หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 17
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 17
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2562 ลำดับที่ 17
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ อดทนนั่งต่ออีกสักนิดหนึ่ง เป็นการสร้างตบะสร้างบารมี บางทีกายของคนเรานั่งนานๆ ก็เกิดความทุกข์ ก็เวทนานี่แหละที่ท่านเรียกว่า ‘กายเป็นก้อนทุกข์’ เราก็พยายามมาสร้างความรู้สึกรับรู้อยู่ที่การหายใจเข้าออกของเราให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้น จนรู้กายแล้วก็รู้ใจ รู้จักอบรมใจเอาสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา เอาไปแก้ไข เอาไปใช้กับการกับงานในชีวิตของเรา จนกระทั่งหมดลมหายใจเลยทีเดียว
ถ้าคนรู้จักเอาไปใช้ ส่วนมากก็คิดก็รู้ ทำก็รู้ เพราะว่าเขาหลง ใจของเราหลงอยู่ในความรู้ หลงอยู่ในความเกิด นอกจากบุคคลที่มาเจริญสติตามแนวทางของพระพุทธองค์ ที่ท่านได้ค้นพบให้ปรากฏขึ้นที่ใจ แล้วก็รู้จักขัดเกลากิเลสออกจากใจของเรา รู้จักเหตุรู้จักผล เห็นเหตุเห็นผลเหตุผลทางด้านนามธรรม เหตุผลทางด้านรูปธรรม เราต้องทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตของเราตั้งแต่ตื่นขึ้น จนกระทั่งหมดลมหายใจ รู้จักมองเห็นหนทางเดินอะไรเป็นทางกุศล อะไรเป็นทางอกุศล อะไรที่จะนำพาความสุขมาให้เรา ก็รู้จักแก้ไขเสีย ขณะที่เรายังมีลมหายใจ แก้ไขในระดับสมมติให้ดี
กายของเรานี้เกิดมาอาศัยสมมติอาศัยปัจจัยสี่อาศัยโลกธรรม ถึงวาระเวลาเขาก็ต้องแตกดับ ที่เราได้ยินได้ฟังกันอยู่ตลอดเวลา คนเราเกิดมาเท่าไรก็ตายหมด เมื่อวานนี้ก็ได้เผาสรีระร่างกายของคุณโยมไผหรือโยมอะไรนะ นั่นแหละที่ท่านได้ตาย หมดอายุขัย ถึงวาระถึงเวลา ได้มาเผาอยู่ทุกวัน มารับเอาโลงศพอยู่ทุกวัน วันละ 3 โลง 4 โลง บางครั้งก็ 5 โลง ความตายเนี่ยไม่เลือกว่าเด็กเลือกว่าผู้ใหญ่ มารับเอาโลงศพเนี่ยก็ประมาณ 1,500-1,600 กว่าโลงแล้ว นี่แหละความตายมีให้เห็นๆ
พวกเราขณะที่ยังมีลมหายใจ ยังมีกำลังอยู่ ก็พยายามสร้างสะสมคุณงามความดี สร้างตบะบารมีไม่ให้ใจของเราตกอับในวันข้างหน้า จนกว่าใจของเราจะหลุดพ้นจากอาสวะกิเลส จากความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ให้รีบค้นคว้าให้รีบทำความเข้าใจ ได้มากได้น้อยเราก็พยายามรีบทำ
สนามรบก็อยู่ที่กายของเรา ของดีก็อยู่ที่กายของเรา ในเมื่อเรามีโอกาสแล้ว เราก็พยายามดำเนิน เราดำเนินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่พวกเราทำมาก็จะเป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไปในวันข้างหน้า ไม่หลุดวันนี้ ก็ต้องหลุดพ้นในวันหน้า ไม่หลุดพ้นวันหน้า ก็เดือนหน้า ปีหน้าไม่หลุดพ้นจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เขาก็ต้องเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในภพภูมิที่ดี
ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะออกมาดี หมั่นพร่ำสอนใจของเรา หมั่นเจริญสติไปเป็นเพื่อนใจของเรา อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข อยู่กับหมู่อยู่กับคณะก็มีความสุข อะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข ให้อภัยซึ่งกันและกัน อย่าไปอคติ อย่าไปเพ่งโทษ ให้เป็นผู้เป็นบุคคลที่มีพรหมวิหาร เป็นบุคคลที่มีความเสียสละ ช่วยเหลืออนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่หมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญเรื่องบาป
ก็ต้องพยายามกันนะ บุญมากบุญน้อย โอกาสเปิดกาลเวลาเปิด ไม่ว่าอยู่ที่ไหน บุคคลที่มีสติ มีปัญญาย่อมจะไขว่คว้าตักตวง สร้างบุญ สร้างกุศลให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา บุญนี่แหละจะเป็นเครื่องนำทาง บุญนี่แหละจะเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็พยายามทำกันอย่าพากันปล่อยปละละเลย ทั้งสมมติทั้งบุญวิมุตติ ทั้งขัดเกลากิเลส ทั้งทำความเข้าใจ สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี หมั่นพร่ำสอนตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าสอนตัวเราไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็น แล้วก็ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก ลำบากตัวเรา ลำบากคนอื่น ลำบากสถานที่ หนักตัวเรา หนักคนอื่น ให้เราพยายามช่วยเหลือตัวเราให้ได้ อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา อะไรคือใจทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง แนวทางนั้นมีมาตั้งนานแล้ว พวกเราพยายามดำเนินให้ถูกที่ถูกทาง จนหมดความสงสัยหมดความลังเล ทุกสิ่งก็จะปรากฏขึ้นที่ใจของเราเอง
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่อง กันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562
ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ อดทนนั่งต่ออีกสักนิดหนึ่ง เป็นการสร้างตบะสร้างบารมี บางทีกายของคนเรานั่งนานๆ ก็เกิดความทุกข์ ก็เวทนานี่แหละที่ท่านเรียกว่า ‘กายเป็นก้อนทุกข์’ เราก็พยายามมาสร้างความรู้สึกรับรู้อยู่ที่การหายใจเข้าออกของเราให้เกิดความเคยชิน ตั้งแต่ตื่นขึ้น จนรู้กายแล้วก็รู้ใจ รู้จักอบรมใจเอาสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา เอาไปแก้ไข เอาไปใช้กับการกับงานในชีวิตของเรา จนกระทั่งหมดลมหายใจเลยทีเดียว
ถ้าคนรู้จักเอาไปใช้ ส่วนมากก็คิดก็รู้ ทำก็รู้ เพราะว่าเขาหลง ใจของเราหลงอยู่ในความรู้ หลงอยู่ในความเกิด นอกจากบุคคลที่มาเจริญสติตามแนวทางของพระพุทธองค์ ที่ท่านได้ค้นพบให้ปรากฏขึ้นที่ใจ แล้วก็รู้จักขัดเกลากิเลสออกจากใจของเรา รู้จักเหตุรู้จักผล เห็นเหตุเห็นผลเหตุผลทางด้านนามธรรม เหตุผลทางด้านรูปธรรม เราต้องทำความเข้าใจทุกเรื่องในชีวิตของเราตั้งแต่ตื่นขึ้น จนกระทั่งหมดลมหายใจ รู้จักมองเห็นหนทางเดินอะไรเป็นทางกุศล อะไรเป็นทางอกุศล อะไรที่จะนำพาความสุขมาให้เรา ก็รู้จักแก้ไขเสีย ขณะที่เรายังมีลมหายใจ แก้ไขในระดับสมมติให้ดี
กายของเรานี้เกิดมาอาศัยสมมติอาศัยปัจจัยสี่อาศัยโลกธรรม ถึงวาระเวลาเขาก็ต้องแตกดับ ที่เราได้ยินได้ฟังกันอยู่ตลอดเวลา คนเราเกิดมาเท่าไรก็ตายหมด เมื่อวานนี้ก็ได้เผาสรีระร่างกายของคุณโยมไผหรือโยมอะไรนะ นั่นแหละที่ท่านได้ตาย หมดอายุขัย ถึงวาระถึงเวลา ได้มาเผาอยู่ทุกวัน มารับเอาโลงศพอยู่ทุกวัน วันละ 3 โลง 4 โลง บางครั้งก็ 5 โลง ความตายเนี่ยไม่เลือกว่าเด็กเลือกว่าผู้ใหญ่ มารับเอาโลงศพเนี่ยก็ประมาณ 1,500-1,600 กว่าโลงแล้ว นี่แหละความตายมีให้เห็นๆ
พวกเราขณะที่ยังมีลมหายใจ ยังมีกำลังอยู่ ก็พยายามสร้างสะสมคุณงามความดี สร้างตบะบารมีไม่ให้ใจของเราตกอับในวันข้างหน้า จนกว่าใจของเราจะหลุดพ้นจากอาสวะกิเลส จากความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ให้รีบค้นคว้าให้รีบทำความเข้าใจ ได้มากได้น้อยเราก็พยายามรีบทำ
สนามรบก็อยู่ที่กายของเรา ของดีก็อยู่ที่กายของเรา ในเมื่อเรามีโอกาสแล้ว เราก็พยายามดำเนิน เราดำเนินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่พวกเราทำมาก็จะเป็นเข้าพกเข้าห่อติดตามตัวเราไปในวันข้างหน้า ไม่หลุดวันนี้ ก็ต้องหลุดพ้นในวันหน้า ไม่หลุดพ้นวันหน้า ก็เดือนหน้า ปีหน้าไม่หลุดพ้นจริงๆ ก็ไปต่อเอาภพหน้า เพราะว่าตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่ เขาก็ต้องเกิด ก็ขอให้เกิดอยู่ในภพภูมิที่ดี
ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็จะออกมาดี หมั่นพร่ำสอนใจของเรา หมั่นเจริญสติไปเป็นเพื่อนใจของเรา อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข อยู่กับหมู่อยู่กับคณะก็มีความสุข อะไรผิดพลาดก็รีบแก้ไข ให้อภัยซึ่งกันและกัน อย่าไปอคติ อย่าไปเพ่งโทษ ให้เป็นผู้เป็นบุคคลที่มีพรหมวิหาร เป็นบุคคลที่มีความเสียสละ ช่วยเหลืออนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่หมดลมหายใจก็มีแต่เรื่องบุญเรื่องบาป
ก็ต้องพยายามกันนะ บุญมากบุญน้อย โอกาสเปิดกาลเวลาเปิด ไม่ว่าอยู่ที่ไหน บุคคลที่มีสติ มีปัญญาย่อมจะไขว่คว้าตักตวง สร้างบุญ สร้างกุศลให้ปรากฏขึ้นที่ใจของเรา บุญนี่แหละจะเป็นเครื่องนำทาง บุญนี่แหละจะเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็พยายามทำกันอย่าพากันปล่อยปละละเลย ทั้งสมมติทั้งบุญวิมุตติ ทั้งขัดเกลากิเลส ทั้งทำความเข้าใจ สักวันหนึ่งเราก็คงจะถึงจุดหมายปลายทางกัน
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี หมั่นพร่ำสอนตัวเราให้ได้ ใช้ตัวเองให้เป็น ถ้าสอนตัวเราไม่ได้ ใช้ตัวเองไม่เป็น แล้วก็ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก ลำบากตัวเรา ลำบากคนอื่น ลำบากสถานที่ หนักตัวเรา หนักคนอื่น ให้เราพยายามช่วยเหลือตัวเราให้ได้ อะไรคือสติปัญญาที่เราสร้างขึ้นมา อะไรคือใจทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงหลง แนวทางนั้นมีมาตั้งนานแล้ว พวกเราพยายามดำเนินให้ถูกที่ถูกทาง จนหมดความสงสัยหมดความลังเล ทุกสิ่งก็จะปรากฏขึ้นที่ใจของเราเอง
สร้างความรู้ตัวให้ชัดเจน ให้ต่อเนื่อง กันสักนิดหนึ่งก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปศึกษาทำความเข้าใจให้รู้ทุกอิริยาบถ