ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 35 วันที่ 22 เมษายน 2557
ชื่อตอน
ตามความเป็นจริง_หลวงพ่อกล้วย ลำดับที่ 35 วันที่ 22 เมษายน 2557
บันทึกเสียงเมื่อ
ชุด
ตามความเป็นจริง ชุดที่ 2 (ลำดับที่ 21-40)
ถอดความฉบับเต็ม
ตามความเป็นจริง ลำดับที่ 35
วันที่ 22 เมษายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักพักหนึ่ง
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราอาจจะรู้อยู่เป็นบางช่วง เป็นบางครั้ง แต่เราไม่ได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ตรงนี้แหละสำคัญ
ทั้งที่ใจเป็นบุญ ใจปรารถนาอยากจะได้บุญ อยากจะรู้ธรรม การฝักใฝ่ การดำเนินชีวิตนั้นถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องเจริญสติเข้าไปอบรมใจของเรา ว่าทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมใจถึงเกิดความทะเยอทะยานอยาก อันนี้สำหรับใจ
แต่มีอาการของใจหรือว่าอาการของขันธ์ห้าอีก ตรงนี้แหละสำคัญ ที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ แล้วใจเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นสิ่งเดียวกันนี่แหละ โมหะอย่างลุ่มลึก ถ้าใจคลายออกจากตรงนี้ ถึงจะเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ-มีความเห็นถูก’
เพียงแค่เห็นถูก แต่เราขาดการตามทำความเข้าใจ เขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีก แต่การละกิเลส การควบคุมใจมีเป็นบางครั้ง บางเรื่อง แต่การสังเกตการแยกตรงนี้ ถ้ากำลังสติไม่เร็วไม่ไวพอ ก็ยากที่จะเห็น ถ้าอานิสงส์ตบะบารมีไม่เพียงพอ ความเพียรไม่เพียงพอ ก็ยากที่ใจจะคลายออก
ถ้าเรามีความเพียรเพียงพอแล้ว กำลังสติของเราไปเห็นการเกิดการดับของใจ กับอาการของใจคลายออกจากกัน แล้วตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง กำลังสติถึงจะเป็นมหาสติ จากมหาสติก็จะกลายเป็นมหาปัญญา จากมหาปัญญาก็ทำความเข้าใจ แล้วก็รู้จักละรู้จักดับ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้จนหมดเรื่องที่จะเข้าไปค้นคว้า เขาถึงจะอยู่อุเบกขาได้
พูดง่าย แต่การกระทำต้องอาศัยความเพียร อาศัยกาลเวลา อาศัยสร้างตบะบารมี
ทำได้เท่าไหร่ก็อย่าไปทิ้ง พยายามทำ สักวันหนึ่งก็คงจะถึงเดินถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ตราบใดที่เรายังดำเนินอยู่ ตราบใดที่ยังเดินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่พวกเราทำนี้แหละ จะไปสานต่อในวันข้างหน้า หรือว่าภพข้างหน้า เพราะว่าอานิสงส์บุญกุศลจะติดตามตัวเราไป ก็ต้องพยายามกันนะ พยายามทำ ศึกษาสังเกตให้ได้ทุกอิริยาบถ
คนมีบุญคนมีอานิสงส์ฟังนิดเดียว จะหมั่นวิเคราะห์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ จนหมดอะไรที่จะวิเคราะห์ รอตั้งแต่ให้ธาตุขันธ์แตกดับเท่านั้นแหละ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ
วันที่ 22 เมษายน 2557
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติให้ต่อเนื่อง ให้เชื่อมโยงกันสักพักหนึ่ง
สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเข้าออกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาเราอาจจะรู้อยู่เป็นบางช่วง เป็นบางครั้ง แต่เราไม่ได้สร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่อง ตรงนี้แหละสำคัญ
ทั้งที่ใจเป็นบุญ ใจปรารถนาอยากจะได้บุญ อยากจะรู้ธรรม การฝักใฝ่ การดำเนินชีวิตนั้นถูกต้องอยู่ในระดับของสมมติ แต่ในหลักธรรมแล้วเราต้องเจริญสติเข้าไปอบรมใจของเรา ว่าทำไมใจถึงเกิด ทำไมใจถึงเป็นทาสของกิเลส ทำไมใจถึงเกิดความทะเยอทะยานอยาก อันนี้สำหรับใจ
แต่มีอาการของใจหรือว่าอาการของขันธ์ห้าอีก ตรงนี้แหละสำคัญ ที่ผุดขึ้นมาปรุงแต่งใจ แล้วใจเคลื่อนเข้าไปรวมเป็นสิ่งเดียวกันนี่แหละ โมหะอย่างลุ่มลึก ถ้าใจคลายออกจากตรงนี้ ถึงจะเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ-มีความเห็นถูก’
เพียงแค่เห็นถูก แต่เราขาดการตามทำความเข้าใจ เขาก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิมอีก แต่การละกิเลส การควบคุมใจมีเป็นบางครั้ง บางเรื่อง แต่การสังเกตการแยกตรงนี้ ถ้ากำลังสติไม่เร็วไม่ไวพอ ก็ยากที่จะเห็น ถ้าอานิสงส์ตบะบารมีไม่เพียงพอ ความเพียรไม่เพียงพอ ก็ยากที่ใจจะคลายออก
ถ้าเรามีความเพียรเพียงพอแล้ว กำลังสติของเราไปเห็นการเกิดการดับของใจ กับอาการของใจคลายออกจากกัน แล้วตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง กำลังสติถึงจะเป็นมหาสติ จากมหาสติก็จะกลายเป็นมหาปัญญา จากมหาปัญญาก็ทำความเข้าใจ แล้วก็รู้จักละรู้จักดับ ชี้เหตุชี้ผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้จนหมดเรื่องที่จะเข้าไปค้นคว้า เขาถึงจะอยู่อุเบกขาได้
พูดง่าย แต่การกระทำต้องอาศัยความเพียร อาศัยกาลเวลา อาศัยสร้างตบะบารมี
ทำได้เท่าไหร่ก็อย่าไปทิ้ง พยายามทำ สักวันหนึ่งก็คงจะถึงเดินถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็ว ตราบใดที่เรายังดำเนินอยู่ ตราบใดที่ยังเดินไม่ถึงจุดหมายปลายทาง สิ่งที่พวกเราทำนี้แหละ จะไปสานต่อในวันข้างหน้า หรือว่าภพข้างหน้า เพราะว่าอานิสงส์บุญกุศลจะติดตามตัวเราไป ก็ต้องพยายามกันนะ พยายามทำ ศึกษาสังเกตให้ได้ทุกอิริยาบถ
คนมีบุญคนมีอานิสงส์ฟังนิดเดียว จะหมั่นวิเคราะห์ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาจนกระทั่งนอนหลับ จนหมดอะไรที่จะวิเคราะห์ รอตั้งแต่ให้ธาตุขันธ์แตกดับเท่านั้นแหละ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกันนะ