หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 067
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554 ลำดับที่ 067
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2554
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
ขอให้ญาติโยมทุกคนทุกท่าน จงเจริญสติสร้างความความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราให้ชัดเจน ดับหยุดความนึกคิดปรุงแต่งต่างๆ เอาไว้ให้หมดทุกเรื่อง ความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจวิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเรา สูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ การสูดลมหายใจเข้าออกยาวๆ ให้เป็นธรรมชาติ สัมผัสของลมหายใจก็จะชัดเจน พยายามฝึกให้เกิดความเคยชิน เพียงแค่เรื่องของการหายใจเข้าออก อานาปานสติ รู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่อง แล้วเราก็จะรู้เรื่องในร่างกายของเราอีกเยอะ
ใจของเราปกติเป็นอย่างไร ลักษณะของใจที่ปกติ ลักษณะของใจที่สงบ ลักษณะอาการของความคิด หรือว่าอาการของใจกับตัวใจเป็นลักษณะอย่างไร ถ้าเรามีความรู้ตัวทั่วพร้อม แล้วก็จะลึกเข้าไปเห็นตรงฐานของใจของเรา การเกิดการดับ การละ ความทะเยอทะยานอยาก ใจที่เกิดกิเลส เรารู้จักละกิเลส รู้จักควบคุมใจ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ เขาเรียกว่า ‘คลายความหลง’ ถ้าเราคลายตรงนี้ได้ กำลังสติก็จะตามดูตามค้นคว้า เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ท่านสอนเรื่องอัตตา เรื่องอนัตตา พอใจคลายออกจากขันธ์ห้าได้ ใจก็ว่าง นั่นแหละอนัตตา ความว่างเปล่า
อัตตาคือตัวตน คือร่างกายของเรา แต่เขาก็อาศัยกันอยู่ ในร่างกายของเรามีอะไรบ้างที่ประกอบกันมา ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง วิญญาณในขันธ์ห้าของเราเข้ามาครอบครอง นี่แหละขันธ์ห้าเป็นของหนัก ท่านก็สอนเรื่องกายของเรา เรื่องใจของเรา พยายามดำเนินให้ถูกทาง ให้เข้าถึงแนวทาง อย่าไปไขว้เขว อย่าไปเขวออกนอกลู่นอกทาง เราพยายามดูตรงนี้ ยิ่งพระเราชีเรา มุ่งเข้าไปตรงนี้ ยิ่งมีโอกาสเข้ามาบวชเข้ามาศึกษา ถ้าไม่มาศึกษาเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่าเสียดายเวลา เสียดายของการบวช
เราก็ต้องมาศึกษาให้รู้ แล้วก็รู้จักละ รู้จักทำความเข้าใจ อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ ถ้าเราฝักใฝ่จริงๆ มันก็ไม่เหลือวิสัย ส่วนมากจะไปเอาแต่เรื่องภายนอกมาปกปิดดวงใจของตัวเองเอาไว้ แม้แต่ตัวใจของเราแท้ๆ ก็ยังปกปิด ยังหลอกตัวเอง หาสิ่งโน้นสิ่งนี้ ว่าสิ่งนั้นถูก สิ่งนี้ถูก สิ่งนั้นดี สิ่งนี้ไม่ดี สารพัดอย่าง มันก็เอาเฉพาะสิ่งดีๆ นั่นแหละมาปิดกั้นตัวเรา
ถ้าเรารู้จักการสร้างสติเข้าไปดูแลใจ ควบคุมใจ จนใจคลายออก หาเหตุหาผล ตามดู ตามรู้ ตามมอง เห็นเหตุเห็นผล ตามดูเหตุผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ จนหมดความสงสัย จนหมดอะไรที่จะค้นคว้านั่นแหละ เขาถึงจะหยุด ดับความเกิดได้นั่นแหละ
แต่ละวันๆ เพียงแค่การเจริญสติก็ยังพลั้งเผลออยู่ ส่วนมากจะไม่ค่อยจะกระตุ้น ไม่ค่อยสนใจ พวกความเคยชินเก่าๆ ใจของเราอาจจะอยู่ในกองบุญอยู่ อาจจะหลงอยู่ เพียงแค่หลง ความหลง หลงในการสร้างคุณงามความดี หลงอยู่ในบุญ อันนี้ก็ยังดีอยู่ หลงอยู่ในการสร้างอานิสงส์ของสมมติก็เป็นเข้าพกเข้าห่อ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ให้ทำ ไม่ให้สร้าง ยิ่งเข้าใจแล้วยิ่งเพิ่มความเพียรเป็นทวีคูณ ยิ่งเพิ่มความขยันหมั่นเพียรเป็นทวีคูณ
เอาการเอางานของเราเป็นการปฏิบัติ เป็นการฝึกทำงานไปด้วย ใจรับรู้ ใจได้พักผ่อนไปด้วย ใจไม่เครียด ผิดพลาดสติปัญญาของเราไปแก้ไข เราแก้ไขทางด้านความเกิดของจิต แก้ไขทางด้านอารมณ์ คลายทางด้านแยกรูปแยกนาม คลายขันธ์ห้าได้ ตามรู้ได้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด เข้าสู่วิปัสสนาภูมิ ละกิเลสได้มากน้อยเท่าไร
เป็นกิจที่เราจะต้องขยันหมั่นเพียรกัน อย่าพากันทำให้มันไขว้เขว สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละมาปิดกั้นเอาไว้ ความคิด อารมณ์ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะไม่ได้คิด ไม่ต้องไปกังวลว่าจะไม่รู้ธรรม มันจะสวนทางกันเลยทีเดียว จิตธรรมกับโลกจะสวนทางกัน ถ้าเราเข้าใจแล้วเขาก็สวนทางกัน และแยกแยะทำความเข้าใจแล้วเขาก็จะอยู่ร่วมกัน
เพียงแค่พลิกวิมุตติให้อยู่เหนือสมมติ แต่เวลานี้สมมติอยู่เหนือวิมุตติ คือตัวโลกธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างโลกยังควบคุมใจ ใจของเรายังหลงอยู่ ถ้าใจของเราแยกออกจากความคิด เขาก็พลิกหงายขึ้นมา เข้าสู่วิมุตติ เหมือนหน้ามือกับหลังมือ แต่เขาก็อยู่ด้วยกันอยู่ แต่เราต้องทำความเข้าใจ พยายามเดินให้มันถึงนะ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี
นี่ก็ใกล้จะออกพรรษาเต็มทีแล้ว ก็เหลืออีกไม่ถึง 15 วัน พวกเรามีโอกาสได้สร้างบุญ สร้างอานิสงส์กันเต็มเปี่ยม ทั้งงานภายนอกงานภายใน งานในวัดเราก็ช่วยกันทำ หลวงพ่อขอขอบใจทุกคน เราสร้างอานิสงส์ให้กับตัวเรา ให้กับสถานที่ ให้กับคนอื่น ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เก้อไม่เขิน พยายามกำจัดความเกียจคร้าน ความเห็นผิดออกไป เพียงแค่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นแหละ มันผิดทางเลย ถ้าดำเนินเรื่องจิตไม่เข้าใจ จะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวที่จะปกปิดดวงใจของเราไว้ ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา
ใจของเราปกติเป็นอย่างไร ลักษณะของใจที่ปกติ ลักษณะของใจที่สงบ ลักษณะอาการของความคิด หรือว่าอาการของใจกับตัวใจเป็นลักษณะอย่างไร ถ้าเรามีความรู้ตัวทั่วพร้อม แล้วก็จะลึกเข้าไปเห็นตรงฐานของใจของเรา การเกิดการดับ การละ ความทะเยอทะยานอยาก ใจที่เกิดกิเลส เรารู้จักละกิเลส รู้จักควบคุมใจ ใจที่คลายออกจากขันธ์ห้า ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ เขาเรียกว่า ‘คลายความหลง’ ถ้าเราคลายตรงนี้ได้ กำลังสติก็จะตามดูตามค้นคว้า เราก็จะเข้าใจในคำสอนของพระพุทธองค์ ท่านสอนเรื่องอัตตา เรื่องอนัตตา พอใจคลายออกจากขันธ์ห้าได้ ใจก็ว่าง นั่นแหละอนัตตา ความว่างเปล่า
อัตตาคือตัวตน คือร่างกายของเรา แต่เขาก็อาศัยกันอยู่ ในร่างกายของเรามีอะไรบ้างที่ประกอบกันมา ซึ่งมีวิญญาณเข้ามาครอบครอง วิญญาณในขันธ์ห้าของเราเข้ามาครอบครอง นี่แหละขันธ์ห้าเป็นของหนัก ท่านก็สอนเรื่องกายของเรา เรื่องใจของเรา พยายามดำเนินให้ถูกทาง ให้เข้าถึงแนวทาง อย่าไปไขว้เขว อย่าไปเขวออกนอกลู่นอกทาง เราพยายามดูตรงนี้ ยิ่งพระเราชีเรา มุ่งเข้าไปตรงนี้ ยิ่งมีโอกาสเข้ามาบวชเข้ามาศึกษา ถ้าไม่มาศึกษาเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่าเสียดายเวลา เสียดายของการบวช
เราก็ต้องมาศึกษาให้รู้ แล้วก็รู้จักละ รู้จักทำความเข้าใจ อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ ถ้าเราฝักใฝ่จริงๆ มันก็ไม่เหลือวิสัย ส่วนมากจะไปเอาแต่เรื่องภายนอกมาปกปิดดวงใจของตัวเองเอาไว้ แม้แต่ตัวใจของเราแท้ๆ ก็ยังปกปิด ยังหลอกตัวเอง หาสิ่งโน้นสิ่งนี้ ว่าสิ่งนั้นถูก สิ่งนี้ถูก สิ่งนั้นดี สิ่งนี้ไม่ดี สารพัดอย่าง มันก็เอาเฉพาะสิ่งดีๆ นั่นแหละมาปิดกั้นตัวเรา
ถ้าเรารู้จักการสร้างสติเข้าไปดูแลใจ ควบคุมใจ จนใจคลายออก หาเหตุหาผล ตามดู ตามรู้ ตามมอง เห็นเหตุเห็นผล ตามดูเหตุผลให้ใจยอมรับความเป็นจริงได้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด ไล่เรียงลงไปเรื่อยๆ จนหมดความสงสัย จนหมดอะไรที่จะค้นคว้านั่นแหละ เขาถึงจะหยุด ดับความเกิดได้นั่นแหละ
แต่ละวันๆ เพียงแค่การเจริญสติก็ยังพลั้งเผลออยู่ ส่วนมากจะไม่ค่อยจะกระตุ้น ไม่ค่อยสนใจ พวกความเคยชินเก่าๆ ใจของเราอาจจะอยู่ในกองบุญอยู่ อาจจะหลงอยู่ เพียงแค่หลง ความหลง หลงในการสร้างคุณงามความดี หลงอยู่ในบุญ อันนี้ก็ยังดีอยู่ หลงอยู่ในการสร้างอานิสงส์ของสมมติก็เป็นเข้าพกเข้าห่อ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ให้ทำ ไม่ให้สร้าง ยิ่งเข้าใจแล้วยิ่งเพิ่มความเพียรเป็นทวีคูณ ยิ่งเพิ่มความขยันหมั่นเพียรเป็นทวีคูณ
เอาการเอางานของเราเป็นการปฏิบัติ เป็นการฝึกทำงานไปด้วย ใจรับรู้ ใจได้พักผ่อนไปด้วย ใจไม่เครียด ผิดพลาดสติปัญญาของเราไปแก้ไข เราแก้ไขทางด้านความเกิดของจิต แก้ไขทางด้านอารมณ์ คลายทางด้านแยกรูปแยกนาม คลายขันธ์ห้าได้ ตามรู้ได้ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด เข้าสู่วิปัสสนาภูมิ ละกิเลสได้มากน้อยเท่าไร
เป็นกิจที่เราจะต้องขยันหมั่นเพียรกัน อย่าพากันทำให้มันไขว้เขว สิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละมาปิดกั้นเอาไว้ ความคิด อารมณ์ ไม่ต้องไปกังวลว่าจะไม่ได้คิด ไม่ต้องไปกังวลว่าจะไม่รู้ธรรม มันจะสวนทางกันเลยทีเดียว จิตธรรมกับโลกจะสวนทางกัน ถ้าเราเข้าใจแล้วเขาก็สวนทางกัน และแยกแยะทำความเข้าใจแล้วเขาก็จะอยู่ร่วมกัน
เพียงแค่พลิกวิมุตติให้อยู่เหนือสมมติ แต่เวลานี้สมมติอยู่เหนือวิมุตติ คือตัวโลกธรรม ทุกสิ่งทุกอย่างโลกยังควบคุมใจ ใจของเรายังหลงอยู่ ถ้าใจของเราแยกออกจากความคิด เขาก็พลิกหงายขึ้นมา เข้าสู่วิมุตติ เหมือนหน้ามือกับหลังมือ แต่เขาก็อยู่ด้วยกันอยู่ แต่เราต้องทำความเข้าใจ พยายามเดินให้มันถึงนะ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี
นี่ก็ใกล้จะออกพรรษาเต็มทีแล้ว ก็เหลืออีกไม่ถึง 15 วัน พวกเรามีโอกาสได้สร้างบุญ สร้างอานิสงส์กันเต็มเปี่ยม ทั้งงานภายนอกงานภายใน งานในวัดเราก็ช่วยกันทำ หลวงพ่อขอขอบใจทุกคน เราสร้างอานิสงส์ให้กับตัวเรา ให้กับสถานที่ ให้กับคนอื่น ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เก้อไม่เขิน พยายามกำจัดความเกียจคร้าน ความเห็นผิดออกไป เพียงแค่นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นแหละ มันผิดทางเลย ถ้าดำเนินเรื่องจิตไม่เข้าใจ จะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวที่จะปกปิดดวงใจของเราไว้ ก็ต้องพยายามกัน
เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อ ทำความเข้าใจกันเอา