หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 47

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 47
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ผู้บรรยาย
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 47
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 47
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2562

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พากันสร้างความรู้ตัวหรือว่าเจริญสติให้มีให้เกิดขึ้นในกายของเราให้ต่อเนื่องกันแล้วหรือยัง นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย แล้วก็วางใจให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ที่เกิดจากใจเอาไว้ ฟังไปด้วยน้อม สำเหนียกไปด้วย

หลวงพ่อก็เพียงแค่บอกแค่กล่าวชี้แนะวิธีกลอุบายในการเจริญสติ พวกท่านจงพยายามพากันไปทำ ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ การฝึกสูดลมหายใจยาวผ่อนลมหายใจยาว กายของเราก็จะสบายขึ้นเยอะ ใจของเราก็จะสงบตั้งมั่นขึ้นความรู้สึกสัมผัสของลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราก็จะชัดเจน

ถ้าเราพยายามสร้างความรู้สึกรับรู้เวลาลมหายใจเข้าหายใจออก พยายามหัดสังเกตให้เกิดความเคยชิน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย ถ้าเราหยุดการหายใจสภาพร่างกายของเราก็ทนไม่ไหว ก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม

คนเราอยู่เนื่องด้วยลมหายใจ แต่เราก็ขาดการสังเกต ขาดการวิเคราะห์ เพราะว่าใจของเราเกิดส่งออกไปภายนอก ซึ่งเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ ความเกิดนั่นแหละ ความเกิดเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ในเมื่อใจของเราได้มาเกิดอยู่ในภพมนุษย์ พระพุทธองค์ท่านถึงให้เจริญสติค้นคว้าลงอยู่ที่ร่างกายของเราว่ามีอะไรบ้างที่ท่านว่าธาตุสี่

คำว่า ‘ธาตุสี่’ มีอะไรบ้าง ดินน้ำลมไฟ ซึ่งรวมกันเป็นร่างกายของเรา แล้วก็มีวิญญาณ ธาตุสี่ ขันธ์ห้า มีวิญญาณคือตัวใจเข้ามาครอบครอง อะไรคือส่วนรูป อะไรขึ้นส่วนนาม ท่านให้เจริญสติลงที่กายของเราให้ได้ ที่หลวงพ่อพูดทุกวันก็คือ เจริญสติลงอยู่ที่ลม รู้สร้างความรู้สึกรับรู้ที่การหายใจเข้าออก อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องลึกๆ ลงไปแล้วก็จะรู้ใจ รู้ลักษณะของใจ รู้ลักษณะหน้าตาอาการการเกิด การเกิดของใจ

ใจเกิดส่งออกไปภายนอกภาษาธรรมะท่านเรียกว่า ‘สมุทัย’ ใจส่งไปภายนอก สมุทัย สาเหตุแห่งทุกข์ บางทีก็รวมไปกับความคิดที่เราไม่ตั้งใจคิดซึ่งเรียกว่า ‘อาการของขันธ์ห้า’ เป็นเรื่องอดีตบางอนาคตบ้างเป็นกลางๆ บ้าง ซึ่งเรียกว่า ‘กองสังขาร’ ถ้าเราไม่ได้เจริญสติให้ต่อเนื่องเราก็ว่าเรามีสติมีปัญญา อันนี้ก็มีกันทุกคนแต่เป็นสติปัญญาระดับโลกียะ ประคับประคองให้อยู่ในสมมติ ให้อยู่ในสมมติ แต่ใจยังเกิด ยังหลงอยู่ ยังยึดอยู่ ถ้าเรามาศึกษาดูรู้ให้ละเอียด เราก็จะแบ่งแยกออกเป็น อันนี้สติปัญญาที่เราสร้างมา อันนี้คือใจ อันนี้คืออาการของใจ ใจก็ยังเกิดกิเลสอีกกิเลสหยาบกิเลสละเอียด

เราพยายามหมั่นขัดหมั่นเกลาด้วยการสร้างตบะบารมีให้มีให้เกิดขึ้น ใจเกิดความโลภเราก็พยายามละความโลภ ใจเกิดความโกรธเราก็ละความโกรธ ด้วยการทำในสิ่งตรงกันข้าม ใจเกิดความโลภก็ละความโลภด้วยการให้ด้วยการคลายด้วยการเอาออก ใจเกิดความโกรธเราก็ดับความโกรธด้วยการให้อภัยอโหสิกรรม มองโลกในทางที่ดีคิดดี เรามีความขยันหมั่นเพียรเพียงพอหรือไม่ รอบรู้ภายในของเราให้ถึงจุดหมายปลายทาง แล้วก็รอบรู้ในโลกธรรมในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวจนกว่าจะหมดลมหายใจ

เพราะทุกชีวิตเกิดมา ความเกิดนั่นคือความหลงอันละเอียดที่สุด ถ้าไม่หลงก็ไม่เกิด ในเมื่อได้เกิดมาแล้ว เราก็พยายามทำความเข้าใจให้กระจ่าง ชี้เหตุชี้ผล เห็นเหตุเห็นผลว่า อะไรละว่าอะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน รอบรู้ในชีวิตของเรา อย่าพากันผัดวันประกันพรุ่ง อย่าพากันปล่อยวันเวลาทิ้ง หมั่นสร้างคุณงามความดีตั้งแต่ความคิด ต้นเหตุของความคิด แล้วก็กาย แล้วก็วาจา ท่านถึงว่าวจีกรรม มโนกรรม กายกรรม

พยายามทำความเข้าใจในคำว่า ‘โอวาทปาติโมกข์’ การละทุกข์ สร้างดี ทำใจให้บริสุทธิ์ แล้วก็หมั่นสำรวจ หมั่นตรวจตรา หมั่นวิเคราะห์เจริญสติเข้าไปอบรมใจเป็นเพื่อนใจของเราอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากก็รวมกันไปทั้งสติปัญญาทั้งใจทั้งความคิด คิดก็รู้ ทำก็รู้ เพราะว่าใจเป็นธาตุรู้

แต่เวลานี้เขาทั้งรู้ ทั้งเกิด ทั้งหลง ทั้งยึดสารพัดอย่าง ถ้าคนเรามารู้ความจริง แม้แต่การเกิดเขาคงไม่เกิดเพราะว่าการเกิดเป็นทุกข์ เป็นทาสกิเลสเขาก็ไม่เอา แต่เวลานี้เขาสะสมกิเลสหยาบกิเลสละเอียดทับถมลงใจดวงจิตของเราเอาไว้จนมืดมิดเลยทีเดียว

ถ้าเรามาเจริญสติเข้าไปดู ยิ่งเจริญสติต่อเนื่องเข้มแข็งเท่าไหร่ยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไหร่เราก็ยิ่งทำความเข้าใจ แล้วก็ชี้เหตุชี้ผล แล้วก็ค่อยละทีละเล็กละน้อย จิตใจของเราก็จะเบาบางลงไปเรื่อยๆ เบาบางจนกลับคืนสู่สภาพเดิมคือความบริสุทธิ์จนใจไม่เกิด ถึงใจเกิดเราก็ดับความเกิด

เราอย่าทำของง่ายให้เป็นของยาก จงทำของยากให้เป็นของง่าย อยู่ที่ไหนก็จะมีความสุขเอาการเอางานเป็นการปฏิบัติ ทำงานไปด้วยใจรับรู้ไปด้วย ทำด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา เราก็จะเกิดประโยชน์มากมาย ประโยชน์สมมติเราก็เต็มเปี่ยม ประโยชน์วิมุตติทางด้านจิตใจเราก็ไม่ทุกข์ มีความสุขขณะที่ยังมีลมหายใจ

เราผิดพลาดตรงไหนก็รีบแก้ไขเสีย แก้ไขไปเรื่อยๆ มันแก้ไขไม่ได้วันนี้วันพรุ่งนี้ เดือนนี้ เดือนหน้า มันแก้ไขไม่ได้จริงๆ ในสิ่งที่พวกเราทำก็จะไปต่อเอาภพหน้า อย่าไปมอง ข้ามบุญเล็กๆ น้อยๆ เราพยายามสร้างสะสมคุณงามความดี สร้างสะสมบุญ ทำใจให้สะอาดให้บริสุทธิ์ ถึงมันไม่สะอาดไม่บริสุทธิ์ก็ให้อยู่ในกองบุญเอาไว้จะได้เป็นทุนเป็นเข้าพกเข้าห่อ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็ได้ทำบุญตลอดเวลา

หลวงพ่อก็พยายามพาสร้างบุญ บุญสมมติก็พาทำ ทำโน้นทำนี่ ทำเจดีย์บ้าง ศาลาวิหารบ้าง ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ พวกเราพอมีโอกาสน้อมกายน้อมใจของเราเข้ามาช่วย ช่วยทั้งกำลังกายกำลังใจ บุคคลที่มีทุนทรัพย์ก็น้อมนำทุนทรัพย์มาช่วย หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน ขอขอบใจทั้งเหล่ามนุษย์ที่มีกายเนื้อ และก็ขอขอบใจเหล่าเทวดาที่ได้มาช่วยอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้ติดขัด ไม่ให้ลำบากหลวง พ่ออาศัยอำนาจแห่งบุญ อาศัยอำนาจของเหล่าเทวดามาช่วย มาช่วยไม่ให้ติดขัด จะทำอะไรก็ไม่ให้ติดขัด เพียงแค่ระลึกนึกว่าต้องการสิ่งโน้นต้องการสิ่งนี้เทวดาก็จะหาหนทางมาช่วย มาช่วยเหลือไม่ให้ได้ลำบาก

ถ้าอานิสงส์บุญบารมีของเรามีเพียงพอไปที่ไหนก็ไม่ได้ลำบาก เหล่ามนุษย์เหล่าเทวดาก็จะหลั่งไหลกันมาช่วย เพราะว่าแหล่งบุญอยู่ที่ไหนเหล่าเทวดาก็ย่อมจะหลั่งไหลมาเพราะว่าต้องการที่จะเพิ่มบุญให้กับตัวเอง บุญหมดก็ตกสวรรค์ ก็มาสร้างบุญต่อ มารับอานิสงส์ต่อ ก็จะเพิ่มบุญไปเรื่อยๆ ขณะที่เรายังมีลมหายใจเรามีกำไรกว่าเหล่าเทวดา เทวดามีก็แต่กายทิพย์ เหล่ามนุษย์มีกายเนื้อในการทำบุญ เหล่าเทวดาไปเสวยวิบากแห่งบุญ แต่ต้องอาศัยมนุษย์ในการสร้างบุญในการทำบุญ ถึงจะได้มารับอนุโมทนาสาธุบุญ ถ้าบุญเก่าหมดก็ถ้าไม่สร้างต่อก็ลำบาก ก็ต้องได้มาสร้างบุญ เทวดาอาจถึงได้มาช่วยสร้างสะสมคุณงามความดี บางทีเทวดาก็เหลิงระเริงมากเกินไป ก็หมดบุญตกสวรรค์ก็เยอะ แต่ส่วนมากก็พากันประมาท

มนุษย์ของเรานี่แหละมีโอกาสได้สร้างบุญมากมาย ขณะที่ยังมีกายเนื้ออยู่ให้รีบทำให้รีบศึกษาได้ทำบุญทั้งวัตถุทานทั้งการเจริญภาวนา ทั้งการเดินปัญญา ละกิเลส จำแนกแจกแจงแยก ละกิเลสหยาบกิเลสละเอียด มีโอกาสเข้าถึงนิพพานเลยทีเดียว ไม่ต้องกลับมาเกิดให้จบอยู่ในภพมนุษย์ เรามีโอกาสพยายามพากันทำ ทั้งพระทั้งโยมทั้งชี มีอะไรก็ให้ช่วยกันทำ

เมื่อวานนี้ก็พากันฝึกทำไม้กวาด โยมธานินทร์ท่านมาช่วยฝึกสอนให้ ผู้ใจบุญคอยช่วยเหลือ ทั้งน้อมกายเข้ามาบวช ทั้งศึกษา ทั้งให้ครอบครัวมาฝึกหัดปฏิบัติ ทั้งสมมติวิมุตติ ท่านหาโอกาสมาคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา บุคคลเช่นนี้แหละเป็นบุคคลที่น่าเอาเป็นตัวอย่าง เป็นการประพฤติปฏิบัติอยู่ในบุญในกุศล อยู่ในคุณงามความดี มีโอกาสก็ได้มาช่วยกัน

พระเราก็พยายามฝึก ชีเราก็พยายามฝึกเอาไว้ เราก็ฝึกหัดทำให้ เอาไว้ทำเอาไว้ใช้ ไปที่ไหนเราก็จะไม่ได้ลำบาก ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ไม่ใช่ว่าจะเอาตั้งแต่งอมืองอเท้า ต้องเป็นบุคคลที่เข้มแข็ง เข้มแข็งทั้งภายนอกเข้มแข็งทั้งภายใน มีจิตใจที่เด็ดเดี่ยวที่จะเข้าถึงเป้าหมายของเราคือไม่ต้องกลับมาเกิดกัน

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กันพากันไปศึกษาค้นคว้าทำความเข้าใจต่อให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง