หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 155
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 155
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน วันนี้ก็เป็นวันเสาร์ที่ 29 ใกล้ ใกล้จะถึงสิ้นปี 29 30 31 ก็ขอเชิญพี่น้องเราทุกคน มีโอกาสวันที่ 31 พากันมาสวดมนต์ข้ามปีกันนะ ท่านอาจารย์ต้าหรือว่าท่านเจ้าคุณจะพาสวดมนต์ข้ามปี เห็นมาถามกันเยอะ เอากลดเอาเต็นท์มากางกัน มาบำเพ็ญใจของเราด้วย อยู่ที่บรรยากาศของหลวงปู่ใหญ่ปางลีลาอากาศกลางคืนก็โล่งโปร่งเย็น เดินดูใจของเรานั่งดูใจของเรา สวดมนต์สวดพรให้เป็นสิริมงคลของชีวิต
รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเราให้ดี ใจเกิดกิเลสเมื่อไรเราก็รู้จักละรู้จักดับ อย่าไปเที่ยวให้คนโน้นเขาจัดการให้ เราต้องจัดการกับชีวิตของเรา ใจของเราเป็นอย่างไรเราต้องรีบแก้ไข ภาระหน้าที่สมมติของเราอะไรยังไม่ราบรื่นเราก็พยายามทำให้ราบรื่น ก็เพื่อที่ยังสมมติของเราให้อยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าเที่ยวไปวิ่งหาที่โน่นวิ่งหาที่นี่ อยู่ที่ใจของเราเราพยายามแก้ไขใจของเรา
แต่ส่วนพรหมวิหารความเมตตา ความเสียสละนั้นเป็นการอนุเคราะห์เกื้อหนุนอยู่ระดับของโลกิยะ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่กับโลกธรรม แต่การละกิเลสการคลายความหลง การเดินปัญญาเราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ให้รู้ทุกอิริยาบถ แล้วก็รู้จักดับรู้จักละจนกิเลสหมดจากจิตจากใจของเรา ไม่ใช่จะไปเที่ยวให้คนโน้นเขาละให้คนนี้เขาละให้ อย่างงั้นไปไม่ถึงไหนเลยเราต้องละเอา
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาสำรวจกายสำรวจใจจนเป็นอัตโนมัติในการดูในการรู้ ทำงานภายในให้จบคือทำใจของเราให้สะอาด อยู่กับสมมติอยู่ด้วยสติอยู่ด้วยปัญญา ทำหน้าที่ให้ดี ยิ่งพระบวชใหม่ก็เหมือนกันพยายามขยันหมั่นเพียรอย่าไปเกียจคร้าน โอกาสได้เปิดให้กับทุกคน หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟัง เล่าให้ฟังแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เพราะว่าสภาพร่างกายของหลวงพ่อก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรมาหลายปีแล้วแหละ ก็ทรุดๆ ทรงๆ มาหลายปี ฉีดยาฉีดอินซูลินมา 5 - 6 ปีแล้ว ทั้งฉันยาเช้าเที่ยงเย็นฉีดยา สภาพร่างกายก็พอทรงๆ ทรุดๆ แต่เรื่องหัวใจก็หนักเอาการอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ได้เครียดเพราะว่าเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ขณะยังไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป ถ้าเวลาเอาอะไรมาฉุดเอาไว้ก็ไม่อยู่ ยังไม่ถึงเวลาเราก็ได้สร้างประโยชน์สร้างอานิสงส์กัน
ใจของเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียด แต่สภาพร่างกายมันอาจจะไปตามกาลตามเวลาของเขาเพราะว่าทำงานมาหนัก เรื่องหัวใจก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไร มองดูภายนอกเหมือนกับไม่เป็นอะไรเพราะว่าสภาพร่างกายเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียดด้วย แต่หลวงพ่อรู้ตัวเองดีว่าสภาพร่างกายย่ำแย่อยู่หัวใจก็ย่ำแย่ เบาหวานแต่ละวันเนี่ยก็ขึ้นสูงวันละ 300 400 500 อยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ได้เครียดด้วยกับสิ่งพวกนี้ ไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป
พวกเราก็อย่าพยายามพากันเกียจคร้าน ให้พยายามขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละช่วยกัน ทุกอย่างสถานที่อยู่ที่อาศัยที่หลับที่นอนที่พัก ฝึกหัดให้เป็นคนมีระเบียบ ระเบียบในตัวของตัวเราเองแล้วก็ล้นออกไปสู่ภายนอก ความเป็นระเบียบนั่นแหละคือข้อวัตร จัดระบบระเบียบสมมติให้ดี แล้วก็ระบบระเบียบทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจ ให้อยู่ในความสงบอยู่ในความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข
มีอะไรเราก็ช่วยกันทำ ยิ่งพระเราชีเราอย่าไปเกียจคร้านอย่าไปงอมืองอเท้า เรามาช่วยกันทำให้เป็นแหล่งบุญใหญ่ให้เป็นกองบุญใหญ่ จากความไม่มีก็ทำให้มีให้เกิดขึ้นเป็นกองบุญอันใหญ่ ในวันข้างหน้าพวกเราจะไปคนรุ่นหลังก็มาสานต่อเดี๋ยวนี้ก็มีพร้อมมูลบริบูรณ์แต่ละวันพี่น้องของเราทั้งใกล้ทั้งไกลพากันมาเที่ยวมาชมมากราบมาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต มาไหว้พระบรมสารีริกธาตุ มาไหว้องค์หลวงปู่ใหญ่ มาไหว้พระหยก ก็มาด้วยแรงบุญด้วยใจที่เป็นบุญมาแล้วก็มีความสุข ต่อไปในวันข้างหน้ายิ่งจะมีความสุขใหญ่เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีพร้อมมูล เข้ามาแล้วก็มีตั้งแต่ความร่มรื่นร่มเย็นตั้งแต่ปากทางเข้ามาก็เย็น ต่อไปต้นไม้ออกดอกออกช่อเต็มไปหมดทุกจุดเนี่ยยิ่งสวยงามใหญ่
ให้เราช่วยกัน พวกชีก็เหมือนกันพยายามดูแลต้นไม้ให้หลวงพ่อด้วย ต้นไม้ตามส่วนต่างๆ ตามหลังร้านต่างๆ เราเอาปุ๋ยเอาน้ำไปรดให้เขาเลี้ยงตัวของเขาเองได้ ต่อไปในวันข้างหน้าเราก็จะไม่ได้ลำบาก ทำให้สวยให้งามยังสมมติให้น่าอยู่น่าอาศัย ไม่ใช่วิ่งหาตั้งแต่ธรรมชาติแต่กลับทำลายธรรมชาติ มันจะเป็นได้อย่างไร ทุกวันนี้คนทำลายธรรมชาติกันมากเลยทีเดียว ธรรมชาติก็เลยกลับมาเล่นงานเรา ให้เราช่วยกัน
กว่าจะได้มาถึงขนาดนี้ก็ต้องอาศัยกาลอาศัยเวลาอาศัยความเพียร ตั้ง 30 ปี ต้นไม้ทุกต้น ที่พักที่อาศัยที่หลับที่นอน จากความแห้งแล้งกันดารมีตั้งแต่กองขยะมีตั้งแต่กองกระดูกทั้งเผาทั้งฝังเกลื่อน จากความไม่มีเราก็ทำให้มีให้เกิดขึ้นให้น่าอยู่จากสถานที่ไม่น่าเข้า สมัยก่อนนี้คนเหล่านี้เข้ามาเนี่ยก็ไม่อยากจะเข้าเพราะว่ามันรก รกด้วยป่าด้วยหนามไม่น่าอยู่ ทุกวันนี้ก็เป็นสวนธรรมฝากเอาไว้ในแผ่นดินฝากเอาไว้ให้กับทุกคน เราอยู่ก็มีความสุข คนมาก็มีความสุข มาเถอะมาบ้านเรามาช่วยกัน หลวงพ่อก็ได้เพียงแค่เล่าให้ฟัง เราก็ทำหน้าที่ของตัวเราเองให้ดี
หลวงพ่อก็ทำให้กับทุกคน ไม่เอาหรอกสิ่งพวกนี้ ม่มีใครเอาไปได้สักคน เพราะเป็นสมบัติของสมมติสมบัติของโลกเขา เราทำหน้าที่ของเราให้ดี ใครไปใครมาก็มีความสุข สิ่งที่จะเอาไปได้ก็คือความบริสุทธิ์ความสะอาด ทรัพย์ภายในความสุขใจที่จะติดตามตัวเราไป แม้แต่ความสุขในหลักธรรมท่านก็ให้ละให้วาง ให้อยู่เหนือบุญเหนือบาป ไม่ให้หลงไม่ให้ยึดดับความเกิด ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน
ถ้ามีการเกิดก็ต้องมีความทุกข์ ความเกิดคือความไม่เที่ยง ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่เราก็ต้องพยายามให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้งอย่าไปพลาดโอกาสแม้แต่บุญนิดๆ หน่อยๆ เล็กๆ น้อยๆ ก็ค่อยสร้างสะสมไปถึงเวลาเขาก็เต็ม ตั้งแต่คิด การคิดดีทำดี การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อมมันถึงจะเกิดประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในโลกปัจจุบันประโยชน์ในโลกหน้า ทำปัจจุบันให้ดีโลกหน้าอนาคตก็จะออกมาดี วันนี้มีพรุ่งนี้มี เมื่อวานนี้มี พ่อแม่พี่น้องมี โลกหน้ามี
อยากจะรู้พระพุทธเจ้าก็ต้องเดินตามคำสอนให้รู้ให้เห็นใจของเรา ก็จะเข้าใจรู้ว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่ ท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องอัตตาสอนเรื่องอนัตตา สอนเรื่องหลักของอริยสัจวิธีการดำเนินให้ถึงจุดหมายปลายทางมีหมด ถ้าเรารู้ด้วยเห็นด้วยเข้าถึงด้วยหมดความสงสัยในคำสอนของท่านนั่นแหละจะมองเห็นคุณของพระพุทธองค์ จึงทำให้หลวงพ่อได้สร้างองค์แทนของท่าน
ถ้ามีโอกาสระลึกนึกถึงคุณของท่าน มองดูในโลกนี้ว่าอะไรที่มีประโยชน์ อะไรที่มีบุญมากน้อยต่างระดับ ถึงได้จัดทำองค์ท่านเพื่อระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธองค์ อยากจะดับทุกข์ อยากจะละทุกข์ได้ก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนของท่านให้ถึงจุดหมายปลายทาง เพราะว่าเราอยู่กับสมมติเคารพสมมติ ถ้าคนไหนไม่เคารพสมมติทิ้งสมมติคนนั้นก็ไม่เจริญ ก็ต้องพยายามเอา วันขึ้นปีใหม่มีโอกาสก็มาสวดมนต์ให้เป็นสิริมงคล
การปฏิบัติที่นี่พยายามฝึกให้ได้ทุกอิริยาบถตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อย่าไปตีกรอบว่าต้องแค่เพียงพิธีรีตอง การเจริญสติ ลักษณะของสติ ความรู้ตัว การดับการละ สังเกตการวิเคราะห์ การดำเนินชีวิตให้เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่เอาไปตีกรอบกำหนดเวลาทำเท่าโน้นทำเท่านี้ อย่างนั้นใช้การไม่ได้ต้องเอาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จัดการกับกิเลสของเราให้มันหมดจด กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร
กลางค่ำกลางคืนสนุกเดิน คนอื่นเขานอนหลับเราไปเดินดูใจของเราที่โล่งๆ โปร่งๆ หรือเดินเข้าป่าเดินไปอยู่ตามหลุมศพโน้นหลุมศพนี้ ใจของเรามันกลัวมันกังวลหวั่นไหวหรือไม่ เราได้ประโยชน์มากมาย แม้แต่การขบการฉันก็ต้องรีบพิจารณากายหิวหรือใจอยาก พระเราก็เริ่มเยอะขึ้นยิ่งจะมาเพิ่มอีกไม่ขาด
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ นั่งตามสบายวางกายให้สบาย มาทำความเข้าใจกับคำว่า ‘สติ’ ความระลึกรู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสีย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสนใจในการสร้างความรู้ตัวตรงนี้ทั้งที่หายใจอยู่ตลอดเวลา เรามาสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องเราถึงจะรู้ว่าความรู้ตัวหรือถึงจะรู้ว่าสติของเราที่จะเข้าไปรู้ใจนั้นมันไม่มี มีก็กระท่อนกระแท่นก็เลยไม่ต่อเนื่อง ทั้งที่ใจเป็นบุญอยากจะได้บุญอยากจะรู้ธรรม ความอยากได้บุญอยากรู้ธรรมก็ปิดกั้นตัวใจเอาไว้หมดเลย เพราะว่าการเกิดของใจมีอยู่ปัญญาของใจก็มีอยู่
ปัญญาของใจปัญญาของขันธ์ห้าเขาเกิดมาตั้งนาน เขาปิดกั้นตัวเองเอาไว้ตั้งนานเพราะว่าเขาหลง ถ้าไม่หลงไม่เกิด เขาหลงอาจจะเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ เดี๋ยวนี้เกิดอยู่ในภพของมนุษย์มีกายเนื้อมาห่อหุ้มอยู่มาอาศัยกายเนื้อตรงนี้อยู่ แต่ตัววิญญาณตัวใจนั้นยังเกิดต่ออีก ยังเกิดยังคิดยังปรุงยังแต่งต่ออยู่ตลอดเวลา ถ้ากายเนื้อแตกดับเขาก็ไปตามแรงเหวี่ยงของกรรม
เราต้องศึกษาเรื่องกรรม ศึกษาเรื่องขันธ์ห้า แยกแยะรู้เห็นขันธ์ห้า รอบรู้ในกองสังขารรอบรู้ในดวงวิญญาณของตัวเราเองด้วยการมาเจริญสติให้ต่อเนื่อง ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่อง รู้เท่าทันจิต รู้จักควบคุมจิต รู้จักคลายจิต หมั่นพร่ำสอนใจของเราออกจากความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ หนุนกำลังสติปัญญาเข้าไปทำหน้าที่แทน เราก็จะมองเห็นหนทางว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิด
วิบากกรรมเก่าคือขันธ์ห้าเราทำความเข้าใจแล้วก็ละ กรรมเก่าก็ตามไม่ทัน ไอ้ตัวกรรมใหม่ก็กรรมปัจจุบันที่การกระทำของเราก็จะเหลือเพียงแค่เพียงกิริยาการกระทำ มาทำความเข้าใจให้ละเอียดเดินตามแนวทางของพระพุทธองค์ ใจมันคลายออกจากขันธ์ห้า แยกรูปแยกนามนี่แหละเขาเรียกว่าสัมมา ท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความรู้แจ้งเห็นจริง รู้เห็นอาการรู้ลักษณะ เข้าถึงตามดูแล้วก็ละให้มันได้ หมดความสงสัยหมดความลังเล
ไม่จำเป็นต้องไปพูดไปเถียงกันมากมาย เป็นเรื่องของเราธรรมเป็นเรื่องของเรา อะไรคือตัวธรรม อะไรคือองค์ธรรม เป็นเรื่องของเราทุกคนอย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง อย่าไปโทษคนโน้นโทษคนนี้ เราจงโทษตัวเราเองแก้ไขตัวเราเองปรับปรุงตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา เดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกันไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็วตราบใดที่ยังเดินอยู่
ให้กำลังใจตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัว ทำไมเราถึงลำบากทำไมสมมติของเราไม่เพียบพร้อม เราก็ต้องพยายามทำให้ดีจากน้อยๆ ไปหามากๆ เหมือนกับเราปลูกผลหมากรากไม้ เริ่มปลูกวันแรกจะให้ออกดอกออกผลมันก็ไม่ออกหรอก เราต้องหมั่นดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยเขา ถึงวาระเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้เราก็ได้
การปฏิบัติจิตก็เหมือนกัน ศรัทธาของเรามีแต่เป็นศรัทธาที่เกิดจากปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงด้วย ไม่ใช่ว่าศรัทธาแบบโง่ๆ หลงๆ งมๆ งายๆ เราต้องศรัทธาแล้วรู้จักเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์เห็นเหตุเห็นผลตามดูรู้เหตุรู้ผล จนใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละหมดความสงสัยต่างๆ มีตั้งแต่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ก็ต้องพยายามนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อกันนะ
รู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเราให้ดี ใจเกิดกิเลสเมื่อไรเราก็รู้จักละรู้จักดับ อย่าไปเที่ยวให้คนโน้นเขาจัดการให้ เราต้องจัดการกับชีวิตของเรา ใจของเราเป็นอย่างไรเราต้องรีบแก้ไข ภาระหน้าที่สมมติของเราอะไรยังไม่ราบรื่นเราก็พยายามทำให้ราบรื่น ก็เพื่อที่ยังสมมติของเราให้อยู่ดีมีความสุข ไม่ใช่ว่าเที่ยวไปวิ่งหาที่โน่นวิ่งหาที่นี่ อยู่ที่ใจของเราเราพยายามแก้ไขใจของเรา
แต่ส่วนพรหมวิหารความเมตตา ความเสียสละนั้นเป็นการอนุเคราะห์เกื้อหนุนอยู่ระดับของโลกิยะ ช่วยเหลือซึ่งกันและกันอยู่กับโลกธรรม แต่การละกิเลสการคลายความหลง การเดินปัญญาเราต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ให้รู้ทุกอิริยาบถ แล้วก็รู้จักดับรู้จักละจนกิเลสหมดจากจิตจากใจของเรา ไม่ใช่จะไปเที่ยวให้คนโน้นเขาละให้คนนี้เขาละให้ อย่างงั้นไปไม่ถึงไหนเลยเราต้องละเอา
ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาสำรวจกายสำรวจใจจนเป็นอัตโนมัติในการดูในการรู้ ทำงานภายในให้จบคือทำใจของเราให้สะอาด อยู่กับสมมติอยู่ด้วยสติอยู่ด้วยปัญญา ทำหน้าที่ให้ดี ยิ่งพระบวชใหม่ก็เหมือนกันพยายามขยันหมั่นเพียรอย่าไปเกียจคร้าน โอกาสได้เปิดให้กับทุกคน หลวงพ่อก็เพียงแค่เล่าให้ฟัง เล่าให้ฟังแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เพราะว่าสภาพร่างกายของหลวงพ่อก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรมาหลายปีแล้วแหละ ก็ทรุดๆ ทรงๆ มาหลายปี ฉีดยาฉีดอินซูลินมา 5 - 6 ปีแล้ว ทั้งฉันยาเช้าเที่ยงเย็นฉีดยา สภาพร่างกายก็พอทรงๆ ทรุดๆ แต่เรื่องหัวใจก็หนักเอาการอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ได้เครียดเพราะว่าเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา ขณะยังไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป ถ้าเวลาเอาอะไรมาฉุดเอาไว้ก็ไม่อยู่ ยังไม่ถึงเวลาเราก็ได้สร้างประโยชน์สร้างอานิสงส์กัน
ใจของเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียด แต่สภาพร่างกายมันอาจจะไปตามกาลตามเวลาของเขาเพราะว่าทำงานมาหนัก เรื่องหัวใจก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไร มองดูภายนอกเหมือนกับไม่เป็นอะไรเพราะว่าสภาพร่างกายเราไม่ได้ไปทุกข์ไปเครียดด้วย แต่หลวงพ่อรู้ตัวเองดีว่าสภาพร่างกายย่ำแย่อยู่หัวใจก็ย่ำแย่ เบาหวานแต่ละวันเนี่ยก็ขึ้นสูงวันละ 300 400 500 อยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้ทุกข์ได้เครียดด้วยกับสิ่งพวกนี้ ไม่ถึงเวลาก็ไม่ได้ไป
พวกเราก็อย่าพยายามพากันเกียจคร้าน ให้พยายามขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละช่วยกัน ทุกอย่างสถานที่อยู่ที่อาศัยที่หลับที่นอนที่พัก ฝึกหัดให้เป็นคนมีระเบียบ ระเบียบในตัวของตัวเราเองแล้วก็ล้นออกไปสู่ภายนอก ความเป็นระเบียบนั่นแหละคือข้อวัตร จัดระบบระเบียบสมมติให้ดี แล้วก็ระบบระเบียบทั้งกายทั้งวาจาทั้งใจ ให้อยู่ในความสงบอยู่ในความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข
มีอะไรเราก็ช่วยกันทำ ยิ่งพระเราชีเราอย่าไปเกียจคร้านอย่าไปงอมืองอเท้า เรามาช่วยกันทำให้เป็นแหล่งบุญใหญ่ให้เป็นกองบุญใหญ่ จากความไม่มีก็ทำให้มีให้เกิดขึ้นเป็นกองบุญอันใหญ่ ในวันข้างหน้าพวกเราจะไปคนรุ่นหลังก็มาสานต่อเดี๋ยวนี้ก็มีพร้อมมูลบริบูรณ์แต่ละวันพี่น้องของเราทั้งใกล้ทั้งไกลพากันมาเที่ยวมาชมมากราบมาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต มาไหว้พระบรมสารีริกธาตุ มาไหว้องค์หลวงปู่ใหญ่ มาไหว้พระหยก ก็มาด้วยแรงบุญด้วยใจที่เป็นบุญมาแล้วก็มีความสุข ต่อไปในวันข้างหน้ายิ่งจะมีความสุขใหญ่เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีพร้อมมูล เข้ามาแล้วก็มีตั้งแต่ความร่มรื่นร่มเย็นตั้งแต่ปากทางเข้ามาก็เย็น ต่อไปต้นไม้ออกดอกออกช่อเต็มไปหมดทุกจุดเนี่ยยิ่งสวยงามใหญ่
ให้เราช่วยกัน พวกชีก็เหมือนกันพยายามดูแลต้นไม้ให้หลวงพ่อด้วย ต้นไม้ตามส่วนต่างๆ ตามหลังร้านต่างๆ เราเอาปุ๋ยเอาน้ำไปรดให้เขาเลี้ยงตัวของเขาเองได้ ต่อไปในวันข้างหน้าเราก็จะไม่ได้ลำบาก ทำให้สวยให้งามยังสมมติให้น่าอยู่น่าอาศัย ไม่ใช่วิ่งหาตั้งแต่ธรรมชาติแต่กลับทำลายธรรมชาติ มันจะเป็นได้อย่างไร ทุกวันนี้คนทำลายธรรมชาติกันมากเลยทีเดียว ธรรมชาติก็เลยกลับมาเล่นงานเรา ให้เราช่วยกัน
กว่าจะได้มาถึงขนาดนี้ก็ต้องอาศัยกาลอาศัยเวลาอาศัยความเพียร ตั้ง 30 ปี ต้นไม้ทุกต้น ที่พักที่อาศัยที่หลับที่นอน จากความแห้งแล้งกันดารมีตั้งแต่กองขยะมีตั้งแต่กองกระดูกทั้งเผาทั้งฝังเกลื่อน จากความไม่มีเราก็ทำให้มีให้เกิดขึ้นให้น่าอยู่จากสถานที่ไม่น่าเข้า สมัยก่อนนี้คนเหล่านี้เข้ามาเนี่ยก็ไม่อยากจะเข้าเพราะว่ามันรก รกด้วยป่าด้วยหนามไม่น่าอยู่ ทุกวันนี้ก็เป็นสวนธรรมฝากเอาไว้ในแผ่นดินฝากเอาไว้ให้กับทุกคน เราอยู่ก็มีความสุข คนมาก็มีความสุข มาเถอะมาบ้านเรามาช่วยกัน หลวงพ่อก็ได้เพียงแค่เล่าให้ฟัง เราก็ทำหน้าที่ของตัวเราเองให้ดี
หลวงพ่อก็ทำให้กับทุกคน ไม่เอาหรอกสิ่งพวกนี้ ม่มีใครเอาไปได้สักคน เพราะเป็นสมบัติของสมมติสมบัติของโลกเขา เราทำหน้าที่ของเราให้ดี ใครไปใครมาก็มีความสุข สิ่งที่จะเอาไปได้ก็คือความบริสุทธิ์ความสะอาด ทรัพย์ภายในความสุขใจที่จะติดตามตัวเราไป แม้แต่ความสุขในหลักธรรมท่านก็ให้ละให้วาง ให้อยู่เหนือบุญเหนือบาป ไม่ให้หลงไม่ให้ยึดดับความเกิด ไม่ต้องกลับมาเกิดกัน
ถ้ามีการเกิดก็ต้องมีความทุกข์ ความเกิดคือความไม่เที่ยง ตราบใดที่ใจยังเกิดอยู่เราก็ต้องพยายามให้เกิดอยู่ในกองบุญกองกุศลเอาไว้ อย่าไปปล่อยโอกาสทิ้งอย่าไปพลาดโอกาสแม้แต่บุญนิดๆ หน่อยๆ เล็กๆ น้อยๆ ก็ค่อยสร้างสะสมไปถึงเวลาเขาก็เต็ม ตั้งแต่คิด การคิดดีทำดี การกระทำของเราก็ต้องถึงพร้อมมันถึงจะเกิดประโยชน์ ประโยชน์ตนประโยชน์ท่าน ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์สูงสุด ประโยชน์ในโลกปัจจุบันประโยชน์ในโลกหน้า ทำปัจจุบันให้ดีโลกหน้าอนาคตก็จะออกมาดี วันนี้มีพรุ่งนี้มี เมื่อวานนี้มี พ่อแม่พี่น้องมี โลกหน้ามี
อยากจะรู้พระพุทธเจ้าก็ต้องเดินตามคำสอนให้รู้ให้เห็นใจของเรา ก็จะเข้าใจรู้ว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือไม่ ท่านสอนเรื่องอะไร สอนเรื่องอัตตาสอนเรื่องอนัตตา สอนเรื่องหลักของอริยสัจวิธีการดำเนินให้ถึงจุดหมายปลายทางมีหมด ถ้าเรารู้ด้วยเห็นด้วยเข้าถึงด้วยหมดความสงสัยในคำสอนของท่านนั่นแหละจะมองเห็นคุณของพระพุทธองค์ จึงทำให้หลวงพ่อได้สร้างองค์แทนของท่าน
ถ้ามีโอกาสระลึกนึกถึงคุณของท่าน มองดูในโลกนี้ว่าอะไรที่มีประโยชน์ อะไรที่มีบุญมากน้อยต่างระดับ ถึงได้จัดทำองค์ท่านเพื่อระลึกนึกถึงคุณของพระพุทธองค์ อยากจะดับทุกข์ อยากจะละทุกข์ได้ก็ต้องปฏิบัติตามคำสอนของท่านให้ถึงจุดหมายปลายทาง เพราะว่าเราอยู่กับสมมติเคารพสมมติ ถ้าคนไหนไม่เคารพสมมติทิ้งสมมติคนนั้นก็ไม่เจริญ ก็ต้องพยายามเอา วันขึ้นปีใหม่มีโอกาสก็มาสวดมนต์ให้เป็นสิริมงคล
การปฏิบัติที่นี่พยายามฝึกให้ได้ทุกอิริยาบถตั้งแต่ตื่นขึ้นมา อย่าไปตีกรอบว่าต้องแค่เพียงพิธีรีตอง การเจริญสติ ลักษณะของสติ ความรู้ตัว การดับการละ สังเกตการวิเคราะห์ การดำเนินชีวิตให้เป็นธรรมชาติที่สุด ไม่ใช่เอาไปตีกรอบกำหนดเวลาทำเท่าโน้นทำเท่านี้ อย่างนั้นใช้การไม่ได้ต้องเอาตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จัดการกับกิเลสของเราให้มันหมดจด กายวิเวกเป็นอย่างไร ใจวิเวกเป็นอย่างไร
กลางค่ำกลางคืนสนุกเดิน คนอื่นเขานอนหลับเราไปเดินดูใจของเราที่โล่งๆ โปร่งๆ หรือเดินเข้าป่าเดินไปอยู่ตามหลุมศพโน้นหลุมศพนี้ ใจของเรามันกลัวมันกังวลหวั่นไหวหรือไม่ เราได้ประโยชน์มากมาย แม้แต่การขบการฉันก็ต้องรีบพิจารณากายหิวหรือใจอยาก พระเราก็เริ่มเยอะขึ้นยิ่งจะมาเพิ่มอีกไม่ขาด
ตั้งใจรับพรกัน
ขอให้ญาติโยมเราทุกคนทุกท่านจงเจริญสติ สร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจของเราที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนกันนะ นั่งตามสบายวางกายให้สบาย มาทำความเข้าใจกับคำว่า ‘สติ’ ความระลึกรู้ตัวอยู่ปัจจุบันให้ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง ถ้ายังก็เริ่มเสีย ลองสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ ลึกๆ แล้วก็ผ่อนลมหายใจมายาวๆ สัก 2-3 เที่ยว
เพียงแค่เรื่องการหายใจเข้าออกพวกเราก็ขาดการสนใจในการสร้างความรู้ตัวตรงนี้ทั้งที่หายใจอยู่ตลอดเวลา เรามาสร้างความรู้ตัวให้ต่อเนื่องเราถึงจะรู้ว่าความรู้ตัวหรือถึงจะรู้ว่าสติของเราที่จะเข้าไปรู้ใจนั้นมันไม่มี มีก็กระท่อนกระแท่นก็เลยไม่ต่อเนื่อง ทั้งที่ใจเป็นบุญอยากจะได้บุญอยากจะรู้ธรรม ความอยากได้บุญอยากรู้ธรรมก็ปิดกั้นตัวใจเอาไว้หมดเลย เพราะว่าการเกิดของใจมีอยู่ปัญญาของใจก็มีอยู่
ปัญญาของใจปัญญาของขันธ์ห้าเขาเกิดมาตั้งนาน เขาปิดกั้นตัวเองเอาไว้ตั้งนานเพราะว่าเขาหลง ถ้าไม่หลงไม่เกิด เขาหลงอาจจะเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ เดี๋ยวนี้เกิดอยู่ในภพของมนุษย์มีกายเนื้อมาห่อหุ้มอยู่มาอาศัยกายเนื้อตรงนี้อยู่ แต่ตัววิญญาณตัวใจนั้นยังเกิดต่ออีก ยังเกิดยังคิดยังปรุงยังแต่งต่ออยู่ตลอดเวลา ถ้ากายเนื้อแตกดับเขาก็ไปตามแรงเหวี่ยงของกรรม
เราต้องศึกษาเรื่องกรรม ศึกษาเรื่องขันธ์ห้า แยกแยะรู้เห็นขันธ์ห้า รอบรู้ในกองสังขารรอบรู้ในดวงวิญญาณของตัวเราเองด้วยการมาเจริญสติให้ต่อเนื่อง ถ้าความรู้ตัวของเราต่อเนื่อง รู้เท่าทันจิต รู้จักควบคุมจิต รู้จักคลายจิต หมั่นพร่ำสอนใจของเราออกจากความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ หนุนกำลังสติปัญญาเข้าไปทำหน้าที่แทน เราก็จะมองเห็นหนทางว่าเราจะได้กลับมาเกิดหรือไม่กลับมาเกิด
วิบากกรรมเก่าคือขันธ์ห้าเราทำความเข้าใจแล้วก็ละ กรรมเก่าก็ตามไม่ทัน ไอ้ตัวกรรมใหม่ก็กรรมปัจจุบันที่การกระทำของเราก็จะเหลือเพียงแค่เพียงกิริยาการกระทำ มาทำความเข้าใจให้ละเอียดเดินตามแนวทางของพระพุทธองค์ ใจมันคลายออกจากขันธ์ห้า แยกรูปแยกนามนี่แหละเขาเรียกว่าสัมมา ท่านเรียกว่า ‘สัมมาทิฏฐิ’ ความรู้แจ้งเห็นจริง รู้เห็นอาการรู้ลักษณะ เข้าถึงตามดูแล้วก็ละให้มันได้ หมดความสงสัยหมดความลังเล
ไม่จำเป็นต้องไปพูดไปเถียงกันมากมาย เป็นเรื่องของเราธรรมเป็นเรื่องของเรา อะไรคือตัวธรรม อะไรคือองค์ธรรม เป็นเรื่องของเราทุกคนอย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง อย่าไปโทษคนโน้นโทษคนนี้ เราจงโทษตัวเราเองแก้ไขตัวเราเองปรับปรุงตัวเราเองอยู่ตลอดเวลา เดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกันไม่ถึงช้าก็ต้องถึงเร็วตราบใดที่ยังเดินอยู่
ให้กำลังใจตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัว ทำไมเราถึงลำบากทำไมสมมติของเราไม่เพียบพร้อม เราก็ต้องพยายามทำให้ดีจากน้อยๆ ไปหามากๆ เหมือนกับเราปลูกผลหมากรากไม้ เริ่มปลูกวันแรกจะให้ออกดอกออกผลมันก็ไม่ออกหรอก เราต้องหมั่นดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยเขา ถึงวาระเวลาเขาก็ออกดอกออกผลให้เรา เราไม่อยากจะได้เราก็ได้
การปฏิบัติจิตก็เหมือนกัน ศรัทธาของเรามีแต่เป็นศรัทธาที่เกิดจากปัญญาที่รู้แจ้งเห็นจริงด้วย ไม่ใช่ว่าศรัทธาแบบโง่ๆ หลงๆ งมๆ งายๆ เราต้องศรัทธาแล้วรู้จักเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์เห็นเหตุเห็นผลตามดูรู้เหตุรู้ผล จนใจของเรายอมรับความเป็นจริงได้นั่นแหละหมดความสงสัยต่างๆ มีตั้งแต่จะเดินให้ถึงจุดหมายปลายทางกัน ก็ต้องพยายามนะ
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจเข้าออกให้ชัดเจนกัน พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน ค่อยไปสร้างสานต่อกันนะ