หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 136

หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 136
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
พระธรรมเทศนาโดย (Dhamma Talk by)
พระอาจารย์สำราญ ธมฺมธุโร
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 136
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสทางลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง เราได้ทำความเข้าใจแล้วก็สร้างขึ้นมาแล้วก็รู้ความหมายของการเจริญสติแล้วหรือยัง แล้วก็รู้ให้ต่อเนื่องตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกเรื่อง การหายใจเข้าออกของเราเป็นอย่างไร เรารู้ต่อเนื่องเราก็ลึกลงไปก็รู้ใจ รู้ความปกติ รู้การเกิด รู้อาการของความคิดของอารมณ์

ความหมายของการเจริญสติก็เพื่อที่จะเข้าไป เท่าทันใจ ทำไมใจของเราถึงเกิดทำไมใจของเราถึงหลง ทำไมใจของเราถึงเป็นทาสของกิเลส เราจะกำจัดกิเลสออกจากใจของเราได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าสร้างหรือว่าเจริญสติขึ้นมาไม่รู้ความหมายเอาไปใช้ มันก็ได้แค่สร้างก็ได้เจริญ ใจของเรามีความอ่อนน้อมถ่อมตน ใจของเรามีศรัทธาเชื่อมั่นในพระรัตนตรัย

การเจริญสติฝักใฝ่ในการสำรวจ เรารู้เท่าทันใจของเราตั้งแต่ต้นเหตุหรือไม่ ถ้ารู้ไม่เท่าทันเราก็รู้จักหยุดรู้จักควบคุม ควบคุมใจควบคุมอารมณ์ แล้วก็รู้จนกว่าใจของเราจะคลายออกจากความคิด ออกจากอารมณ์ซึ่งเรียกว่า ‘แยกรูปแยกนาม’ สัมมาทิฏฐิความรู้แจ้งเห็นจริงตรงนี้แหละถึงจะเปิดทางปรากฏ แล้วก็จะรู้ลักษณะใจที่ปราศจากกิเลส รู้ลักษณะใจที่สงบ รู้ลักษณะของใจที่ไม่เกิด ตามดูรู้ความคิดอารมณ์ที่มาปรุงแต่งใจ อะไรผิดพลาดเราก็รีบแก้ไขเสีย

ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ภาระหน้าที่ของสมมติในสิ่งที่เราเข้าไปยุ่งเกี่ยวยังสมมติของเราให้เกิดประโยชน์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้วนแต่มีเหตุมีผล เราจะเข้าถึงเหตุถึงผลตามดูรู้ตามทำความเข้าใจได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการเจริญสติของเราที่ต่อเนื่อง เพียงแค่การเจริญสติพวกเรายังลุ่มๆ ดอนๆ ยังอึดๆ อัดๆ ขาดๆ เกินๆ เพราะว่ายังไม่ตกกระแสธรรมชาติของการเจริญสติ เราต้องพยายาม ใจของทุกดวงก็ปรารถนาที่จะหาทางดับทุกข์หาทางหลุดพ้น ปรารถนาอยากจะได้บุญไปทำที่โน่นบ้าง ปฏิบัติที่โน่นบ้างฝึกที่นั่นที่นี่บ้าง อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีเป็นการหาประสบการณ์ เป็นการสร้างตบะสร้างบารมี ฝักใฝ่สนใจ ถึงจะเดินไม่ถึงจุดหมายปลายทางเราก็พยายามอยู่ที่ไหนก็ดี

ถึงเวลาแล้วการฝักใฝ่การสนใจการดำเนินของเรามี สักวันหนึ่งเราก็คงจะเข้าถึงในสิ่งที่เราปรารถนา เหมือนกับเราปลูกผลหมากรากไม้ เราจะไปเร่งออกดอกออกผลแค่วันปลูกวันดูแลรักษาไม่ได้ ก็ต้องอาศัยกาลอาศัยเวลา ถึงเวลาเขาเจริญเติบโตเต็มที่เขาก็ออกดอกออกผลให้เรา การปฏิบัติจิตก็เหมือนกัน การเจริญสติก็เหมือนกัน การเจริญสติเป็นลักษณะอย่างนี้ ใจเป็นลักษณะอย่างนี้ การดับการควบคุมใจเป็นลักษณะอย่างนี้ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ ความขยันหมั่นเพียรของเรามีหรือไม่ ความเสียสละ ความอดทนอดกลั้น อาศัยกาลอาศัยเวลา รู้จักน้อมก็ไปวิเคราะห์น้อมก็ไปพิจารณา

แต่ละวันใจของเราส่งออกไปภายนอกสักกี่เรื่อง เหตุจากภายนอกมาทำให้ใจของเราเกิดสักกี่ครั้ง ใจของเรามีความกังวล มีนิวรณ์ธรรมหรือว่ามีมลทิน หรือว่าอคติเพ่งโทษคนโน้นคนนี้ มาวัดก็เป็นอย่างไรกายวิเวกใจวิเวก ไม่ใช่มาวัดแล้วก็มาเพ่งโทษ พระองค์นั้นเป็นอย่างนี้พระองค์นี้เป็นอย่างนี้ ท่านเจ้าคุณเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ มันก็ไม่ดีเพราะเกิดจากใจของเรา เรารู้จากวิธีรู้จักแนวทางแล้ว เราก็พยายามพากันไปทำไปสร้างให้มีให้เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปฟังมากเลยไปพูดมากเลยถ้าเราเข้าใจ

กายของเรานี่แหละเป็นตำราใบใหญ่มีขันธ์ห้าเป็นที่ตั้ง ที่ท่านบอกว่าเป็นกองเป็นขันธ์ถ้าแยกได้ เราก็ตามดูเห็นการเกิดการดับ เข้าใจในอนิจจังทุกขังอนัตตาในขันธ์ห้า เข้าใจในหลักธรรม เข้าใจในภาษาธรรมภาษาโลก เข้าใจในสมมติวิมุตติ แต่เวลานี้มันยังรวมกันอยู่ อาจจะอยู่ในการสร้างบุญสร้างกุศล ฝักใฝ่สนใจจากการแยกการคลายการตามรู้มันไม่ได้ทุกเรื่อง แต่ก็พยายามทำเอานะพยายามทำ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีอยู่ที่ไหนก็ขยันหมั่นเพียร

อันนี้ก็ใกล้จะถึงวาระเวลาที่งานกฐินของทางวัดของเราวันที่ 25 พฤศจิกายน 24 25 เริ่มตั้งแต่ 24 ญาติโยมที่มีจิตเป็นบุญเป็นกุศลก็พากันมาปาวรณาตั้งโรงทานกันตั้งแต่วันที่ 24 ก็ขอเชิญชวนพี่น้องเราทุกคนมีโอกาสก็มาร่วมกันมาสร้างอานิสงส์ โอกาสเปิดให้สถานที่เปิดให้กาลเวลาเปิดให้ ก็ให้รีบทำอย่าพากันปล่อยทิ้ง วันที่ 25 ก็ได้ทำพิธีถวายสังฆทานกัน แต่ก็ทำทุกวันที่วัดเราได้ให้เตรียมพร้อม

เตรียมพร้อมทุกวันทุกเวลา ทุกลมหายใจเข้าออก ถึงจะเป็นผู้ตื่นอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ภาระหน้าที่สมมติก็เตรียมพร้อม อะไรขาดตกบกพร่องเราก็รีบช่วยกันแก้ไขกัน ทางด้านจิตใจกิเลสเกิดเมื่อไหร่แล้วก็ให้จัดการเอาเองเพราะว่าของใครของมัน ไปละให้กันไม่ได้ได้เพียงแค่บอกแค่ชี้แค่แนะอุบายเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะไปเที่ยวละกิเลสให้ฉันหน่อยจัดการให้ฉันหน่อย ให้มันใช้การไม่ได้ไปไม่ถึงไหน

ถ้าโง่ด้วยหลงด้วยไปเที่ยววิ่งให้คนโน้นเขาแก้ไขให้อย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ช่วยอนุเคราะห์กันได้เพียงแค่ระดับของสมมติ กิเลสหยาบกิเลสละเอียด การเดินปัญญา การแยกรูปแยกนามนี้ก็ขึ้นอยู่กับกำลังความเพียรของเรามันถึงจะถูกต้องแล้วก็ขยันหมั่นเพียร ถ้าเราไม่มีความรับผิดชอบไม่มีความเป็นระเบียบ ไม่มีความเสียสละ แล้วก็จะไปโทษคนอื่นก็ไม่ได้ ต้องโทษตัวเราแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเราอยู่ตลอดเวลามันถึงจะถูก ถ้าคนไหนไม่ช่วยเหลือตัวเองแก้ไขตัวเองแล้วก็ไปที่ไหนก็ลำบาก ลำบากตัวเองลำบากคนอื่น

พระเราก็เหมือนกันถ้าเกียจคร้านแล้วไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก ให้ขยันหมั่นเพียร รับผิดชอบความเสียสละ ความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อยนั่นแหละคือข้อวัตรปฏิบัติ เรามีความรับผิดชอบหรือไม่ เรามีความเสียสละหรือไม่ อยู่กับคนหมู่มากเรามีความเห็นแก่ตัวหรือไม่ ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็ต้องพิจารณา สร้างความขยันหมั่นเพียร ช่วยเหลือตัวเองให้ได้บอกตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น

ลึกลงไปตั้งแต่ระดับจัดระบบระเบียบของความคิดอารมณ์ การเดินปัญญาการแยกรูปแยกนาม ไม่จำเป็นต้องว่าต้องไปอบรมที่นั่นอบรมที่นี่ เราอบรมตัวเองอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาทุกลมหายใจเข้าออก ไม่เข้าใจก็หมั่นสังเกตหมั่นวิเคราะห์ จนหาความเป็นกลางสร้างสติปัญญาไม่เข้าข้างตัวเองเข้าข้างคนอื่นได้นั่นแหละ หมดความสงสัยหมดความลังเล มีตั้งแต่จะกำจัดกิเลสออกให้หมดจด อยู่คนเดียวก็มีความสุข อยู่หลายคนก็มีความสุข นั่นแหละเราก็จะได้อยู่กับบุญ

ทำกายให้เป็นวัดทำใจให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ แล้วอะไรพอแก้ไขได้เราก็รีบแก้ไขนั้นเสีย อยู่กับสมมติเคารพสมมติยังสมมติให้เกิดประโยชน์ ลึกลงไปกายของเราเป็นอย่างไร ใจของเราเป็นอย่างไร กิเลสเกิดขึ้นที่กายหรือเกิดขึ้นที่ใจ เราต้องดูต้องวิเคราะห์ ทุกสิ่งทุกอย่างเขาก็เองอิงอาศัยกันอยู่ ไม่ใช่ว่าปล่อยวันเวลาทิ้งเสียดายเวลา

หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนที่ได้มาร่วมมาช่วยกันมาร่วมมาช่วยกัน เมื่อวันวานสองวันก่อนก็ได้พี่น้องเราชาวโรงแรมโฆษะทางด้านคุณชายคุณปิติ ก็ให้บริวารได้มาช่วยมาสสร้างมาช่วยกันทำมาช่วยกันสร้างอานิสงส์นั่นแหละ ท่านได้ทำบุญกับบริวารกับลูกน้อง เปิดโอกาสเสียสละเวลาให้ลูกน้องได้เปลี่ยนบรรยากาศได้เข้ามาวัด เสียสละเวลาภายนอกงานสมมติที่เคยทำให้วางเอาไว้เสียก่อน ให้เข้ามาวัดมีความสมัครสมานสามัคคีกัน ได้มาวัดก็ได้มาช่วยกันสร้างประโยชน์ มา 2 วันประตูเกือบเสร็จเลยเสาประตูใหญ่ ได้สร้างเสาประตูใหญ่เหลืออยู่นิดเดียว ครึ่งวันก็คงจะเทเสร็จ วันนี้จะเอาให้เสร็จเสียก่อนหรือค่อยกลับ จะได้อานิสงส์จะได้เต็มเปี่ยม มาวัดเราก็มีความสุข มีอะไรก็ช่วยกันทำให้เปรียบเสมือนกับมาบ้าน หลวงพ่อก็ขอขอบใจทุกคนนะ ที่ได้ร่วมกันได้ช่วยกัน วันนี้ยายลิจะตำส้มตำเลี้ยงให้เต็มที่เลยบอกว่าอย่างนั้น มีความสุขกัน

เอาล่ะ วันนี้ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้ พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง