หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2550 ลำดับที่ 023
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2550 ลำดับที่ 023
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2550
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
เจริญธรรมญาติโยมทุกคนทุกท่าน ขอให้ญาติโยมจงเจริญสติสร้างความระลึกรู้การหายใจเข้าออกของตัวเราเอง ให้ต่อเนื่องกันสักพักสักระยะหนึ่งเสียก่อน ตามความเป็นจริง เราต้องพยายามน้อมเข้าไปดูรู้ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา หมั่นสำรวจตรวจตรารู้กายรู้จิตทุกขณะจิต ทุกขณะลมหายใจเข้าออก รู้ความปกติของจิตของเราอยู่ตลอดเวลา
จิตส่งออกไปภายนอกได้อย่างไร เรื่องอะไรที่เกิดเราจะควบคุมจิตของเราได้ในระดับไหน เราจะชำระสะสางกิเลสของเราได้อย่างไร เราต้องพยายามหมั่นสร้างความรู้ตัว สร้างความรู้สึกรับรู้ ไม่ใช่ว่าเราไปนึกไปคิด ไปอ่านไปฟัง ไปพิจารณาได้เลย อันนั้นก็เป็นปัญญาอยู่ แต่เป็นปัญญาโลกีย์
ปัญญาที่จะรู้ด้วยเห็นด้วย เราต้องสร้างสติ หรือว่าสร้างความระลึกรู้ตัวแล้วก็พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง พลั้งเผลอเราก็เริ่มใหม่ๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จนเรารู้เห็นลักษณะอาการของจิต อาการของความคิดอาการของอารมณ์ อันนี้สำหรับบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ
ทุกคนก็มีบุญ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีบุญ ทุกคนก็มีบุญถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้ทำบุญถวายทานกันอยู่ตลอดเวลา ทำบุญถวายทาน วัตถุทานก็ได้ทาน ทานความคิด ทานอารมณ์ ทานกิเลสออกจากจิตจากใจของเรา อาจจะทานอยู่ แต่ยังทานไม่หมดกัน
พวกเราสนุกสร้างบุญสร้างอานิสงส์กันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราพยายามทำบุญให้มีให้เกิดขึ้นในกายในจิตของเรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นสำรวจจิตของตัวเราเอง จะลุกจะก้าวจะเดินจะทำอะไร อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ วิมุตติคือจิตที่หลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ที่หลุดพ้นจากการเป็นทาสของกิเลส
สภาวะเดิมแท้ของจิตของทุกคนนั้นสะอาดอยู่แล้ว เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ ทำให้จิตของเราเป็นทาสของกิเลส ทะเยอทะยานอยาก อยากนั่นอยากนี่ อยากมีอยากเป็น อยากไปอยากมา แม้ตั้งแต่อยากจะรู้ธรรม อยากจะได้ธรรม เราก็ต้องดับต้องละ ต้องทำความเข้าใจ เราดับเราละเราคลายได้ จิตของเรานั่นแหละคือตัวธรรม ความว่างนั่นแหละคือองค์ธรรม ว่างจากการเกิด ว่างจากกิเลส ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น เราจะทำอะไรเราก็ไม่ทำด้วยความทะเยอทะยานอยาก เราทำด้วยสติด้วยปัญญา ด้วยเหตุด้วยผลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่วิเคราะห์ตัวเรา ไม่มีใครที่จะวิเคราะห์ให้ได้เลย นอกจากตัวของเราเอง
การทำบุญการให้ทานทางด้านวัตถุทาน เรามีโอกาสได้ทำร่วมกันอยู่ตลอดอยู่บ่อยๆ อันนี้หลวงพ่อก็พาทำมาอยู่ตลอด ทำบุญถวายทาน ทางด้านวัตถุทาน แรม 15 ค่ำเดือนนี้ก็จะได้ลงสังฆกรรม พระคุณเจ้าหลายวัดสถานที่ต่างๆ ก็จะมาร่วมลงสังฆกรรมที่วัดของเรา ศีลที่ผ่านมาก็ประมาณสัก 115 รูป ญาติโยมท่านใดมีโอกาสก็ขอเชิญมาร่วมบุญกัน มาทำบุญถวายทานถวายสังฆทาน
เราไม่จำเป็นต้องไปนิมนต์พระมาเยอะๆ อันนี้พระท่านมาทำหน้าที่ของท่าน พวกเราก็มีโอกาสได้ทำบุญถวายทานกันทั้งตลอดพรรษาเลย พรรษานี้แรม 15 ค่ำก็จะได้ลงสังฆกรรมกัน พวกเราก็เป็นอานิสงส์อย่างใหญ่ทีเดียว มีโอกาสพริกเขือเกลือปลาร้า ข้าวสารอาหารแห้ง อยากจะเอามาร่วมก็มาร่วม
นี่แหละมีโอกาสเราก็ทำ อย่าปล่อยโอกาสทิ้งปล่อยเวลาทิ้ง แต่การเจริญภาวนา การศึกษา การทำความเข้าใจ เราก็ต้องทำความเข้าใจกับจิตของเรา ทำความเข้าใจกับสมมติของเรา ให้สมมติของเราอยู่ดีมีความสุข อะไรขาดตกบกพร่องเราก็รู้จักพิจารณาแก้ไขปรับปรุง
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เพราะว่าเราก็ยังอาศัยปัจจัยสี่อยู่ ยังอยู่กับโลกสมมติอยู่ เราก็ต้องดูแลทำความสะอาด ความเป็นระเบียบ แล้วก็รู้จักหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบ ถ้าคนเราไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักรับผิดชอบ ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก อยู่คนเดียวก็ลำบาก อยู่หลายคนก็ลำบาก หนักตัวเองแล้วก็หนักคนอื่น เราก็ต้องพยายามรีบแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ เราช่วยเหลือตัวเองได้เราก็จนล้นออกไปช่วยเหลือภายนอกกัน
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ นี่เพียงแค่เล่าให้ฟัง
จิตส่งออกไปภายนอกได้อย่างไร เรื่องอะไรที่เกิดเราจะควบคุมจิตของเราได้ในระดับไหน เราจะชำระสะสางกิเลสของเราได้อย่างไร เราต้องพยายามหมั่นสร้างความรู้ตัว สร้างความรู้สึกรับรู้ ไม่ใช่ว่าเราไปนึกไปคิด ไปอ่านไปฟัง ไปพิจารณาได้เลย อันนั้นก็เป็นปัญญาอยู่ แต่เป็นปัญญาโลกีย์
ปัญญาที่จะรู้ด้วยเห็นด้วย เราต้องสร้างสติ หรือว่าสร้างความระลึกรู้ตัวแล้วก็พยายามสร้างให้ต่อเนื่อง พลั้งเผลอเราก็เริ่มใหม่ๆ ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จนเรารู้เห็นลักษณะอาการของจิต อาการของความคิดอาการของอารมณ์ อันนี้สำหรับบุคคลที่ขยันหมั่นเพียรจริงๆ
ทุกคนก็มีบุญ อย่าไปปิดกั้นตัวเราเองว่าไม่มีบุญ ทุกคนก็มีบุญถึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วก็มีโอกาสได้ทำบุญถวายทานกันอยู่ตลอดเวลา ทำบุญถวายทาน วัตถุทานก็ได้ทาน ทานความคิด ทานอารมณ์ ทานกิเลสออกจากจิตจากใจของเรา อาจจะทานอยู่ แต่ยังทานไม่หมดกัน
พวกเราสนุกสร้างบุญสร้างอานิสงส์กันอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่นขึ้นมา เราพยายามทำบุญให้มีให้เกิดขึ้นในกายในจิตของเรา ตั้งแต่ตื่นขึ้นสำรวจจิตของตัวเราเอง จะลุกจะก้าวจะเดินจะทำอะไร อะไรคือสมมติ อะไรคือวิมุตติ วิมุตติคือจิตที่หลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่น ที่หลุดพ้นจากการเป็นทาสของกิเลส
สภาวะเดิมแท้ของจิตของทุกคนนั้นสะอาดอยู่แล้ว เพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจ ทำให้จิตของเราเป็นทาสของกิเลส ทะเยอทะยานอยาก อยากนั่นอยากนี่ อยากมีอยากเป็น อยากไปอยากมา แม้ตั้งแต่อยากจะรู้ธรรม อยากจะได้ธรรม เราก็ต้องดับต้องละ ต้องทำความเข้าใจ เราดับเราละเราคลายได้ จิตของเรานั่นแหละคือตัวธรรม ความว่างนั่นแหละคือองค์ธรรม ว่างจากการเกิด ว่างจากกิเลส ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น เราจะทำอะไรเราก็ไม่ทำด้วยความทะเยอทะยานอยาก เราทำด้วยสติด้วยปัญญา ด้วยเหตุด้วยผลอยู่ตลอดเวลา ถ้าเราไม่วิเคราะห์ตัวเรา ไม่มีใครที่จะวิเคราะห์ให้ได้เลย นอกจากตัวของเราเอง
การทำบุญการให้ทานทางด้านวัตถุทาน เรามีโอกาสได้ทำร่วมกันอยู่ตลอดอยู่บ่อยๆ อันนี้หลวงพ่อก็พาทำมาอยู่ตลอด ทำบุญถวายทาน ทางด้านวัตถุทาน แรม 15 ค่ำเดือนนี้ก็จะได้ลงสังฆกรรม พระคุณเจ้าหลายวัดสถานที่ต่างๆ ก็จะมาร่วมลงสังฆกรรมที่วัดของเรา ศีลที่ผ่านมาก็ประมาณสัก 115 รูป ญาติโยมท่านใดมีโอกาสก็ขอเชิญมาร่วมบุญกัน มาทำบุญถวายทานถวายสังฆทาน
เราไม่จำเป็นต้องไปนิมนต์พระมาเยอะๆ อันนี้พระท่านมาทำหน้าที่ของท่าน พวกเราก็มีโอกาสได้ทำบุญถวายทานกันทั้งตลอดพรรษาเลย พรรษานี้แรม 15 ค่ำก็จะได้ลงสังฆกรรมกัน พวกเราก็เป็นอานิสงส์อย่างใหญ่ทีเดียว มีโอกาสพริกเขือเกลือปลาร้า ข้าวสารอาหารแห้ง อยากจะเอามาร่วมก็มาร่วม
นี่แหละมีโอกาสเราก็ทำ อย่าปล่อยโอกาสทิ้งปล่อยเวลาทิ้ง แต่การเจริญภาวนา การศึกษา การทำความเข้าใจ เราก็ต้องทำความเข้าใจกับจิตของเรา ทำความเข้าใจกับสมมติของเรา ให้สมมติของเราอยู่ดีมีความสุข อะไรขาดตกบกพร่องเราก็รู้จักพิจารณาแก้ไขปรับปรุง
ไม่ว่าพระว่าโยมว่าชีก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ เพราะว่าเราก็ยังอาศัยปัจจัยสี่อยู่ ยังอยู่กับโลกสมมติอยู่ เราก็ต้องดูแลทำความสะอาด ความเป็นระเบียบ แล้วก็รู้จักหน้าที่ รู้จักรับผิดชอบ ถ้าคนเราไม่รู้จักหน้าที่ ไม่รู้จักรับผิดชอบ ไปอยู่ที่ไหนก็ลำบาก อยู่คนเดียวก็ลำบาก อยู่หลายคนก็ลำบาก หนักตัวเองแล้วก็หนักคนอื่น เราก็ต้องพยายามรีบแก้ไขปรับปรุงตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองให้ได้ เราช่วยเหลือตัวเองได้เราก็จนล้นออกไปช่วยเหลือภายนอกกัน
เอาล่ะ วันนี้ก็ขอเจริญธรรมเพียงเท่านี้พากันไหว้พระพร้อมๆ กัน พากันไปสร้างสานต่อทำความเข้าใจกันเอานะ นี่เพียงแค่เล่าให้ฟัง