หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2552 ลำดับที่ 06
ชื่อตอน (Title)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2552 ลำดับที่ 06
บันทึกเสียงเมื่อ (Recording Date)
ชุด (Category)
หลวงพ่อฝากไว้ ปี 2552
ถอดความฉบับเต็ม (Transcript)
พากันดูดีๆ นะ พระใหม่ ยิ่งฝึกไปเท่าไหร่ยิ่งเห็นเยอะ อดอาหาร เคยรับประทานมาสองมื้อสามมื้อ มาลดลงเสียมื้อหนึ่ง กายก็หิว จิตก็จะเกิดความอยากปรุงแต่งได้เร็วไว เราก็ต้องพยายามดับ พยายามควบคุม ยิ่งฝึกใหม่ๆ นี่จะเห็นเยอะ การสร้างสติ การสร้างความรู้ตัว พยายามสร้างให้ได้ทุกอิริยาบถตั้งแต่ตื่นขึ้นมา ยืนเดินนั่งนอน กินอยู่ขับถ่าย ให้เป็นอัตโนมัติ ในการดู ในการรู้ ในการทําความเข้าใจ แล้วก็เมื่อรู้ความจริงแล้วก็ค่อยละ ยิ่งฝึกไปเท่าไหร่ยิ่งเห็นเยอะ ยิ่งเห็นเยอะเท่าไหร่ ยิ่งทําความเข้าใจ สนุกในการดูตัวเรา แก้ไขตัวเรา
อะไรคือจิต อะไรคือสติ อะไรคืออาการของขันธ์ห้า แต่ละวันๆ เขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เรื่องอะไรที่เขาเกิด เราจะแก้ไขอย่างไร เราจะเอาสิ่งไหนไปแก้ไข เราต้องวิเคราะห์ตัวเราอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันอังคารหรือวันพุธนะ วันพฤหัส วันอาทิตย์ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็จะได้มีการไถ่ชีวิตโคอีกคู่หนึ่ง อาทิตย์ที่จะถึงนี้แหละก็จะได้มีการไถ่ชีวิตโค ญาติโยมมาก็ปวารณาไถ่ชีวิตโคเอาไว้ ใครอยากจะมาร่วมไถ่ หรือจะมาไถ่เป็นคู่ก็ได้นะ ไถ่เป็นคู่เป็นตัว วันอาทิตย์ที่จะถึง มาจากทางไกลมาจากชลบุรี มาฝากเอาไว้ ก็จะได้ทำพิธีไถ่ชีวิตโคแม่ลูกอีกคู่หนึ่ง
อากาศก็เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังไม่ถึงกับร้อนเท่าไหร่ กลางคืนพระเราก็พยายามขยันหมั่นเพียร ที่โล่งๆ โปร่งๆ ทางตะวันออก ถนนลานปูนกว้างๆ เราก็พยายามหัดสังเกต เราหัดสร้างความรู้ตัวทั้งกลางคืน กลางวันเราก็เหนื่อยแล้วก็พัก ดูแลทําความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องส้วมห้องน้ำ เราก็เดินไปดูไม่ว่ากลางคํ่ากลางคืน เดินไปดู รู้ใจของเราไปด้วย ละนิวรณ์ไปด้วย ตรงไหนไม่มีน้ำ น้ำไม่เต็มแล้วก็เปิดใส่ ตรงไหนไม่สะอาดเราก็ทําไม่สะอาดเสีย อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง เป็นหน้าที่ของทุกคน
ไม่ว่าญาติโยมก็เหมือนกัน เดินเข้ามาตั้งแต่ประตูปากทางเข้าวัด เห็นเศษขยะ เห็นเศษกระดาษ เห็นความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เราก็ต้องเก็บ มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง ตามถนนหนทางบางทีจะมีเศษแก้วเศษตะปูเราก็พยายามเก็บ อย่าไปปล่อยปละละเลย พอเก็บได้เราก็เก็บเพราะว่าอันตราย ถ้าเราไม่เก็บบางทีคนอื่นเขามาก็อาจจะเหยียบ บางทีเราเผลอเราอาจจะเผลอเข้าไปเหยียบ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็เลยกลายเป็นใหญ่
เราต้องหัดฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่มีระเบียบ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ แล้วก็เป็นคนมีความเสียสละอยู่ตลอดเวลา ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นกิน ไม่เห็นแก่นอน พยายามสร้างประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละเราก็ได้ทําประโยชน์ เพียงแค่เข้าห้องส้วมเราก็ได้ทําประโยชน์ ได้ทําบุญ ก่อนที่จะถึงห้องน้ำ ปากทางมีมันสกปรกเราก็ทําความสะอาดเสีย เดินมันดูทุกห้องก่อนที่จะเข้า ห้องไหนสะอาดเราก็ไม่เข้า เราเข้าห้องสกปรก เราจะได้ทําความสะอาดด้วยได้ประโยชน์ขณะทําความสะอาดนั้น เราก็ดูจิตของเรา ผลักไสไหม เพ่งโทษหรือไม่ อคติหรือไม่ เราก็ได้ประโยชน์ ห้องไหนไม่มีน้ำ น้ำไม่เต็ม เราก็เปิดใส่ให้เต็มก่อนที่จะออกมา มีแต่คนอยากจะใช้ มีแต่คนรักความสะอาด แต่ชอบสกปรก ก็ใช้การไม่ได้
กว่าจะได้มาแต่ละชิ้นแต่ละอันให้พวกเราได้ใช้ อยู่ดีมีความสุขนี่ก็ยากแสนยาก ก็ต้องพยายามช่วยกัน ต่างคนต่างมีความรับผิดชอบ อยู่ไปที่ไหนก็มีความเป็นระเบียบ ระเบียบอยู่ในตัว ไม่ใช่ว่านานๆ ถึงจะไปจัดทําที ถึงจะไปทําที เราต้องทําทุกขณะทุกเวลาที่เราไปพบไปเจอ ไม่ว่ากลางค่ำกลางคืน กลางวัน มันเสียหายตรงไหนเราก็รีบทำ รีบซ่อมแซม น้ำมันไม่เต็มเราก็เปิดใส่ให้เต็ม บางคนไปถ่ายไปเยี่ยวแล้วก็ไม่ราดไม่ล้าง สกปรกจนติดเป็นนิสัย ไปที่ไหนก็มีแต่ความสกปรกติดทั้งกาย ติดทั้งใจ จะไปเป็นระเบียบได้อย่างไร
ปัญญาอยากจะได้ธรรม ความรู้อยากจะได้ธรรม แต่การกระทําแล้วมีแต่ความสกปรก ความรับผิดชอบไม่มี มันจะไปได้อย่างไร เพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็พากันไม่สามารถที่จะทําได้ ความเสียสละไม่มี คนที่จะเข้าใจในธรรมต้องเป็นคนมีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ กระตือรือร้นในทุกกาล ทุกเวลา ทําความเข้าใจทั้งภายใน ทั้งภายนอก บุคคลเช่นนี้แหละจะได้ทั้งทรัพย์ภายในก็เต็มเปี่ยม ทรัพย์ภายนอกก็เต็มเปี่ยม รู้จักประโยชน์ ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์สูงประโยชน์ต่ำ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในโลกปัจจุบัน ถ้าเราทําโลกปัจจุบันดี อนาคตก็จะออกมาดี ก็จะส่งผลถึงอนาคตเอง ก็ต้องพยายามกัน
ยิ่งพระเราชีเรายิ่งเข้ามาฝึกฝนตนเอง ต้องเป็นคนที่มีความเสียสละอย่างสูง เสียสละเพื่อส่วนร่วม เพื่อสังคม เราไม่ต้องเอาไกลถึงขนาดนั้น เราเอาในบริเวณของเราให้เรียบร้อยมันก็จะส่งผลถึงหมู่คณะ ถึงสังคมเอง มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ ช่วยกันดูแลทุกสิ่งทุกอย่างภายในสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ นี่แหละเขาเรียกว่าได้ตอบแทนสถานที่ที่อนุเคราะห์ให้เราได้อยู่ดีมีความสุข เรามาอาศัยสมมติอยู่ ไม่ใช่เป็นทรัพย์สมบัติของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นสมบัติของทุกคน ที่จะต้องช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษา
เรามาอาศัยสถานที่นี้อยู่ กลับพากันมาทําลายก็ใช้การไม่ได้ แทนที่จะมาช่วยกันสร้างเสริมให้น่าอยู่ ทําธรรมชาติให้น่าอยู่ ธรรมชาติให้เป็นธรรมชาติ ธรรมชาติภายนอก ธรรมชาติภายใน ใครเข้ามาแล้วก็มีแต่ความร่มรื่นร่มเย็น ใครเข้ามาแล้วจิตใจก็เย็นสบาย ได้มากราบไหว้สิ่งที่เป็นสิริมงคล ใจก็เป็นบุญ คนข้างในก็มีแต่ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน คอยชี้แนะแนวทางให้ ไม่ใช้อคติ ไม่ใช้อารมณ์เข้าห้ำหั่นกัน มีแต่คุณงามความดีไปในทางเส้นเดียวกัน ก็จะมีแต่ความสุข เพราะทุกคนก็สร้างบุญมาดี ทุกคนก็ประพฤติปฏิบัติมาอยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้ว เรามาเสริม มาเพิ่ม มาเติมให้สูงขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง
ตั้งใจรับพรกัน
อะไรคือจิต อะไรคือสติ อะไรคืออาการของขันธ์ห้า แต่ละวันๆ เขาเกิดขึ้นมาได้อย่างไร เรื่องอะไรที่เขาเกิด เราจะแก้ไขอย่างไร เราจะเอาสิ่งไหนไปแก้ไข เราต้องวิเคราะห์ตัวเราอยู่ตลอดเวลา วันนี้เป็นวันอังคารหรือวันพุธนะ วันพฤหัส วันอาทิตย์ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็จะได้มีการไถ่ชีวิตโคอีกคู่หนึ่ง อาทิตย์ที่จะถึงนี้แหละก็จะได้มีการไถ่ชีวิตโค ญาติโยมมาก็ปวารณาไถ่ชีวิตโคเอาไว้ ใครอยากจะมาร่วมไถ่ หรือจะมาไถ่เป็นคู่ก็ได้นะ ไถ่เป็นคู่เป็นตัว วันอาทิตย์ที่จะถึง มาจากทางไกลมาจากชลบุรี มาฝากเอาไว้ ก็จะได้ทำพิธีไถ่ชีวิตโคแม่ลูกอีกคู่หนึ่ง
อากาศก็เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อนเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังไม่ถึงกับร้อนเท่าไหร่ กลางคืนพระเราก็พยายามขยันหมั่นเพียร ที่โล่งๆ โปร่งๆ ทางตะวันออก ถนนลานปูนกว้างๆ เราก็พยายามหัดสังเกต เราหัดสร้างความรู้ตัวทั้งกลางคืน กลางวันเราก็เหนื่อยแล้วก็พัก ดูแลทําความสะอาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ห้องส้วมห้องน้ำ เราก็เดินไปดูไม่ว่ากลางคํ่ากลางคืน เดินไปดู รู้ใจของเราไปด้วย ละนิวรณ์ไปด้วย ตรงไหนไม่มีน้ำ น้ำไม่เต็มแล้วก็เปิดใส่ ตรงไหนไม่สะอาดเราก็ทําไม่สะอาดเสีย อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง เป็นหน้าที่ของทุกคน
ไม่ว่าญาติโยมก็เหมือนกัน เดินเข้ามาตั้งแต่ประตูปากทางเข้าวัด เห็นเศษขยะ เห็นเศษกระดาษ เห็นความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เราก็ต้องเก็บ มองซ้ายมองขวา มองบนมองล่าง ตามถนนหนทางบางทีจะมีเศษแก้วเศษตะปูเราก็พยายามเก็บ อย่าไปปล่อยปละละเลย พอเก็บได้เราก็เก็บเพราะว่าอันตราย ถ้าเราไม่เก็บบางทีคนอื่นเขามาก็อาจจะเหยียบ บางทีเราเผลอเราอาจจะเผลอเข้าไปเหยียบ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ก็เลยกลายเป็นใหญ่
เราต้องหัดฝึกฝนตนเองให้เป็นคนที่มีระเบียบ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ แล้วก็เป็นคนมีความเสียสละอยู่ตลอดเวลา ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นกิน ไม่เห็นแก่นอน พยายามสร้างประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ นั่นแหละเราก็ได้ทําประโยชน์ เพียงแค่เข้าห้องส้วมเราก็ได้ทําประโยชน์ ได้ทําบุญ ก่อนที่จะถึงห้องน้ำ ปากทางมีมันสกปรกเราก็ทําความสะอาดเสีย เดินมันดูทุกห้องก่อนที่จะเข้า ห้องไหนสะอาดเราก็ไม่เข้า เราเข้าห้องสกปรก เราจะได้ทําความสะอาดด้วยได้ประโยชน์ขณะทําความสะอาดนั้น เราก็ดูจิตของเรา ผลักไสไหม เพ่งโทษหรือไม่ อคติหรือไม่ เราก็ได้ประโยชน์ ห้องไหนไม่มีน้ำ น้ำไม่เต็ม เราก็เปิดใส่ให้เต็มก่อนที่จะออกมา มีแต่คนอยากจะใช้ มีแต่คนรักความสะอาด แต่ชอบสกปรก ก็ใช้การไม่ได้
กว่าจะได้มาแต่ละชิ้นแต่ละอันให้พวกเราได้ใช้ อยู่ดีมีความสุขนี่ก็ยากแสนยาก ก็ต้องพยายามช่วยกัน ต่างคนต่างมีความรับผิดชอบ อยู่ไปที่ไหนก็มีความเป็นระเบียบ ระเบียบอยู่ในตัว ไม่ใช่ว่านานๆ ถึงจะไปจัดทําที ถึงจะไปทําที เราต้องทําทุกขณะทุกเวลาที่เราไปพบไปเจอ ไม่ว่ากลางค่ำกลางคืน กลางวัน มันเสียหายตรงไหนเราก็รีบทำ รีบซ่อมแซม น้ำมันไม่เต็มเราก็เปิดใส่ให้เต็ม บางคนไปถ่ายไปเยี่ยวแล้วก็ไม่ราดไม่ล้าง สกปรกจนติดเป็นนิสัย ไปที่ไหนก็มีแต่ความสกปรกติดทั้งกาย ติดทั้งใจ จะไปเป็นระเบียบได้อย่างไร
ปัญญาอยากจะได้ธรรม ความรู้อยากจะได้ธรรม แต่การกระทําแล้วมีแต่ความสกปรก ความรับผิดชอบไม่มี มันจะไปได้อย่างไร เพียงแค่เล็กๆ น้อยๆ ก็พากันไม่สามารถที่จะทําได้ ความเสียสละไม่มี คนที่จะเข้าใจในธรรมต้องเป็นคนมีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ กระตือรือร้นในทุกกาล ทุกเวลา ทําความเข้าใจทั้งภายใน ทั้งภายนอก บุคคลเช่นนี้แหละจะได้ทั้งทรัพย์ภายในก็เต็มเปี่ยม ทรัพย์ภายนอกก็เต็มเปี่ยม รู้จักประโยชน์ ประโยชน์มากประโยชน์น้อย ประโยชน์สูงประโยชน์ต่ำ ประโยชน์ใกล้ประโยชน์ไกล ประโยชน์ในโลกปัจจุบัน ถ้าเราทําโลกปัจจุบันดี อนาคตก็จะออกมาดี ก็จะส่งผลถึงอนาคตเอง ก็ต้องพยายามกัน
ยิ่งพระเราชีเรายิ่งเข้ามาฝึกฝนตนเอง ต้องเป็นคนที่มีความเสียสละอย่างสูง เสียสละเพื่อส่วนร่วม เพื่อสังคม เราไม่ต้องเอาไกลถึงขนาดนั้น เราเอาในบริเวณของเราให้เรียบร้อยมันก็จะส่งผลถึงหมู่คณะ ถึงสังคมเอง มีความรับผิดชอบ มีความเสียสละ ช่วยกันดูแลทุกสิ่งทุกอย่างภายในสถานที่ที่เราอาศัยอยู่ นี่แหละเขาเรียกว่าได้ตอบแทนสถานที่ที่อนุเคราะห์ให้เราได้อยู่ดีมีความสุข เรามาอาศัยสมมติอยู่ ไม่ใช่เป็นทรัพย์สมบัติของคนใดคนหนึ่ง เป็นสมบัติของแผ่นดิน เป็นสมบัติของทุกคน ที่จะต้องช่วยกันดูแล ช่วยกันรักษา
เรามาอาศัยสถานที่นี้อยู่ กลับพากันมาทําลายก็ใช้การไม่ได้ แทนที่จะมาช่วยกันสร้างเสริมให้น่าอยู่ ทําธรรมชาติให้น่าอยู่ ธรรมชาติให้เป็นธรรมชาติ ธรรมชาติภายนอก ธรรมชาติภายใน ใครเข้ามาแล้วก็มีแต่ความร่มรื่นร่มเย็น ใครเข้ามาแล้วจิตใจก็เย็นสบาย ได้มากราบไหว้สิ่งที่เป็นสิริมงคล ใจก็เป็นบุญ คนข้างในก็มีแต่ความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน คอยชี้แนะแนวทางให้ ไม่ใช้อคติ ไม่ใช้อารมณ์เข้าห้ำหั่นกัน มีแต่คุณงามความดีไปในทางเส้นเดียวกัน ก็จะมีแต่ความสุข เพราะทุกคนก็สร้างบุญมาดี ทุกคนก็ประพฤติปฏิบัติมาอยู่ในระดับที่ดีอยู่แล้ว เรามาเสริม มาเพิ่ม มาเติมให้สูงขึ้นไปอีกเท่านั้นเอง
ตั้งใจรับพรกัน