หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 20 วันที่ 21 มีนาคม 2563

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 20 วันที่ 21 มีนาคม 2563
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ผู้บรรยาย
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ชื่อตอน
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 20 วันที่ 21 มีนาคม 2563
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563
ถอดความฉบับเต็ม
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2563 ลำดับที่ 20
พระธรรมเทศนาโดย พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร (หลวงพ่อกล้วย วัดป่าธรรมอุทยาน)
ในวันที่ 21 มีนาคม 2563

ขอให้ทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ตั้งแต่ยังไม่ได้ลุกจากที่ พวกท่านได้พากันสร้างหรือว่าเจริญให้มี ให้เกิดขึ้นแล้วหรือยัง คำว่า ‘สติรู้ตัว สติรู้กาย’ แล้วก็รู้จักเอาไปใช้ รู้จักสังเกต รู้จักวิเคราะห์ แต่ละวันๆ ตื่นขึ้นมา อะไรคือส่วนใจ อะไรคือส่วนกาย อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม นามธรรม รูปธรรม ลักษณะอาการ เราต้องสังเกต เราต้องรู้

ท่านถึงให้เจริญสติหรือว่ามาสร้างผู้รู้ เพื่อที่จะเอาไปใช้การใช้งาน อบรมใจ อะไรเราขาดตกบกพร่อง เราก็จะรีบแก้ไขปรับปรุงตัวเรา ปรับปรุงกายของเรา ปรับปรุงวาจาของเรา ปรับปรุงใจของเรา อะไรเป็นกุศลหรือว่าอกุศล รู้ไม่ทันเราก็รู้จักหยุด รู้จักดับ รู้จักควบคุม

ตื่นขึ้นมาความขยันหมั่นเพียร ความรับผิดชอบของเรามีหรือไม่ จิตใจของเรามีความอ่อนโยน มีความอ่อนน้อมรึเปล่า หรือว่ามีตั้งแต่ความแข็งกร้าว แข็งกระด้าง มีตั้งแต่มลทิน มีตั้งแต่ความฟุ้งซ่าน เราก็หาวิธีแก้ไข ปรับปรุงใจอยู่ตลอดเวลา

สมมติก็เหมือนกัน อะไรเราติดขัด อะไรของเรายังไม่พร้อม ที่พักที่อาศัย ที่หลับที่นอน ที่อยู่ที่กินที่ถ่ายที่เยี่ยว เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างก็ต่อเนื่องเกื้อหนุนกันหมด ถ้าไม่มีปัจจัย ความเป็นอยู่ในทางสมมติเราก็ลำบาก ถ้าสมมติของเราไม่ได้ลำบาก จิตใจของเราก็พลอยสบายขึ้น การปฏิบัติการอบรม เราก็จะไม่ได้ดิ้นรนอะไรมากมาย ถ้าสมมติไม่เพียบพร้อม ใจมันก็จะดิ้นรน อันนั้นก็ขาด อันนี้ก็ขาด ต้องดิ้นรนแสวงหา จะไปควบคุมก็เอาไม่อยู่ ท่านถึงพยายามให้ทำความเข้าใจและสร้างขึ้นมาเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตของเราในระดับนึง ไม่ถึงกับมากมายมหาศาลอะไร ขอให้เราทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วยการเจริญสติ

นอกจากการสังเกต การวิเคราะห์ จนใจของเราคลายออก หงายออกมา ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ ที่พระพุทธองค์ท่านบอกว่า ‘สัมมาทิฐิ ความเห็นถูก’ คือใจคลายออกจากความยึดมั่นถือมั่น ใจคลายออกจากขันธ์ห้า ที่ท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฐิ ความเห็นถูก’ เราก็ตามดู รู้ เห็น ตามความเป็นจริง เราก็เห็น รู้ อนิจจัง ความไม่เที่ยง ความเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปภายในกายของเราอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ความว่างเปล่า ใจของเราว่าง เราก็มองเห็นโลกนี้เป็นของว่าง แต่เวลานี้ใจของเราไม่ว่าง เพราะว่าใจของเรายังสะสมด้วยอำนาจของกิเลส กิเลสหยาบ กิเลสละเอียด

แล้วก็ความเกิด ความเกิดของใจ ความเกิดนี่เขาเกิดมาหลายชั้น เกิดมาอยู่ในภพมนุษย์ เขาเรียกว่า ‘มนุษย์ภพ’ มนุษย์เขาเรียกว่าร่างกายของเรานี่แหละ ตัววิญญาณก็คือตัวใจ มายึดติดตรงนี้ เขาเกิดมาตั้งแต่ยังไม่ได้มาสร้างภพมนุษย์ แล้วเขามาสร้างภพมนุษย์ แล้วก็มายึด มายึดมาติด แล้วก็เกิดต่อ ความเกิดทางด้านนามธรรมคือตัววิญญาณ ตัวใจเกิดๆ ดับๆ อีก เกิดๆดับๆ ยังไม่พอ ยังไปยึดเอาส่วนนามซึ่งมีอยู่ในกายของเราอีก แล้วก็ไปยึดเอากิเลสต่างๆ ไปเป็นทาสกิเลสต่างๆ หลายชั้น
ถ้าเรามาเจริญสติ วิเคราะห์ จำแนกแจกแจง ค่อยสะสางออกไป ใจของเราก็จะเบาบางจากกิเลสเบาบางจากกิเลส ไล่ลงไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นอะไรดีๆ เยอะอยู่ในกายของเรา

เราพยายามค้นคว้าแสวงหา ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ว่าอะไรควรละ อะไรควรเจริญ อะไรควรดำเนิน ตนเป็นที่พึ่งของตน ไม่ใช่ว่าเราจะไปพึ่งอันโน้น พึ่งอันนี้ ที่เราสวด เราท่องกันมา สมมติเราก็พึ่งกันได้ในระดับนึง ส่วนวิมุตติเราก็ต้องพึ่งตัวเรา แก้ไขตัวเรา ปรับปรุงตัวเรา

อีกสักหน่อยก็จะได้พลัดพรากจากกัน ไม่ได้พลัดพรากจากกันตอนเป็น ก็ต้องได้พลัดพรากจากกันตอนตาย เพราะเป็นกฎของไตรลักษณ์ กฎของความเป็นจริง ยิ่งทุกวันนี้โรคภัยไข้เจ็บก็เบียดเบียนกันทุกคนนั่นแหละ เพราะว่าร่างกายของเราเป็นรังแห่งโรค เดี๋ยวก็เจ็บป่วย เดี๋ยวก็เป็นโน่น เดี๋ยวก็เป็นนี่ ถึงวาระเวลาเดี๋ยวก็ตาย

แต่เวลานี้ก็โรคภัยไข้เจ็บก็ระบาดไปทั่วโลก ก็ที่พวกเราได้ยินได้ฟังกัน โรคอะไร โรคโควิด โรคโควิดอะไรของเรา นั่นแหละระบาดไปเกือบทั่วโลก เราก็คอยระวัง ถ้าไม่มีวิบากกรรมต่อกัน ก็ไม่เป็นไร ถ้ามีวิบากกรรมต่อกัน ไปหลบหลีกอยู่ที่ไหนก็หนีไม่พ้น แต่เราก็อย่าประมาท เราก็พยายามดูแลรักษาเรา รักษาเขา ให้ตกไปตามธรรมชาติของเขาจะดีกว่า ก็ต้องพยายามกัน

ไม่ว่าพระ ว่าโยม ว่าชี ให้รีบเร่งสร้างสะสมประโยชน์ ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า ทำโลกนี้ ปัจจุบันนี้ให้ดี อนาคตก็จะออกมาดี เราแก้ไขเราไม่ได้ ไม่มีใครจะแก้ไขให้เราได้เลยนอกจากตัวของเรา ก็ต้องพยายามกันนะ

สร้างความรู้สึกรับรู้ สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้เชื่อมโยงกันสักนิดนึงก็ยังดี ดีกว่าไม่ได้ทำ ทำใจให้โล่ง สมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้อยู่ที่ปลายจมูกของเรานะ

พากันไว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปทำความเข้าใจ ให้รู้ทุกอิริยาบถ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง