ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 25 วันที่ 5 เมษายน 2557
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 25 วันที่ 5 เมษายน 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 2 (ลำดับที่ 21-40)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 25
วันที่ 5 เมษายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ หรือว่าสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย หลวงพ่อเพียงแค่ย้ำ แค่เตือน แค่ชี้แนะวิธีอุบายเท่านั้นเอง ไม่ต้องพนมมือ วางกายให้สบายฟังไปด้วย น้อมสำเหนียก
ลองสูดลมเข้าไปยาวๆ ลึกๆ เพียงแค่การหายใจเข้าออก มีกันมาตั้งแต่เกิด แต่พวกเราขาดการสนใจ จะเอาตั้งแต่ความคิดเก่าปัญญาเก่า เพราะว่าความเคยชินเก่าๆ ของเรา อาจจะถูกอยู่ระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องสร้างความรู้ตัว จนเป็นอัตโนมัติ จนเอาไปใช้การใช้งานได้ จนเอาไปละกิเลสได้ จนเอาไปหมั่นพร่ำสอนใจของเราได้ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละ ถึงจะเป็นมหาสติ มหาปัญญา เอาไปละกิเลสที่ใจของเรา ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายาม พยายามทำ
ตื่นขึ้นมา เราก็พยายามรู้ลมหายใจเข้าออก อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย ลึกลงไปก็รู้ความปกติของใจ จะลุก จะก้าว จะเดิน สติปัญญาของเราพากายไป ให้ใจรับรู้ จะคิด จะทำ สติปัญญาคิดทำ ให้ใจรับรู้ ใจถึงจะมีความสงบปกติ ความปกติก็คือศีล ความปกติคือสมาธิ
ใจที่ไม่มีกิเลส ใจที่ไม่เกิด เขาก็สงบ จะค่อยไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเอง พยายาม ทุกคนมีโอกาสเท่ากันหมด พยายามอย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลา
หมั่นสังเกต หมั่นวิเคราะห์ หมั่นพิจารณา ได้บ้างไม่ได้บ้าง พลั้งเผลอเริ่มใหม่ๆ สักวันหนึ่งก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออก กระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปศึกษาต่อนะ
วันที่ 5 เมษายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ หรือว่าสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย หลวงพ่อเพียงแค่ย้ำ แค่เตือน แค่ชี้แนะวิธีอุบายเท่านั้นเอง ไม่ต้องพนมมือ วางกายให้สบายฟังไปด้วย น้อมสำเหนียก
ลองสูดลมเข้าไปยาวๆ ลึกๆ เพียงแค่การหายใจเข้าออก มีกันมาตั้งแต่เกิด แต่พวกเราขาดการสนใจ จะเอาตั้งแต่ความคิดเก่าปัญญาเก่า เพราะว่าความเคยชินเก่าๆ ของเรา อาจจะถูกอยู่ระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องสร้างความรู้ตัว จนเป็นอัตโนมัติ จนเอาไปใช้การใช้งานได้ จนเอาไปละกิเลสได้ จนเอาไปหมั่นพร่ำสอนใจของเราได้ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละ ถึงจะเป็นมหาสติ มหาปัญญา เอาไปละกิเลสที่ใจของเรา ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายาม พยายามทำ
ตื่นขึ้นมา เราก็พยายามรู้ลมหายใจเข้าออก อันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรู้กาย ลึกลงไปก็รู้ความปกติของใจ จะลุก จะก้าว จะเดิน สติปัญญาของเราพากายไป ให้ใจรับรู้ จะคิด จะทำ สติปัญญาคิดทำ ให้ใจรับรู้ ใจถึงจะมีความสงบปกติ ความปกติก็คือศีล ความปกติคือสมาธิ
ใจที่ไม่มีกิเลส ใจที่ไม่เกิด เขาก็สงบ จะค่อยไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเอง พยายาม ทุกคนมีโอกาสเท่ากันหมด พยายามอย่าไปปล่อยวันเวลาทิ้ง เสียดายเวลา
หมั่นสังเกต หมั่นวิเคราะห์ หมั่นพิจารณา ได้บ้างไม่ได้บ้าง พลั้งเผลอเริ่มใหม่ๆ สักวันหนึ่งก็คงจะเดินถึงจุดหมายปลายทางกัน ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ก็ต้องพยายามกัน
สร้างความรู้สึกรับรู้ การหายใจเข้าออกให้ชัดเจน อยู่หลายคนก็เหมือนกับอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวก็ให้รู้ว่าลมวิ่งเข้าวิ่งออก กระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ
พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปศึกษาต่อนะ