หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 108
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555 ลำดับที่ 108
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2555
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ชัดเจนให้ต่อเนื่องกัน ตั้งแต่ตื่นเช้าขึ้นมาเราได้สร้างความรู้ตัวแล้วหรือยัง พยายามฝึกให้เกิดความเคยชินไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหน อันนี้เป็นการย้ำเป็นการเตือนให้พวกท่านได้สร้างความรู้ตัว แล้วก็รู้จักสำรวจกายสำรวจใจของตัวเราเอง อะไรเราขาดตกบกพร่องเราก็จะได้รีบแก้ไข อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง เราต้องศึกษาชีวิตของเรา
การเกิดมาเป็นมนุษย์นี่ก็เป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ยากที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในกายของมนุษย์นี้มีอะไรบ้าง ที่มีวิญญาณเข้ามาครอบครองหรือว่ามีวิญญาณมาสร้างภพสร้างชาติ เราก็ต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ให้รู้เท่าทันให้เห็น เห็นอาการรู้ลักษณะของใจรู้อาการของใจ รู้อาการของขันธ์ห้า อะไรคือใจอะไรคืออาการของใจ อะไรคือส่วนรูปส่วนนาม
ทำไมที่พระพุทธองค์ท่านบอกว่าไม่เที่ยงเป็นอนัตตามีแต่ความว่างเปล่า แต่ทำไมเราไปยึดติดว่าเป็นอัตตา ได้หลงเป็นทาสของอารมณ์เป็นทาสของกิเลส เรามาศึกษาตัวเราด้วยการมาเจริญสติ พยายามสร้างความรู้ตัวให้มีให้เกิดขึ้น แล้วก็รู้จักเอาไปใช้เอาไปวิเคราะห์ใจ รู้ไม่ทันการเกิดของใจยังไม่รู้ลักษณะของใจที่แท้จริง เราก็รู้จักควบคุมเขาเรียกว่า ‘สมถะ’ สมถภาวนา ทำใจของเราให้สงบอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อยู่กับลมหายใจบ้างอยู่กับคำบริกรรมบ้างแล้วแต่อุบายของแต่ละบุคคล
พฤติกรรมของใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเรามีความทะเยอทะยานอยากเราก็รู้จักระงับยับยั้ง ใจของเราเกิดความตระหนี่เหนียวแน่นเราก็พยายามละกิเลสออกจากใจของเรา ใจของเรามีความโกรธเราก็พยายามละความโกรธด้วยการให้อภัยด้วยการอโหสิกรรม อยู่ในกายของเรามีอะไรดีๆ เยอะที่จะต้องค้นคว้าจนรู้เห็นความเป็นจริง
ความไม่เที่ยงเป็นอย่างไร ธาตุขันธ์กองขันธ์เป็นกองๆ ขันธ์ๆ เป็นอย่างไรซึ่งเขาก็รวมกันอยู่ แต่เราต้องแยกแยะด้วยการเจริญสติรู้เท่าทันการเกิดการดับ รอบรู้ในกองสังขารของตัวเราเอง การได้ยินได้ฟังได้อ่าน ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ด้วยการลงมือทำความเข้าใจให้รู้จากต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ ทำความเข้าใจแล้วละ อันนี้ก็คือความเพียรของแต่ละบุคคล
บางคนบางท่านก็สร้างมาดี บางคนบางท่านก็ยังลำบากอยู่บางทีสมมติก็ลำบาก บางทีบางท่านก็สมมติก็บริบูรณ์ ก็เพราะว่าการสร้างมาไม่เหมือนกัน เรามาทำอยู่ปัจจุบันเรามาสร้างอยู่ปัจจุบัน อยู่ที่ไหนเราก็จะได้เป็นบุคคลที่เข้าถึงพระรัตนตรัย ระลึกนึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่ตลอดเวลา ระลึกนึกถึงใจของเรารู้ใจของเรา รู้การกระทำรู้การสร้างคุณงามความดี อะไรจะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกลก็รีบทำ อย่าไปปล่อยให้กิเลสมารต่างๆ มันมาเล่นงานเรา เราก็ต้องพยายาม ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ
แก้ไขตัวเราเองจนกว่าจะหมดลมหายใจนั่นแหละ หมดลมหายใจธาตุขันธ์แตกดับยังเหลือตัววิญญาณ ที่จะต้องถ้าตราบใดที่เขายังเกิดอยู่เขาก็ต้องวนเวียนว่ายตายเกิด เขาก็ขอให้เกิดอยู่ในภพภูมิที่ดีอยู่ในกองบุญกองกุศล ละอกุศลเจริญกุศล สูงขึ้นไปก็ละหมดนั่นแหละ แต่สร้างคุณงามความดีไม่ให้ยึด ให้อยู่เหนือเหนือบุญเหนือบาปเหนือกรรม การกระทำก็ยังประโยชน์ของสมมติให้เกิดประโยชน์
ก็ต้องพยายามกันนะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ก็ต้องพยายามหัดช่วยเหลือตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น มีความรับผิดชอบที่สูง มีความรับผิดชอบต่อตัวเราเองต่อคนอื่นต่อสถานที่ ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน ก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิดก่อนที่จะทำ ก็เรียบเรียงวิเคราะห์พิจารณา พูดออกไปแล้วเกิดประโยชน์หรือไม่ ตัวเราลำบากหรือไม่ทำให้คนอื่นลำบากหรือไม่ เป็นมลทินหรือว่าเป็นกุศล เป็นสิริมงคลกับตัวเรากับคนอื่น รู้จักสำรวมวาจาสำรวมกายแล้วก็สำรวมใจ
คนทั่วไปนี่แม้แต่วาจาก็ไม่รู้จักควบคุม ไม่รู้จักควบคุมวาจา ปล่อยมีอะไรอยากจะพูดก็พูดไปเรื่อยเฉื่อย ลึกลงไปก็ใจก็ไม่รู้จักควบคุมใจคิดมันสารพัดเรื่อง บางทีก็คิดอกุศลมีตั้งแต่มลทิน คนโน้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี ที่โน้นไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ใจของเรามันไม่ดีมันถึงคิดออกไป ถ้าใจของเราดีแล้วถึงภายนอกไม่ดีใจของเราก็ดีอยู่เหมือนเดิม
เราจงหมั่นแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา มาวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจ วิเคราะห์ภาระหน้าที่การงานของเรา อยู่ที่ไหนก็จะเป็นวัดเพราะว่าเราเอากายเป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเขาบังคับ ต้องทำต้องฝึกต้องนั่นเราต้องบังคับตัวเราเองแก้ไขตัวเราเอง เจริญสติเข้าไปรู้เหตุรู้ผล เข้าไปแยกเข้าไปคลาย เข้าไปละกิเลสให้มันได้ ไปอยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจให้ชัดเจนกันนะ ทำใจให้โล่งสมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กันค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ
การเกิดมาเป็นมนุษย์นี่ก็เป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ยากที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ในกายของมนุษย์นี้มีอะไรบ้าง ที่มีวิญญาณเข้ามาครอบครองหรือว่ามีวิญญาณมาสร้างภพสร้างชาติ เราก็ต้องมาเจริญสติเข้าไปวิเคราะห์ให้รู้เท่าทันให้เห็น เห็นอาการรู้ลักษณะของใจรู้อาการของใจ รู้อาการของขันธ์ห้า อะไรคือใจอะไรคืออาการของใจ อะไรคือส่วนรูปส่วนนาม
ทำไมที่พระพุทธองค์ท่านบอกว่าไม่เที่ยงเป็นอนัตตามีแต่ความว่างเปล่า แต่ทำไมเราไปยึดติดว่าเป็นอัตตา ได้หลงเป็นทาสของอารมณ์เป็นทาสของกิเลส เรามาศึกษาตัวเราด้วยการมาเจริญสติ พยายามสร้างความรู้ตัวให้มีให้เกิดขึ้น แล้วก็รู้จักเอาไปใช้เอาไปวิเคราะห์ใจ รู้ไม่ทันการเกิดของใจยังไม่รู้ลักษณะของใจที่แท้จริง เราก็รู้จักควบคุมเขาเรียกว่า ‘สมถะ’ สมถภาวนา ทำใจของเราให้สงบอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อยู่กับลมหายใจบ้างอยู่กับคำบริกรรมบ้างแล้วแต่อุบายของแต่ละบุคคล
พฤติกรรมของใจของเราเป็นอย่างไร ใจของเรามีความทะเยอทะยานอยากเราก็รู้จักระงับยับยั้ง ใจของเราเกิดความตระหนี่เหนียวแน่นเราก็พยายามละกิเลสออกจากใจของเรา ใจของเรามีความโกรธเราก็พยายามละความโกรธด้วยการให้อภัยด้วยการอโหสิกรรม อยู่ในกายของเรามีอะไรดีๆ เยอะที่จะต้องค้นคว้าจนรู้เห็นความเป็นจริง
ความไม่เที่ยงเป็นอย่างไร ธาตุขันธ์กองขันธ์เป็นกองๆ ขันธ์ๆ เป็นอย่างไรซึ่งเขาก็รวมกันอยู่ แต่เราต้องแยกแยะด้วยการเจริญสติรู้เท่าทันการเกิดการดับ รอบรู้ในกองสังขารของตัวเราเอง การได้ยินได้ฟังได้อ่าน ทุกคนมีกันเต็มเปี่ยม ด้วยการลงมือทำความเข้าใจให้รู้จากต้นเหตุกลางเหตุปลายเหตุ ทำความเข้าใจแล้วละ อันนี้ก็คือความเพียรของแต่ละบุคคล
บางคนบางท่านก็สร้างมาดี บางคนบางท่านก็ยังลำบากอยู่บางทีสมมติก็ลำบาก บางทีบางท่านก็สมมติก็บริบูรณ์ ก็เพราะว่าการสร้างมาไม่เหมือนกัน เรามาทำอยู่ปัจจุบันเรามาสร้างอยู่ปัจจุบัน อยู่ที่ไหนเราก็จะได้เป็นบุคคลที่เข้าถึงพระรัตนตรัย ระลึกนึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่ตลอดเวลา ระลึกนึกถึงใจของเรารู้ใจของเรา รู้การกระทำรู้การสร้างคุณงามความดี อะไรจะเป็นประโยชน์ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกลก็รีบทำ อย่าไปปล่อยให้กิเลสมารต่างๆ มันมาเล่นงานเรา เราก็ต้องพยายาม ทำได้บ้างไม่ได้บ้างก็พยายามทำ
แก้ไขตัวเราเองจนกว่าจะหมดลมหายใจนั่นแหละ หมดลมหายใจธาตุขันธ์แตกดับยังเหลือตัววิญญาณ ที่จะต้องถ้าตราบใดที่เขายังเกิดอยู่เขาก็ต้องวนเวียนว่ายตายเกิด เขาก็ขอให้เกิดอยู่ในภพภูมิที่ดีอยู่ในกองบุญกองกุศล ละอกุศลเจริญกุศล สูงขึ้นไปก็ละหมดนั่นแหละ แต่สร้างคุณงามความดีไม่ให้ยึด ให้อยู่เหนือเหนือบุญเหนือบาปเหนือกรรม การกระทำก็ยังประโยชน์ของสมมติให้เกิดประโยชน์
ก็ต้องพยายามกันนะไม่ว่าพระว่าโยมว่าชี ก็ต้องพยายามหัดช่วยเหลือตัวเองให้ได้ใช้ตัวเองให้เป็น มีความรับผิดชอบที่สูง มีความรับผิดชอบต่อตัวเราเองต่อคนอื่นต่อสถานที่ ไม่เห็นแก่ตัวไม่เห็นแก่ความเกียจคร้าน ก่อนที่จะพูดก่อนที่จะคิดก่อนที่จะทำ ก็เรียบเรียงวิเคราะห์พิจารณา พูดออกไปแล้วเกิดประโยชน์หรือไม่ ตัวเราลำบากหรือไม่ทำให้คนอื่นลำบากหรือไม่ เป็นมลทินหรือว่าเป็นกุศล เป็นสิริมงคลกับตัวเรากับคนอื่น รู้จักสำรวมวาจาสำรวมกายแล้วก็สำรวมใจ
คนทั่วไปนี่แม้แต่วาจาก็ไม่รู้จักควบคุม ไม่รู้จักควบคุมวาจา ปล่อยมีอะไรอยากจะพูดก็พูดไปเรื่อยเฉื่อย ลึกลงไปก็ใจก็ไม่รู้จักควบคุมใจคิดมันสารพัดเรื่อง บางทีก็คิดอกุศลมีตั้งแต่มลทิน คนโน้นไม่ดีคนนี้ไม่ดี ที่โน้นไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ใจของเรามันไม่ดีมันถึงคิดออกไป ถ้าใจของเราดีแล้วถึงภายนอกไม่ดีใจของเราก็ดีอยู่เหมือนเดิม
เราจงหมั่นแก้ไขตัวเราปรับปรุงตัวเรา มาวิเคราะห์กายวิเคราะห์ใจ วิเคราะห์ภาระหน้าที่การงานของเรา อยู่ที่ไหนก็จะเป็นวัดเพราะว่าเราเอากายเป็นวัด ทำใจของเราให้เป็นพระ เจริญสติเข้าไปเยี่ยมพระอยู่บ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นเขาบังคับ ต้องทำต้องฝึกต้องนั่นเราต้องบังคับตัวเราเองแก้ไขตัวเราเอง เจริญสติเข้าไปรู้เหตุรู้ผล เข้าไปแยกเข้าไปคลาย เข้าไปละกิเลสให้มันได้ ไปอยู่ที่ไหนก็มีความสุข อยู่คนเดียวก็มีความสุข
สร้างความรู้สึกรับรู้การหายใจให้ชัดเจนกันนะ ทำใจให้โล่งสมองให้โปร่ง มีความรู้สึกรับรู้สัมผัสของลมหายใจที่วิ่งเข้าวิ่งออกกระทบปลายจมูกของเราให้ต่อเนื่องให้ชัดเจนกัน
พากันไหว้พระพร้อมๆ กันค่อยไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันนะ