หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 78

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 78
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 78
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 78
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562

มาจากกรุงเทพ คนกรุงเทพเป็นคนใจบุญ มีโอกาสก็ฝักใฝ่ในการทำบุญในการให้ทาน แต่เป็นคนน่าสงสารอยู่สักหน่อยหนึ่ง ไปไหนมาไหนรถลาก็ติดลำบากอึดอัดไม่เหมือนกับคนบ้านนอกคนบ้านนอกนี่ไปไหนก็โล่งก็โปร่ง ได้กำไรชีวิต ไม่ได้ดิ้นรนเหมือนกับคนกรุงเทพเท่าไหร่ มีโอกาสก็ได้มาทำบุญถวายทาน

ส่วนกิเลสก็ต้องละเอา กิเลสก็ของเรา ความโลภความโกรธความทะเยอทะยานอยากก็ของเราเราก็พยายามเจริญสติไปแก้ไขขัดเกลาเอา ถ้าเราไม่ละกิเลสของเราก็ไม่มีใครจะละให้เราได้นอกจากตัวของเราเอง

วิธีการแนวทางนั้นพระพุทธเจ้าท่านได้ค้นพบเอามาจำแนกแจกแจง ตั้งหลายร้อยหลายพันปีหลักของความจริงของชีวิต ชีวิตของคนเรานี้ไม่มีอะไรเลยเป็นสาระแก่นสารท่านว่าอย่างนั้น มีแต่ความว่างเปล่า ยืม ‘ดินน้ำลมไฟ’ มาใช้ วิญญาณก็หลงมาเกิด ทั้งหลงมาเกิดทั้งยึด เกิดหลงมาเกิด หลงเกิดตั้งแต่ยังไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ หลงมาเกิดแล้วก็มาเกิดมนุษย์แล้วก็มายึดเอาอัตภาพร่างกายของตัวเรา อันนี้ก็ของเราอันโน้นก็ของเรา สารพัดอย่างใจมันไปยึดไปติดไปเกาะ ถึงเวลาแล้วกายเนื้อแตกดับอาศัยไม่ได้ ใจก็ไปต่อตราบใดที่ใจยังเกิด

คนใดที่ได้สร้างกุศลกรรม ได้สร้างบุญสร้างกุศลเอาไว้ ใจก็ไปสู่สถานที่สุขคติ คนใดที่ละอกุศลไม่ได้ สร้างกรรมก็ไปตามวิบากของกรรม ส่วนคนใดดับความเกิดละกิเลสได้ ก็ไม่ต้องกลับมาเกิด มีการเกิดก็มีการตาย วนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ตลอดเวลา การเกิดในภพมนุษย์นี้ก็มองด้วยตาเนื้อ ส่วนการเกิดของจิตวิญญาณน่ะ เกิดๆ ดับๆ แต่ก็ยังไม่ได้ยึดเพราะว่าเขายังยึดภพมนุษย์อยู่

ถ้าเดินปัญญาจำแนกแจกแจงได้ เราก็รู้จักจุดปล่อยจุดวาง ทำใจให้ว่างให้บริสุทธิ์ ก็พากันขยันหมั่นเพียรวิเคราะห์พิจารณาและก็แก้ไขปรับปรุงตักตวงเอากำไรขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ หมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญกับเรื่องบาป ละบาปสร้างบุญ สร้างบุญไม่ยึดติดในบุญ อะไรที่จะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกลประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์ปัจจุบัน ขณะที่ยังมีกำลังยังมีลมหายใจอยู่ เราก็ต้องพยายามมองหาหนทางเดิน

ตอนนี้เราก็มอง เราก็เดินอยู่ในกองบุญกองกุศล กองสัมมาทิฏฐิ แต่ยังเป็นสัมมาทิฏฐิยังเดินปัญญาแยกรูปแยกนามไม่ได้ ใจยังไม่คลายจากขันธ์ห้า ใจยังเกิดอยู่ ก็ขอให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ หมั่นทำบุญ บุญมากบุญน้อยอย่าว่าไม่ทำ ทำมากก็เป็นของเราทำน้อยก็เป็นของเราเห็นคนอื่นทำเราก็พลอยอนุโมทนาสาธุด้วย เราก็มีส่วนแห่งบุญ

ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราได้ทำบุญกับตัวเรา เดินตามถนนหนทางเห็นเศษขยะ เห็นเศษเหล็กเศษไม้คนจะเหยียบจะย่ำเราก็เก็บ นั่นเราก็ได้บุญแล้ว เรามีความเสียสละ ถ้าเราไม่มีความเสียสละเราก็เก็บไม่ได้ เข้าห้องส้วมห้องน้ำ ห้องน้ำไม่สะอาดเราก็ทำให้สะอาดเสีย ให้น่าใช้น่าอยู่ น้ำไม่มีก็เปิดใส่ นั่นเราก็ได้บุญ ถ้าไม่มีความเสียสละเราก็ทำไม่ได้

เอาจากน้อยๆ มีคนมาด่ามาว่าเราโกรธเคืองหรือไม่ เราก็วิเคราะห์ใจเรา เราก็แก้ไข เราก็ได้บุญเราละกิเลสได้มากเท่าไหร่ใจของเราก็เบาบาง เข้าไปหาความสะอาดความบริสุทธิ์ ถ้ามีตั้งแต่สะสมกิเลส มันก็มากขึ้นๆ เป็นดินพอกหางหมู พูดกรอกหูอยู่ทุกวันมันก็ไม่รู้เรื่อง เพราะว่าไม่ได้คลาย ถ้าใจมันคลายจากขันธ์ห้า ละกิเลสมันก็เบาบางไปเรื่อยๆ จนไม่มีอะไรเหลือ จะเหลือแต่สมมติคือร่างกายกับใจที่อาศัยอยู่ สติปัญญาก็คอยดู หนุนกำลังปัญญาไปทำหน้าที่แทนพยายามสร้างสะสมบุญ

คนเราเกิดมาอายุส่วนมากก็จะไม่ถึง 100 ถ้าเลย 100 ก็มีน้อย ทุกวันนี้ 50 60 70 ก็ลดลงไปเรื่อยๆ เพราะว่ามีความเกิดก็มีความตาย อย่างเมื่อวานนี้เห็นว่ามารับเอาโลง 3-4 โลงในวันเดียว มารับทุกวัน 2 โลงบ้าง 3 โลงบ้าง 4 โลงบ้าง 1,000-2,000 กว่า ถ้าจับมานั่งนี่ไม่พอนั่งกัน เพียงแค่ในเขตละแวกของเรา ถ้าหลายหมู่บ้านหลายตำบลแต่ละวัน ถ้าประเทศล่ะ วันหนึ่งตายหลายหมื่น

เกิดๆ ดับๆ ดับๆ เกิดๆ ไม่อยากจะเกิดก็ต้องดับความเกิด ดับให้ได้ขณะที่ยังมีร่างกาย อาศัยเจริญสติ อาศัยร่างกายเข้าถึงใจ ทุกเรื่องในชีวิตแม้กระทั่งเรื่องการขบการฉัน ก็กะประมาณกายของหิวหรือใจของเราเกิดความอยากก็ดูนะ ทั้งพระทั้งชีนั่นแหละ ยิ่งมาฝึกใหม่ๆ อายุน้อยๆ นี่จะเห็นความอยากชัด ความหิวความอยากเพราะร่างกายมันต้องการอาหารมาหล่อเลี้ยงร่างกาย

ถ้าเรามาอดอาหารสักหน่อยหนึ่งนี่ มันพุ่งทั้งความหิวความอยาก อันโน้นก็อร่อยอันนี้ก็อร่อยเอาน้อยๆ ก็กลัวไม่อิ่ม มันบอกว่าเอาเยอะๆ ขนาดยังมาไม่ถึงมันไปจองเอาไว้ก่อน ถ้าอดอาหารสักมื้อหรือสองมื้อนี่ ความอยากก็ยิ่งทวีคูณ ถ้าเราอดข่มความอยากได้ตั้งแต่น้อยๆ มันอดมันข่มไม่ได้ก็นั่งดูมันสักพักหนึ่ง มันปรุงแต่งจบมันก็นิ่ง พอนิ่งกายก็สงบระงับ เราถึงจะรู้ว่าความอยากมันเล่นงานเรา ความหิวโหยมันเล่นงานเรา ถ้าเราส่งเสริมให้มัน มันก็มากขึ้น เหมือนกับเพิ่มกองกำลังให้กิเลส

กิเลสก็มีหลายอย่าง กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด หัวหน้ากิเลสเหมือนกับผู้ใหญ่บ้านกำนัน มีเหมือนกันหมด มันหลอกๆ กันไป ตัวหัวใหญ่มันคือความหลง ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด หลงแล้วก็มาสร้างกองกำลังปิดกั้นตัวเอง ต่อสู้กันล่ะทีนี้ ต่อสู้กันกับกำลังสติปัญญา แต่เวลานี้กำลังสติปัญญาไม่ค่อยจะได้สร้างขึ้นมา มีตั้งแต่ไหลไปกับกองกำลังกิเลสของเขา เขาก็เอากิเลสมาล่อ ส่วนมากก็เป็นกิเลสฝ่ายบุญฝ่ายดีมาล่อ ก็ยังดี ดีกว่าไปทางอกุศล ล่อให้มาวัดมาทำบุญอีกสักหน่อยพรุ่งนี้ก็ล่อให้มาเวียนเทียน เอาบุญ…ว่างั้น อันนี้ก็เป็นบุญในระดับของสมมติ

การดำเนินการไขว่คว้า การแสวงหาถึงจุดหมายปลายทาง มันก็นั่งได้สบาย คนเราก่อนที่จะถึงจุดหมายได้ก็ต้องผ่านร้อนผ่านหนาวดิ้นรนสารพัด ถูกบ้างผิดบ้าง ผิดพลาดแก้ไขใหม่ ล้มลุกแก้ไขใหม่ปรับปรุงใหม่ จนถึงจุดหมาย มันถึงจะได้ไม่ดิ้นรน รอตั้งแต่ให้กายเนื้อแตกดับ ใจก็เข้าสู่ความบริสุทธิ์ไม่ต้องกลับมาเกิด

เราดับความเกิดให้ได้ขณะที่ยังมีลมหายใจ รอให้ภพมนุษย์นี่มันแตกดับกลับคืนสู่สภาพเดิมการตายมีการเกิดไม่มี คนทั่วไปขณะกายเนื้อยังไม่ตายใจมันเกิดอยู่ตลอดเวลา ถ้ากายเนื้อแตกดับมันก็เกิดไปตามวิบากของกรรม ตัวไหนจะอานิสงส์แรงอานิสงส์เบา ตราบใดที่ยังดับความเกิดไม่ได้ เอาปัจจุบันนี้ให้ดีก็พอ พระเราชีเราทำหน้าที่ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบอยู่ปัจจุบัน มีอะไรก็ช่วยกันทำ อะไรที่จะเป็นบุญ อะไรที่จะเป็นประโยชน์เราก็ช่วยกันทำ

ตั้งใจรับพรกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง