หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 071

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 071
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 071
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ญาติโยมทุกคนทุกท่าน จงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน นั่งตามสบาย วางกายให้สบาย หยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ไม่ว่าเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าเรื่องส่วนรวม ความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ ที่เกิดจากจิต เกิดจากขันธ์ห้า หยุด ระงับยับยั้งเอาไว้ แล้วก็พยายามกระตุ้นสร้างความรับรู้สัมผัสของลมหายใจให้ชัดเจน

สูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจเวลาลมหายใจเข้าหายใจออก มีความรู้สึกที่ต่อเนื่อง พยายามฝึกให้เกิดความเคยชินตั้งแต่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยังไม่ลุกจากที่ พอรู้ตัวปุ๊บ ความรู้สึกกับรู้อยู่ปัจจุบัน ลมสัมผัสของลมหายใจชัดเจน อันนี้เป็นส่วนของความรู้ตัวรู้กาย เขาเรียกว่า ‘สติ’ ถ้าเรารู้สัมผัสของลมหายใจให้ต่อเนื่อง เขาเรียกว่า ‘สัมปชัญญะ’

ใจปกติก็รู้ ใจจะเกิด เราก็จะเห็นลักษณะอาการความคิดผุดขึ้นมา เราก็จะรู้เท่าทัน ใจส่งออกไปภายนอก เราก็รู้จักควบคุม ใจเกิดกิเลสรู้จักละ ถ้าเรามีความรู้ตัวที่ต่อเนื่อง มีความรู้ตัวที่เข้มแข็ง หรือว่ามีสติที่เข้มแข็ง แล้วก็หมั่นพร่ำฝึกแล้วก็รู้จักเอาไปใช้ เอาไปหมั่นพร่ำสอนใจของเรา หาเหตุหาผล รู้ให้ทันเหตุผล เหตุผลการเกิดการดับของขันธ์ห้า ของความคิดตัวใจ หรือว่าตัววิญญาณไปรวมได้อย่างไร อะไรคือส่วนรูป อะไรคือส่วนนาม

ทำอย่างไรเราถึงจะทำความเข้าใจให้เต็มรอบ เรารู้แล้ว เห็นแล้ว ตามทำความเข้าใจให้ได้ทุกเรื่อง นิวรณธรรมเครื่องกางกั้นใจของเราไม่ได้รับความสงบเป็นลักษณะอย่างไร ตื่นขึ้นมาใจของเรามีความกำหนัดยินดีในรูป ในรส ในกลิ่น ในเสียง ในเรื่องของราคะหรือไม่ ถ้ามีเราก็รู้จักควบคุม รู้จักระงับยับยั้งเอาไว้ ใจของเรามีความอาฆาตพยาบาท เราก็รู้จักควบคุม รู้จักละ รู้จักดับ ทำในสิ่งตรงกันข้าม ด้วยการให้อภัยทานอโหสิกรรม ใจของเรามีความลังเล มีความสงสัยจะใช่หรือไม่ใช่ เราก็พยายามดับ

ความรู้ตัวของเราพลั้งเผลอ เราก็เริ่มต้นขึ้นมาให้เข้มแข็ง ให้ต่อเนื่อง ให้ชัดเจน อย่าไปเกียจคร้าน เกียจคร้านในการเจริญสตินี้ก็เราก็จะไม่เข้าใจเลย เราก็อาจจะมองเข้าใจในภาพรวม เฉพาะเรื่องปัญญาของโลกีย์ อาจจะถูกต้องระดับของสมมติ แต่สมมติครอบงำวิมุตติครอบงำดวงจิตเอาไว้เหมือนเดิม ก็ยังหลงอยู่ ยังหลงอยู่ในระดับของสมมติ

เราต้องพยายาม ให้รู้ลึกรู้ลักษณะของสมมติ รู้ลักษณะของวิมุตติ รู้ลักษณะของส่วนรูป ส่วนนาม แต่เขาก็อาศัยกันอยู่ ยังอยู่ด้วยกันอยู่ กายของเราจริงๆ นี่แหละ วิญญาณก็วิญญาณของเราจริงๆ นี่แหละ แต่เราให้รู้ว่าเป็นส่วนไหนๆ แต่เขาก็อยู่ร่วมกัน เหมือนกับเชือกมันมีเส้นเดียวมี 5 เกลียว ให้รู้ว่าเกลียวไหนเป็นเกลียวไหน ใจของเราก็เหมือนกัน กายของเราก็เหมือนกัน มีอยู่ 5 ขันธ์ มีอยู่ 5 กอง

การเกิดของใจดวงวิญญาณ มันเกิดอย่างไร การเกิดของขันธ์ห้าเป็นอย่างไร เราต้องมาสร้างผู้รู้ หรือว่ามาเจริญสตินั่นแหละ แต่เวลานี้การเจริญสติของเรามีกระท่อนกระแท่น หรือบางทีก็แทบจะไม่มี มีเวลาช่วงใจเกิดความทุกข์ ถึงจะไปหาวิธีแก้ มันไม่ทันหรอก เราก็ต้องพยายามดูรู้ทุกขณะทุกเวลา จนเป็นอัตโนมัติในการดู ในการรู้ ทำความเข้าใจแก้ทุกข์ตลอดเวลา เหตุจากภายนอก เราก็ละภายนอก ดับทั้งภายในละภายนอก ธรรมกับโลกก็อยู่ด้วยกัน โลกกับธรรมก็อยู่ด้วยกัน มีโอกาสสร้างคุณงามความดี สร้างบุญสร้างอานิสงค์ให้กับตัวเรา ให้กับเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน

เวลานี้เพื่อนเกิดแก่เจ็บตายของเราลำบากอยู่ทั่วประเทศนั่นแหละ เราก็รู้ เราก็ทราบกัน น้ำท่วมกันหนัก ฝนฟ้าก็ตกลงมาหนัก สารพัดอย่าง ปีนี้หนักกว่าในรอบ 40 50 ปีที่ผ่านมา เราก็พอช่วยกันได้เราก็ช่วย ช่วยมากช่วยน้อย เราก็ช่วยตามกำลังของเรา อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้ง เราได้สร้างอานิสงส์ให้กับพี่น้องของเราให้ได้จากความทุกข์ในระดับหนึ่ง ก็ให้ผ่อนคลายอยู่ในระดับหนึ่ง เราช่วยด้วยกันได้ก็ช่วย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

หลวงพ่อก็ให้ช่วยอยู่ ทางไปตั้งโรงทาน ได้ตั้งโรงทานคงจะตั้งอยู่อีกหลายวัน อยู่จนกว่าจะคลี่คลาย ถือว่าจะลำบากญาติโยมมากขึ้นๆ เพราะว่าไม่มีที่ไป ต้องขึ้นมาอยู่บนถนน น้ำท่วมบ้าน จะทำกับข้าวกับปลาก็ไม่ได้ทำ หิวก็หิว ได้อยู่ได้กินเล็กๆ น้อยๆ แต่ละมื้อๆ พอประทังก็ยังดี ได้ผ่านพ้นเหตุการณ์ ผ่านพ้นวิกฤตเหตุการณ์ไปได้สักระยะหนึ่ง ก็จะช่วยเหลือตัวเองได้ มีโอกาสก็ขอเชิญชวนนะ

ญาติพี่น้องของเรา อยากจะมาร่วมด้วย มาช่วย หรือเอากำลังกายไปช่วย คนโน้นคนนี้ได้ยินข่าวทราบข่าวก็ส่งข้าวส่งของไปช่วยกัน อยู่ที่ทางเลี่ยงเมืองทางบ้านพื้น ทีแรกว่าจะย้าย ก็ดูเหตุการณ์ว่าย้ายไม่ได้ต้องอยู่กับที่ เพราะว่าหลายหมู่บ้าน 2 3 ตำบลก็ไปรวมกัน ญาติโยมก็เริ่ม พี่น้องของเราก็เริ่มพอที่จะเอาข้าวของไปร่วมแล้วแหละ เพราะว่ามีจุดหลักให้ มีโอกาสเราก็ได้ช่วยกัน

บางคนบางท่านก็ส่งข้าวของมา บางคนบางท่านก็ถวายปัจจัยมาช่วย ช่วยกัน หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคน ขอบคุณทุกคน หลวงพ่อก็จะเป็นสะพาน เป็นทางผ่าน พาทำพาช่วยกันให้ทุเลาเบาบางได้ในระดับหนึ่งตามกำลังของเรา จะรอให้รัฐบาลมาช่วยนั้นก็คงยาก เพราะว่ารัฐบาลนั้นก็ช่วยในภาพรวมภาพกว้าง จุดนั้นบ้างจุดนี้บ้าง จะให้ทั่วถึงคงไม่ทั่วถึง พี่น้องเราก็มีโอกาสพอช่วยกัน จากหนักก็ผ่อนคลายให้เป็นเบาได้สักหน่อยก็ยังดี

ก็ขอขอบใจทุกคน มีโอกาสก็จะเอาขนมนมเนยไปไว้ที่โรงทาน ที่ทางเลี่ยงเมืองทางบ้านหนองผือก็ไป เดี๋ยวนี้ญาติโยมก็เอาไปเยอะแล้ว คนโน้นคนนี้ก็ช่วยกัน ทางในเมืองก็รู้ว่าหลวงพ่อไปตั้งโรงทานก็ยิ่งเอาไปช่วยกันใหญ่ โทรศัพท์มาหามาถาม มาข่าวก็บอกให้ไปที่นี่ที่โน่น ก็ขอขอบคุณทุกคน แล้วก็ขอบคุณเทวดาที่ไม่มีกายเนื้อ เทวดาที่มีกายเนื้อทุกคนที่ช่วยกันให้อยู่รอดปลอดภัย ให้ผ่านพ้นเหตุการณ์ต่างๆได้ เร็วไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

เอาล่ะ วันนี้หลวงพ่อขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กันพาไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันนะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง