หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 39 วันที่ 15 พฤษภาคม 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 39 วันที่ 15 พฤษภาคม 2563
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนา พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 39 วันที่ 15 พฤษภาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 39
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องกันสักนิดแล้วหรือยัง เพียงแค่การเจริญ การสร้าง การทำให้มีให้เกิด ก็ต้องพยายาม ส่วนการที่จะเอาสติไปใช้การใช้งาน ถ้ากำลังสติของเราไม่เพียงพอ ก็ยาก ยากที่จะรู้เท่ารู้ทัน รู้ลักษณะของใจ รู้จักแก้ไขตัวเรา แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมาเรามีความขยันเพียงพอหรือไม่ เรามีความขยัน เรามีความรับผิดชอบการกระทำของเรามีหรือเปล่า หรือเอาแต่ความเกียจคร้านเข้าครอบงำ ตื่นขึ้นมาปุ๊บ สติตั้งมั่น รู้กาย รู้ลมหายใจปุ๊บ จะลุก จะก้าว จะเดิน ใจยังปกติ สติปัญญาเป็นตัวสั่ง ถ้ากายไป ใจรับรู้ จะลุกเข้าห้องส้วมห้องน้ำรู้ว่าใจปกติ ตากระทบรูปรู้ว่าใจปกติ

เราต้องจำแนกแจกแจงสติที่เราสร้างขึ้นมาต้องพยายามให้ชัดเจน ส่วนใจของเรา เรารู้ไม่ทันต้นเหตุ ตั้งแต่ต้นเหตุ เราก็ใช้สมถะเข้าไปดับ เข้าไปหยุด อย่าไปอาลัยอาวรณ์กับอารมณ์เล็กๆน้อยๆ ทุกเรื่องในกายของเรา เราต้องรู้เรื่อง อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม เขาเกิดอย่างไรเขาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร เขาไปรวมไปหลงกันได้อย่างไร ที่ท่านว่าเป็นกอง เป็นขันธ์ ถ้าเราแยกแยะไม่ได้ เราก็อาจจะควบคุมอยู่ในระดับของสมมติ ซึ่งท่านเรียกว่า ‘ศีลสมมติ’

ศีลวิมุตติ ศีลปกติ อธิจิต อธิศีล ศีลก็คือตัวใจของเรา ความปกตินั่นแหละคือศีล ความปกตินั่นแหละคือสมาธิ ทีนี้สมาธิด้วยบการข่มเอาไว้ หรือว่าสมาธิด้วยการรู้แจ้งเห็นจริง จำแนกแจกแจงละกิเลสออกจากใจ กิเลสหยาบเป็นอย่างไร กิเลสละเอียดเป็นอย่างไร มีหมดกันทุกคน จะมีมากมีน้อย ก็ขึ้นอยู่กับการขัดเกลาเอาออกด้วยเหตุด้วยผล ด้วยสติด้วยปัญญา ก็ต้องพยายามกันล้มแล้วลุกขึ้นมาใหม่ แก้ไขใหม่ ปรับปรุงตัวเราใหม่

เราอยู่ร่วมกันหลายคนหลายท่าน ก็ต้องให้ขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความอนุเคราห์เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน มีอะไรก็ช่วยกันทำ อย่าไปงอมืองอเท้า หนักเอาเบาสู้ ทำหน้าที่ของเราให้ดี อยู่ในป่า อยู่ในสถานที่แห่งนี้ อยู่คนละทิศละที่เราก็มาอยู่ร่วมกัน จากน้อยๆ ก็มีมากขึ้นๆ ถ้าต่างคนต่างมีความเห็นแก่ตัว มีความเกียจคร้าน ไม่สนใจในภาพรวมล่ะก็มันก็หนักหนักสถานที่ หนักตัวเรายังไม่พอ ก็หนักสถานที่ หนักทุกอย่าง

เรามาแก้ไข มาปรับปรุง มาวิเคราะห์ ให้รู้ทั้งทรัพย์ภายใน ทรัพย์ภายนอก สร้างความขยันหมั่นเพียร สร้างความรับผิดชอบ สร้างความอ่อนน้อมถ่อมตน ความกตัญญูกตเวที ความเสียสละเป็นบารมีทั้งนั้น ความละอาย ความกล้าหาญ ในสิ่งที่กล้าหาญ อะไรที่จะเป็นประโยชน์ อะไรไม่เป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ปัจจุบันประโยชน์ในสมมติที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้าการกระทำของเรามี ความรับผิดชอบของเรามี อานิสงส์ผลก็ส่งออกมาในทางที่ดี ในความเป็นอยู่ ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กิน ที่ถ่ายที่เยี่ยว อาหารกาย อาหารตา อาหารใจ เราพยายามทำให้เป็นธรรมชาติหมด ธรรมชาติภายนอกธรรมชาติภายใน

ธรรมชาติภายในคือใจที่บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลส เขาก็บริสุทธิ์ เขาก็สะอาด เขาก็ไม่เกิด ถ้าเขารู้ความเป็นจริง แต่เวลานี้ทั้งเกิด ทั้งหลง สารพัดอย่าง เราก็ค่อยแก้ไขกันไป ผิดพลาดก็แก้ไขใหม่

ไม่ใช่ว่าทำปุ๊บ จะได้ปั๊บ เราพยายามให้กำลังใจตัวเรา สร้างความขยันให้ตัวเรา สร้างความรับผิดชอบให้ตัวเรา มีความเสียสละ ขัดเกลาเอาออก มองโลกในทางที่ดี คิดดี ทำดี ถ้าใจของเราดี เราก็มองโลกในทางที่ดี

ถ้าใจไม่ดี ไปอยู่ที่ไหนมันก็ไม่ดี ไปอยู่ที่โน่น คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่ดี สิ่งนั้นไม่ดี สิ่งนี้ไม่ดี ก็ใจของเรามันไม่ดี มันถึงคิดไปอย่างนั้น เราก็พยายามมาแก้ไขที่ต้นเหตุ ละที่ต้นเหตุ เราก็สร้างเหตุที่ดีขึ้นมา มันก็จะส่งผลถึงวันข้างหน้า

สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง