจริงๆ ต้องเป็นบุคคลที่มีความเพียรเป็นเลิศ

แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมาเรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ เรามีความรับผิดชอบ เรามีความเสียสละหรือว่ามีความเห็นแก่ตัว หรือว่ามีตั้งแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ถ้าเราไม่แก้ไขเราสอนเราไม่ได้ ไม่มีใครจะสอนเราได้เลย นอกจากตัวของเรา พยายามแก้ไข อีกสักหน่อยก็ต้องได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตายเพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง

แล้วความตายนี้มีมากันทุกคน ไม่ว่าจะไปช้าหรือไปเร็ว ไม่ว่าเด็กไม่ว่าผู้ใหญ่ ความตายนี้มาพร้อมกับความเกิด ไม่อยากตายก็ต้องตัดตั้งแต่ต้นเหตุคือดับความเกิด แต่เวลานี้เราเกิดมาอยู่ในภพมนุษย์มีธาตุสี่ขันธ์ห้า พระพุทธองค์ท่านเน้นเจริญสติเข้าไปจำแนกแจกแจงชี้เหตุชี้ผล ละกิเลสแล้วก็ดับความเกิดให้ได้ขณะที่ยังมีกายก้อนนี้อยู่ หมดลมหายใจหมดกายก้อนนี้ก็มีตั้งแต่เรื่องของวิญญาณ มีแต่เรื่องวิบากของกรรม บุญบาป ทำความเข้าใจให้ได้ทุกอย่างก่อนที่จะหมดลมหายใจ ก็ต้องพยายาม

อาตมาก็ขอขอบใจทุกคน ขอบใจทางโฆษะด้วยที่ผู้บริหารงานให้บริวารมาช่วย มาช่วยนู้นบ้างช่วยนี้บ้าง มาสร้างบารมีฝากเอาไว้ให้กับสมมติ วันนี้ก็พากันไปช่วย ช่วยทาสีไม้ ได้ไม้ไผ่ที่ตัดเอาไว้ สีขาวสีเขียวอยู่ในโรงรถ ถ้าหมดแล้วก็มาเอาไปช่วยกันทา จะเอาทำเป็นหลักให้ไม้ได้พยุงขึ้นไปข้างบน จะทำให้เป็นอานิสงส์ใหญ่ในวันข้างหน้า ทำให้เป็นลานดอกไม้ใหญ่รอบมหาเจดีย์ ทำวิหารโรงทาน ดอกไม้ให้ขึ้นปกคลุมหมด สวยงามมากทีเดียวถ้าใครไปเห็นต้นไม้ชนิดนี้สวยงามมาก เลี้ยงเอาภายในสองสามปี เจดีย์เสร็จดอกไม้ก็สมบูรณ์แบบทุกสิ่งทุกอย่างก็จะสวยงาม

หลวงพ่อก็ขอขอบคุณขอบใจเหล่ามนุษย์ที่มีกายเนื้อ แล้วก็ขอบใจขอบคุณเหล่าเทวดาที่มีกายทิพย์ที่มาช่วยกันไม่ให้ติดขัด มาร่วมกันช่วยมาร่วมกันสร้างมาร่วมกันอนุโมทนาสาธุแห่งบุญไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อะไรที่จะเป็นบุญอะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็พยายามช่วยกันทำ อีกส่วนหนึ่งนั้นทางญาติโยมที่มาบริจาคผ้าขาวก็ขอขอบใจเอาไว้ห่อศพ เอาไว้ทำชุดฌาปนกิจ ทั้งผ้าขาวทั้งโลงศพ ก็ทยอยมาเรื่อยๆ แต่ละวันมารับเอาก็ประมาณ 2 โลง 3 โลง วันละ 5 โลงก็มีทั้งกลางคืนทั้งกลางวัน นี่แหละความตายไม่ได้เลือกกาลไม่ได้เลือกเวลา ให้เรามีโอกาสรีบจัดแจงกับชีวิตของเราให้ได้จนอานิสงส์ล้นไปสู่พี่สู่น้องสู่เพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ก็จะได้ไม่ได้เสียทีไม่ได้เสียเที่ยวที่ได้เกิดมา

มีโอกาสไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ตั้งแต่ความคิด คิดดี ทำดี พูดดี ก็เป็นบุญ พยายามสร้างสะสมบุญให้มีให้เกิดขึ้น การเจริญภาวนา การทำความเข้าใจ การขัดเกลากิเลส ไม่ใช่ว่าเจริญสติไม่รู้จักเอาสติไปใช้ เราต้องรู้จักเอาสติปัญญาไปใช้ ชี้เหตุชี้ผลจนจิตของเราคลายความหลงหรือว่าแยกรูปแยกนาม อันนี้ต้องเป็นบุคคลที่ขยันจริงๆ ถึงจะเข้าถึง เพียงแค่แยกได้ยังไม่พอ ต้องตามทำความเข้าใจให้รู้แจ้งเห็นจริง เข้าใจในเรื่องอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ในขันธ์ห้า เข้าใจในหลักของอริยสัจ เข้าใจในการดำเนินชีวิตของเรา ให้จิตใจของเราตกกระแสธรรม จนกว่าจะบรรลุถึงจุดหมายปลายทางคือความบริสุทธิ์ ความหลุดพ้น ก็ต้องพยายามกันนะ

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกก็ยังขาดการทำความเข้าใจกันอยู่ ก็เลยได้ส่วนมากก็ได้แค่ประคับประคองในการทำบุญ ในการให้ทานในการทำความสงบบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี สักวันหนึ่งเราก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางได้

สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนให้เชื่อมโยงให้ต่อเนื่องกันนะ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พยายามพากันศึกษาค้นคว้าให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง